"พันธมิตรสิบแปดหัวเมือง ช่างน่าหัวร่อ ถ้าไม่ใช่เพราะอ้วนสุดตัดหญ้าเสบียงของพวกเรา พวกเรายังจะแพ้ที่ด่านกิสุยก๋วนรึ" เรื่องนี้นับเป็นแผลใจของซุนเกี๋ยนอย่างมาก "ข้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับตั๋งโต๊ะ เพื่อรักษาต้าฮั่น แม้นต้องตายก็ไม่เสียใจ ไม่นึกว่าสุดท้ายจะอยู่ร่วมกับพวกหมูหมากาไก่ซะได้"
"นายท่านโปรดระวัง" เทียเภากระซิบเตือน
"ฮึ่ม เจ้าเมืองเหล่านั้นรู้จักแต่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ไม่มีผู้ใดคิดไล่ตามตั๋งโต๊ะ นอกจากแม่ทัพโจกับแม่ทัพลิเท่านั้น อดทอดถอนใจไม่ได้จริงๆ" ยิ่งกล่าว ซุนเกี๋ยนก็ยิ่งผิดหวัง
กลางดึก ซุนเกี๋ยนเพิ่งเข้านอนได้ไม่นาน
จู่ๆก็มีทหารมารายงานว่า สามารถกู้ร่างหญิงสาวขึ้นมาจากบ่อน้ำ ร่างกายยังไม่เน่าเปื่อย ชุดที่สวมใส่คล้ายเป็นชาววัง ทั้งที่คอยังมีถุงปักดิ้นใบหนึ่งห้อยไว้
ได้ยินดังนั้น ซุนเกี๋ยนก็รีบไปที่ด้านทิศใต้ของพระราชวัง เมื่อแกะถุงผ้านั้นออกดู ปรากฏว่าภายในนั้นมีกล่องเล็กสีแดงเข้มที่ถูกแม่กุญแจสีทองลั่นเอาไว้
หลังจากเปิดกล่องออกก็พบว่าเป็นตราหยกชิ้นหนึ่ง ตอนแรกก็ไม่ใส่ใจอะไรนัก แต่เมื่อพิจารณาดูอย่างละเอียด เขาก็พบว่า ตราหยกนี้มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมกว้างยาวด้านละสี่ชุ่น ด้านบนแกะสลักเป็นมังกรห้าตัว เหลี่ยมข้างหนึ่งบิ่นหายไป เลี่ยมปิดไว้ด้วยทองคำ ด้านบนมีอักษรจ้วนสลักไว้แปดตัวว่า "โซ่วมิ่งยหวีเทียน จี้โซ่วหย่งชาง"
ซุนเกี๋ยนพลิกดูก่อนจะเอ่ยถามขึ้นว่า "กงฟู่รู้จักตรานี้หรือไม่?"
เทียเภาที่พิจารณาดูอยู่สักพักก็อุทานขึ้นด้วยความประหลาดใจ "นี่เป็นตราหยกแผ่นดิน!"
"นี่เป็นหยกที่เปี้ยนเหอพบที่ภูเขาจิงซาน ครั้งนั้นเขาเห็นหงส์เกาะอยู่บนหินก้อนหนึ่ง จึงได้นำถวายหินก้อนนั้นต่อฉู่เหวินหวาง เมื่อกะเทาะหินก้อนนั้นออก ก็พบว่าเป็นหยก สมัยฉินปีที่ยี่สิบหก จึงให้ช่างแกะเป็นราชลัญจกรแผ่นดิน หลี่ซือได้คิดค้นอักษรแปดตัว 'โซ่วมิ่งยหวีเทียน จี้โซ่วหย่งชาง' แกะลงบนตรานี้ ได้ยินมาว่าเมื่อครั้งสิบขันทีก่อความวุ่นวาย ตราหยกนี้ได้สูญหายไป นายท่าน ในเมื่อสวรรค์มอบตราหยกนี้มาให้ ก็แสดงว่านายท่านเป็นผู้มีบุญญาธิการ ขอนายท่านรีบนำกลับไปที่กังตั๋งโดยเร็ว"
ซุนเกี๋ยนรีบเก็บตราหยก "เมื่อเจ้าเมืองพวกนั้นจิตใจโลเล ไม่อาจทำการใหญ่ เช่นนั้นข้ากลับกังตั๋งยังดีซะกว่า"
จากนั้นเขาก็สั่งอย่างเคร่งครัดไม่ให้ทุกคนเปิดเผยข่าวนี้ออกไป
น่าเสียดาย ในกองทัพของซุนเกี๋ยนมีสายของอ้วนเสี้ยวแฝงตัวอยู่ สายลับนั้นลอบออกจากค่ายกลางดึก รีบมุ่งหน้ากลับไปยังค่ายของอ้วนเสี้ยว
หลังจากได้ฟังรายงาน ดวงตาอ้วนเสี้ยวก็ฉายแววละโมบ นั่นไม่ใช่เพียงแค่หยกก้อนหนึ่ง หากแต่เป็นตราราชลัญจกรหยก ว่ากันว่าหากได้ครอบครองจะประสบพบโชควาสนาใหญ่ เขาสั่งให้ตบรางวัลแก่ทหารนายนั้นและเก็บไว้ในกองทัพ
วันรุ่งขึ้น ซุนเกี๋ยนก็ขอถอนตัวจากกลุ่มพันธมิตร โดยบอกต่ออ้วนเสี้ยวว่าที่กังตั๋งเกิดเรื่องขึ้น อีกทั้งช่วงนี้ยังรู้สึกไม่สบายจึงต้องขอตัวลา
อ้วนเสี้ยวแค่นเสียง "ข้ารู้ว่าเหวินไถป่วยด้วยเหตุอันใด"
"เป็นเหตุใด?" ซุนเกี๋ยนถาม
บรรดาเจ้าเมืองที่อยู่ภายในกระโจมต่างก็หันมองมาด้วยความใคร่รู้ ตั้งแต่เมื่อใดกันที่อ้วนเสี้ยวศึกษาศาสตร์การแพทย์?
"เพราะตราหยกแผ่นดิน" อ้วนเสี้ยวกล่าวอย่างเย็นชา
ซุนเกี๋ยนตกตะลึง สีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย กระนั้นปากยังกล่าวออกไปอย่างสงบ "อยู่ๆไฉนท่านผู้นำจึงกล่าวถึงของสิ่งนั้น?"
อ้วนเสี้ยวกล่าวเสียงเคร่ง "พวกเรามารวมตัวกันเพื่อปราบขุนนางโฉด กอบกู้บ้านเมือง ตราหยกแผ่นดินถือเป็นสมบัติของชาติบ้านเมือง ในเมื่อแม่ทัพซุนพบเจอ ก็สมควรส่งมอบให้ผู้นำพันธมิตรเช่นข้าเก็บรักษาเอาไว้ก่อน รอจนปราบตั๋งโต๊ะลงได้แล้ว ข้าก็จะได้ส่งคืนต่อราชสำนัก แต่แม่ทัพซุนเก็บซ่อนไว้กับตัวเช่นนี้ มีเจตนาใด?"
"ตราหยกแผ่นดินจะมาอยู่กับแม่ทัพผู้นี้ได้อย่างไร? ท่านผู้นำคงถูกคนชั่วยุยงแล้ว" ซุนเกี๋ยนปฏิเสธไม่ยอมรับ
อ้วนเสี้ยวสั่งให้ทหารนำตัวทหารที่เป็นพยานออกมายืนยัน กระนั้นซุนเกี๋ยนก็ยังยืนกรานไม่ยอมรับ
เมื่อออกจากกระโจมใหญ่ ซุนเกี๋ยนก็นำทหารทั้งหมดของเขาออกจากลั่วหยาง
อ้วนเสี้ยวโกรธมาก เขาเขียนจดหมายก่อนจะให้คนสนิทนำจดหมายฉบับนี้เร่งรีบไปยังเมืองเกงจิ๋ว ส่งต่อให้เล่าเปียว
สถานการณ์ของกองทัพพันธมิตรย่ำแย่ลงทุกวัน อ้วนเสี้ยวทราบว่ากลุ่มพันธมิตรมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ดังนั้นเขาจึงนำทหารออกจากค่าย เดินทางกลับเมืองตนเอง
..........
ทางด้านลิโป้ หลังจากจัดกำลังเรียบร้อยแล้ว เขาก็นำทหารม้าไล่ตามตั๋งโต๊ะต่อ ระหว่างทางพบเห็นซากศพชาวบ้านอยู่เกลื่อนกลาด น่าอนาถอย่างที่สุด ตั๋งโต๊ะกวาดต้อนผู้คนจากเมืองลั่วหยางหลายแสนคนไปกับเขาด้วย เพียงแต่เมื่อไปถึงฉางอันแล้ว จะหลงเหลือสักกี่คนกัน?
ชาวเมืองเหล่านี้ล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่สมควรที่จะต้องมารับผลกระทบจากสงครามเช่นนี้ ทันใดนั้นลิโป้ก็เกิดความคิดจะช่วยเหลือผู้คนจากตั๋งโต๊ะ ปิงโจวนั้นกว้างใหญ่ไพศาล แต่มีประชากรอยู่เบาบาง ย่อมสามารถรองรับผู้คนได้เป็นจำนวนมาก
ซีเอ๋งหนีกลับมาถึงทัพหลักด้วยหน้าตาตื่น ในใจยังอกสั่นขวัญแขวนกับอานุภาพทหารม้าปิงโจวไม่หาย เขานึกว่าทหารม้าเสเหลียงนั้นร้ายกาจที่สุดในแผ่นดินแล้ว คิดไม่ถึงจะพบเจอทหารม้าที่ร้ายกาจยิ่งกว่า
"ท่านซี เป็นอย่างไรบ้าง?" ลิซกเมื่อได้รับรายงานจากทหาร เขาก็รีบออกมาต้อนรับ แต่คาดไม่ถึงว่าทหารที่กลับมาจะอยู่ในสภาพที่พ่ายแพ้ยับเยิน
"ท่านลิ รีบส่งคนไปขอความช่วยเหลือจากท่านอุปราชเร็ว ทหารปิงโจวไล่ตามมาแล้ว เป็นทหารม้า ทหารม้าจำนวนมาก" ซีเอ๋งกล่าวอย่างลนลาน
ลิซกลอบหัวเราะอยู่ในใจ ปากกล่าวว่า "ท่านซี ท่านอุปราชอยู่ไกลจากที่นี่มาก อีกทั้งยังมีขบวนชาวเมืองกั้นขวางอยู่ ย่อมไม่อาจส่งกำลังมาช่วยเหลือได้ในเวลาอันสั้น"
"เช่นนั้นพวกเราควรทำอย่างไรดี?" ซีเอ๋งไม่ทันสังเกตน้ำเสียงของลิซก ในเวลาปกติเขาไม่เห็นลิซกอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ทัพปิงโจวกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ เขาไม่คิดว่ากำลังทหารสองพันในมือลิซกจะต้านทานศัตรูได้
"ควรยอมจำนน โจรชั่วตั๋งโต๊ะกระทำการต่อต้านฟ้าดิน ทำให้สวรรค์พิโรธ ติดตามต่อไปต้องไม่มีจุดจบที่ดี" ลิซกจ้องมองซีเอ๋งก่อนจะกล่าวออกมาช้าๆ
"จะ...เจ้าคนทรยศ" ซีเอ๋งชี้หน้าลิซกอย่างโกรธแค้น จากนั้นจึงชักกระบี่ออกมา "ทหาร จับตัวลิซกไว้"
ลิซกแค่นเสียงเย็น "ท่านซี คิดหรือว่าทหารของข้าจะฟังคำสั่งของท่าน? เวลานี้พวกเขาละทิ้งความมืด มุ่งสู่แสงสว่างกันหมดแล้ว"
"เจ้า....พวกเจ้า" ซีเอ๋งนึกไม่ถึงเลยว่า ลิซกที่มักจะยิ้มแย้มอยู่ตลอดจะมากเล่ห์เพทุบายเช่นนี้ ถึงกลับสามารถเกลี้ยกล่อมให้ทหารเสเหลียงยอมสวามิภักดิ์ต่อลิโป้
"มัดพวกเขาไว้" ลิซกสั่งการ ทหารที่อยู่ด้านหลังก็พุ่งเข้ามาดุจหมาป่าพยัคฆ์ จับกุมซีเอ๋งและผู้ติดตามของเขามัดไว้อย่างแน่นหนา
"ทัพของนายท่านใกล้จะมาถึงแล้ว แม่ทัพเตียวนำไพร่พลเข้าสวามิภักดิ์ ถือว่ามีความดีความชอบใหญ่หลวง" ลิซกกล่าว
"ขอท่านกุนซือ ช่วยพูดเรื่องดีของข้าต่อหน้าท่านแม่ทัพลิด้วย" เตียวเอ๊กกุมหมัดคารวะ ตัวเขาเป็นแม่ทัพในทัพเสเหลียง เขาถือเป็นผู้ที่เข้าร่วมกับตั๋งโต๊ะตั้งแรกๆ แต่ไม่เคยถูกตั๋งโต๊ะเรียกใช้งาน ขณะฮัวหยงที่เข้าร่วมกับตั๋งโต๊ะในเวลาไล่เลี่ยกันกับเขา ตอนนี้มีตำแหน่งสูงส่งไปแล้ว ส่วนตัวเขายังคงติดอยู่ที่ตำแหน่งนายพัน ควบคุมไพร่พลพันนาย
เพราะมีประสบการณ์คล้ายคลึงกัน เขาและเตียวเอ๊กจึงพูดคุยกันถูกคอ ระบายสุขทุกข์แก่กัน หลังจากลิโป้และเขาร่วมกันวางแผนที่ลั่วหยางคืนนั้น เขาก็ไปพบกับเตียวเอ๊กเป็นการส่วนตัว หลังจากพูดคุยกันแล้ว เตียวเอ๊กก็ตัดสินใจสวามิภักดิ์ต่อลิโป้ ถอนตัวออกจากกองทัพเสเหลียง
............
เมื่อฮัวหยงและคนอื่นๆกลับมาสมทบกับตั๋งโต๊ะ เขาก็บรรยายรายละเอียดการซุ่มโจมตีทัพของโจโฉคืนนั้นต่อตั๋งโต๊ะ ทำให้ตั๋งโต๊ะหัวเราะอย่างเบิกบานใจ "แผนการของเหวินโยวเลิศล้ำเหนือใคร กองทัพพันธมิตรอะไรนั่นก็แค่พวกหมูหมากาไก่"
"ขอบคุณท่านอุปราชที่ชื่นชม" ลิยูยิ้มกล่าว
"ถ่ายทอดคำสั่งลงไป เร่งฝีเท้ากลับฉางอันโดยเร็วที่สุด" ตั๋งโต๊ะสั่งการ
ด้วยความร่วมมือของลิซก ลิโป้จึงนำกำลังมาถึงขบวนคุ้มกันสัมภาระของตั๋งโต๊ะ
"หยูดด!" เมื่อเห็นลิซกนำกำลังมาจากไกลๆ ผู้คุมขบวนสัมภาระก็ตะโกนขึ้นด้วยความตื่นตัว
"ข้าลิซก มีเรื่องสำคัญคิดรายงานต่อท่านอุปราช" ลิซกกล่าว
"ข้างหลังท่านนั่นใคร?" ทหารม้าจำนวนสองพันไม่ใช่ทหารจำนวนน้อยๆ เขาย่อมไม่กล้าปล่อยผ่านไปโดยง่าย
"อ้อ นั่นเป็นทหารของท่านซีเอ๋งที่เอาชนะทัพพันธมิตรอย่างยิ่งใหญ่เมื่อคืน" ลิซกอธิบาย
"โปรดรอเดี๋ยว ขอข้าน้อยไปรายงานท่านแม่ทัพก่อน" ผู้คุมขบวนนั้นคิดว่าควรจะรายงานต่องิวฮูก่อนจะดีกว่า
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved