หน่วยสอดแนมเซียนเป่ยกลุ่มหนึ่งควบม้าผ่านไปโดยไม่พบเห็นความผิดปกติ ภายใต้การนำของลิโป้ ทหารม้าเฟยฉีก็หลบเลี่ยงทัพใหญ่เซียนเป่ยที่กำลังถอนทัพได้โดยไม่มีการปะทะ พวกเซียนเป่ยที่กำลังเร่งเดินทัพกลับเพียงส่งหน่วยสอดแนมออกมาหาข่าวเพียงคร่าวๆ พวกเขาย่อมนึกไม่ถึงว่าจะเฉียดผ่านทัพฮั่นในระหว่างเส้นทางกลับจากด่านเยี่ยนเหมิน นี่เป็นความกล้าหาญที่น้อยคนจะมีได้ แม้แต่เคอปี่เหนิงและซูลี่ก็ยังไม่มีความกล้าเช่นนี้
แต่ต่อให้เคอปี่เหนิงจะทราบว่าทัพฮั่นกำลังมุ่งหน้าไปยังเซียนเป่ยตะวันตก เขาก็จะไม่ส่งกำลังไปสกัด
ความสัมพันธ์ระหว่างเคอปี่เหนิงและซูลี่นั้นยังไม่เลว ทั้งสองฝ่ายต่างก็สูญเสียกำลังคนไปมากมายในครั้งนี้ ตรงกันข้ามกับปู้ตู้เกินที่ไม่ได้สูญเสียสักเท่าใด ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างคนหัวอกเดียวกันทั้งสองจึงดีขึ้นกว่าเดิมมาก
เพราะกองทัพเซียนเป่ยมีขนาดใหญ่เกินไป ลิโป้จึงไม่มีความคิดจะลอบโจมตีแต่อย่างใด ดังนั้นจึงทำได้เพียงปล่อยให้อีกฝ่ายกลับไปยังถิ่นของตัวเอง ส่วนเขาก็จะสามารถมุ่งหน้าไปคิดบัญชีกับปู้ตู้เกินได้โดยสะดวก
.............................
ในเมืองหยุนจง กองพลหมาป่าของเตียวเลี้ยวลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เคยมีสองพันคน บัดนี้เหลือเพียงหนึ่งพันสองร้อยคน ในศึกที่เมืองหยุนจงนี้ ทหารม้าหมาป่ามีบทบาทสำคัญยิ่ง ตอนที่พวกเซียนเป่ยถอนทัพกลับไป พวกเขาเองก็สูญเสียอย่างหนัก กองพลหมาป่าเป็นกองทหารม้าชั้นยอดแห่งปิ้งโจว หลังจากได้รับการติดตั้งโกลนและเกือกม้าแล้ว พลังสู้รบของพวกเขายังเหนือกว่าทหารม้าเซียนเป่ยเสียอีก
หลังจากยืนยันจนแน่ใจแล้วว่าพวกเซียนเป่ยถอนกำลังไปแล้วจริงๆ ด่านเยี่ยนเหมินก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง ด้วยการสั่งการของโกซุ่น ทหารรักษาด่านก็ช่วยชาวบ้านสร้างบ้านเรือนขึ้นมาใหม่ ทำให้ทั่วทั้งด่านเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ดูมีชีวิตชีวา
"เรียนท่านแม่ทัพ มีผู้อ้างตัวว่าเป็นทหารม้าเฟยฉีต้องการจะขอเข้าพบท่านแม่ทัพขอรับ"
เมื่อโกซุ่นได้ยินดังนั้น เขาก็รีบลุกขึ้นทันที ทัพเฟยฉีเป็นทัพม้าใต้บัญชาโดยตรงของลิโป้ "เชิญเข้ามาได้"
"แม่ทัพโก นี่เป็นจดหมายจากท่านแม่ทัพลิขอรับ" ทหารม้าเฟยฉีย่อมจดจำโกซุ่นได้
โกซุ่นรับจดหมายก่อนจะกางออกดู หากแต่ในใจกลับบังเกิดความสงสัยขึ้นมา "เจ้ามาจากที่ไหน?" มีหน่วยทหารในกองทัพไม่กี่หน่วยที่เรียกลิโป้ว่าท่านแม่ทัพ ซึ่งทัพเฟยฉีก็นับเป็นหนึ่งในนั้น
"ตอบท่านแม่ทัพ ข้าน้อยมาจากเซียนเป่ยขอรับ" ทหารเฟยฉีตอบตามความจริง
"เซียนเป่ย?" โกซุ่นหรี่ตาลง ในใจเกิดความตื่นตัวขึ้นมา สาเหตุการถอนกำลังของพวกเซียนเป่ยนั้นยังไม่ชัดเจน ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายใช่ใช้อุบายล่อเสืออกจากถ้ำหรือไม่ จะให้เกิดความผิดพลาดขึ้นที่ด่านเยี่ยนเหมินไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่ลิโป้กำชับแล้วกำชับอีก
"ท่านแม่ทัพ ท่านช่วยให้คนของท่านถอยออกไปก่อนได้หรือไม่ขอรับ?" ทหารเฟยฉีกล่าวออกมาเบาๆ
"สามหาว! ต่อหน้าท่านแม่ทัพ เจ้ากลับกล้าทำตัวโอหังเช่นนี้ได้อย่างไร?" หลี่กานที่อยู่ทางด้านข้างพลันตะคอก
โกซุ่นจ้องมองทหารม้าเฟยฉีก่อนจะกล่าวว่า "นายกองหลี่ ท่านพาคนออกไปก่อน"
หลี่กานถลึงตามองทหารม้าเฟยฉีก่อนจะพาคนอื่นๆออกจากห้องไป ปล่อยให้โกซุ่นและทหารม้าเฟยฉีอยู่กันตามลำพัง
"มีอะไรก็ว่ามาเถอะ" สีหน้าของโกซุ่นกลับคืนสู่ความสงบ เขาทราบว่าครั้งนี้คงต้องมีเรื่องสำคัญบางอย่าง ดังนั้นเขายิ่งต้องรับมือด้วยความเยือกเย็น
"ท่านแม่ทัพ ขออภัยการกระทำที่อุกอาจของข้าน้อยเมื่อครู่นี้ด้วยขอรับ ข้าน้อยเพียงต้องระวังป้องกันเอาไว้ก่อน นี่เป็นคำกำชับจากท่านแม่ทัพลิก่อนที่ข้าน้อยจะมา ดังนั้น....."
"เอาล่ะ รีบกล่าวเรื่องสำคัญมา" โกซุ่นยกมือขึ้นขัด
"ท่านแม่ทัพโก ข้าน้อยและท่านแม่ทัพได้ทำศึกกับพวกเซียนเป่ยในเซียนเป่ยภาคกลางมาร่วมเดือนแล้ว ทัพเราทำลายเผ่าต่างๆของพวกเซียนเป่ยไปไม่น้อย สังหารชาวเซียนเป่ยไปนับไม่ถ้วน และเมื่อไม่กี่วันก่อน ทัพหนุนจำนวนหนึ่งหมื่นคนของพวกเซียนเป่ยก็เพิ่งถูกทัพเราโจมตีจนแตกพ่ายไป หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็เป็นไปดังที่ท่านแม่ทัพโกทราบ พวกเซียนเป่ยถอนกำลังแล้ว"
ภายในจิตใจของโกซุ่นพลันบังเกิดระลอกคลื่นขึ้นไม่หยุด ลิโป้กลับนำทัพล่วงลึกเข้าสู่ทุ่งหญ้าด้วยตัวเอง นั่นเป็นการกระทำที่เสี่ยงอันตรายยิ่ง ต้องทราบว่าชาวเซียนเป่ยนั้นถนัดในการรบบนทุ่งหญ้าที่สุด แม้ชาวเซียนเป่ยที่เหลืออยู่ในทุ่งหญ้าจะมีนักรบที่แข็งแกร่งอยู่ไม่มาก แต่หากไม่ระมัดระวังก็อาจจะทำลายทั้งกองทัพ ตอนนี้เขาไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมก่อนหน้านี้ จู่ๆพวกเซียนเป่ยจึงมีการโยกย้ายกำลังออกไปมากมาย ที่แท้กลับเป็นฝีมือของลิโป้นี่เอง
จากนั้น ทหารม้าเฟยฉีก็บ่งบอกบรรยายรายละเอียดการบุกโจมตีทุ่งหญ้าอย่างคร่าวๆ เล่าว่าพวกเขายึดภูเขาต้านหานได้อย่างไร เล่าว่าพวกเขาปราบพิชิตทัพหนุนจำนวนหนึ่งหมื่นคนของเชวี่ยจีได้อย่างไร
แม้สีหน้าของโกซุ่นจะยังคงสงบนิ่ง หากแต่ในใจกลับสั่นสะท้านครั้งแล้วครั้งเล่า กล้านำทัพม้าจำนวนสามพันบุกเข้าไปดินแดนของศัตรู เผชิญกับทหารม้าที่ได้ชื่อว่าเก่งกาจที่สุดอย่างชนเผ่าเซียนเป่ย ชนะศึกแล้วศึกเล่า อาศัยเพียงเรื่องนี้ก็สามารถมีชื่อเสียงเลื่องระบือไปทั่วแผ่นดินได้แล้ว
หลังจากสอบถามรายละเอียดบางอย่างแล้ว โกซุ่นก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นทหารม้าเฟยฉีจริงๆ เขาส่งคนไปเชิญเซียวเหยียนและโจเส็งมา หลังจากหารือกันแล้ว โกซุ่นและโจเส็งก็นำทหารสามพันคนเคลื่อนกำลังออกจากด่าน ขณะที่เซียวเหยียวทำหน้าที่เฝ้าดูแลด่านเยี่ยนเหมิน
ในเวลาเดียวกัน ซีเอ๋งซึ่งอยู่ที่หยุนจงก็ได้รับจดหมายจากลิโป้เช่นกัน
หลังจากหายตกตะลึง ในใจก็ยิ่งรู้สึกเคารพเลื่อมใสลิโป้มากกว่าเดิม หลังจากยืนยันตนของทหารม้าเฟยฉีที่ส่งข่าวแล้ว ซีเอ๋งก็ไม่ลังเลอีก เขารีบส่งคนไปตามตันเตามาทันที
หากแผนการครั้งนี้สำเร็จได้ด้วยดี ซีเอ๋งก็สามารถทำนายได้เลยว่า ภายในสามปีต่อจากนี้ พวกเซียนเป่ยจะไม่กล้าเหยียบย่างมาที่ปิ้งโจวแน่นอน
..................................
ในใจปู้ตู้เกินรู้สึกไม่ยินยอมอยู่บ้าง หากแต่ตอนนี้เคอปี่เหนิงและซูลี่ได้ถอนกำลังไปแล้วเรียบร้อย อาศัยเพียงทหารม้าจำนวนไม่ถึงสามหมื่นคนของเขา การจะตีหักด่านเยี่ยนเหมินย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่เบนเป้าหมายไปหาหยุนจงและจิ่วหยวน
"ท่านประมุข สองวันที่ผ่านมา หน่วยสอดแนมของเราขาดการติดต่อไปแล้วสิบกว่าคนขอรับ" นายกองพันผู้หนึ่งเดินเข้ามารายงานต่อปู้ตู้เกิน
ปู้ตู้เกินขมวดคิ้ว การเสียหน่วยสอดแนมแสดงว่าในทุ่งหญ้ามีศัตรูอยู่ แม้ว่าในหยุนจงจะมีทหารม้าทัพฮั่นอยู่ แต่พวกเขาจะต้องไม่กล้าล่วงลึกเข้ามาในทุ่งหญ้าอย่างแน่นอน ในใจของเขาพลันบังเกิดลางสังหรณ์อัปมงคล ต้องทราบว่าที่นี่เป็นถิ่นของชาวเซียนเป่ย โดยทั่วไปแล้วชาวฮั่นไม่เคยยกกำลังออกมานอกด่านเยี่ยนเหมิน มิเช่นนั้น ด้วยฝีมือการรบบนทุ่งหญ้าของชาวเซียนเป่ยแล้ว ต่อให้ทัพฮั่นมีจำนวนมากกว่าเป็นเท่าตัว พวกเขาก็จะไม่มีทางรอดกลับไปได้
"เหยี่ยวบิน?" ปู้ตู้เกินพึมพำ ขณะที่สีหน้าค่อยๆเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์
"ท่านประมุข เกี่ยวอะไรกับเหยี่ยวบินหรือขอรับ?" นายกองพันพลันหัวใจกระตุก บนทุ่งหญ้าเวลานี้มีการพูดถึงเรื่องธงรูปเหยี่ยวกันมาก ทั้งหมดล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอีกฝ่ายร้ายกาจยิ่ง
ปู้ตู้เกินส่ายหน้า ในใจรู้สึกว่านี่ยากจะเป็นไปได้ ทัพฮั่นกลุ่มนั้นยังคงอยู่ที่เซียนเป่ยภาคกลาง ก่อนหน้านี้ก็ยังเอาชนะทัพหนุนจำนวนหนึ่งหมื่นคนจนทำให้พวกเขาต้องถอนกำลัง แล้วพวกเขาจะกล้ามุ่งหน้ามาทางด่านเยี่ยนเหมินได้อย่างไร? พวกเขาสมควรอยู่ที่ภูเขาต้านหานมากกว่า
"ส่งหน่วยสอดแนมออกไปหาข่าว หากพบปัญหาใดให้รีบรายงานทันที" ปู้ตู้เกินแค่นเสียง ต่อให้ทัพฮั่นที่ชูธงรูปเหยี่ยวมาแล้วอย่างไร? ที่ทัพหนุนจำนวนหนึ่งหมื่นคนพ่ายแพ้ก็เพราะด้วยความโฉดเขลาของเชวี่ยจีที่ตกหลุมพรางของชาวฮั่นเอง หากเปลี่ยนเป็นเขา เขาจะไม่เปิดโอกาสให้ทัพฮั่นอย่างแน่นอน จะดีที่สุดหากศัตรูกลุ่มนี้เป็นทัพฮั่นที่เคยอาละวาดในเซียนเป่ยภาคกลาง เพราะเช่นนั้นเขาก็จะสามารถโด่งดังได้ด้วยการชนะเพียงศึกเดียว และเขาก็จะกลายเป็นวีรบุรุษของชนเผ่าเซียนเป่ยทันที
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ปู้ตู้เกินก็ยิ่งเกิดความคาดหวังว่าผู้ที่ลงมือต่อหน่วยสอดแนมของเขาจะเป็นทัพฮั่นที่โด่งดังนั้น เขาต้องการบอกต่อชาวฮั่นว่าชาวเซียนเป่ยเก่งกาจเพียงใด ผู้ใดกันแน่ที่เป็นพญาอินทรีแห่งทุ่งหญ้า เขาต้องการประกาศต่อชาวเซียนเป่ยทั้งหมดว่าปู้ตู้เกินจากเซียนเป่ยตะวันตกนั้นคือยอดนักรบที่แท้จริงของเซียนเป่ย
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved