ตอนที่ 150 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

เมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของลิโป้ ซีเอ๋งก็รีบอธิบายว่าชาวเมืองนั้นให้การช่วยเหลืออย่างไรบ้าง

"ช่วยชาวเมืองสร้างบ้านให้ดี ใช้โอกาสนี้ปรับเปลี่ยนผังเมือง ท่านสามารถดูแบบอย่างจากจิ้นหยาง" จากนั้นลิโป้จึงกล่าวต่อ "หากมีข้อติดขัดตรงที่ใดก็ส่งเรื่องให้สำนักงานเมืองช่วยจัดการ"

ซีเอ๋งกุมมือกล่าวว่า "ข้าน้อยจะทุ่มเททำงานเพื่อให้ชาวเมืองได้บ้านหลังใหม่โดยเร็วที่สุดขอรับ"

ความศรัทธาที่ชาวเมืองแสดงออกมาทำให้ทหารม้าเฟยฉีและทหารม้าหมาป่ารู้สึกภูมิใจ ในอดีต เหล่าแม่ทัพมักจะบอกว่ากองทัพนั้นเป็นของประชาชน ทุกสิ่งที่กระทำไปก็เพื่อปวงชน พวกทหารก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่มาบัดนี้ พวกเขาได้สัมผัสกับความศรัทธาอย่างแรงกล้าจากผู้คน ทำให้เขาได้เข้าใจความหมายของประโยค 'กองทัพเพื่อประชาชน' อย่างแท้จริง

เชลยศึกชาวเซียนเป่ยที่อยู่ในกองทัพได้แต่เดินก้มหน้าก้มตาด้วยความรู้สึกอับอายเกินจะทน แม้หลายคนจะไม่รู้ว่าชาวฮั่นเหล่านี้ชี้หน้ากล่าวกับพวกเขาว่ากระไร แต่พวกผักเน่าที่ขว้างตามมาก็ทำให้พวกเขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้อวยพรให้เป็นแน่

ลิโป้หยุดพักอยู่ที่เมืองหยุนจงเพียงหนึ่งวัน จากนั้นก็นำทัพเฟยฉีเดินทางกลับเมืองจิ้นหยางก่อน การข้ามเวลามาของเขาได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับหน้าประวัติศาสตร์อย่างน่าตกตะลึง ลิยูที่เดิมสมควรตายไปพร้อมกับตั๋งโต๊ะได้ชิงลงมือเผาทำลายพระราชวังด้วยความแค้น ทำให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ถูกกลบฝังอยู่ใต้ทะเลเพลิง ขุนนางในราชสำนักต้องบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน ซึ่งเรื่องนี้อยู่เหนือความคาดหมายของทุกฝ่าย

ก่อนหน้านี้ เขาเคยคิดไว้ว่า หลังจากตั๋งโต๊ะตายแล้ว เขาควรจะนำกำลังบุกโจมตีเมืองฉางอันและช่วยเหลือองค์ฮ่องเต้ดีหรือไม่ ถึงอย่างไรฮ่องเต้ก็ยังเป็นตัวแทนของราชวงศ์ฮั่น เป็นป้ายทองอาญาสิทธิ์ ซึ่งจะสามารถดึงดูดให้เหล่าบรรดาแม่ทัพขุนนางที่มีความสามารถเดินทางมาเข้าร่วม แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้จะด่วนสวรรคตไปในลักษณะนี้ หากเป็นยามสงบสุข การสวรรคตขององค์ฮ่องเต้อาจจะไม่ก่อให้เกิดคลื่นลมใหญ่โตสักเท่าใด ถึงอย่างไรแผ่นดินนี้ก็ยังมีผู้ที่ใช้แซ่เล่าอีกหลายคน เพียงสถาปนาฮ่องเต้พระองค์ใหม่ก็จะสามารถทำให้แผ่นดินกลับมาสุขสงบอีกครั้ง

ประเด็นก็คือ เวลานี้เหล่าขุนนางและเจ้าเมืองทั่วแผ่นดินต่างก็มีกองกำลังส่วนตัว ทั้งอำนาจของราชสำนักยังเสื่อมโทรมลงครั้งแล้วครั้งเล่า องค์ฮ่องเต้ก็ไม่มีผู้สืบทอด เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ยังจะมีสักกี่คนที่ยังคงเชื่อฟังคำสั่งจากราชสำนัก? ผู้คนล้วนมีความเห็นแก่ตัว โดยเฉพาะยามมีอำนาจ พวกเขาก็ยิ่งไม่เต็มใจที่จะปล่อยวางอำนาจในมือ

เวลานี้ กองทัพกิจิ๋วยังคงโหมบุกตีด่านหูกวนทั้งยามกลางวันและกลางคืน ลิโป้ต้องการจะกลับไปยังจิ้นหยางโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ปิ้งโจวได้มีเวลาหยุดพักหายใจก่อนจะเข้าสู่ช่วงกลียุค

สงครามนั้นต้องใช้เงิน ประโยคนี้เป็นสัจธรรมข้อหนึ่ง ถึงตอนนี้ เงินและเสบียงในคลังของจวนเจ้าเมืองก็เริ่มร่อยหรอ สงครามที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันครั้งนี้ทำให้แผนการพัฒนาปิ้งโจวของลิโป้ต้องหยุดชะงัก ทำให้ปิ้งโจวพัฒนาได้ช้าลง อย่างไรก็ดี สงครามครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ความสามารถในการรบของทหารปิ้งโจวได้ก้าวเข้าสู่ขีดขั้นใหม่ หลังสงครามครั้งนี้ ปิ้งโจวก็จะมีทหารชั้นยอดเพิ่มขึ้นมากมาย ซึ่งทหารเหล่านี้จะมีบทบาทต่อสงครามที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน

หลังจากลิโป้จากไป ซีเอ๋งและตันเตาก็เริ่มทำการซ่อมแซมเมืองหยุนจงและสร้างบ้านใหม่ให้กับชาวเมือง ชาวเมืองต่างก็กระตือรือร้นสนใจ ยังไม่กล่าวถึงว่าจวนเจ้าเมืองมีทั้งอาหารและเงินค่าจ้างให้ เพียงการดูแลเอาใจใส่ชาวเมืองเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่หาได้ยากแล้ว ได้ยินมาว่าชาวเมืองจิ้นหยางนั้นได้รับการดูแลอย่างดี แต่ไม่นึกเลยว่าอยู่ๆจะมีโชคหล่นใส่ศีรษะพวกเขาเช่นนี้

ตันเตารู้สึกมั่นใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การสนับสนุนจากชาวเมืองทำให้เกิดแรงบันดาลใจ เพราะการรุกรานของชาวเซียนเป่ย เขาจึงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างกองทัพอันไร้เทียมทานเพื่อช่วยลิโป้กวาดล้างชนเผ่าเซียนเป่ย หลังจากได้เห็นทหารหน่วยทะลวงค่าย ความรู้สึกนี้ยิ่งมาก็ยิ่งแรงกล้า การได้ศึกษาหน่วยทะลวงค่ายทำให้เขามองเห็นทิศทางที่จะพัฒนากองทัพ

เซียนเป่ยถอนทัพจากด่านเยี่ยนเหมิน ลิโป้นำทัพบุกโจมตีทัพเซียนเป่ยตกจนเสียหายอย่างหนัก สามารถจับเชลยศึกเซียนเป่ยกลับมาได้ห้าพันกว่าคน อีกทั้งข่าวเรื่องค่าชดเชยจากเซียนเป่ยตะวันตกยังแพร่สะพัดไปทั่วทั้งปิ้งโจวราวกับไฟลามทุ่ง นี่ยิ่งเท่ากับเป็นแรงกระตุ้นในช่วงที่สถานการณ์ของบ้านเมืองกำลังวุ่นวาย หลังการสวรรคตของพระเจ้าเหี้ยนเต้ เหล่าเจ้าเมืองหัวเมืองต่างๆก็มีใจจะตั้งตัวเป็นใหญ่ แม้เวลานี้จะยังไม่มีการเคลื่อนทัพทำสงคราม แต่ทั้งหมดต่างก็หวาดระแวงซึ่งกันและกัน หลังการก่อกบฏของตั๋งโต๊ะ การดำรงอยู่ของราชวงศ์ฮั่นก็นับวันยิ่งจะจืดจางลง การบุกเข้าโจมตีชนเผ่าเซียนเป่ยถึงในทุ่งหญ้าของปิ้งโจวได้สร้างความฮึกเหิมและความหวังให้กับเหล่าผู้ที่ยังคงจงรักภักดีต่อราชวงศ์ฮั่น

ผู้คนในแผ่นดินหันกลับมาให้ความสนใจต่อปิ้งโจวอีกครั้ง แม้ว่าปิ้งโจวจะแร้นแค้น แต่ก็มีชื่อเสียงที่ดีในหมู่ชาวบ้าน มีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการจะย้ายไปเข้าร่วมกับปิ้งโจว สำหรับเหล่าชาวบ้านที่ไม่เคยได้รับการดูดำดูดีแล้ว ปิ้งโจวนับเป็นดินแดนแห่งความหวังสำหรับพวกเขาเยก็ว่าได้ ในปิ้งโจวนั้น ขอเพียงเป็นคนขยันหมั่นเพียรก็จะไม่อดตายอย่างแน่นอน

เวลานี้บรรดาเจ้าเมืองทั้งหลายต่างก็บังเกิดความคิดฟุ้งซ่าน ไม่ว่าก่อนหน้านี้ฮ่องเต้จะทรงอ่อนแอเพียงใด จะทรงถูกตั๋งโต๊ะควบคุมเป็นฮ่องเต้หุ่นเชิดหรือไม่ กระนั้นพระองค์ก็ยังคงเป็นจักรพรรดิแห่งต้าฮั่น แต่มาบัดนี้ เมื่อจู่ๆพันธนาการที่เคยครอบอยู่บนศีรษะของพวกเขาก็พลันหายไป ทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกโล่งใจอย่างอธิบายไม่ถูก พวกเขามีกำลังทหาร มีหญ้าเสบียง มีดินแดนใต้ปกครอง ไม่มีผู้ใดคอยควบคุมพวกเขาอีกต่อไปแล้ว สำหรับการสถาปนาฮ่องเต้พระองค์ใหม่นั้น หากเป็นในยามที่บ้านเมืองสงบสุข นั่นก็คงจะไม่มีผู้ใดเห็นค้าน หากแต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่เต็มใจจะละทิ้งอำนาจที่อยู่ในมือไป ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ต้องการก้มหัวให้กับผู้อื่น

กระนั้นก็ยังมีคนมากมายที่ยังคงจงรักภักดีต่อราชวงศ์ฮั่น เพียงแต่พวกเขาอ่อนแอมากเมื่อเทียบกับกระแสของใต้หล้าในเวลานี้ ผู้มีปัญญาหลายคนได้คาดการณ์เอาไว้แล้วว่า แผ่นดินเวลานี้ไม่ได้ต้องการฮ่องเต้ที่ปราดเปรื่อง หากแต่ต้องการฮ่องเต้ที่แข็งแกร่ง มิเช่นนั้นแผ่นดินก็จะเข้าสู่กลียุคเหมือนกับยุคชุนชิว

ตัดสินจากการกระทำของลิโป้ก่อนหน้านี้แล้ว แสดงว่าเขามีใจจงรักต่อราชวงศ์ฮั่น แม้ว่าเขาจะชิงอำนาจการปกครองมาจากเตียนเอี๋ยงจนได้กลายเป็นเจ้าเมืองปิ้งโจวก็ตาม ขุนนางที่มีความภักดีเช่นนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างมากในช่วงเวลาเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความแข็งแกร่งทางด้านการทหารที่ปิ้งโจวแสดงออกมา กล้านำทัพบุกเข้าไปในถิ่นของชนเผ่าเซียนเป่ยและทำศึกบนหลังม้ากับชาวเซียนเป่ย ด้วยการแสดงออกเช่นนี้ พลังรบของกองทัพปิ้งโจวก็ไม่เป็นสองรองใครในบรรดาเจ้าเมืองทั่วแผ่นดินแล้ว ทหารม้าขาวของกองซุนจ้านนั้นมีชื่อเสียงไม่น้อย กระนั้นก็ไม่เคยได้ยินว่าเขาจะกล้านำกำลังบุกเข้าไปในถิ่นของชาวเซียนเป่ยแต่อย่างใด การนำกำลังเข้าต่อสู้กับชาวเซียนเป่ยนั้นต้องอาศัยทั้งความแข็งแกร่งและความกล้าหาญ

หลังจากได้ฟังรายงานของจูล่ง กองซุนจ้านก็ต้องตกตะลึง เขาคิดไม่ถึงเลยว่าลิโป้จะสามารถนำกำลังบุกโจมตีชนเผ่าเซียนเป่ยจนเสียหายยับเยินและกระทั่งสามารถทำลายราชสำนักที่ภูเขาต้านหานของชาวเซียนเป่ยได้ ความสำเร็จของลิโป้อยู่เหนือการคาดการณ์ของเขาไปไกล ทำลายเผ่าต่างๆของชาวเซียนเป่ยและยึดราชสำนักที่ภูเขาต้านหาน นี่นับเป็นความดีความชอบถึงเพียงไหน เรื่องนี้จะต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน เขารู้สึกเสียใจที่เขาปฏิเสธการมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้เพราะความเห็นแก่ตัวเพียงเล็กน้อยของเขา เขากระทั่งยังรู้สึกอิจฉาจูล่ง นี่นับเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมที่จะสร้างชื่อเสียงให้ลื่องลือไปทั่วทั้งแผ่นดิน

ลิโป้เอาชนะทัพเซียนเป่ยอีกครั้ง ทำให้ชาวเซียนเป่ยต้องยอมจำนน ต่อหน้าเกียรติประวัติเช่นนี้แล้ว กองกำลังม้าขาวของเขาก็กลายเป็นหม่นแสงไป และเขายังรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยความชื่นชมของจูล่งขณะที่เอ่ยถึงลิโป้อีกด้วย

แต่ก็เพราะเหตุนี้ กองซุนจ้านจึงให้ความสนใจกับจูล่งมากกว่าเดิม ขุนพลที่มีความสามารถเช่นนี้จะมีส่วนช่วยต่อกองทัพของเขาอย่างมาก

ที่กองซุนจ้านคาดคิดไม่ถึงก็คือ หลังจากศึกกับชนเผ่าเซียนเป่ยครั้งนี้แล้ว จูล่งที่เขาให้ความสำคัญจะยิ่งมีใจฝักใฝ่ต่อเจ้าเมืองปิ้งโจว แม้แต่เรื่องโกลนและเกือกม้าของทัพเฟยฉี เขาก็กำชับทหารม้าขาวอย่างเข้มงวดไม่ให้แพร่งพรายออกไป

หลังจากได้ติดตามจูล่งออกทำศึกครานี้ ทหารม้าขาวก็ยิ่งให้การนับถือต่อจูล่งจนถึงระดับที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ ดังนั้นพวกเขาย่อมเชื่อฟังคำสั่งของจูล่ง