ตอนที่ 33 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

"มารับความตายซะ!" ลิโป้นำทหารมุ่งตรงไปทางแม่ทัพคุมเมือง ทำให้ทหารป้องกันเมืองที่ติดตามแม่ทัพคุมเมืองมาต้องหน้าถอดสี

"ฆ่า!" เห็นทหารม้าร้อยกว่าคนตะโกนอย่างดุร้าย ทหารป้องกันเมืองบางคนจึงโยนอาวุธทิ้งก่อนจะหันหลังวิ่งหนี

เมื่ออยู่ต่อหน้าความเป็นความตาย บางคนก็เลือกที่จะหันหลังหนี

เมื่อทหารม้าปิ้งโจวบุกเข้าเมือง ทหารของเตียนเอี๋ยงที่มีแต่คนชราและอ่อนแอก็หมดกำลังใจที่จะสู้ต่อทันที

ณ จวนเจ้าเมือง เมื่อได้รับรายงานอย่างต่อเนื่องจากทหารที่สู้รบอยู่ในเมือง สีหน้าของเตียนเอี๋ยงก็ค่อยๆผ่อนคลายขึ้น ตัวเขามีความสัมพันธ์แต่เก่าก่อนกับลิโป้ ถ้าไม่ใช่เพราะความดื้อรั้นของบอกสุ้น เขาก็คงจะปล่อยลิโป้กลับจิ่วหยวนไปนานแล้ว

อำนาจช่างทำให้คนเปลี่ยนไปจริงๆ เมื่อเสพติดกับทุกสิ่งที่ได้มาพร้อมกับอำนาจ เมื่อนั้นก็เป็นการยากที่จะถอนตัวได้อีก เตียนเอี๋ยงถอนหายใจ จากนั้นจึงผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า และเดินออกจากห้องไป

ลิโป้มองดูจวนเจ้าเมืองที่เบื้องหน้าก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชา "ท่านเจ้าเมืองช่างน่าสนใจจริงๆ ท่านอยู่ภายในจวนที่หรูหรา แต่ทหารของข้าต้องกางกระโจมทนความหนาวเหน็บอยู่ที่นอกด่าน"

"เฟิ่งเซียน สบายดี เจ้าและข้า เฮ้อ ไม่คิดเลยว่าจะได้มาพบกันในสถานการณ์เช่นนี้ได้ ตำแหน่งเจ้าเมืองนี้ไม่เหมาะกับข้าเลยจริงๆ ข้าจะส่งหนังสือร้องขอให้ราชสำนักแต่งตั้งเฟิ่งเซียนเป็นเจ้าเมืองปิ้งโจวแทนข้าก็แล้วกัน" เตียนเอี๋ยงกล่าวอย่างปรอดโปร่ง ในน้ำเสียงไม่มีร่องรอยของความโกรธเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่มีท่าทีจะขัดขืนใดๆ

ลิโป้สูดหายใจเข้าปอด ภาพของเตียนเอี๋ยงในความทรงจำค่อยๆฉายซ้ำทีละภาพ เตียนเอี๋ยงเป็นคนนุ่มนวล ทั้งยังปฏิบัติต่อเขาด้วยดีมาเสมอ "อืม ทุกอย่างจบแล้ว นับแต่นี้ท่านเตียนก็พักอยู่ในเมืองเถอะ ไว้มีเวลา พวกเราสองคนค่อยมาดื่มกัน"

เตียนเอี๋ยงยิ้มบาง "วาจานี้ล่ะ ที่ข้าอยากได้ยิน"

บรรยากาศที่จู่ๆก็คล้ายกลายเป็นการพบปะของสหาย ทำให้เหล่าแม่ทัพและทหารโดยรอบต้องนิ่งอึ้ง เพียงแค่พูดคุย? เห็นได้ชัดว่าถูกริดรอนอำนาจ แต่เตียนเอี๋ยงคล้ายจะไม่ใส่ใจแต่อย่างใด

"ฮึ่ม คนเช่นนี้น่ะรึที่เป็นเจ้าเมือง? หากปิ้งโจวมีเจ้าเมืองเช่นเขา ไม่ช้าก็เร็วคงถูกส่งต่อให้ผู้อื่นอยู่ดี" ลิซกกล่าวด้วยความโมโห

สัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายและไม่มีความขัดขืนอะไรของเตียนเอี๋ยง ลิโป้ก็สั่งให้ทหารจัดหาบ้านในเมืองเตียนเอี๋ยงไปพักก่อน

"คารวะท่านเจ้าเมือง!" ลิซกกุมมือพลางค้อมตัวคำนับ

"คารวะท่านเจ้าเมือง!" แม่ทัพคนอื่นๆต่างก็กุมหมัดคารวะตาม

"ราชสำนักยังไม่ทันแต่งตั้ง พวกเจ้าก็เรียกข้าแบบนี้ได้รึ?" ลิโป้กล่าวอย่างโมโห

"นายท่าน เวลานี้ราชสำนักกำลังอ่อนแอ และจุดประสงค์ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพื่อที่จะปิดปากผู้คน ในตอนนี้ นายท่านควรจะทำให้ปิ้งโจวเป็นปึกแผ่นมั่นคง จากนั้นจึงค่อยๆพัฒนาไป" ลิซกอธิบาย

ลิโป้พยักหน้า คำพูดของลิซกนี้ กาเซี่ยงก็เคยบอกเขาไว้แล้ว เวลานี้ราชสำนักกำลังอ่อนแอ แต่เหล่าขุนนางกล้าแข็ง เหล่าขุนนางที่กุมอำนาจไว้ในมือย่อมไม่อยากสละอำนาจที่ครอบครองไป ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้ฮ่องเต้ยังอยู่ในการควบคุมของตั๋งโต๊ะ เมื่อออกคำสั่งไป จะมีสักกี่คนที่ยอมปฏิบัติตาม?

"นายท่าน เมื่อเตียนเอี๋ยงพักอยู่ในเมืองนี้ เราก็ควรส่งคนไปเฝ้าจับตาดู ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุพลิกผันใด" ลิซกกระซิบเบาๆ

ลิโป้พยักหน้า "พวกเราย่อมต้องรับรองความปลอดภัยของท่านเตียน เพียงแต่ต้องไม่รบกวนการใช้ชีวิตของเขา" ถึงอย่างไรเตียนเอี๋ยงก็มีสัมพันธ์อันดีกับเขา บางทีอาจเป็นเพราะถูกคนข้างกายยุยง จึงหลงผิดไปชั่วขณะ

"ด่านหูกวนให้เฮาเสงกับเซ้งเหลียมเฝ้าดูแล คนที่เหลือเตรียมตัวกลับจิ่วหยวน ตั้งค่ายพักแรมชั่วคราวที่นอกเมือง กางกระโจมให้ดี อย่าปล่อยให้มีคนหนาวตาย"

"นายท่าน ชาวบ้านกว่าแสนคนที่มาด้วย พวกเขาไม่มีทั้งเงินและที่ดิน ข้าเกรงว่า เพียงอาศัยทรัพยากรในปิ้งโจวนั้นยังไม่เพียงพอ คงเลี้ยงพวกเขาได้ไม่นาน" ลิซกกล่าวขึ้นด้วยความกังวล

"เว่ยกง ข้ามีแผนสำหรับเรื่องนี้แล้ว พวกเรามีอาหารไม่เพียงพอ ก็ให้จัดซื้อเข้ามาจากเมืองอื่นก่อน คนเหล่านี้ติดตามข้าจากลั่วหยางมาจนถึงปิ้งโจว ข้าจะมอบอาหารและเสื้อผ้าให้พวกเขา" ลิโป้กล่าวอย่างหนักแน่น

"นายท่านช่างใจกว้างนัก" ลิซกค้อมคำนับ

ลิซกที่ตัดสินใจติดตามลิโป้ เหตุผลหลักๆก็เพราะความโหดร้ายของตั๋งโต๊ะ ในหน้าประวัติศาสตร์นั้น เหล่าผู้ที่ฝืนวิถีฟ้าดินมักจะไม่มีจุดจบที่ดี หากติดตามตั๋งโต๊ะต่อไป ไม่ช้าก็เร็วจะมีภัยลามมาถึงตัว

เหล่าแม่ทัพที่ถือกำเนิดจากชาวบ้านต่างก็รู้สึกอบอุ่นใจเมื่อได้ยิน

การบริหารปิ้งโจวกับบริหารกองทัพ สองเรื่องนี้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เรื่องราวน้อยใหญ่ใดล้วนต้องจัดการดูแล ลิโป้สมองพองโต หนังสือรายงานสร้างจากซี่ไม้ไผ่ที่กองพะเนินและคำที่เข้าใจยากภายในนั้น ทำให้ลิโป้แทบอยากจะดึงตัวเตียนเอี๋ยงกลับมาสะสางงานเสียเดี๋ยวนั้น

"เว่ยกง ลำบากท่านแล้ว ฝากท่านจัดการด้วย หากมีเรื่องเร่งด่วนใดก็ให้เรียกข้า แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ก็ให้ท่านจัดการดูแลได้เลย" ลิโป้กล่าวด้วยความกระอักกระอ่วน

สีหน้าของลิซกเปลี่ยนเป็นแข็งค้าง เมื่อตั้งสติได้จึงค้อมคำนับพลางกล่าวว่า "ข้าน้อยจะจัดการอย่างเหมาะสม" ในความเห็นของเขา นี่เป็นเพราะลิโป้ไว้วางใจในตัวเขายิ่ง แม้จะไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่เขากลับได้รับมอบหมายงานสำคัญ สำหรับลิโป้แล้วอาจจะถือเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่สำหรับลิซก นี่หมายความว่าลิโป้วางตัวให้เขาเป็นบุคคลสำคัญ

ในสามวันมานี้ ลิโป้ใช้เวลาวางแผนที่จะปรับเปลี่ยนปิ้งโจว เขาตรวจสอบว่าปิ้งโจวมีพื้นที่อยู่เท่าใด จะเริ่มพัฒนาอย่างไร สำหรับการพัฒนาปิ้งโจวนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการเป็นผู้นำการปรับปรุงบางสถานที่ก่อน และเมื่อมีประสบการณ์แล้ว ก็จะขยับขยายการพัฒนาไปยังที่อื่นๆ เมืองจิ้นหยางในฐานะเมืองใหญ่ของปิ้งโจว ย่อมมีความมั่งคั่งที่สุด

หลังจากครุ่นคิดได้สักพัก ลิโป้ก็เดินทางไปยังที่ว่าการเมืองเพื่อเตรียมหารือร่วมกับลิซก

"เว่ยกง เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากัน?" ไม่พบหน้าเพียงสามวัน ลิซกเวลานี้กลับดูซีดเซียว ใต้ตาเพิ่มรอยคล้ำขึ้นมาจนแทบกลายเป็นหมีแพนด้า

"นายท่าน ข้าน้อยได้สะสางงานสำคัญที่นายท่านมอบหมายจนหมดสิ้นแล้ว กำลังเตรียมจะรายงานนายท่านอยู่พอดี" ลิซกค้อมคำนับ

เมื่อเห็นลิซกดูโทรมลงมาก เขารีบเข้าไปประคองลิซกพลางกล่าวว่า "เว่ยกง แม้ว่างานจะสำคัญ แต่เจ้าก็ต้องดูแลสุขภาพด้วย หากว่าเจ้าล้มป่วยขึ้นมา ผู้ใดจะดูแลจัดการงานเหล่านี้?"

ลิซกขอบตาร้อนผ่าว ชั่วขณะนี้ เขารู้สึกว่าตนเองตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว นี่หรือแม่ทัพบู๊ที่เหล่าขุนนางบุ๋นล้วนดูถูกดูแคลน? เขาจะพยายามตอบแทนความใจดีของลิโป้อย่างสุดความสามารถ "ขอบคุณนายท่านที่ห่วงใย ข้าน้อยจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่ออุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของนายท่าน"

เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าของลิซก ลิโป้ก็เข้าใจอะไรบางอย่างก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ดี เจ้าและข้าก็ไม่ใช่คนนอก ใยต้องเอ่ยขอบคุณ ไป พวกเราไปพูดคุยกันข้างในเถอะ"

"นายท่าน โรงเรียนคือสิ่งใด? โรงพยาบาลคือสิ่งใด? แล้วสิ่งใดที่เรียกว่าโรงงาน?" หลังจากหารือกันได้พักใหญ่ ลิซกก็ค่อนข้างสับสน มีหลายสิ่งที่ลิโป้กล่าวออกมาแล้วตัวเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

เมื่อลิโป้นึกขึ้นได้ว่าตนเองอยู่ยุคสมัยใด เขาก็ยิ้มขมขื่นอยู่ในใจ พูดเรื่องโรงพยาบาลกับผู้คนในยุคราชวงศ์ฮั่นก็ไม่ต่างอะไรกับดีดพิณให้วัวฟัง

"เว่ยกง โรงเรียนคือสถานที่สำหรับการศึกษา เป็นสถานที่ที่ให้เด็กๆเข้าไปศึกษาหาความรู้ ให้สามารถอ่านออกเขียนได้ อีกทั้งโรงเรียนจะยังเป็นสถานที่สำหรับเฟ้นหาผู้มีความสามารถให้กับปิ้งโจวในอนาคตด้วย ส่วนโรงพยาบาล คือที่ที่แพทย์.....ที่ที่ให้หมอรักษาใช้ทำงาน หากมีคนเจ็บไข้ได้ป่วย ก็สามารถเดินทางไปที่นั่นเพื่อรับการรักษา"

"ส่วนโรงงานคือสถานที่สำหรับการผลิต ทำหน้าที่ผลิตสิ่งของและส่งออกไปขาย คนที่ทำงานอยู่ภายในโรงงานก็จะได้รับค่าแรง"

ลิซกคิดตามก่อนจะเข้าใจ ดวงตาพลันเปล่งประกายขึ้นมา "นายท่าน กล่าวคือ โรงเรียนเป็นสถานที่ที่จะทำให้เด็กที่ยากจนสามารถอ่านออกเขียนได้ใช่หรือไม่?"

โรงพยาบาลกับโรงงานนั้นไม่นับเป็นอย่างไร แต่โรงเรียนนั้นทำให้หัวใจของลิซกเต้นแรงขึ้นมา