ตอนที่ 282 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

"จิ้นหยางเองก็เจริญรุ่งเรืองไม่น้อย ใต้เท้าจิวสามารถเดินท่องชมภายในเมือง" แม้ในใจจะสงสัย แต่เขาก็ไว้วางใจกาเซี่ยง ดังนั้นลิโป้จึงไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องม้าศึกอีก

หลังจากจิวยี่ออกไปแล้ว กาเซี่ยงก็เอ่ยขึ้นว่า "คนผู้นี้ไม่อาจประมาทได้ เขาเกือบจะหลอกตบตานายท่าน ม้าศึกของปิ้งโจวยอดเยี่ยมเพียงใด ทั่วแผ่นดินล้วนทราบว่าบรรดาเจ้าเมืองล้วนต้องการม้าศึกจากปิ้งโจว ไฉนนายท่านจึงต้องสนใจแต่เพียงกังตั๋งเล่าขอรับ? นอกจากนี้กังตั๋งยังอยู่ห่างไกล ระหว่างทางอาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้

ตัดสินจากสีหน้าท่าทางของจิวยี่แล้ว ผู้น้อยกล้าสรุปได้เลยว่าพวกเขาจะต้องไม่จ่ายค่าม้าศึกให้ปิ้งโจวอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นตอนที่จิวยี่เดินทางมาปิ้งโจว ไฉนจึงไม่ขนเงินทองมาด้วย? ในระหว่างทางอาจมีพวกโจรจริง แต่นั่นก็เป็นเพียงข้ออ้างของจิวยี่เท่านั้น ต่อให้ต้องการจะขายม้าศึกให้กังตั๋ง ก็ต้องให้พวกเขาจ่ายเงินที่ติดค้างมาก่อน"

ลิโป้พยักหน้าเบาๆ แม้ว่าจิวยี่จะฉลาด แต่กาเซี่ยงเองก็ฉลาดไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน หากว่าจิวยี่ต้องการจะเอาเปรียบปิ้งโจวต่อหน้ากาเซี่ยง เขาก็ต้องใช้ความคิดมากกว่านี้

"ไม่รู้ว่าพี่เมิ่งเต๋อสบายดีหรือไม่?" ลิโป้เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเมื่อได้พบกับซี่จื่อไฉ

"เรียนจิ้นโหว นายท่านสบายดีขอรับ งานแต่งงานของจิ้นโหว นายท่านไม่อาจเดินทางมาด้วยตนเอง ดังนั้นจึงส่งข้าน้อยมาเป็นตัวแทน ดั่งที่จิ้นโหวทราบ กุนจิ๋วเพิ่งผ่านสงครามมา ไพร่พลและประชาชนเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า ต้องการการปลอบขวัญ นายท่านจึงเดินทางมาไม่ได้" ซี่จื่อไฉตอบ

ลิโป้ถอนหายใจ "เล่าเปียวแห่งเกงจิ๋วส่งกองทัพมาโจมตีกุนจิ๋ว นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีผู้ใดคาดคิด แต่ดีที่พี่เมิ่งเต๋อชิงกุนจิ๋วกลับมาได้"

"ดังที่จิ้นโหวกล่าว เล่าเปียวแห่งเกงจิ๋วผู้นี้เป็นดั่งหมาป่าที่มีใจทะเยอทะยาน ครั้งนี้หากเขาสืบทอดราชบัลลังก์ได้สำเร็จ ก็จะมีอำนาจอย่างสูงในแผ่นดิน ในความเห็นของจิ้นโหวแล้ว เล่าเปียวจะสามารถสืบทอดราชบัลลังก์ได้หรือไม่?"

เวลานี้ ความเห็นของลิโป้มีความสำคัญต่อความเป็นไปในแผ่นดินอย่างมาก หากว่าเล่าเปียวต้องการจะขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์ ก็จำเป็นจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากปิ้งโจว ถึงอย่างไรลิโป้ก็ได้รับการพระราชทานบรรดาศักดิ์โหวจากฮ่องเต้ ซึ่งเป็นตำแหน่งระดับสูง หลังจากเกิดเหตุการณ์ในกุนจิ๋ว เหล่าขุนนางในกุนจิ๋วย่อมต้องคัดค้านการสืบทอดราชบัลลังก์ของเล่าเปียว บุกโจมตีดินแดนอื่นโดยไร้ซึ่งเหตุผล หากคนเช่นนี้ได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ แผ่นดินก็จะยิ่งวุ่นวายมากกว่าเดิม

ลิโป้นิ่งครุ่นคิด เขาหันไปหากาเซี่ยง คงจะดีกว่าหากให้กาเซี่ยงตอบคำถามเช่นนี้

"ใต้เท้าซี่ ปิ้งโจวเพิ่งผ่านสงครามมาอย่างต่อเนื่อง ไพร่พลเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า ไม่มีกะจิตกะใจยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวในแผ่นดิน สำหรับเรื่องที่ผู้ใดมีความคิดจะขึ้นครองบัลลังก์นั้น นั่นมีส่วนเกี่ยวข้องใดกับปิ้งโจว?" กาเซี่ยงกล่าวขึ้นช้าๆ

ซี่จื่อไฉยิ้มก่อนจะกล่าวว่า "ไฉนจึงจะไม่เกี่ยวข้อง? เวลานี้แผ่นดินยังไม่มีประมุข ไม่ทราบใต้เท้ากามีความเห็นอย่างไร?"

"ปิ้งโจวไม่เคยเกรงกลัวการศึก เวลานี้ ผู้ที่กังวลที่สุดจึงควรเป็นกุนจิ๋ว" กาเซี่ยงตอบกลับ

เมื่อเห็นทั้งสองเริ่มเชือดเฉือนกันด้วยวาจา ลิโป้ก็มึนงง เขาไม่เข้าใจสิ่งที่ทั้งสองสนทนาแม้แต่น้อย กระนั้นลิโป้ก็ทราบว่าทั้งสองกำลังถกเหตุผลเพื่อผลประโยชน์สูงสุดให้กับเจ้านายของตน ดังเช่นจิวยี่ที่ต้องการม้าศึกของปิ้งโจว

เมื่อเทียบกับทางกังตั๋งแล้ว ทางฝั่งกุนจิ๋วมีความจริใจมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด พวกเขานำเงินทองมาด้วย เพียงแต่ซี่จื่อไฉต้องการจะซื้อด้วยราคามิตรภาพ ถึงอย่างไรกหลังจากที่ม้าศึกปิ้งโจวถูกส่งไปถึงกุนจิ๋ว ราคาของม้าศึกก็จะถีบตัวพุ่งขึ้นเป็นสองเท่า อีกทั้งกองทัพกุนจิ๋วเองยังต้องการม้าศึกจำนวนมาก

หลังจากได้เห็นแสนยานุภาพของทัพม้าเฟยฉี โจโฉก็ยิ่งมีความต้องการจะเพิ่มจำนวนของทหารม้า เขามีการคบหากับลิโป้อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นจะขอซื้อม้าศึกจากปิ้งโจวก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

สุดท้าย ทางกุนจิ๋วก็ซื้อม้าศึกไปหนึ่งพันตัว โดยจะมอบหมายให้สำนักคุ้มภัยเจิ้นเหยี่ยนในการขนส่งลำเลียง แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจ่ายเงินให้สำนักคุ้มภัยด้วยเช่นกัน

ซี่จื่อไฉจากไปด้วยความพึงพอใจ ขณะที่จิวยี่ก็ยังคงเดินเที่ยวชมเมือง สำหรับทูตตัวแทนจากเกงจิ๋วนั้น เขาเดินทางมายังปิ้งโจวเพื่อที่จะขอการสนับสนุนจากลิโป้ ซึ่งลิโป้ก็ไม่ได้สนใจตำแหน่งระดับสูงในราชสำนักที่เล่าเปียวให้สัญญาเลยแม้แต่น้อย หากว่าเล่าเปียวต้องการจะขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์ เขาไม่อาจมีเพียงแค่ชื่อ แต่ต้องมีอำนาจอยู่ในมือด้วย หากว่ากองทัพเกงจิ๋วยึดครองกุนจิ๋วได้สำเร็จ เช่นนั้นเรื่องราวก็ง่ายแล้ว มีเพียงถือครองอำนาจอันยิ่งใหญ่เอาไว้เท่านั้น เหล่าเจ้าเมืองจึงจะไว้หน้าเขา เวลานี้เจ้าเมืองทั้งหลายต่างก็สะสมกองกำลัง คล้ายไม่หลงเหลือราชวงศ์ฮั่นอยู่ในใจอีกต่อไป หากว่าผู้ที่ขึ้นสืบทอดราชสมบัติไม่แข็งแกร่งมากพอ เขาก็จะสภาพดุจเดียวกับพระเจ้าเหี้ยนเต้ที่เป็นได้แค่หุ่นเชิดของตั๋งโต๊ะ มีเพียงแค่ตำแหน่ง แต่ไร้ซึ่งอำนาจ

ทูตตัวแทนของอ้วนสุดเองก็มาเพื่อหวังจะได้รับการสนับสนุนจากปิ้งโจว

หลังจากทูตตัวแทนจากไปกันหมดแล้ว กาเซี่ยงก็กระซิบกล่าวต่อลิโป้ว่า "นายท่าน เกรงว่าอ้วนสุดคงไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป เมื่อมีตราหยกแผ่นดินอยู่ในมือ อ้วนสุดก็เกิดความทะเยอะทะยาน เวลานี้เขายึดครองอิจิ๋วเอาไว้ได้แล้ว ดังนั้นจึงยิ่งมีความทะเยอทะยานกว่าเดิม คงอีกไม่นานนักที่อ้วนสุดจะตั้งตัวเป็นฮ่องเต้" ขณะที่กล่าว กาเซี่ยงก็ลดสุ้มเสียงลงให้เบาที่สุด แม้ว่าราชวงศ์ฮั่นจะเสื่อมโทรมลง กระนั้นก็ยังมีอิทธิพลในแผ่นดินอย่างมาก หากว่ามีผู้ตั้งตนเป็นฮ่องเต้ นั่นก็จะกระทบต่อราชวงศ์ฮั่นอย่างหนัก เกรงว่าศักดิ์ศรีสุดท้ายของราชวงศ์ก็จะเสื่อมสลายไป

"อ้วนสุดมีใจคิดเป็นอื่น เจ้าเมืองทั้งหลายล้วนทราบดี น่าขันที่อ้วนสุดคิดว่าเพียงมีตราหยกอยู่ในมือก็สามารถขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้ หากว่าอ้วนสุดกล้าตั้งตนเป็นฮ่องเต้ เขาก็จะกลายเป็นศัตรูกับเจ้าเมืองทั้งแผ่นดิน" ลิโป้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนเหมือนกาเซี่ยง ในประวัติศาสตร์ ที่อ้วนสุดต้องพบจุดจบก็เพราะการตั้งตนเป็นฮ่องเต้ในครั้งนี้เอง แม้แต่ซุนเซ็กที่แต่ก่อนคอยรับคำสั่งจากเขาก็ยังประกาศตัดความสัมพันธ์พร้อมตั้งตัวเป็นศัตรูกับอ้วนสุด

"ไม่ทราบว่านายท่านมีความเห็นอย่างไรเรื่องที่เล่าเปียวจะขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์" กาเซี่ยงเอ่ยถาม

ลิโป้นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงส่ายหน้าก่อนจะกล่าวว่า "เวลานี้แผ่นดินกำลังวุ่นวาย มีเพียงผู้นำที่ปราดเปรื่องเท่านั้นจึงจะสามารถสะกดควบคุมเหล่าวีรบุรุษผู้กล้าได้ ทั้งยังต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งสำหรับการปกครองแผ่นดิน เหวินเหอคิดหรือว่าเจ้าเมืองทั้งหลายจะยอมละทิ้งอำนาจและเข้าสวามิภักดิ์ต่อเล่าเปียว?"

กาเซี่ยงทอดถอนใจ "ผู้น้อยย่อมทราบอยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อเห็นราชวงศ์ฮั่นตกต่ำลงจนจวนเจียนจะล่มสลาย ผู้น้อยก็อดสะท้อนใจไม่ได้"

เมื่อเห็นสีหน้าที่หดหู่ของกาเซี่ยง ลิโป้ก็กล่าวขึ้นว่า "เหวินเหอ เรื่องราวในแผ่นดินไม่ได้อยู่ภายใต้การกำหนดของท่านและข้า สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้ คือทำให้ปิ้งโจวแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อที่จะไม่ถูกเจ้าเมืองคนอื่นๆกดขี่ข่มเหง"

กาเซี่ยงพยักหน้า แนวโน้มความเป็นไปของแผ่นดินไม่อาจถูกควบคุมได้ด้วยแคว้นเดียว ทว่าขอเพียงปิ้งโจวแข็งแกร่งขึ้น เจ้าเมืองคนอื่นๆก็จะไม่กล้าเข้ารุกราน

ทั่วทั้งจิ้นหยางเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง ทั่วทั้งเมืองถูกแต่งแต้มไปด้วยสีแดง

งานแต่งงานของลิโป้นี้ เหล่าแม่ทัพขุนนางที่ประจำการอยู่ที่ด่านเยี่ยนเหมินและอิวจิ๋วทำได้เพียงส่งคนมาร่วมแสดงความยินดี พวกเขาไม่กล้าเสี่ยงเดินทางมาร่วมอวยพรด้วยตนเอง โดยเฉพาะเหล่าขุนนางในอิวจิ๋ว แม้ว่าทัพกิจิ๋วจะล่าถอยไปแล้ว แต่ผู้ใดก็ไม่อาจทราบได้ว่าพวกเขาจะย้อนกลับมาอีกเมื่อใด

"นายท่าน ใต้เท้าเฉิง จากโรงงานช่างฝีมือบอกว่ามีเรื่องสำคัญคิดเรียนให้ทราบขอรับ" เตียนอุยเดินเข้ามาก่อนกุมหมัดรายงาน

ลิโป้งุนงง แต่ก็สั่งให้เชิญเฒ่าเฉิงเข้ามา ปกติแล้วเฒ่าเฉิงนั้นแทบจะไม่ได้ออกมาจากโรงงานช่างฝีมือเลย

หลังจากเฒ่าเฉิงแสดงความเคารพตามธรรมเนียมแล้ว เมื่อเงยหน้าขึ้นมา เขาก็พบว่าที่ด้านข้างของลิโป้มีกาเซี่ยงอยู่ด้วย ดังนั้นจึงเกิดความลังเลขึ้นมา ขุนนางของจิ้นหยางไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการของโรงงานช่างฝีมือ พวกเขาไม่มีข้อมูลของโรงงานว่ากำลังทำอะไร นี่เป็นเพราะลิโป้ได้ทำการควบคุมเอาไว้อย่างเข้มงวด และเรื่องที่เขาติดจะรายงานนี้ก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง ดังนั้นจึงได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ ไม่กล้ากล่าวอะไร

เมื่อเห็นเช่นนั้น กาเซี่ยงก็ลุกขึ้นกล่าวว่า "นายท่าน ผู้น้อยยังมีธุระต้องไปจัดการ เช่นนั้นผู้น้อยขออำลา"

"ไม่เป็นไร เหวินเหออยู่ต่อเถอะ" ลิโป้โบกมือ