ตอนที่ 302 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

ท้องฟ้ามืดสลัวของรุ่งสาง จางเส้าประหลาดใจเมื่อพบว่าพวกลิโป้พาเขาออกมายังค่ายของตัวเอง ที่รู้สึกประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ เขาพบเห็นใบหน้าอันไม่คุ้นตาจำนวนมากในค่ายแห่งนี้ มีกลิ่นโลหิตจางๆแฝงอยู่ในอากาศ เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนนี้ เหล่าคนชุดดำได้ทำการสังหารครั้งใหญ่

"บิดาต้องติดตามคนกลุ่มนี้ไปยังเขาปักคูสานเพื่อจัดการเรื่องราวบางอย่าง หลังจากที่บิดาไปแล้ว จางจ้งจะรับผิดชอบดูแลค่าย หากบิดาทราบว่าพวกเจ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของจางจ้ง เมื่อบิดากลับมา คอยดูว่าบิดาจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร"

โจรหลายคนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง จางเส้ามีบารมีอยู่ในกลุ่มโจรอย่างสูง และโจรเหล่านี้ต่างทราบดีว่าจางเส้ามีวิธีจัดการกับผู้ที่ไม่เชื่อฟังอย่างไร

"หัวหน้าใหญ่ ท่านจะติดตามพวกเขาไปหรือ?" จางจ้งเอ่ยถามด้วยความสงสัย เขาได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในค่ายเมื่อคืนแล้ว พวกโจรต่างก็มองดูคนชุดดำเหล่านี้ด้วยความกลัว

"ไม่เป็นไร พวกเขาไม่ทำอะไรข้าหรอก หลังจากข้าไปแล้ว เจ้าจะต้องคอยะวังพวกโจรอื่นรอบลั่วหยางให้ดี" หลังจางเส้าสั่งการแล้ว เขาก็ติดตามกลุ่มของพวกลิโป้ไป

จางเส้ารู้สึกสงสัยในตัวตนของลิโป้และคนอื่นๆอย่างมาก หากว่าอีกฝ่ายมาจากกลุ่มอิทธิพลที่อยู่รอบๆลั่วหยาง เช่นนั้นไฉนจึงสามารถเข้ามาค่ายของเขาได้โดยง่ายเช่นนี้? ตอนที่เขาได้ปลูกสร้างค่ายแห่งนี้ขึ้นมา เขาได้ทุ่มเทความคิดความพยายามลงไปมาก เมื่อมีอันตรายเกิดขึ้น ต่อให้อีกฝ่ายมีกำลังสามพันคน เขาก็มั่นใจว่าจะสกัดอีกฝ่ายเอาไว้ได้ แต่เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาในค่ายตามลู่ทางปกติ

จางเส้าค้นพบสถานที่แห่งนี้โดยบังเอิญ หากไม่มีคนคอยนำทาง ต่อให้เดินเฉียดผ่านไปก็ยังหาไม่พบ

เมื่อเห็นเขาลูกหนึ่งที่อยู่ไกลๆ สีหน้าของตันเทียนก็เผยแววตื่นเต้น "แม่ทัพเตียน เป็นที่นั่น!"

เพราะยินดีที่ในที่สุดก็ค้นพบตำแหน่งที่ซ่อนสมบัติของเตียวเหยียงเจอแล้ว ลิโป้จึงไม่ทันสังเกตว่า จางเส้าดวงตาไหววูบเมื่อได้ยินตันเทียนเรียกขานเตียนอุย

กาเซี่ยงลอบสั่งให้ทหารหน่วยเฟยอิงจับตาดูความเคลื่อนไหวของจางเส้าทันที การเดินทางมายังซือลี่ในครั้งนี้ของลิโป้นับเป็นเรื่องใหญ่ของปิ้งโจว ตัวตนของพวกเขาจะต้องไม่ถูกเปิดเผยออกไปโดยเด็ดขาด ในฐานะกุนซือข้างกายลิโป้แล้ว กาเซี่ยงย่อมต้องกำจัดปัจจัยที่สามารถคุกคามความปลอดภัยต่อลิโป้ทิ้งทั้งหมด

ตันเทียนดูเหมือนจะตระหนักได้ว่าตนเองเผลอหลุดปากไป เมื่อเห็นว่าลิโป้ไม่ได้สนใจอะไร เขาก็ลดเสียงลงกล่าวว่า "นายท่าน สมบัติของเตียวเหยียงอยู่ที่ภูเขาลูกนั้นขอรับ"

ภูเขาลูกนี้มีความสูงราวสามร้อยเมตร ทั่วทั้งภูเขามีลักษณะเป็นผนังผา การเดินทางขึ้นไปค่อนข้างยากลำบากอยู่บ้าง

ทว่าสำหรับทหารหน่วยเฟยอิงแล้วกลับไม่เป็นปัญหา พวกเขาได้รับการฝึกฝนหลักสูตรของหน่วยรบพิเศษจากลิโป้ ดังนั้นจึงมีความชำนาญในการปีนป่ายภูเขา

"นายท่าน ข้าน้อยขออาสานำคนล่วงหน้าไปสำรวจขอรับ" ผู้บัญชาการหน่วยเฟยอิงจ้าวซู่ขันอาสา

จ้าวซู่เป็นผู้ที่มีอำนาจรองลงมาจากลิโป้ในหน่วยเฟยอิง ทักษะความชำนาญทั้งหมดของเขา กล่าวได้ว่าได้รับการสืบทอดมาจากลิโป้เต็มๆ และการปีนภูเขาด้วยมือเปล่าก็คือจุดแข็งของเขา

หลังจากตันเทียนกระซิบบอกจ้าวซู่อยู่หลายคำ จ้าวซู่ก็นำทหารเฟยอิงอีกสองนายปีนภูเขาที่ค่อนข้างราบเรียบจนทำให้จางเส้าต้องอ้าปากค้าง

จางเส้ายอมรับว่าเขายังไม่มีความกล้าหาญถึงเพียงนั้น ด้วยความสูงระดับนี้ หากผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยก็จะนำไปสู่ความตายได้ทันที

ในเขาปักคูสานนั้นมีสุสานกษัตริย์อยู่มากมาย จางเส้าเองก็มักจะส่งคนออกมาค้นหาเพื่อดูว่ายังมีสุสานอื่นๆอยู่อีกหรือไม่ ซึ่งนี่ยังเป็นแหล่งรายได้อีกทางหนึ่งของกลุ่มโจรของจางเส้า หากว่าค้นพบสุสานของราชวงศ์ ความมั่งคั่งที่จะได้รับก็จะอยู่เหนือจินตนาการ

จ้าวซู่ปีนป่ายไปยังตำแหน่งที่ตันเทียนบอกด้วยความคล่องแคล่วว่องไว หลังจากมาถึงแล้วหยุดพักอยู่ครู่หนึ่ง จ้าวซู่ก็พยักหน้าให้ทหารหน่วยเฟยอิงอีกสองนาย ทั้งสามเริ่มต้นคลำหาบางสิ่งจากพื้นผิวภูเขา

ตอนนั้นเอง จู่ๆจ้าวซู่ก็พลันกระโดดไปทางขวา ด้วยกำลังแขนที่เหนือธรรมดา เขาสามารถใช้แขนเพียงข้างเดียวยึดเกาะผนังผาไว้ขณะห้อยโหนตัวอยู่ในอากาศ มีลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งปักไปยังตำแหน่งที่จ้าวซู่เคยอยู่เมื่อครู่

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งสามค้นหาด้วยความระวังมากขึ้น

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง มองจากไกลๆดูแล้วก้จะเห็นหน่วยเฟยอิงทั้งสามกลายเป็นจุดสีดำเล็กๆบนผนังผา ลิโป้มองดูด้วยความกังวล

ขณะที่ลิโป้กำลังจะเอ่ยถามบางอย่างต่อตันเทียนนั้นเอง ทันใดนั้นก็บังเกิดเสียงดังโครมใหญ่ดังมาจากผนังผา ผนังผาคล้ายจะพังตัวลงมาจนเผยให้เห็นอุโมงค์สีดำแห่งหนึ่ง

สีหน้าของลิโป้พลันดีขึ้นทันตา ขณะที่เขากำลังจะไปชมดูนั้น กาเซี่ยงก็รีบทัดทานว่า "ไม่ได้นายท่าน เตียวเหยียงซ่อนสมบัติไว้ที่นี่ ภายในจะต้องติดตั้งกลไกกับดักไว้มากมายแน่นอน ดังนั้นให้หน่วยเฟยอิงเข้าไปสำรวจก่อนแล้วจึงค่อยตัดสินใจเถอะขอรับ"

ลิโป้ทำตามคำแนะนำ ส่งหน่วยเฟยอิงไปสำรวจดูก่อน เขาได้แต่ยับยั้งความตื่นเต้นและรอฟังข่าวจากจ้าวซู่อยู่เงียบๆ

จางเส้าที่อยู่ด้านข้างทราบว่าที่นี่จะต้องมีความลับที่ตนไม่รู้อยู่ แต่เมื่อมองดูทหารหน่วยเฟยอิงที่จับจ้องมองมาจากโดยรอบแล้ว เขาก็ได้แต่กลืนคำพูดที่ต้องจะถามกลับลงลำคอ หัวหน้าของคนเหล่าล้วนแต่งกายด้วยชุดธรรมดา ทว่าจะต้องมีศักดิ์ฐานะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่เป็นไร ขอเพียงมีชีวิตรอดได้ก็พอแล้ว ไม่ว่าเพชรนิลจินดา เงินทองและสมบัติมากมายเพียงใดก็ยังไม่สำคัญเท่ากับชีวิต

อีกราวหนึ่งชั่วโมงต่อมา พวกจ้าวซู่ทั้งสามก็กลับมาจากการสำรวจ

เพียงแต่ทหารหน่วยเฟยอิงที่ติดตามจ้าวซู่ไปทั้งสองล้วนได้รับบาดเจ็บ แม้แต่ฝีเท้าก็ดูซวนเซเล็กน้อย

"เรียนนายท่าน โชคดีที่ข้าน้อยไม่ทำให้นายท่านต้องผิดหวัง สถานการณ์ภายในถ้ำได้ถูกตรวจสอบโดยละเอียดแล้วขอรับ" ในน้ำเสียงของจ้าวซู่แฝงไว้ด้วยความยินดี ที่ทำให้เขาตื่นเต้นก็คือสิ่งที่อยู่ภายในถ้ำ กองสมบัติที่อยู่ภายในทำให้พวกเขาต่างพากันตื่นเต้น ทหารเฟยอิงนายหนึ่งก็เกือบจะแตะสัมผัสถูกกลไกกับดักเพราะความตื่นเต้น

"ที่ด้านหลังของภูเขาก็คือทางออกของถ้ำขอรับ" จ้าวซู่กล่าว

"นายท่าน จะเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ไปที่นั่น สถานการณ์ภายในถ้ำซับซ้อนยิ่ง หากว่าไม่ระวังก็จะไปสัมผัสถูกกลไกเอาได้"

"ดี ทิ้งคนไว้สามสิบคน ส่วนที่เหลือให้ติดตามจ้าวถงหลิ่งเข้าไปขนของในถ้ำออกมา" ลิโป้เองก็ทราบว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะอวดเก่ง ดั่งสำนวนที่ว่า "ทวนเปิดเผย หลบหลีกง่าย เกาทัณฑ์ลับ ยากระวัง"

การรอคอยนั้นมักจะยาวนานเสมอ โดยเฉพาะเมื่อทราบว่าสมบัติของเตียวเหยียงอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม ตันเทียนเองก็เดินไปเดินมาด้วยความกังวล นี่ก็คือสิ่งที่บิดาของเขาแลกมาด้วยชีวิต ในที่สุดตอนนี้ก็เห็นผลแล้ว ในใจเกิดอารมณ์ผสมปนเป รวมทั้งโกรธแค้นพวกสิบขันทีและตระกูลขุนนางที่นิ่งเฉยดูดายเหล่านั้น นอกจากนี้ยังมีความทะเยอทะยานที่จะสร้างความแตกต่างขึ้นในปิ้งโจว

เมื่อหีบที่เต็มไปด้วยเพชรนิลจินดาหีบแรกถูกทหารหน่วยเฟยอิงขนออกมา ดวงตาของจางเส้าก็เบิกกว้าง เขาพอจะกะประมาณมูลค่าของเพชรหีบนี้ได้โดยคร่าวๆว่ามันจะต้องล้ำค่ายิ่งกว่าสมบัติที่เขาเคยขุดได้จากในสุสานแน่นอน ในใจก็นึกเสียดายขึ้นมา ว่าทำไมตนถึงไม่ส่งคนมาตรวจสอบพื้นที่แถบนี้ให้ละเอียดกว่านี้

หีบที่สอง หีบที่สาม..... ลิโป้ดีใจจนเริ่มเปลี่ยนเป็นชินชา เตียวเหยียงผู้นี้นับว่าสมแล้วที่เป็นคนโปรดของฮ่องเต้ ด้วยสมบัติมากมายปานนี้ เตียวเหยียงก้ไม่ต้องกังวลเลยว่าชีวิตนี้จะต้องอยู่อย่างอดอยาก แล้วขันทีที่เหลือเล่า ใช่ซุกซ่อนสมบัติเอาไว้ด้วยหรือไม่?

หีบที่ใส่ทองคำ เงินตรา และเพชรนิลจินดาอยู่สองร้อยหีบ ยังมีภาพอักษรพู่กันและภาพวาดอันล้ำค่าถูกขนมาไว้ในพื้นที่โล่งหน้าภูเขา สำหรับทหารหน่วยเฟยอิงที่เข้าไปทำการขนย้ายนั้น มีหนึ่งคนที่ตายและได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน ภายในถ้ำนั้นเต็มไปด้วยกลไกกับดัก หากพลั้งเผลอเพียงนิดเดียวก็จะไปสัมผัสถูกกลไกได้ทันที