"คุณชาย ด้านหน้ามีกลุ่มโจรอยู่ พวกเราควรที่จะ...." เตียนอุยถามยิ้มๆ
"อย่าตอแยปัญหา ครั้งนี้พวกเราลอบเดินทางเป็นการลับ การเผยตัวตนจะทำให้ตกอยู่ในอันตราย มีคนอีกเป็นโหลที่ต้องการชีวิตข้า" ลิโป้ตอบ
"โหลคืออะไรหรือขอรับ?" เตียนอุยถามอย่างงงๆ
"เอาเถอะๆ ถ้าตัวตนของพวกเราถูกเปิดเผย คงมีคนมากมายมาตามล่า" ลิโป้คร้านจะอธิบายแล้ว
เตียนอุยพยักหน้ารับอย่างจริงจัง "เข้าใจแล้วขอรับ"
"นายท่าน พวกเราควรจะอ้อมไปหรือไม่ขอรับ?" บนถนนสายนี้มีเพียงคนทั้งสอง ดังนั้นเตียนอุยจึงรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง
"ยังกล้าเรียกข้าว่านายท่านอีก อยากให้ข้าตายเร็วๆงั้นเหรอ?" ลิโป้แสร้งกล่าวอย่างโกรธๆ
"ไม่กล้าขอรับๆคุณชาย" เตียนอุยรีบส่ายหัว
"แค่ไปตามทางก็พอ ถ้าพบปัญหาก็ใช้การพรางตัว" ลิโป้ตอบ
"คำตอบนี้ถูกใจข้าเลยขอรับ" เตียนอุยยิ้มซื่อๆ เขาเคยรับมือกับทหารหน่วยเฟยอิงอยู่บ่อยๆ ดังนั้นจึงค่อยๆตกหลุมรักกับการปฏิบัติการลับบ้างแล้ว
ทั้งสองเดินทางอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเส้นทางด้านหน้ามีคนยืนเฝ้าอยู่ ลิโป้ก็พาเตียนอุยถลันเข้าป่าข้างทาง
สิบห้านาทีผ่านไป สองร่างที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้ใบหญ้าก็กำลังเคลื่อนร่างผ่านป่าอย่างรวดเร็ว หากไม่สังเกตดูให้ดี ก็ยากที่จะพบเห็นคนทั้งสอง วิชานี้นับเป็นบทเรียนพื้นฐานสำหรับหน่วยรบพิเศษ ใช้สภาพแวดล้อมเพื่ออำพรางตัว
"คาดไม่ถึงเลยว่าพวกโจรจะมีการวางกำลังค่อนข้างดี" มองดูพวกโจรที่เฝ้าอยู่ตามเส้นทางแล้ว ลิโปป้ก็พึมพำ
"คุณชาย ท่านต้องการให้ข้า...." เตียนอุยกล่าวพลางทำท่าปาดคอ
ลิโป้ส่ายหน้า พงหญ้าค่อยๆขยับเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยไม่เป็นที่สังเกต สุดท้ายก็เข้าสู่ภูเขาอย่างปลอดภัย
"คุณชาย วิธีนี้ไม่เลวเลย ไม่สู้ให้พวกแม่ทัพทั้งหมดได้เรียนรู้ติดตัวไว้" เตียนอุยเอ่ยขึ้น
"อืม ไว้เจ้ากลับไปแล้ว เจ้าก็ซ่อนตัวแล้วให้พวกเขาตามหาเจ้าดู" ลิโป้หัวเราะ
"ขอรับ" เตียนอุยรู้สึกการทำเรื่องเช่นนี้สำเร็จให้ความรู้ดีกว่าการสังหารศัตรูได้เสียอีก
"ช้าลงหน่อย ข้างหน้ามีคนสู้กันอยู่" ลิโป้ตบบ่าเตียนอุยเบาๆ
"กล้าทำร้ายสหายข้า ยิงถล่มพวกมัน!"
ลูกธนูปลิวว่อนในอากาศ ผู้คุ้มกันหลายคนโดนยิงล้มลง ผู้คุ้มกันขบวนรถที่เหลือทำได้เพียงยืนหยัดต้านฝนธนูพลางคุ้มครองคนเจ็บสองคนทางด้านหลัง
"จ้าวซาน เจ้านำคนสิบคนพาฮูหยินฝ่าวงล้อมออกไป คนที่เหลือเตรียมสู้พร้อมข้า ต่อให้ต้องตายก็ต้องให้พวกมันได้รู้ว่าตระกูลเว่ยแห่งเหอตงไม่ใช่สามารถตอแยได้ง่ายๆ" ดวงตาของเว่ยหลินแดงก่ำ กระบี่ในมือทั้งสองฟันสังหารโจรไปหลายคน
จ้าวซานน้ำตาคลอ เขากัดฟันก่อนจะบังคับรถม้าพุ่งออกไป
"คุณชาย ดูท่าคนในรถม้าต้องมีความสำคัญเป็นแน่" เตียนอุยกล่าวเบาๆ
"เหลวไหลอะไร มีผู้คุ้มกันเกือบห้าสิบคน ทั้งยังมีทหารม้าอีกห้าคน เจ้าคิดว่าไงล่ะ?" ลิโป้ด่าเสียงเบา
"ขอรับ ขอรับ" เตียนอุยยิ้มแห้ง
"ฆ่า!" หัวหน้าโจรยกชูดาบ โจรโพกผ้าเหลืองหลายร้อยคนที่ถืออาวุธหลากหลายประเภทก็โถมเข้าโจมตีขบวนของเว่ยหลิน แม้อาวุธของพวกเขาจะผุพัง บางคนกระทั่งถือท่อนไม้ แต่พวกเขาก็มีเปรียบด้านจำนวน ให้โจรห้าหกคนไปรับมือกับผู้คุ้มกันหนึ่งคนก็ไม่มีปัญหา
พวกผู้คุ้มกันก็เป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อ ย่อมมีความกลัว เผชิญกับโจรที่คล้ายกับฝูงหมาป่าหิวโซ พวกเขาก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ถ้าไม่ใช่เพราะเว่ยหลินออกคำสั่งให้ปักหลักสู้ หลายคนคงจะเผ่นหนีไปแล้ว ไม่ว่าเงินจะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ถ้าไม่มีชีวิตอยู่ให้ใช้ นั่นก็ไร้ประโยชน์แล้ว
"หัวหน้าสอง เจ้าพาพี่น้องหนึ่งร้อยคนไปหยุดรถม้าให้กับบิดา คนในนั้นจะมาเป็นพี่สะใภ้ของเจ้า" หัวหน้าใหญ่หัวเราะ แม้ผู้คุ้มกันขบวนนี้จะมีอาวุธชุดเกราะชั้นดี แต่สิ่งที่เขาให้ค่ามากที่สุดก็คือ สตรีที่อยู่ภายในรถม้า ได้เห็นเพียงแวบเดียวก็ทำให้จิตใจเขาเปลี่ยนไป จากโจรปล้นชิงเป็นฆาตกร
"หัวหน้าใหญ่ เช่นนั้นสาวใช้ในรถม้าก็ยกให้ข้าแล้วกัน" รองหัวหน้าเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหาย
"ตกลง" หัวหน้าใหญ่ตอบอย่างไม่เต็มใจสักเท่าใด
รถม้าวิ่งช้ายิ่ง เพียงคืบหน้าไปได้ไม่ทันไร ผู้คุ้มกันคนหนึ่งก็ล้มลงจมกองเลือด แขนซ้ายของจ้าวซานถูกฟันจนแผลลึกถึงกระดูก แม้เสียเลือดมาก แต่เขาก็ยังไม่ยอมสละทิ้งรถม้า
ภายใต้การบุกจู่โจมอย่างดุร้ายของหัวหน้ารอง ผู้คุ้มกันสิบคนก็หลงเหลือไม่ถึงครึ่ง เสียงกรีดร้องของสตรีในรถม้าที่ดังขึ้นเป็นครั้งคราวยิ่งกระตุ้นสันดานดิบของหัวหน้ารองให้ลุกโชนขึ้นมา
"อาเหวย ไป พวกเราไปผดุงคุณธรรมกันสักครา" ลิโป้ชี้ไปยังหัวหน้าใหญ่ที่ยืนสั่งการอยู่บนหินก้อนใหญ่ ตอนนี้รอบกายของหัวหน้าโจรมีสมุนอยู่แค่สิบกว่าคน เห็นได้ชัดว่าทุ่มกำลังไปจัดการพวกผู้คุ้มกันจนหมดแล้ว
ลิโป้ไม่คิดว่าตนเองเป็นดีอะไร แต่เมื่อเห็นคนกำลังถูกรังแกอยู่ตรงหน้า เขาก็จะยื่นมือช่วยเหลือสักครา ต่อให้ลงมือไม่สำเร็จ ด้วยฝีมือของเขาและเตียนอุยแล้วก็คงไม่ยากที่จะฝ่าวงล้อมหลบหนี
พวกเขาค่อยๆคลานต่ำไปกับพื้นจนอยู่ห่างจากหัวหน้าโจรราวห้าก้าว พวกโจรยังคงจับตาดูสถานการณ์ด้านอื่น ไม่ทันสังเกตว่าความตายคืบคลานเข้ามาแล้ว
ลิโป้ส่งสัญญาณมือให้เตียนอุยผู้ซุ่มซ่ามให้รอเขาอยู่กับที่ ส่วนเขากลั้นหายใจสำรวจดูพวกโจรอย่างละเอียด ดั่งคำกล่าวที่ว่า สองหมัดยากต้านทานสี่ฝ่ามือ เขาไม่แน่ใจว่าจะมีดสามคมบิดเกลียวเล่มเดียวจะสามารถใช้ตีฝ่าวงล้อมออกไปได้หรือไม่
ขณะที่ใกล้เข้าไป ลิโป้ก็มองเห็นสีหน้ายินดีของหัวหน้าโจรได้อย่างชัดเจน
เมื่ออยู่ห่างเพียงสองก้าว ลิโป้ก็พลันลุกขึ้นโถมเข้าใส่หัวหน้าโจร
จู่ๆก็มีคนแปลกหน้าปรากฏตัวขึ้นระยะประชิด กระบี่เล่มหนึ่งถูกจ่อใส่ลำคอของหัวหน้าใหญ่ พวกสมุนที่อยู่โดยรอบต่างตกตะลึง หลายคนกระทั่งหน้าซีดด้วยความกลัว จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยราวผีสาง สมุนโจรบางคนกระทั่งยึดกุมอาวุธไม่อยู่ขณะผงะถอยหลังด้วยความกลัว
เตียนอุยดูจะพึงพอใจกับปฏิกริยาของพวกโจรมาก เขาหัวเราะพลางลุกขึ้นยืน เตียนอุยฉวยคว้าดาบใหญ่ในมือโจรที่อยู่ใกล้ตัวก่อนจะสะบัดฟันเจ้าของดาบล้มลง จากนั้นจึงพุ่งไปอยู่ข้างๆลิโป้
"รีบยอมแพ้ซะ หัวหน้าของพวกเจ้าตกอยู่ในกำมือของนาย....คุณชายข้าแล้ว" เตียนอุยตะคอก
การปรากฏตัวของเตียนอุยทำให้พวกโจรถอนหายใจด้วยความโล่งอก เดิมทีพวกโจรคิดว่าลิโป้เป็นภูติเทพ ที่แท้ก็ซ่อนตัวอยู่ในป่าด้านหลังนี่เอง
"รีบปล่อยตัวหัวหน้าใหญ่ ไม่อย่างนั้นพวกข้าต้องไม่ปลอ่ยพวกเจ้าไปแน่!" ในดวงตาอขงหัวหน้ารองปรากฏแสงขึ้นวูบหนึ่ง หากหัวหน้าใหญ่ตาย โจรกลุ่มนี้ก็จะกลายเป็นคนของเขา นั่นยังรวมถึงโฉมงามที่อยู่ภายในรถม้าด้วย
"บอกคนของเจ้าให้รีบวางอาวุธลงเดี๋ยวนี้" ลิโป้แค่นเสียงเย็น เขาค่อยๆลากตัวหัวหน้าโจรขยับเข้าใกล้รถม้าขณะสอดส่ายรอบด้านอย่างระมัดระวัง
สัมผัสได้ถึงคมกระบี่อันเย็นเยียบ หัวหน้าโจรก็ตกใจตัวแข็งทื่อ เขารีบตะโกนอย่างลนลาน "รีบวางอาวุธลงสิโว้ย!"
หัวหน้าโจรยังคงมีบารมีอยู่ในหมู่โจร สมุนหลายคนเริ่มทิ้งอาวุธลงพื้น
หัวหน้ารองพลันเคร่งเครียด "พี่น้องทั้งหลายอย่าไปฟังเขา หากวางอาวุธลงก็มีเพียงหนทางตาย เจ้าสองคนนั้นต้องเป็นพวกเดียวกับคนในรถม้าแน่ๆ พวกมันจะฆ่าพวกเราทุกคน"
คำพูดของหัวหน้ารองดูเหมือนจะได้ผล พวกเขาทราบแล้วว่าพวกผู้คุ้มกันรถม้าแข็งแกร่งเพียงใด หากพวกเขาทำตามที่หัวหน้าใหญ่บอก อีกฝ่ายจะต้องไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved