"เจินเอ๋อร์ เห็นทีว่าข้าคงต้องไปยังสำนักงานเมืองเสียแล้ว" ลิโป้กล่าวเป็นเชิงขออภัย ตอนที่เอ่ยชวนบิเจินออกมา เขาก็ไม่คิดว่าจะพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้
บิเจินยิ้มพลางเอ่ยว่า "พี่ใหญ่ลิ ท่านต้องช่วยชายชราและหญิงสาวนางนั้นนะเจ้าคะ พวกเขาน่าสงสารมาก"
ลิโป้พยักหน้า ก่อนหน้านี้บิเจินสามารถสะกดข่มความกลัวแล้วก้าวออกมาโต้แย้งได้ เขาก็มองเ็นความตั้งใจนี้ของบิเจินแล้ว
ลิโป้น้อยครั้งจะปรากฏตัวขึ้นในที่สาธารณะ และขุนนางระดับสำนักงานเมืองนั้นยากจะได้เข้าพบลิโป้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่บางคนจะไม่รู้จัก นอกจากนี้ผู้ที่รับตำแหน่งนายอำเภอเมืองจิ้นหยางก็คือกุยแก กุยแกจัดการทุกอย่างให้อย่างเบ็ดเสร็จ ไม่ได้นำเรื่องราวเข้ามารบกวนลิโป้แต่ประการใด ดังนั้นเมื่อเกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้นภายในเมือง ลิโป้จึงรู้สึกขนลุก ปิ้งโจวที่เขาฟูมฟักมาเป็นอย่างดี คิดไม่ถึงว่าจะปรากฏผู้คนเช่นคุณชายเล่าขึ้นมา บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เขาจะกำจัดเหล่าแกะดำออกไปจากปิ้งโจว
แน่นอนว่าเล่าเต๋อย่อมไม่ทราบความคิดของลิโป้ มิเช่นนั้นคงไม่มีท่าทีผ่อนคลายได้เช่นนี้แน่ เว้นแต่ผู้คุ้มกันคนแรกที่ล้มลงไปแสร้งได้รับบาดเจ็บแล้ว ผู้คุ้มกันที่เหลือล้วนบาดเจ็บกันจริงๆ ดังนั้นเวลานี้จึงได้แต่พยุงกันเดินอย่างยากลำบาก แววตาที่ใช้มองดูลิโป้เต็มไปด้วยความเคียดแค้น
เมื่อทราบเรื่องว่ามีคนจากเมืองเขตเหนือกล้าก่อปัญหาและกระทั่งทำร้ายเหล่าผู้คุ้มกันของบุตรชาย เล่าเหรินก็เดือดดาลมาก เขาตัดสินใจแล้วว่าจะทำให้อีกฝ่ายต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างสาหัส เพื่อบอกให้ทราบว่าตระกูลเล่านั้นไม่ใช่ตระกูลที่สามารถตอแยด้วยได้
เดิมทีเล่าเหรินไม่ได้มีชื่อเสียงสูงส่งอะไร แต่เขาพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง หลังจากลิโป้เข้าปกครองปิ้งโจว เขาก็ทำตัวเรียบๆร้อยๆ เพียงทำหน้าที่เป็นหัวหน้าเสมียนไป หลังจากนั้นเขาจึงได้รับผิดชอบดูแลจัดการธุระประจำวันของเมืองจิ้นหยาง แม้ว่าภายในสำนักงานเมืองนี้จะมีทหารอยู่เพียงห้าสิบกว่าคน หากแต่เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานกับนับได้ว่าเป็นขุนนางของทางการ ทำให้เหล่าชาวบ้านต้องก้มศีรษะลงยามพบเจอ
เล่าเหรินสามารถจัดการเรื่องราวต่างๆได้เป็นอย่างดี ไม่เหลือร่องรอยให้สืบสาวเอาความ บางครั้งยังกระทำเรื่องราวที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับตระกูลใหญ่ นี่ก็คือธรรมชาติของมนุษย์
แม้จะเคยได้ยินวีรกรรมของลิโป้ กระนั้นเล่าเหรินกลับไม่เคยได้พบกับใต้เท้าเจ้าเมืองผู้นี้เลยสักครั้ง เพื่อที่จะออกหน้าให้บุตรชาย เมื่อขบวนของผู้คนมาถึง เล่าเหรินก็ตะโกนขึ้นว่า "ผู้มาเป็นใครกัน? ใยเห็นขุนนางผู้นี้แล้วยังไม่คำนับ?"
ชาวบ้านทั่วไปย่อมไม่สามารถเข้าไปในสำนักงานเมืองได้ ดังนั้นจึงได้แต่มุงดูอยู่ด้านนอก
เมื่อชายชราทีู่กเล่าเต๋อกดขี่เห็นฉากนี้ เขาก็รีบคุกเข่าลงโครมก่อนจะบอกเล่าพฤติกรรมที่ชั่วร้ายของเล่าเต๋อ
เล่าเหรินขมวดคิ้ว จากนั้นจึงแค่นเสียงเย็น "หากไม่มีเรื่องสำคัญก็อย่าได้กล่าววาจาเหลวไหล" เขาย่อมทราบนิสัยใจคอของบุตรชายตัวเองดี
"ข้าน้อยมาจากซือลี่พร้อมกับน้องสาว ระหว่างเดินอยู่ภายในเมืองกลับพบเจอพฤติกรรมที่ชั่วช้าของคุณชายเล่าแห่งเมืองเขตเหนือโดยบังเอิญ คุณชายผู้นี้พอพบเห็นว่าน้องสาวของข้าน้อยมีหน้าตางดงามก็บังเกิดความคิดชั่วร้าย ข้าน้อยถูกคนใส่ร้าย ขอใต้เท้าช่วยตัดสินถูกผิดด้วย" ลิโป้กล่าว
"เหลวไหล เป็นเจ้าที่ทำร้ายผู้คุ้มกันของคุณชายผู้นี้ก่อน คุณชายผู้นี้คิดแย่งชิงน้องสาวของเจ้าเมื่อใดกัน?" เล่าเต๋อชี้หน้าลิโป้
"ที่นี่ไม่อนุญาตให้ส่งเสียงดัง!" เล่าเหรินตวาด เมื่อเห็นว่าทุกคนพากันเงียบลง เขาก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า "เจ้าทำร้ายผู้คุ้มกันของเขา ดังนั้นย่อมต้องจ่ายค่าชดเชย ทั้งยังมีความผิดฐานสร้างความวุ่นวาย เด็กๆ นำตัวคนผู้นี้ไปฟาดโบยยี่สิบไม้!"
ในเวลานี้เล่าเหรินได้แสดงอำนาจบารมีของเจ้าหน้าที่ทางการผู้หนึ่งออกมาอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันเขาก็ตกตะลึงกับรูปโฉมของบิเจิน เด็กสาวที่หน้าตางดงามถึงเพียงนี้ แม้แต่เขาก็ยังหวั่นไหวใจขึ้นมา
เล่าเต๋อเดินเข้าไปหาลิโป้ก่อนจะลดเสียงลงกล่าวว่า "เป็นอย่างไร? ตอนนี้เข้าใจอำนาจของคุณชายผู้นี้แล้วหรือยัง? ขอเพียงเจ้าตอบตกลงเงื่อนไขก่อนหน้านี้ เจ้าไม่เพียงแต่จะไม่ต้องทรมาณ หากแต่นับบัดนี้พวกเราจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน ย่อมต้องช่วยเหลือกัน"
ลิโป้เหลือบมองเล่าเต๋ออย่างเหยียดหยามพลางกล่าวว่า "อะไรถูกอะไรผิด เจ้ารู้อยู่แก่ใจ เจ้าคิดหรือว่าสำนักงานเมืองนั้นเป็นของตระกูลเล่าเจ้า?"
"ข้าจะบอกอะไรให้ ซึ่งความจริงสำนักงานเมืองแห่งนี้จะถือว่าเป็นของคุณชายผู้นี้ก็ได้ เจ้าเห็นท่านที่นั่งอยู่นั่นหรือไม่? ขอเพียงเขากล่าวตัดสิน เกรงว่าเจ้าคงจะได้นอนติดเตียงไปชั่วชีวิต"
"ได้ยินจากชาวบ้านในเมืองบอกว่าใต้เท้าท่านก็คือบิดาของคุณชายเล่า ไม่ทราบว่านี่เป็นความจริงหรือไม่?" ลิโป้หันมาถามเล่าเหริน
"แล้วอย่างไร?" เล่าเหรินถามอย่างดูแคลน
"บุตรชายของท่านเกี่ยวข้องในคดีนี้ ทว่าท่านกลับเข้าร่วมการตัดสินด้วยตนเอง เกรงว่านี่จะไม่เหมาะสมกระมัง? นอกจากนั้นท่านยังไม่ทันสอบถามเรื่องราวทั้งหมด ก็ตัดสินตามอำเภอใจ เป็นไปได้หรือไม่ว่าสำนักงานเมืองแห่งนี้เป็นกิจการของตระกูลเล่า?"
เล่าเหรินบังเกิดโทสะขึ้นในใจ ไม่มีผู้ใดกล้าพูดจาด้วยน้ำเสียงเช่นนี้กับเขามานานแล้ว มิคาด วันนี้เขากลับถูกชาวบ้านธรรมดาจากซือลี่กล่าววาจาสั่งสอนซึ่งหน้า
ในสำนักงานเมืองนี้ย่อมมีผู้ที่เข้าใจเรื่องราวอยู่หลายคน ลิโป้กล่าวได้ถูกต้องแล้ว หลายคนลอบพยักหน้าเห็นด้วยอยู่ในใจ กระนั้นก็ยังไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงออกมาเพราะนั่นจะเป็นการตอแยเล่าเหรินเสียเปล่าๆ ในสำนักงานเมืองเวลานี้ เล่าเหรินนับว่าเป็นบุคคลที่ไม่อาจตอแย เล่าเหรินน่าแดงขึ้นเล็กน้อย เขาพลันตวาดว่า "ยังไม่มาเอาตัวมันไปโบยอีก!"
ได้ยินดัง ทหารสองนายก็ได้สติ พวกเขามองลิโป้ด้วยความตื่นตัว เพราะได้เห็นสภาพอเนจอนาถของเหล่าผู้คุ้มกันก่อนหน้านี้มาแล้ว ดังนั้นจึงกลัวว่าลิโป้จะลงมือต่อสู้อีก
"ใต้เท้าตัดสินคดีเช่นนี้ ขอบังอาจถามว่ากฏระเบียบของจิ้นหยางนั้นอยู่ที่ใด?" ลิโป้แค่นเสียงเย็น สาเหตุที่เขาไม่ได้จัดการอีกฝ่าย ณ จุดเกิดเหตุเลยนั้นก็เพราะว่าไม่ต้องการให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงรอให้ได้พบตัวพ่อลูกตระกูลเล่าที่โด่งดังเสียก่อน
น้ำเสียงของลิโป้ทำให้เล่าเหรินเกิดลางสังหรณ์อันอัปมงคลขึ้น เขารีบเอ่ยถามว่า "ไม่ทราบท่านคือ?"
"ฮึ่ม หรือว่าใต้เท้าเล่าใช้ตัวตนในการตัดสิน?" ลิโป้ถามด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นรอยยิ้มหยอกล้อของลิโป้ ในดวงตาของเล่าเต๋อก็ปรากฏแววเคร่งขรึม "กฏระเบียบของจิ้นหยาง ชาวบ้านสามัญอย่างเจ้าสามารถวิพากษ์วิจารณ์หรือ? ทหาร นำตัวคนผู้นี้ไปฟาดโบย!"
กุยแกที่ยืนชมอยู่ในฝูงชนมาสักพัก เมื่อเห็นสถานการณ์ เขาก็คาดเดาเจตนาของลิโป้ออก เขารู้สึกละอายใจยิ่ง ลิโป้มอบหมายให้เขาเป็นนายอำเภอจิ้นหยางคอยดูแลจัดการเมืองจิ้นหยาง มิคาดกลับเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ขณะที่เขากำลังตรวจทานงานอื่นอยู่ เตียนอุยก็ส่งคนมาแจ้งเขาได้ทันเวลา มิเช่นนั้นสถานการณ์คงยากเกินแก้ไข
"ใต้เท้าเล่าช่างทรงอำนาจนัก" กุยแกเดินออกมาจากฝูงชนพลางแค่นเสียงเย็น
ผู้คนโดยรอบอาจไม่รู้จักลิโป้ แต่ย่อมรู้จักกุยแก ถึงอย่างไรเขาก็เป็นนายอำเภอของเมืองจิ้นหยาง มีอำนาจในการจัดการดูแลเมืองจิ้นหยาง เหล่าเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงานรีบลุกเหยียดตัวตรงก่อนจะแสดงความเคารพทันที
เล่าเหรินชะงัก เขาคาดไม่ถึงว่าคำพูดของลิโป้จะดึงดูดให้ใต้เท้านายอำเภอจิ้นหยางปรากฏตัวออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือเพราะตัวตนของลิโป้ก็ล้วนแต่ไม่ใช่เรื่องดีทั้งนั้น
กุยแกเดินไปยังเก้าอี้ประจำตำแหน่งของนายอำเภอจิ้นหยาง เป็นการบอกว่านับจากนี้เขาจะเป็นผู้ตัดสินพิจารณาคดีเอง แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ได้เปิดเผยตัวตนของลิโป้
หลังจากได้ยินข้อกล่าวหาของชายชราและคำให้การของลิโป้แล้ว กุยแกก็ทราบเรื่องราวโดยกระจ่าง เห็นได้ชัดว่าเล่าเต๋อนั้นใช้ฐานะของบิดาในการทำเรื่องชั่วช้าภายในเมืองเขตเหนือ
"เล่าเหรินผู้เป็นบิดาและบุตรชาย ใช้อำนาจบาตรใหญ่เพื่อข่มเหงรังแกชาวบ้าน ให้ปลดเล่าเหรินออกจากตำแหน่งและนำตัวไปขังคุกไว้ รอรับการตัดสินจากจวนเจ้าเมือง" กุยแกกล่าว
"ใต้เท้า ข้าน้อยไม่ยินยอม เป็นคนผู้นี้ที่ทำร้ายผู้คุ้มกันของเล่าเต๋อก่อน ข้าน้อยตัดสินผิดหรือ?" เล่าเหรินประท้วงด้วยเหตุผล
"เอาไว้ข้าจะให้คำอธิบายต่อเจ้าด้วยตนเองในภายหลัง" กุยแกมองเล่าเหรินอย่างเย็นชา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved