ในระหว่างทางไปเมืองซ่างกู่ หยิ่นสงก็ได้ยินข่าวว่าตันเทียนนำกองทัพมาที่เมืองซ่างกู่ด้วยตนเอง เรื่องนี้ทำให้หยิ่นสงเดือดดาลอย่างมาก เดิมทีเขาคิดว่าสองฝ่ายนั้นมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน เพราะเมื่อชาวเซียนเป่ยรุกรานมาถึง พวกเขาก็ร่วมมือกันขับไล่ชาวเซียนเป่ยกลับไปได้เป็นอย่างดี บัดนี้ตันเทียนกลับฉวยโอกาสจากสถานการณ์และเข้ายึดครองเมืองซ่างกู่ เรื่องนี้สร้างความแค้นใจให้กับหยิ่นสงยิ่ง หากไม่ใช่เพราะเขาฮิวคอยทัดทานอย่างหนักแน่น เกรงว่าหยิ่นสงที่กำลังโกรธแค้นคงนำทหารจำนวนหนึ่งพันล่วงหน้าไปโจมตีเมืองซ่างกู่ก่อนแล้ว
หลังจากตันเทียนวางกำลังภายในเมืองซ่างกู่เสร็จ เขาก็ได้ใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อปลอบโยนเหล่าตระกูลใหญ่ภายในเมือง มาตราการจัดการกับตระกูลใหญ่ของปิ้งโจวนั้นเป็นที่ล่วงรู้กันทั่ว ตันเทียนไม่ได้ออกหน้าในฐานะตัวแทนของปิ้งโจวและไม่ได้ให้คำรับประกันใดๆ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำให้ตระกูลใหญ่คลายความกังวลได้อย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้น หลังจากที่ลิโป้เข้าสู่เมืองซ่างกู่แล้ว การดำเนินการของเขาก็ยังรวดเร็วฉับไว
แม้ว่ากลยุทธ์ภายในเมืองซ่างกู่ของปิ้งโจวจะดียิ่ง กระนั้นก็ยังไม่อาจหหลีกเลี่ยงที่จะแตะต้องผลประโยชน์ของเหล่าตระกูลใหญ่ ในยุคสมัยนี้ อำนาจของตระกูลใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด พวกเขาควบคุมทรัพยากรและความเป็นอยู่ของชาวบ้านทั่วไปเอาไว้ ยิ่งกว่านั้นลิโป้ยังไม่มีเวลาจัดการเมืองซ่างกู่มากนัก เขาเพียงกำหนดนโยบายให้ที่นี่ตามนโยบายของปิ้งโจว ชาวบ้านจะได้รับที่ดินไปทำไร่ ทำให้เหล่าตระกูลใหญ่สูญเสียผลประโยชน์ไปเป็นจำนวนมาก
กล่าวได้ว่าก่อนหน้านี้นั้น ที่ดินกว่าครึ่งของเมืองซ่างกู่นั้นเคยอยู่ในมือของตระกูลใหญ่ ในอดีต เมื่อชาวเซียนยกกำลังมารุกราน ด้วยความสนับสนุนจากเหล่าตระกูลใหญ่ หยิ่นสงจึงสามารถทำให้ชาวเซียนเป่ยต้องกลับบ้านมือเปล่าหลายต่อหลายครั้ง ดังนั้นอิทธิพลของตระกูลใหญ่จึงยิ่งมายิ่งมาก พวกเขาใช้โอกาสจากความวุ่นวายในการลอบฮุบกลืนที่ดินเพิ่มขึ้น ชาวบ้านทั่วไปต้องทำงานอย่างหนักทั้งปี สุดท้ายเพียงได้รับอาหารในปริมาณที่สามารถใช้ประทังชีพ ส่วนเงินและอาหารส่วนใหญ่ก็ถูกเก็บเข้ากระเป่าเหล่าตระกูลใหญ่ไป
ที่หยิ่นสงต้องการไม่ใช่การสนับสนุนจากชาวบ้าน แต่เป็นการสนับสนุนจากตระกูลใหญ่ ดังนั้นสำหรับตระกูลใหญ่แล้ว หยิ่นสงจึงมักจะตอบรับทุกข้อเสนอ ส่วนชาวบ้านทั่วไปนั้นเขาคร้านจะใส่ใจ
สถานการณ์นี้ได้เปลี่ยนไปหลังจากลิโป้กลายเป็นผู้ปกครองปิ้งโจว เหล่าตระกูลใหญ่ในเมืองซ่างกู่ย่อมเคยได้ยินเรื่องราวที่ลิโป้จัดการกับตระกูลใหญ่ในปิ้งโจวมาก่อน กระนั้นการได้ยินกับการได้เห็นกับตาก็ยังมีข้อแตกต่างอย่างมาก พวกเขายากจะจินตนาการได้ว่าลิโป้กำลังคิดอะไรอยู่ นำที่ดินอันอุดมสมบูรณ์ออกไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านโดยไม่ใส่ใจความรู้สึกของเหล่าตระกูลใหญ่แม้แต่น้อย
แน่นอนว่าทัพปิ้งโจวนั้นแข็งแกร่งเกินไป วีรกรรมก่อนหน้านี้ของลิโป้ก็สะกดข่มผู้คนเกินไป ดังนั้นตระกูลใหญ่ภายในเมืองจึงไม่กล้ากล่าวอะไร ทำเพียงได้ระวังตัว เพื่อไม่ให้ไปกระตุ้นโทสะของลิโป้เข้า บัดนี้ลิโป้เคลื่อนทัพจากไปแล้ว หลังจากที่กำลังทหารเดิมถูกแทนที่ด้วยทหารจากเมืองไต้จิ๋ว เหล่าตระกูลใหญ่ภายในเมืองก็เริ่มมีความคิดอ่าน โดยเฉพาะหลังจากที่ได้รับข่าวที่หยิ่นสงลอบส่งมา พวกเขาก็เพิกเฉยต่อการปลอบโยนของตันเทียนโดยสิ้นเชิง
ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเหล่าตระกูลใหญ่ภายในเมืองย่อมไม่อาจหลุดรอดสายตาของตันเทียนไปได้ ตระกูลใหญ่เหล่านี้กลับไม่รู้จักดีชั่ว ดังนั้นตันเทียนเองก็เกิดโทสะขึ้นมาแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็คงต้องทำตัวเป็นคนชั่วสักครา ให้ตระกูลใหญ่ในเมืองซ่างกู่ต้องกลัวจนหัวหด ด้วยไพร่พลจำนวนเจ็ดพันที่อยู่ในมือ ต่อให้ตระกูลใหญ่ก่อความวุ่นวาย ตันเทียนก็มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
เหล่าตระกูลใหญ่มีแต่ยิ่งมายิ่งร่ำรวย ขณะที่คนจนก็ยิ่งจนลง ตันเทียนทราบเรื่องนี้ดี หลายปีที่ผ่านมา เขาได้เห็นความโสมมของตระกูลใหญ่เหล่านี้มานับไม่ถ้วน หากว่าเขาต้องการจะกำจัดตระกูลใหญ่ เขาก็จะต้องทำให้ตระกูลใหญ่และขุนนางที่เหลือไม่อาจโต้แย้งอะไรได้ หากจะลงมือทำสิ่งใดก็ต้องลงมืออย่างหมดจด
หยิ่นสงแค่นเสียงกล่าวอย่างเย็นชา "ตันเทียนไม่รู้จักดีชั่ว เอาไว้หลังจากข้ายึดเมืองซ่างกู่ได้แล้ว ข้าจะต้องฆ่าเขาแน่นอน"
"เจ้าเมืองหยิ่น ในทัพปิ้งโจวมีผู้มากความสามารถอยู่มากมาย เรื่องราวในคราวนี้จะต้องลงมืออย่างรัดกุม" หลังจากเข้าสู่เขตเมืองซ่างกู่ เขาฮิวก็กระตุ้นเตือน เขาฮิวรู้สึกว่ายิ่งมาหยิ่นสงก็ยิ่งไม่ใส่ใจคำพูดของเขา
"ใต้เท้าเขาไม่ต้องกังวล ขุนนางผู้นี้อยู่ที่เมืองซ่างกู่มาหลายปี มีขุนนางที่จงรักภักดีต่อข้าอยู่มากมาย เหล่าตระกูลใหญ่ในเมืองเองก็เชื่อฟังวาจาของข้า แม้ว่าตันเทียนจะนั่งบัญชาการที่เมืองซ่างกู่ด้วยตัวเอง แต่เขายังจะทำอย่างไรได้?"
เขาฮิวรู้สึกว่าเขาจำต้องกล่าวเตือนหยิ่งสงอีกครั้ง "เจ้าเมืองหยิ่น อย่าได้ลืมว่ายังมีทัพปิ้งโจว เมื่อทัพปิ้งโจวสามารถยึดเมืองซ่างกู่ได้ มีหรือที่พวกเขาจะไม่ทิ้งกำลังทหารเอาไว้เลย?"
ประโยคนี้แตะสัมผัสถูกบาดแผลทางใจของหยิ่นสง การต่อสู้กับทัพปิ้งโจวครั้งนั้น เขาพ่ายแพ้อย่างหมดรูป ศักดิ์ศรีบารมีที่เฝ้ารักษาแนวหน้ามาหลายปีแทบจะอันตธานหายไปกับศึกในครั้งนั้น
"ใต้เท้าเขา หลังจากข้ายึดเมืองซ่างกู่กลับมาได้แล้ว รอดูว่าท่านยังจะพูดอะไรอีก" น้ำเสียงของหยิ่นสงเพิ่มความดุร้ายขึ้นเล็กน้อย
"เช่นนั้นข้าจะรอดู" เขาฮิวไม่คิดทะเลาะต่อไป หยิ่นสงไม่สนใจคำเตือนของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นในใจเขาฮิวย่อมบังเกิดโทสะขึ้นมา แต่เพราะตัวตนของหยิ่นสงมีความสำคัญต่อแผนการ เขาจึงทำได้เพียงต้องอดทนไปก่อน
เมื่อทัพของพวกเขามาถึงที่นอกเมืองซ่างกู่ หยิ่นสงก็มีกำลังทหารอยู่ในมือถึงห้าพัน แม้ว่าอาวุธและชุดเกราะของทหารส่วนใหญ่จะผุพังจนแทบจะไม่ถูกมองว่าเป็นทหารก็ตาม
ข่าวเรื่องการมาถึงของทัพหยิ่นสงนั้นก็ได้ล่วงรู้ไปถึงหูของเหล่าตระกูลใหญ่ภายในเมือง คืนนั้น เหล่าประมุขตระกุลใหญ่ภายในเมืองได้นัดประชุมหารือเรื่องการต้อนรับหยิ่นสงเข้าเมือง ตันเทียนจับตาดูความเคลื่อนไหวของตระกูลเหล่านี้มานานแล้ว เมื่อเหล่าตระกูลใหญ่ลอบส่งทหารจะไปโจมตีประตูเมือง ตันเทียนก็พลันปรากฏตัวขึ้น ด้วยการคำนวณเป็นแม่นเหมาะ ทหารส่วนตัวของตระกูลใหญ่จึงถูกเข่นฆ่าจนทิ้งอาวุธและชุดเกราะวิ่งหนีไปอย่างอัปยศ
หลังจากนั้น ตันเทียนก็สั่งให้คนวางเพลิงตามจุดต่างๆของเมือง ให้พวกทหารส่งเสียงโห่ร้องแสร้งเป็นรับศึก ทำให้ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยเสียงฆ่าฟัน จากนั้นเขาจึงสั่งให้ทหารเปิดประตูเมือง
เมื่อเห็นเช่นนั้น หยิ่นสงก็คิดว่าตระกูลใหญ่ก่อการสำเร็จ เขารีบนำทาหารเข่นฆ่าเข้าไปในเมืองทันที
"เจ้าเมืองหยิ่น ภายในเมืองมีไพร่พลอยู่นับหมื่น ตระกูลใหญ่ยังจะมีกองกำลังส่วนตัวอยู่สักเท่าใดกันเชียว ระวังจะเป็นอุบายของศัตรู" เขาฮิวเอ่ยเตือน
หยิ่นสงแค่นเสียงอย่างดูแคลน "หากว่าใต้เท้าเขาไม่กล้าเข้าเมือง เช่นนั้นท่านก็สามารถรออยู่ที่นอกเมือง"
หลังจากบุกเข้ามาในเมือง ทหารของหยิ่นสงก็ต้องตกตะลึง อีกฝ่ายจัดแถวพลธนูไว้คอยท่าพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว หัวลูกศรอันคมกริบเล็งยิงมาทางพวกเขา ด้วยความคับแคบของช่องประตูเมือง ย่อมเป็นไปได้ที่จะถอยกลับในทันที
หยิ่นสงเองก็นับเป็นคนโหด เมื่อเห็นฉากนี้ เขาก็ทราบว่าตนหลงกลศัตรูแล้ว เขาออกคำสั่งให้ทหารบุกโจมตีด้วยความสิ้นหวัง ทหารที่แข็งแกร่งจริงๆนั้นมีเพียงสองพันคน ขณะที่ทั้งสองพันคนนี้เชื่อฟังคำสั่งของเขาฮิว เมื่อเห็นว่าฝ่ายศัตรูตั้งกระบวนทัพเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว พวกทหารของหยิ่นสงก็พากันหันหลังวิ่งหนีกลับไปทางประตูเมือง
ก่อนที่จะเข้าไปในเมือง เขาฮิวก็รู้สึกผิดท่า ดังนั้นขาจึงลอบสั่งการให้ทหารกิจิ๋วรั้งอยู่ที่ทางเข้าเมือง นับตั้งแต่ที่ประตูเมืองถูกเปิดจากภายใน เพราะเรื่องราวต่างๆดูราบรื่นเกินไป เขาฮิวจึงไม่เชื่อถือ
และเพราะความระมัดระวังของเขาฮิวนี้เองที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้
หลังจากได้ยินว่าภายในเมืองมีกองทัพตั้งแถวไว้คอยท่า ปฏิกิริยาแรกของเขาฮิวไม่ใช่การบุกโจมตี แต่เป็นการถอย เขารีบสั่งให้ทหารล่าถอยขณะที่ต้านทานการโจมตีจากทหารของตันเทียน
หยิ่นสงมองดูพวกทหารที่วิ่งหนีกลับไปทางประตูเมืองด้วยสีหน้าสิ้นหวัง เขาทราบว่าตนเองตกหลุมพรางของตันเทียนเข้าให้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้หยิ่นสงออกคำสั่งมั่วซั่วจนเป็นการทำลายทัพกิจิ๋ว เขาฮิวจึงได้ส่งทหารจำนวนหนึ่งร้อยคนไปตั้งแนวป้องกันไว้ ทำให้ทหารของหยิ่นสงยากจะหนีออกจากเมือง
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved