คำพูดของลิโป้สร้างความฮือฮาให้แก่ผู้คนอย่างมาก ร้องเรียนเจ้าหน้าที่คุมงาน นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าคิดมาก่อน เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้า เจ้าหน้าที่จากทางการก็มักจะเอาแต่ปกป้องกันเอง ไม่มีผู้ใดคิดจะยืนหยัดอยู่ข้างชาวบ้านอย่างจริงจัง
ชาวเมืองลั่วหยางพลันบังเกิดความรู้สึกไว้วางใจลิโป้ขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว หลายคนพบว่าหลังจากได้ฟังคำพูดของลิโป้แล้ว คำพูดของเหลียงฮูก็ดูน่ากลัวน้อยลงมาก
ใบหน้าของเหลียงฮูกระตุกเบาๆ แม้ลิโป้จะไม่ได้ระบุชื่อของเขาออกมา แต่เขาย่อมฟังเข้าใจ ในใจจึงรู้สึกโกรธเคืองลิโป้ขึ้นมา
หลังจากกำชับเหล่าเจ้าหน้าที่แล้ว ลิโป้ก็พาผู้คนไปยังส่วนตะวันตกของเมือง
เขามีแผนการอยู่ในใจแล้ว พื้นที่ส่วนตะวันตกของเมืองจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน อาคารต่างๆถูกออกแบบตามมาตราฐานอย่างครบวงจร บ้านเรือนที่ทรุดโทรมและไม่อยู่ในแผนจะถูกรื้อถอน ถนนจะถูกขยายออกจนพอให้รถม้าสองคันวิ่งสวนกัน และสองฟากข้างจะจัดสร้างเป็นตลาดสำหรับจับจ่ายใช้สอย
ทางส่วนใต้ของเมืองจะเป็นตลาดสำหรับพ่อค้า เขาจะทำการขยายถนนให้มีขนาดเป็นมาตราฐานสมัยใหม่ ซึ่งนั่นจะกว้างพอให้รถม้าสามคันวิ่งผ่านพร้อมกัน
ค่ายทหารจะถูกตั้งขึ้นสองแห่ง คือทางส่วนเหนือและทางส่วนใต้ของเมือง หากมีอะไรเกิดขึ้น ทหารก็จะสามารถเคลื่อนกำลังทำการช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว เขายังจะจัดตั้งโรงงานฝีมือขึ้นในส่วนเหนือของเมือง อาวุธและชุดเกราะของทัพปิงโจวก็จะถูกจัดสร้างขึ้นที่นี่ พื้นที่รอบๆก็จะวางกำลังทหารบางส่วนไว้ เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น
พื้นที่ใจกลางเมืองและส่วนตะวันออกของเมืองจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของข้าราชการ มีถนนสองเส้นตัดผ่านตะวันออก ตะวันตก ทิศเหนือ และทิศใต้จากที่ว่าการเมืองและจวนเจ้าเมืองจนถึงประตูเมือง ซึ่งถนนนี้จะถูกขยายออกจนกว้างพอให้รถม้าหกคันวิ่งผ่านพร้อมกัน
กำแพงเมืองจะจัดสร้างขึ้นตามมาตราฐานที่ความสูงหกจั้งและความหนาห้าจั้ง บนกำแพงจะจัดสร้างหอธนู ส่วนโรงเรียนจะจัดสร้างขึ้นใกล้ๆกับจวนเจ้าเมือง
เมื่อได้ฟังแผนการอันยิ่งใหญ่ของลิโป้แล้ว ลิซกก็อ้าปากค้าง หากสามารถจัดสร้างเมืองขึ้นตามความคิดของลิโป้ได้จริง เมืองแห่งนี้จะถูกเปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างพลิกฟ้าคว่ำดิน แม้แต่หัวเมืองสำคัญในแผ่นดินภาคกลางก็ยังเทียบไม่ได้ แต่เหล่าตระกูลใหญ่ภายในเมืองจะยินยอมให้ลิโป้สมปรารถนาหรือ?
ตอนแรกเริ่ม ชาวบ้านยังไม่มีความเชื่อมั่นต่อสำนักงานเมืองและเจ้าเมือง แต่เมื่อพวกเขาได้กินอาหารร้อนๆและรับเงินค่าจ้างทุกวัน ผู้คนที่มาสมัครทำงานก็ยิ่งมายิ่งมาก และตำแหน่งของเจ้าเมืองในใจผู้คนก็ยิ่งมีสถานะสูงส่งขึ้น
เมื่อชายชราผู้หนึ่งเข้าไปแจ้งต่อทหารลาดตระเวน ว่าเขาไม่ได้รับเงินค่าแรง ในวันเดียวกันนั้น ก็มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่คุมงานนั้นถูกส่งตัวเข้าคุกทันที สิ่งนี้ได้พลิกเปลี่ยนโฉมความเข้าใจที่ประชาชนมีต่อที่ว่าการเมืองและเจ้าเมืองไปโดยสิ้นเชิง ชาวบ้านทั่วไปนั้นเรียบง่ายยิ่ง ขอเพียงท่านมีข้าวปลาอาหารให้กิน พวกเขาก็พร้อมจะสนับสนุนท่าน ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงการเอาใจใส่พวกเขาเช่นนี้ ชื่อเสียงบารมีของลิโป้ในหมู่ชาวบ้านก็เพิ่มพูนขึ้นอีกครั้ง
ลิโป้ได้รับฉายาว่า "บุรุษผู้จริงใจต่อปวงประชา" เมื่อได้ทราบเรื่องนี้ ลิโป้ก็ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
หากเอ่ยกับผู้ที่ได้รับทราบการกระทำของลิโป้อยู่แล้วก็คงไม่เป็นไร แต่หากเอ่ยฉายานี้ต่อหน้าผู้ที่ไม่รู้จักลิโป้ดีล่ะก็ เกรงว่าคงทำให้ผู้ฟังต้องเบะปากมองบนเป็นแน่
ไม่เพียงแต่ส่วนตะวันตกของเมืองเท่านั้น แต่ทางตะวันออกเองก็กำลังอยู่ในการปรับปรุงเช่นกัน บ้านเรือนค่อยๆก่อตัวขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง แม้ว่าอากาศจะหนาวเย็น กระนั้นก็ยังไม่อาจหยุดยั้งความกระตือรือร้นของผู้คนที่ทำงานอยู่ น้อยคนนักที่จะรู้สึกเกียจคร้าน โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นพวกชาวเมืองที่อพยพมาจากลั่วหยางได้เข้าไปอยู่ในบ้านอันมั่นคงแข็งแรง ชาวเมืองจิ้นหยางที่เคยต่อต้านก็ค่อยๆลดน้อยลง หลายคนเริ่มตกลงให้รื้อถอนบ้านเรือนของตน
ผู้ใดยังจะไม่อยากได้บ้านหลังใหม่ที่ดีกว่าเดิมกัน? เพียงแต่ว่าชาวเมืองในอดีตนั้นไม่มีความเชื่อมั่นต่อที่ว่าการเมือง ดังนั้นตอนแรกจึงต่อต้าน
เงินทองถูกใช้ออกประดุจสาดทิ้ง เพิ่งเริ่มโครงการไปได้ไม่ทันไรก็ต้องใช้สมบัติที่ชิงมาจากตั๋งโต๊ะไปถึงหนึ่งในสี่แล้ว หากเอาแต่พึ่งพาเงินภาษีจากเมืองในเขตปกครอง ต่อให้ผ่านไปอีกสิบปี เมืองจิ้นหยางก็ไม่พัฒนา
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องติดหนี้ลิโป้เอาไว้ก่อน ยกตัวอย่างเช่น ชาวเมืองลั่วหยางที่ไม่มีเงินจะซื้อบ้าน พวกเขาก็จำต้องลงชื่อในตั๋วสัญญาใช้เงินของทางการ โดยใช้การประทับลายนิ้วมือ จากนั้นก็สามารถย้ายเข้าไปอยู่อาศัยได้และต้องชำระเงินทุกปี ส่วนผู้ที่บ้านเรือนถูกรื้อถอนนั้นจะได้รับบ้านหลังใหม่โดยไม่ต้องชำระเงินใด ต้องบอกว่า ของฟรีนั้นไม่มีในโลก อย่างไรก็ดี ในความคิดของชาวบ้านนั้น นี่ดูเหมือนว่าทางการจะยอมเสียผลประโยชน์
สิ่งที่พวกเขาไม่ทราบก็คือ เหล่าร้านค้าที่อยู่ติดกับถนนล้วนแต่เปิดกิจการโดยสำนักงานเมือง เมื่อพื้นที่แถบนี้เจริญรุ่งเรือง สำนักงานเมืองก็จะเปิดให้เช่าบ้าน กลายเป็นแหล่งรายได้ของเมืองปิงโจว
ชาวเมืองพากันตื่นเต้นยินดี แต่เหล่าตระกูลใหญ่กลับรู้สึกต่อต้านอยู่บ้าง แม้ว่าที่ว่าการเมืองจะไม่ได้ยื่นมือมาถึงพวกเขา แต่กิจการที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมืองของพวกเขาย่อมต้องได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ชาวบ้านทั่วไปมักจะอาศัยอยู่ในสถานที่เดียว แต่ร้านค้าทางการนั้นกระจายอยู่ทั่วเมือง ทำให้ทางการสามารถควบคุมชาวบ้านไว้ ชาวบ้านก็ไม่ต้องไปซื้อสินค้าไกลบ้าน การเปลี่ยนแปลงนี้จะต้องกระทบกับกิจการของเหล่าตระกูลใหญ่อย่างแน่นอน
มีเจ้าหน้าที่ทางการไม่น้อยที่เป็นตัวแทนจากตระกูลใหญ่มาสอบถาม หลังจากสอบถามดูแล้วก็พบว่าเจ้าเมืองไม่คิดจะขายร้านค้าเหล่านั้น แต่จะใช้วิธีการใหม่โดยการเปิดให้ "เช่า" ซึ่งค่าเช่าก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับทำเล อีกทั้งที่ว่าการเมืองยังเตรียมจะเก็บภาษีจากพ่อค้าด้วย
ตระกูลต่างๆเริ่มบังเกิดความตื่นตระหนก เรื่องนี้เรียกความสนใจจากพวกเขาในทันที
ลิโป้ไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ เขาคิดเพียงแต่ต้องการหาเงินและนำมาพัฒนาเมือง ระยะแรกลิโป้อาจต้องยอมขาดทุนไปก่อน แต่รอให้เปิดร้านค้าทางการได้แล้ว เขาก็จะได้เงินชดเชยกลับมา จิ้นหยางเป็นเมืองเอกของปิงโจว อีกทั้งยังมีชาวเมืองจากลั่วหยางมาเพิ่ม ทำให้เมืองแห่งนี้มีประชากรมากกว่าสามแสนคน ยิ่งมีฐานประชากรมากเท่าไร ผลประโยชน์ที่ได้รับก็จะยิ่งมากขึ้น
หากเหล่าตระกูลใหญ่ยินยอมอยู่อย่างสงบ เช่นนั้นก็แล้วไป แต่หากว่าพวกเขากล้าก่อความวุ่นวาย ลิโป้ก็จะให้ตระกูลเหล่านั้นได้เห็นฝีมือของเขา
"องค์รักษ์จ้าว เวลานี้ที่ว่าการเมืองได้ประกาศออกมาแล้ว ทุกส่วนของเมืองจะต้องถูกปรับปรุงใหม่ทั้งหมด และบ้านเรือนที่พวกเขาเห็นว่าไม่ดีก็จะต้องย้ายไปที่อื่น เมื่อวานนี้ข้าน้อยได้รับแจ้งว่าบ้านของข้าน้อยจะถูกรื้อถอนในสามวัน และทางที่ว่าการเมืองจะจ่ายค่าชดเชยให้" เหลียงฮูกล่าวด้วยความกังวล
"เจ้าว่าลิโป้ต้องการจะทำอะไรกันแน่? ร้านค้าหลายแห่งของตระกูลหลี่ต้องถูกปิดตัวลง แต่ลิโป้กลับอาศัยโอกาสนี้สร้างความมั่งคั่ง ตอนที่เต๊งหงวนยังอยู่ แม้แต่เขาก็ต้องให้ความเคารพต่อตระกูลของพวกเรา ตอนที่เขาขยับขยายกองทัพ ก็เป็นตระกูลของพวกเราที่มอบเสบียงให้ไป"
"ตระกูลเหลียงของข้าเองก็มีความสัมพันธ์อันดีกับเจ้าเมืองเต๊ง แต่ข้านึกไม่ถึงจริงๆว่าบุตรบุญธรรมของเขาจะกล้าดูหมิ่นข้าต่อหน้าพวกชาวบ้าน" เหลียงฮูแค่นเสียง
"องค์รักษ์จ้าว ท่านลองคิดดู หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ตระกูลใหญ่อย่างพวกเราคงโชคร้ายมากกว่าโชคดี ท่านไม่เห็นรึว่าลิโป้ไม่แยแสพวกเราเลยนับตั้งแต่ที่เขาได้ปกครองเมือง" นายกองเฝ้าประตูเมือง หลี่เฉิง กล่าวขึ้น
จ้าวเหยียนลูบเคราพลางมองดูผู้คนที่อยู่ภายในห้อง เมื่อเห็นว่าคนทั้งหมดเงียบลงแล้ว เขาก็ค่อยๆกล่าวขึ้นว่า "ลิโป้เป็นแม่ทัพบู๊ ผู้ที่ออกความคิดจะต้องเป็นลิซกไม่ผิดแน่ นี่ต้องเป็นแผนการกีดกันอำนาจจากตระกูลใหญ่อย่างพวกเราออกไป เพื่อที่ลิโป้จะได้คุมอำนาจทั้งหมดเอาไว้"
"แต่ตราบที่ตระกูลของพวกเราเกาะกลุ่มกันไว้ ลิซกก็ไม่อาจทำอย่างไร นอกจากต้องก้มหัวให้พวกเรา" ในแววตาของจ้าวเหยียนปรากฏความเย็นชาขึ้น "เหิงเอ๋อร์ บอกข้าเกี่ยวกับลิโป้"
จ้าวเหิงพยักหน้าก่อนจะกล่าวว่า "ลิโป้ผู้นี้ยากจะคาดเดา นิสัยของเขาค่อนข้างแปลกประหลาดอยู่บ้าง ในคำพูดของเขาไม่ได้ใส่ใจพวกเราแต่อย่างใด แต่เขากลับกังวลใส่ใจชาวบ้านมาก"
"ก็แค่แม่ทัพที่มีความกล้าอยู่นิดหน่อย ไม่เห็นจะมีอะไร" นายกองหลี่เฉิงแค่นเสียงดูถูก ลิโป้กุมอำนาจทางกองทัพของปิงโจวไว้แนบแน่น ทำให้เวลานี้เขากลายเป็นนายกองที่ไม่มีทหารใต้บัญชา ไม่มีอำนาจแท้จริง มีเพียงตำแหน่งลอยๆ ดังนั้นเขาย่อมไม่พอใจลิโป้เป็นธรรมดา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved