ตอนที่ 309 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

ชิงหนิวและคนของเขามาตั้งกลุ่มอิทธิพลอยู่ในบริเวณลั่วหยาง และพวกเขาย่อมต้องสังหารผู้คนและพ่อค้าที่ผ่านทางมาไปมากมาย ต่อให้ประหารฆ่าคนเหล่านี้ไปร้อยครั้งก็ยังไม่สาสมกับกรรมที่เคยก่อไว้

"ในเมื่อกิจิ๋วไม่เกรงกลัวอยู่แล้ว ใยเจ้าจึงไม่เปิดเผยตัวตนเล่า"

จากนั้นลิโป้จึงลดเสียงลงกล่าวว่า "โหวผู้นี้เป็นเจ้าเมืองปิ้งโจว"

ชิงหนิวนิ่งตะลึงไปครู่หนึ่ง ในใจบังเกิดความปั่นป่วนอย่างรุนแรง ไฉนลิโป้จึงปรากฏตัวขึ้นที่ซือลี่? เขาย่อมไม่คิดว่าลิโป้จะมาที่นี่เพื่อจัดการกับเขาโดยเฉพาะแน่ เมื่อนึกถึงขบวนรถจากปิ้งโจวที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้กับลั่วหยางก่อนหน้านี้แล้ว นี่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับลิโป้เป็นแน่

"ที่แท้จิ้นโหวก็เดินทางมาด้วยตัวเอง" น้ำเสียงของชิงหนิวไม่อาจปิดซ่อนความประหลาดใจเอาไว้ได้ เขาประสานมือคารวะคราหนึ่ง นี่เป็นการแสดงความเคารพต่อยอดขุนพลผู้แข็งแกร่ง

กาเซี่ยงส่ายหน้าเบาๆ เขาทราบว่าชิงหนิวคงไม่รอดแน่แล้ว ตัวตนและที่อยู่ของลิโป้นับเป็นความลับสูงสุด ชิงหนิวผู้นี้มาจากกิจิ๋ว ทั้งยังมีหนี้เลือดที่สังหารทหารปิ้งโจวไปมากมาย สาเหตุที่จนถึงตอนนี้เขายังไม่ตายก็เพราะลิโป้เกิสงสัยในตัวตนของเขา

"ข้าน้อยชื่อ ลิอุยหอง เป็นแม่ทัพจากทัพกิจิ๋ว ส่วนที่เหลือข้าน้อยขอไม่เอ่ยถึง" ลิอุยหองเปิดเผยตัวตน แต่เขาจะไม่เปิดเผยข้อมูลมากกว่านี้ ต่อให้ลิโป้ทราบว่าเขาเป็นแม่ทัพจากทัพกิจิ๋ว แต่นั่นก็ไม่อาจนำเรื่องนี้ไปกล่าวโจมตีอ้วนเสี้ยว

ลิอุยหองยังไม่อยากตาย ดังนั้นหลังจากที่ถูกลิโป้จับตัวเอาไว้ได้ เขาจึงยอมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขาเป็นแม่ทัพแห่งทัพกิจิ๋ว ดังนั้นจึงไม่ต้องการจะตกตายไปโดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ อีกทั้งเขายังต้องการจะสืบทราบฐานะของคนกลุ่มนี้

"เช่นนั้น เดี๋ยวโหวผู้นี้จะสั่งให้คนส่งแม่ทัพลิออกเดินทาง" ลิโป้กล่าว "ให้พวกเขาคอยดูแลเป็นอย่างดี"

สีหน้าของลิอุยหองฉายแววขมขื่น ในใจเขาคาดหวังอย่างมากให้ลิโป้เอ่ยปากชักชวน เขาเชื่อว่าหากไม่มีเรื่องขบวนรถก่อนหน้านี้ ลิโป้จะต้องรับตัวเขาไว้แน่

กาเซี่ยงต้องการจะกล่าวบางอย่างแต่ก็หยุดไว้ เขาต้องการให้ลิโป้เก็บลิอุยหองไว้ในซือลี่ในฐานะไพ่ลับ จากสีหน้าท่าทางของลิอุยหอง เขาก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายมีความตั้งใจจะสวามิภักดิ์ต่อปิ้งโจว

ขบวนรถของปิ้งโจวถูกเพลิงมอดไหม้ไปแล้ว ดังนั้นจึงได้แต่ต้องส่งคนไปยังปิ้งโจวเพื่อขอขบวนรถอีกครั้ง และนั่นทำให้พวกเขาต้องรั้งอยู่ในซือลี่นานขึ้น

.........................

ผ่านไปครึ่งเดือนนับจากลิโป้ออกจากเมืองโห้ลาย ซิหลงได้กลับไปยังทัพของเอียวฮอง

เมื่อเห็นซิหลง เอียวฮองก็ประหลาดใจอย่างมาก เขาทราบความสามารถของซิหลงดี "ไฉนกงหมิงจึงกลับมาเล่า? เป็นไปได้หรือไม่ว่าเพราะไม่ได้รับการใช้สอยจากจิ้นโหว?" เอียวฮองเอ่ยถามด้วยความกังวล

"ท่านแม่ทัพ ที่นี่ไม่เหมาะจะพูดคุย" ซิหลงเหลือบซ้ายแลขวาก่อนจะกล่าวเบาๆ

เอียวฮองพยักหน้าอย่างเข้าใจ

"ท่านแม่ทัพ ท่านทราบหรือไม่ว่าเป็นผู้ใดที่มายังค่ายเราในวันนั้น?" ซิหลงถาม เขารู้สึกว่าควรจะบอกตัวตนของกาเซี่ยงต่อเอียวฮองเอาไว้ เขาพักอยู่ในเมืองโห้ลายเกือบครึ่งเดือนจึงค่อยกลับมา นั่นก็เพื่อไม่สะกิดความสงสัยและส่งผลกระทบต่อธุระของลิโป้ในซือลี่

"ไม่ใช่ทูตจากปิ้งโจวที่ชื่อกาเหวินหรอกหรือ?" เอียวฮองถาม

"ไม่ใช่ขอรับ ผู้ที่เป็นทูตมาในวันนี้ชื่อว่า กาเซี่ยง เป็นกุนซือของกองทัพปิ้งโจว เพียงแต่มีเหตุให้ต้องปิดบังตัวตนขอรับ" ซิหลงอธิบาย

เอียวฮองพลันตกตะลึง กุนว์อของกองทัพมีศักดิ์ฐานะสูงส่งปานใด เพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมเขาแล้ว อีกฝ่ายกลับเสี่ยงชีวิตมาเกล้ยกล่อมที่โห้ลายด้วยตัวเอง? นี่ตนมีความสำคัญถึงเพียงนั้นตั้งแต่เมื่อใดกัน?

"ที่ข้าน้อยกลับมายังอำเภอปอในครั้งนี้ก็เพื่อช่วยปิ้งโจวยึดครองโห้ลาย" ซิหลงกล่าว

แม้จะฟังดูกระอักกระอ่วนไปสักหน่อย แต่เอียวฮองก็ต้องยอมรับว่า บัดนี้พวกเขาถือได้ว่าเป็นกองกำลังอย่างลับๆของปิ้งโจวแล้ว

"ท่านแม่ทัพ จิ้นโหวกล่าวว่า หากพวกเราสามารถยึดโห้ลายได้ ทัพเราก็สามารถประจำการอยู่ที่โห้ลาย และจะมีฐานะเป็นทหารของกองทัพปิ้งโจวเหมือนกับทหารที่อยู่ในปิ้งโจว ทหารในกองทัพทุกคนจะได้รับเงินเดือน" ซิหลงกล่าวเสริม

ได้ยินเช่นนั้น เอียวฮองก็เกิดความยินดี เขาสามารถนำทัพประจำการอยู่ในโห้ลาย นั่นหมายความว่าในอนาคต โห้ลายจะอยู่ในการดูแลของเขา และเขายังเคยได้เกี่ยวกับสวัสดิการของทหารปิ้งโจวมาก่อน ตราบใดที่สามารถเป็นทหารได้ ไม่มีผู้ใดในปิ้งโจวที่จะไม่อยากเป็น นอกจากจะไม่ต้องกังวลเรื่องปากท้องแล้ว พวกเขายังจะได้รับเงินด้วย

"เพียงแต่ทหารในกองทัพทุกนายจะต้องปฏิบัติตามารฝึกฝนของกองทัพปิ้งโจว และทหารที่มีคุณสมบัติไปม่ผ่านเกณฑ์จะต้องถูกคัดออก" ซิหลงกล่าว

"ประเสริฐ ล้วนทำตามที่จิ้นโหวว่า เรื่องราวในกองทัพขอยกให้กงหมิงจัดการดูแลก็แล้วกัน" เอียวฮองกล่าวอย่างอารมณ์ดี

ซิหลงกุมหมัดกล่าวว่า "ให้เป็นหน้าที่ของข้าน้อยเองขอรับ" ที่เขาไม่ได้บอกกล่าวออกไปก็คือ หลังจากยึดครองโห้ลายได้แล้ว มีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าลิโป้จะให้เขาเป็นเจ้าเมืองโห้ลาย

เทียบกับตำแหน่งแม่ทัพในกองทัพแล้ว เจ้าเมืองย่อมมีตำแหน่งสูงกว่า ต่อให้เอียวฮองจะได้เป็นแม่ทัพดูแลกองทัพในโห้ลาย แต่เขาก็ได้แต่ต้องรับคำสั่งจากเจ้าเมืองโห้ลาย

เอียวฮองพเนจรอยู่ในแถบซือลี่มานาน ย่อมต้องการที่พึ่งพิง ตอนนี้ปิ้งโจวเป็นฝ่ายริเริ่มยื่นข้อเสนอให้กับเขา นั่นเท่ากับเป็นการบอกเป็นนัยๆว่าจะยกเมืองโห้ลายให้เขาดูแล นี่ทำให้เขามีความจงรักภักดีต่อปิ้งโจวมากขึ้น เพียงแต่เมื่อได้ทราบระบบการทหารของปิ้งโจวจริงๆ เขาอาจจะไม่มีความสุขก็ได้

.............................

หองหยกนำกองทัพเคลื่อนกำลังมุ่งหน้าไปยังอำเภอเหย่หวัง ด้วยไพร่พลจำนวนหนึ่งหมื่นที่อยู่ในมือ หองหยกก็ไม่เห็นทัพของเอียวฮองอยู่ในสายตา เขาเป็นแม่ทัพมือดีของอองของ อดีตเจ้าเมืองโห้ลาย เขาต้องการจะใช้ชัยชนะครั้งใหญ่บอกต่อเตียวเอี๋ยน เจ้าเมืองโห้ลายคนปัจจุบัน ว่าตราบใดที่โห้ลายยังมีเขาอยู่ ทัพของเอียวฮองก็ไม่อาจทำอย่างไรต่อโห้ลายได้

หองหยกเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งในกองทัพโห้ลาย เขาค่อนข้างมีฝีมือในด้านเพลงหอก แต่หลังจากอองของตายไป เขาก็ขัดแย้งกับเตียวเอี๋ยนและเหล่าตระกูลใหญ่ในเมืองโห้ลาย ทำให้ถูกจับแขวนว่างไว้

เมื่อทราบข่าวว่าโห้ลายส่งกองทัพมา เอียวฮองก็ถอนกำลังจากอำเภอปอ เวลานี้เขาเหลือไพร่พลในมือไม่ถึงห้าพันคน แม้ว่าเมืองฉินสุ่ยจะมีกำแพงต่ำเตี้ย แต่ทัพของเอียวฮองก็ขาดเครื่องไม้เครื่องมือในการบุกตีเมือง ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะถอยไปตั้งรับที่เหย่หวัง

หลังจากหองหยกนำทัพมาถึงอำเภอเหย่หวัง เขาก็ไม่ได้เร่งเคลื่อนกำลังบุกโจมตีอำเภอปอในทันที แต่เริ่มทำการจัดระเบียบไพร่พลอยู่ในเมืองแทน ไพร่พลของเขาเป็นกองกำลังผสมที่เดินทางมาจากคนละที่ ดังนั้นจึงมีระเบียบวินัยหย่อนหยาน คิดใช้กองทัพเช่นนี้ต่อสู้กับทัพเอียวฮอง แม้จะมีเปรียบด้านจำนวน แต่ก็ยากจะคิดหวังชัยชนะ

หองหยกมีประสบการณ์อยู่ในกองทัพมานาน หลังจากทำการตัดศีรษะเหล่าไพร่พลที่ไม่เชื่อฟังไปบางส่วน ระเบียบวินัยในกองทัพก็ดีขึ้นมาก

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน หองหยกก็นำทัพเคลื่อนกำลังไปยังอำเภอปอ ทัพทหารทั้งหนึ่งหมื่นคนของเขานี้ดูค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่เปลือกนอก ตามความตั้งใจเดิมของหองหยกนั้น เขาต้องการจะฝึกฝนทหารเป็นเวลาครึ่งเดือนก่อนบุกโจมตีอำเภอเหย่หวัง เพียงแต่ในระหว่างนี้ต้องใช้เสบียงอาหารจำนวนมาก เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากเหล่าตระกูลใหญ่ เตียวเอี๋ยนจึงได้แต่เร่งให้หองหยกรีบเปิดฉากโจมตีทัพของเอียวฮองโดยเร็วที่สุด

หลังจากเฝ้าสังเกตทัพโห้ลายที่นอกเมืองอยู่นาน บนใบหน้าของซิหลงก็ปรากฏรอยยิ้ม กองทัพที่นอกเมืองนั้นดูเหมือนจะมีระเบียบวินัย แต่แท้จริงแล้วไม่เลย ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วนับแต่ทัพโห้ลายมาถึงนอกเมืองและเริ่มทำการตั้งกระบวนทัพ กล่าวได้ว่านี่เป็นทัพที่พึ่งสุดท้ายของเมืองโห้ลายแล้ว

เทียบกับทัพที่อยู่นอกเมืองแล้ว อาวุธและชุดเกราะของทหารในทัพเอียวฮองก็ไม่ได้ด้อยกว่าแต่อย่างใด หลังจากเอาชนะกองทัพโห้ลายก่อนหน้านี้ได้ เอียวฮองก็ได้รับสิ่งของมามากมาย

ที่ทำให้ซิหลงเกิดความมั่นใจมากที่สุดก็คือ เขามีทหารม้าเฟยฉีจำนวนห้าร้อยคนอยู่ในมือ นี่เป็นทัพม้าไร้เทียมทานที่ทำให้พวกเซียนเป่ยที่แข็งแกร่งยังต้องหวาดกลัว