ม้ากิ้นพยักหน้าแล้วจึงถอนหายใจ ในยุคที่แผ่นดินวุ่นวายเช่นนี้ มีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ประสบหายนะที่ตนไม่ได้ก่อเหมือนกันกับเขา
เมื่อได้รับข่าวเรื่องถูกขบวนรถถูกกลุ่มโจรของชิงหนิวซุ่มโจมตี นอกจากผู้คุ้มกันสองคนที่หน่วยเฟยอิงช่วยเหลือกลับมา คนอื่นๆล้วนถูกสังหารจนสิ้น เรื่องนี้ทำให้ลิโป้เดือดดาลสุดขีด เขาให้กาเซี่ยงและองค์รักษ์ห้าสิบคนอยู่เฝ้าที่นี่ ส่วนเขาและคนที่เหลือจะมุ่งหน้าไปยังลั่วหยาง
"นายท่าน ชิงหนิวมีโจรใต้บัญชาห้าพันกว่าคน นายท่านจะพาตัวเข้าไปเสี่ยงได้อย่างไร?" กาเซี่ยงกล่าวด้วยความกังวล
"เหวินเหอ ทหารที่ตายไปนั้นล้วนเป็นพี่น้องของข้า ต่อให้มีอันตราย ข้าก็ต้องไปที่นั่นเพื่อบอกต่อโจรพวกนั้นว่าการล่วงเกินปิ้งโจวนั้นจะมีจุดจบแบบใด" ลิโป้กล่าวอย่างเย็นชา
"นายท่าน ผู้น้อยขอติดตามนายท่านไปด้วย" เมื่อเห็นว่าลิโป้ตัดสินใจไปแล้ว กาเซี่ยงก็กุมมือกล่าว
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลิโป้ก็กล่าวว่า "เช่นนั้น แม่ทัพเตียนก็อยู่ที่นี่"
เตียนอุยรีบร้องว่า "นายท่าน ข้าน้อยเป็นผู้บัญชาการทัพองค์รักษ์ของนายท่าน จะอยู่ห่างจากายนายท่านได้อย่างไร? ใต้เท้ากาเป็นบัณฑิตนะขอรับ"
กาเซี่ยงกล่าวว่า "เมื่อมีหน่วยเฟยอิงคอยลอบอารักขา โจรเหล่านั้นก็ไม่อาจแตะต้องนายท่านได้ สมบัติเหล่านี้มีความสำคัญยิ่ง ดังนั้นแม่ทัพเตียนจึงควรอยู่เฝ้ารักษา"
ได้ฟังคำพูดของกาเซี่ยง เตียนอุยก็เงียบไป ในปิ้งโจวนั้น นอกจากลิโป้แล้ว ผู้ที่เขานับถือเลื่อมใสที่สุดก็คือ กาเซี่ยง
สองวันต่อมา ลิโป้นำองค์รักษห้าสิบคนและหน่วยเฟยอิงหนึ่งร้อยห้าสิบคนมุ่งหน้าไปยังค่ายภูเขาของชิงหนิว
ถึงอย่างไร ครั้งนี้เขาก็มีคนเพียงสองร้อยอยู่ในมือ ความแตกต่างในด้านจำนวนทำให้ไม่อาจเปิดฉากโจมตีอย่างดุดันได้ ลิโป้ร่างแผนการไว้ว่า คงต้องใช้วิธีเดียวกับตอนที่ลอบเข้าไปในค่ายของจางเส้า สำหรับพวกโจรนั้น ค่ายของพวกเขาย่อมไม่เข้มงวดกวดขันเหมือนดังค่ายทหาร ด้วยความสามารถของหน่วยเฟยอิงแล้ว การจะล่าหัวชิงหนิวย่อมไม่ยากเย็นอะไร
หลังจากสังเกตการณ์อยู่นาน กาเซี่ยงก็กล่าวเบาๆว่า "นายท่าน โจรเหล่านี้ดูแตกต่างจากโจรกลุ่มอื่น โจรที่เฝ้าค่ายมีการลาดตระเวนอย่างเข้มงวด ทั้งยังมีการจัดวางกำลังเป็นอย่างดี คาดว่าชิงหนิวผู้นี้จะไม่ใช่โจรทั่วไป หากว่าลอบโจมตีกลางดึก เกรงว่าคงสำเร็จได้ยาก พวกเราควรตรวจสอบสถานการณ์เพิ่มเติมก่อนจะตัดสินใจขอรับ"
ลิโป้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูกังวลอยู่บ้าง "เหวินเหอ จะต้องยังมีทหารในขบวนรถที่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเราไม่อาจลากถ่วงเวลาออกไป"
"นายท่านโปรดสงบใจลง หากว่าโจรพวกนี้ต้องการสังหารคนในขบวนรถ เกรงว่าพวกมันคงสังหารไปจนหมดนานแล้ว หากว่ารีบร้อนลงมือตอนนี้ เกรงว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับพวกโจรแทน" กาเซี่ยงเอ่ยแนะนำ
ได้ยินคำพูดของกาเซี่ยง ลิโป้ก็นิ่งเงียบ คำพูดของกาเซี่ยงใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ทว่าผู้คุ้มกันขบวนรถนั้นก็คือทหารในกองทัพปิ้งโจว มีหรือที่เขาจะไม่กังวลได้ ดีที่เขาพากาเซี่ยงมาด้วย หากว่าเป็นเตียนอุย ป่านนี้คงโถมเข้าไปเข่นฆ่าพวกโจรด้วยความโกรธแค้นไปแล้ว
ลิโป้รอคอยด้วยความกังวล ขณะที่กาเซี่ยงเฝ้าสังเกตการณ์ภายในค่ายอยู่เงียบๆ เมื่อท้องฟ้าเริ่มปรากฏแสงสว่าง หลังจากประเมินสถานการณ์ภายในค่ายอย่างละเอียดแล้ว รอยยิ้มที่ดูลี้ลับก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของกาเซี่ยง
"นายท่าน ตอนนี้ท้องฟ้ายังสว่างอยู่ พวกเราควรซ่อนตัวและรอให้ถึงตอนกลางคืนก่อนขอรับ" กาเซี่ยงกล่าว
ลิโป้ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ดูลี้ลับของกาเซี่ยงแล้ว เขาก็เกิดความเชื่อมั่น
ต่อให้ซ่อนตัวอยู่แถวค่าย ลิโป้ก็มั่นใจว่าพวกโจรจะไม่พบตัวเขาแน่ ในด้านการพรางตัวนั้น เขาย่อมทิ้งห่างโจรเหล่านี้ไม่เห็นฝุ่น
หลังจากทำการลบร่องรอยทิ้งไปแล้ว ลิโปก็หันมาถามกาเซี่ยงเบาๆ "เหวินเหอ หรือว่าท่านมีแผนเอาชนะศัตรูแล้ว?"
กาเซี่ยงพยักหน้าเบาๆ เขาลดเสียงลงกระซิบบอกลิโป้อยู่หลายคำ ลิโป้พลันตาเป็นประกายเมื่อได้ยิน
"มีเหวินเหออยู่ด้วย โจรพวกนั้นก็ถึงคราวซวยแล้ว" สีหน้าที่เคยแฝงด้วยความกังวลของลิโป้ดูผ่อนคลายขึ้นมาก สำหรับพวกโจรที่กล้าโจมตีขบวนสินค้าของปิ้งโจว ต้องให้กวาดล้างจนหมดค่าย เขาก็ไม่รู้สึกผิดแต่อย่างใด โจรเหล่านี้ก่อกรรมทำเข็ญในแถบลั่วหยางไว้มาก ตอนนี้เมื่อพวกมันไม่มีนัยน์ตา บังอาจแตะต้องคนของปิ้งโจว แล้วจะใจอ่อนกับพวกมันได้อย่างไร
"นายท่านสามารถให้หน่วยเฟยอิงเตรียมการเงียบๆ อย่างไรเสียภายในค่ายก็ยังมีคนอยู่ห้าพัน" กาเซี่ยงกล่าว
เมื่อคืน เขาครุ่นคิดหาวิธีจัดการพวกโจรตลอดทั้งคืน ขณะที่ลิโป้เองก็ไม่ได้หลับพักผ่อนสักเท่าใดเพราะความกังวล เมื่อเห็นว่ากาเซี่ยงนึกแผนการได้แล้ว เขาจึงรู้สึกง่วงนอนขึ้นมาเพราะความผ่อนคลาย "เรื่องนี้ยกให้เหวินเหอจัดการก็แล้วกัน ข้าขอนอนสักงีบก่อน จากนั้นค่อยพูดคุยถึงเรื่องนี้"
กาเซี่ยงได้รับรายงานจากหน่วยเฟยอิงเป็นระยะ ในฐานะกุนซือผู้หนึ่ง เขาจะต้องทำให้แน่ใจว่าในแผนการจะไม่มีจุดผิดพลาด ข้อมูลจากหน่วยเฟยิงทำให้เขายิ่งแน่ใจว่า หัวหน้าค่ายโจร ชิงหนิว ที่ก่อการในแถบลั่วหยางผู้นี้ไม่ใช่โจรทั่วไป สามารถกระทั่งสร้างค่ายที่เหมือนกับค่ายทหาร จากไม่มีสมุนบริวารจนมีสภาพการณ์ในปัจจุบัน มีหรือที่หัวหน้าโจรทั่วไปจะกระทำได้?
นอกจากนั้น ชิงหนิวยังประพฤติตัวค่อนข้างดี จากข่าวสารที่หน่วยเฟยอิงรวบรวมมาได้ ในช่วงปีที่ผ่านมา ชิงหนิวได้นำกลุ่มโจรของเขาบุกทำลายหรือผนวกกลืนโจรกลุ่มอื่นๆที่ก่อการอยู่ในแถบลั่วหยาง ดังนั้นค่ายโจรของเขาจึงมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง เสียงอึกทึกของค่ายในยามกลางวันก็ค่อยๆกลับคืนสู่ความสงบ
โจรที่รับหน้าที่เฝ้าเวรยามในตอนกลางคืนพูดคุยกันเบาๆ นานๆทีจึงจะปรากฏเสียงหัวเราะ ในความคิดของคนบางคน พวกเขาอาจจะคิดว่าการเป็นโจรนั้นอิสระเสรี ทำการค้าที่ไม่มีต้นทุนจนมั่งคั่งร่ำรวย เมื่อพบเห็นคนผ่านทางมาก็เข้าไปขวางและยึดทรัพย์สิน หรือไม่ก็ส่งโจรกลุ่มใหญ่ไปปล้นสะดมหมู่บ้านในละแวกใกล้เคียง ช่างเป็นชีวิตที่แทบไม่ต้องยากลำบากใด
ซึ่งความจริง ผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับนั้นต้องแลกมาด้วยชีวิตที่อาจดับดิ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะตกตายในมือผู้อื่นเมื่อ อาจกระทั่งไม่มีทายาทหลงเหลือ ดังนั้นปกติแล้ว หากไม่สิ้นไร้ไม้ตอกขึ้นมาจริงๆ พวกเขาก็คงจะไม่เลือกเป็นโจร ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ต้องการถูกสวมหมวกว่าเป็น "ลูกหลานของโจร" ลงบนศีรษะ
ยามสาม[1] ผู้คนสว่นใหญ่ล้วนหลับใหลไปแล้ว พวกโจรที่เคยหัวเราะพูดคุยเฮฮากันก็ค่อยๆรู้สึกง่วงนอน พวกโจรในกลุ่มสามหรือห้าคนที่รับหน้าที่เฝ้าเวรยามก็หาที่เอนหลังพิงด้วยดวงตาที่หรี่ปรือ
[1 ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน]
ชิงหนิวตั้งกฏไว้อย่างเคร่งครัดยิ่ง นั่นคือจะต้องมีคนเฝ้ายามตลอดเวลา ทั้งยังให้เวรยามบางส่วนซ่อนตัวอยู่นอกค่ายเพื่อคอยสังเกตการณ์ แต่หลังจากคำสั่งถูกส่งลงมา จะปฏิบัติได้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แม้ว่าชิงหนิวเคยลงโทษพวกหัวหน้าโจรเพราะเวรยามที่หย่อนยานไปหลายครั้งแล้วก็ตาม กระนั้นผลลัพธ์ก็ไม่ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะพวกโจรที่จะต้องซ่อนตัวอยู่นอกค่าย ชิงหนิวไม่อาจจับตาดูได้ตลอดเวลา
เดิมที คนในค่ายก็ปฏิบัติอย่างแข็งขัน ภายใต้การลงโทษอย่างรุนแรงของชิงหนิว หน่วยลาดตระเวนของพวกโจรก็เข้มงวดไม่ต่างจากค่ายทหาร หลังจากผ่านไปได้สักพัก พวกโจรก็เริ่มมีวินัยหย่อนยาน กลางคืนก็จะให้สหายเฝ้ายามเพียงคนเดียว แม้แต่กระต่ายสักตัวก็ยังไม่เคยเห็นผ่านมา แล้วพวกเขาจะทำท่าขึงขังเฝ้ายามทุกคืนไปทำไม?
ภายใต้การอำพรางจากความมืด เงาร่างสองร่างค่อยๆเคลื่อนเข้าหาโจรที่ซุ่มซ่อนตัวอยู่นอกค่าย ฝ่ามือยื่นไปปิดปากโจรนั้นไว้ก่อนที่มีดสามคมบิดเกลียวจะเสียบเข้าลำคอของโจรนั้น การเคลื่อนไหวนี้ดูเชี่ยวชาญชำนาญยิ่ง
หลังจากจัดการโจรที่เฝ้าอยู่นอกค่ายแล้ว เงาร่างหลายร่างก็ค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้ค่ายโจร
ทหารเฟยอิงนายหนึ่งเหวี่ยงตะขอเกี่ยวในมือสองรอบก่อนจะโยนขึ้นไปด้านบนกำแพงค่าย ตะขอได้เกี่ยวเข้ากับมุมหนึ่ง หลังทอดลงอกระตุกดึงดูแล้ว เขาก็เงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวภายในค่าย
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved