ตอนที่ 303 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการย้ายหีบสมบัติเหล่านี้ออกไปจากที่นี่ ขอเพียงขนไปถึงข้างนอกได้ ด้วยขบวนรถจากปิ้งโจว การจะขนกลับปิ้งโจวก็ไม่ได้ยากลำบากอะไร

กาเซี่ยงเป็นบัณฑิต เขาชื่นชมภาพอักษรและภาพวาดที่เตียวเหยียงเก็บรวบรวมไว้พลางส่งเสียงจิ๊จิ๊ชื่นชมไม่หยุด เมื่อเป็นสิ่งที่เตียวเหยียงเก็บสะสมเอาไว้ ผลงานเหล่านี้ย่อมไม่ธรรมดา

จางเส้ารู้สึกสมองพองโต หากว่าเขาสามารถครอบครองทรัพย์สมบัติเหล่านี้ ค่ายของเขาก็จะต้องแข็งแกร่งขึ้น และกลายเป็นกลุ่มอิทธิพลอันดับหนึ่งในบริเวณลั่วหยางอย่างไม่ต้องสงสัย ความมั่งคั่งและแพรพรรณสามารถสั่นคลอนจิตใจผู้คน เมื่อเผชิญกับความมั่งคั่งมากมายปานนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็ต้องหวั่นไหวใจ

"เหลือคนไว้ที่นี่ห้าสิบคน คนที่เหลือให้ขนถ่ายสิ่งของออกไป อาเหวย เจ้าและจ้าวซู่ซ่อนของเหล่านี้ไว้ รอคอยขบวนรถ" หลังจากหารือกับกาเซี่ยง ลิโป้ก็ทราบว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องดำเนินการด้วยความระวัง

"นายท่าน จะจัดการกับหัวหน้าโจรผู้นี้อย่างไรดี?" กาเซี่ยงลดเสียงลงถาม เมื่อครู่เขาได้สังเกตปฏิกิริยาของจางเส้า และอารมณ์ที่ผันผวนของเขาย่อมไม่อาจหลบซ่อนสายตาจากกาเซี่ยงได้

เพื่อความมั่งคั่งแล้วก็ไม่มีเรื่องใดรับรองได้ว่าโจรเหล่านี้จะไม่ทดลองเสี่ยงชีวิต นี่เป็นทรัพย์สมบัติอันมหาศาล หากกระทำการสำเร็จ พวกเขาก็จะสุขสบายไปชั่วชีวิต

"หลังจากออกไปแล้ว พกวเราค่อยหารือกันเรื่องนี้" ลิโป้ตอบเบาๆ

"นายท่าน เหล่าพี่น้องได้ค้นพบสมบัติชุดใหม่ภายในถ้ำขอรับ" จ้าวซู่เดินเข้ามารายงานด้วยท่าทางตื่นเต้น

ลิโป้ตาเป็นประกาย "ให้คนเข้าไปขนออกมา"

'ดูเหมือนว่าข้าจะยังประเมินความสามารถในการรวบรวมสมบัติของเตียวเหยียงผู้เป็นหัวหน้าสิบขันทีต่ำไปสินะ เผลอนึกไปว่าสมบัติสองร้อยหีบคือขีดจำกัดสูงสุดแล้ว โชคดีจริงๆ เตียวเหยียงนับเป็นผู้ที่สร้างคุณูปการต่อปิ้งโจวอย่างยิ่งใหญ่จริงๆ ด้วยสมบัติเหล่านี้ ดูเหมือนว่าโอกาสที่ปิ้งโจวจะขยับขยายอาณาเขตจะใกล้เข้ามาแล้ว'

ขณะที่ทหารหน่วยเฟยอิงขนหีบสมบัติหีบสุดท้ายออกมาจากถ้ำ อาจเพราะคว่าตื่นเต้นจนเกินไป เขาจึงได้เดินเซไปชนเข้ากับกำแพงถ้ำที่อยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแตกร้าวจากผนังถ้ำที่อยู่ด้านข้าง เขารีบแนบตัวหลบหลังผนังด้านข้างทันควัน ก่อนหน้านี้พี่น้องหลายคนในหน่วยต่างก็ได้รับบาดเจ็บจากกับดักภายในถ้ำ ที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ ผนังถ้ำค่อยๆเลื่อนออกเสมือนทำหน้าที่เป็นประตู เผยให้เห็นเส้นทางอีกสาย

เมื่อทราบเรื่อง จ้าวซู่ก็นำทหารในหน่วยทำการสำรวจทั่วถ้ำโดยละเอียด ด้วยลักษณะนิสัยที่เงียบขรึมของเขา หลังจากได้เห็นฉากภายในถ้ำแล้วก็ยังอดสูดหายใจเฮือกใหญ่ไม่ได้ เพียงปรายตามอง เขาก็บอกได้ทันทีว่านี่ก็คือทรัพย์สมบัติที่แท้จริงของเตียวเหยียง ส่วนทรัพย์สมบัติที่เบื้องนอกนั้นมีไว้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเท่านั้น

หีบสมบัติออกร้อยหีบถูกขนออกจากถ้ำ ในบรรดาหีบสมบัติเหล่านี้เป็นของโบราณล้ำค่า เตียวเหยียงซึ่งเป็นขันทีคนสนิทของฮ่องเต้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับราชการเป็นขุนนางก็ตาม แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดให้ขุนนางบางคนที่อยากจะเลื่อนขั้นให้สูงขึ้นลอบติดสนบนเตียวเหยียงไม่ได้ ดังนั้นเตียวเหยียงจึงสามารถรวบรวมเงินทอง เพชรนิลจินดา ของล้ำค่าหายาก ภาพอักษรและภาพวาด รวมถึงกระบี่และสิ่งของที่มีชื่อเสียงอื่นๆได้มากมาย

"นายท่าน กระบี่เล่มนั้น เป็นกระบี่เซวียนหยวนขอรับ!" สีหน้าของกาเซี่ยงฉายแววตื่นเต้นยินดี กระบี่เซวียนหยวนไม่เพียงแต่กระบี่เลื่องชื่อเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความหมายของกระบี่เล่มนี้ เตียวเหยียงกล้ากระทั่งลอบเก็บกระบี่เซวียนหยวนเอาไว้ หากว่าพระเจ้าเลนเต้ทรงทราบ ต่อให้เตียวเหยียงจะได้รับความไว้วางพระทัยเพียงใด เขาก็คงหนีความตายไม่พ้น กระบี่เซวียนหยวนกล่าวกันว่าเป็นกระบี่ของจักรพรรดิเหลือง กระบี่เล่มนี้เปรียบได้ดั่งเป็นตัวแทนจากสวรรค์ มีความหมายคล้ายคลึงกับตราหยกแผ่นดิน นั่นคือ หมายถึงผู้ปกครอง

"กระบี่เซวียนหยวน?" ลิโป้สาวเท้าเดินเข้ามา เขาพอจะเคยได้ยินชื่อของกระบี่เซวียนหยวนมาบ้าง ทว่ากลับไม่ทราบถึงความหมายของมัน

ลิโป้รับกระบี่เซวียนหยวนจากมือเตียนอุยมาดูด้วยความตื่นเต้น เมื่อชักกระบี่ออกจากฝักกลับไม่มีประกายเย็นเยียบดังที่คาด กระบี่อ่อนเช่นนี้นับว่าหาได้ยากยิ่ง ต้องทราบว่ากระบี่เซวียนหยวนว่ากันว่าเป็นกระบี่ของจักรพรรดิเหลือง ยังไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องอื่น ในยุคสมัยนั้น มนุษย์สามารถตีกระบี่อ่อนขึ้นมาได้แล้วหรือ? อย่างน้อยบรรดาช่างฝีมือที่อยู่ในจิ้นหยางตอนนี้ก็ยังไม่อาจจัดสร้างกระบี่อ่อนระดับนี้ขึ้นมาได้

คิดมาถึงตรงนี้ ลิโป้ก็เกิดความสงสัยในตัวตนของกระบี่เซวียนหยวน เขาลดเสียงกล่าวถามเบาๆว่า "เหวินเหอ กระบี่เล่มนี้ ใช่เป็นของจริงหรือไม่?"

กาเซี่ยงกระซิบตอบ "ไม่สำคัญว่าจะเป็นของจริงหรือว่าของปลอมขอรับ ที่สำคัญก็คือความหมายของมัน จากการพิจารณาของผู้น้อยแล้ว กระบี่เล่มนี้มีความคมยิ่ง ไม่ได้ด้อยไปกว่ากระบี่ชิงกังของนายท่านเลย"

เมื่อลิโป้ได้ยินคำตอบเช่นนี้ เขาก็ส่งกระบี่เซวียนหยวนให้เตียนอุยถือ จากนั้นจึงชักกระบี่ชิงกังแล้วฟันออกไป กระบี่ชิงกังเล่มนี้ฟันเหล็กประดุจฟันหยวก ลิโป้เข้าใจความจริงข้อนี้ดีที่สุด แม้แต่ผู้เข้มแข็งอย่างกวนอูก็ยังพ่ายแพ้ในกระบวนเดียวเพราะกระบี่เล่มนี้

"เคร้ง!"

เกิดประกายไฟกระเด็นออกมา เมื่อพิจารณาดูแล้ว เขาก็พบว่ากระบี่ทั้งสองไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

ลิโป้พยักหน้า เขาไม่ทราบว่ากระบี่เล่มนี้ใช่ของจริงหรือไม่ ต่อให้เป็นของเลียนแบบ ก็นับว่าเป็นของเลียนแบบขั้นสูงสุด เมื่อเทียบกับกระบี่ชิงกังแล้ว กระบี่อ่อนเช่นนี้ง่ายต่อการเก็บซ่อนกว่า ลิโป้ตกหลุมรักกระบี่เล่มนี้อย่างรวดเร็ว ลองนึกจินตนาการดูว่า ขณะที่เผชิญหน้ากับศัตรู จู่ๆก็มีกระบี่โผล่พรวดออกมาจากที่ใดก็ไม่อาจทราบ มันย่อมสามารถสังหารศัตรูให้ตายคาที่ได้ทันที ดังนั้นกระบี่เล่มนี้จึงนับว่าน่ากลัวยิ่ง

"นายท่าน นายท่านต้องไม่บอกต่อผู้ใดว่านี่ก็คือกระบี่เซวียนหยวน มิเช่นนั้น หากเจ้าเมืองคนอื่นๆทราบเรื่องนี้เข้า พวกเขาจะต้องไม่ยอมเลิกลาอย่างแน่นอน" กาเซี่ยงเอ่ยเตือน

จางเส้าที่บัดนี้งุนงงแล้วก็ได้แต่งุนงงอีก โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นหีบสมบัติล้ำค่าถูกขนออกมาจากถ้ำอีกชุด ภายใต้แสงแดดที่สว่างจ้า ภายในใจของจางเส้ากลับเหน็บหนาวถึงขีดสุด

'ต้องครอบครองให้จงได้' จางเส้าครุ่นคิดว่าจะเก็บสมบัติเหล่านี้ไว้อย่างไรดี ด้วยทรัพย์สมบัติเหล่านี้ เขาจะต้องสามารถกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงกึกก้องไปทั่วแผ่นดินได้แน่

โจรเองก็มีความทะเยอทะยาน และเมื่อได้เห็นโอกาสมากวักมือเรียกอยู่ตรงหน้า พวกเขาก็สามารถกระทำได้ทุกเรื่อง

ต่อให้หีบสมบัติมากมายเหล่านี้ ทหารหน่วยเฟยอิงก็ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ใช้คนสองคนยกหีบหนึ่งใบ พวกเขาก็ค่อยๆขนย้ายหีบด้วยความพึงพอใจ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทหาร แต่พวกเขาก็เข้าใจดีว่าสมบัติเหล่านี้มีความหมายต่อปิ้งโจวมากเพียงใด

"ทิ้งความคิดเพ้อฝันของเจ้าไปจะดีกว่า" เตียนอุยเอ่ยเตือนจางเส้าอย่างเย็นชา

เมื่อได้ยินคำพูดของเตียนอุย จางเส้าก็พลันได้สติ เหล่าผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเขาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง โดยเฉพาะกลุ่มที่ปีนผนังผาด้วยมือเปล่า เขาจะต้องไม่ไปยั่วยุโทสะของคนเหล่านี้ ตัดสินท่าทีที่คนเหล่านั้นแสดงต่อเตียนอุยแล้ว เขาก็บอกได้ว่าเตียนอุยมีฐานะไม่ต่ำทราม บางทีอาจจะเป็นแม่ทัพของเจ้าเมืองในดินแดนใกล้เคียง เพราะถึงอย่างไร บัณฑิตนั้นก็เผลอหลุดปากเรียกเตียนอุยว่า "แม่ทัพเตียน"

"ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้สนใจสิ่งของเหล่านี้" จางเส้าแสร้งแค่นเสียงด้วยความดูแคลน แต่ขณะที่เอ่ยนั้น ในใจเจ็บปวดไม่ต่างจากถูกกระบี่ทิ่มแทง

หลังจากทำการซ่อนหีบสมบัติเอาไว้เรียบร้อยแล้วก็เป็นเวลาดึกพอดี

"นายท่าน เกิดเพลิงไหม้ขึ้นในค่าย ทั้งยังมีเสียงการต่อสู้ขอรับ" เมื่อกาเซี่ยงได้รับรายงาน เขาก็รีบวิ่งเข้ามารายงานลิโป้ทันที

"ในค่ายเกิดการต่อสู้?" ลิโป้ประหลาดใจ ในระหว่างทางมาที่นี่ พวกเขาพบเพียงค่ายโจรของจางเส้าเท่านั้น "นำตัวจางเส้ามาสอบถามก็จะทราบได้เอง"

"ใกล้ค่ายของเจ้ายังมีโจรกลุ่มอื่นอีกหรือไม่?" ลิโป้เอ่ยถาม

จางเส้าตอบว่า "ในรัศมีห้าสิบลี้นี้ไม่มีโจรกลุ่มอื่นอีก" เพื่อที่จะพัฒนาขุมกำลังของตัวเอง จากเส้าจึงได้ขยับขยายอาณาเขตออกไป เดิมทีแถบนี้มีโจรอยู่อีกหลายกลุ่ม ทว่าก็ถูกจางเส้าผนวกรวมเข้ามาจนหมดแล้ว

"นึกดูให้ดี" ลิโป้เตือน "เวลานี้เกิดการต่อสู้ขึ้นในค่ายของเจ้า เป็นไปได้หรือไม่ว่า พอพวกโจรเห็นว่าเจ้าไม่อยู่ก็ต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งหัวหน้ากัน?"