ตอนที่ 318 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

เมื่อเห็นลิโป้ยังนิ่งไม่ขยับ เก๊งอวดก็ตะโกนอีกครั้ง "จิ้นโหวรับราชโองการ"

"ใต้เท้าเก๊ง ขอบอกกล่าวตามตรงก็แล้วกัน โหวผู้นี้สวมใส่เกราะอยู่ ดังนั้นจึงไม่สะดวกที่จะคุกเข่า" น้ำเสียงของลิโป้เพิ่มความเย็นชาขึ้นหลายส่วน

เหล่าผู้ติดตามของเก๊งอวดต่างพากันกระตุกแขนเสื้อของเก๊งอวดใบหน้าที่ดูแตกตื่น

"อ้วนสุดเป็นกบฏที่แอบอ้างโองการสวรรค์ เจ้าเมืองทุกคนควรจะเคลื่อนทัพเข้าโจมตี....." เก๊งอวดกล่าวด้วยใบหน้าที่ซีดขาว

"ข้าทราบเรื่องแล้ว และกำลังจัดเตรียมทัพอยู่" ลิโป้ตอบ

เมื่อเห็นเช่นนี้ กาเซี่ยงก็รีบก้าวออกมารับราชโองการไป

"ในเมื่อใต้เท้าเก๊งแจ้งจุดประสงค์การมาเสร็จแล้ว ไม่ทราบท่านช่วยมอบคำอธิบายต่อโหวผู้นี้ได้หรือไม่?" ลิโป้เอ่ยถามเสียงเย็น

เมื่อกาเซี่ยงได้ยิน เขาก็ยิ้มขมขื่น เหล่าแม่ทัพภายในห้องโถงต่างก็ถลึงตามองพวกเก๊งอวด ขณะที่เหล่าขุนนางบุ๋นเพียงส่ายหน้าและถอนหายใจเบาๆ พวกเขาติดตามลิโป้มานาน ดังนั้นย่อมเข้าใจลักษณะนิสัยของผู้เป็นนายดี

"จิ้นโหวต้องการให้ข้าอธิบายเรื่องอะไรหรือ? หลังจากข้าน้อยกลับไปแล้ว ข้าน้อยจะกราบทูลต่อฝ่าบาทให้แน่นอน" เก๊งอวดกุมมือกล่าวโดยไม่แสดงท่าทีเย่อหยิ่งหรือว่าถ่อมตนจนเกินไป

"ฮึ่ม ฝ่าบาท ทหารของเกงจิ๋ววางอำนาจบาตรใหญ่ภายในเมืองจิ้นหยาง และพวกเขาก็ได้รับคำสั่งมาจากใต้เท้าเก๊งอวด เป็นไปได้หรือไม่ว่าฝ่าบาทคิดว่ากองทัพของปิ้งโจวเป็นแค่ไม้ประดับ?" ลิโป้กล่าวอย่างเย็นชา

เก๊งอวดตกตะลึง เมื่อนึกถึงคำกำชับกำชาของเล่าเปียวก่อนที่เขาจะเดินทางมายังที่นี่ เขาก็รีบกุมมือกล่าวว่า "เรื่องนี้เป็นความผิดของข้าน้อยเอง"

เมื่อเห็นว่าเก๊งอวดเป็นฝ่ายยอมลงให้ กาเซี่ยงก็โล่งใจ เขาเข้าใจนิสัยของลิโป้ดี หากว่าเก๊งอวดยังทำตัวกำเริบเสิบสานต่อไป เขาจะต้องมีจุดจบอันน่าสังเวชไม่ผิดแน่

"ผู้บาดเจ็บทุกคนจะต้องได้รับค่าชดเชยคนละหนึ่งพันตำลึง ส่วนทหารที่ลงมือทำร้ายจะต้องถูกนำตัวออกไปที่ลานนอกเมือง และให้ลงโทษโดยการโบยคนละยี่สิบไม้" ลิโป้กล่าว

สถานการณ์ของเกงจิ๋วในยามนี้ต้องการความร่วมมือจากหลายฝ่าย ดังนั้นเก๊งอวดจึงได้แต่กัดฟันและรับปาก ส่วนในใจกำลังนึกหาวิธีว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดีหลังจากที่กลับไปยังเกงจิ๋ว ยามนี้เล่าเปียวสถาปนาตนเป็นฮ่องเต้ ส่วนเขาที่เป็นผู้แทนพระองค์กลับมากระทำการที่ทำให้เสื่อมเสียหน้าตาของราชวงศ์ หากว่าเล่าเปียวทราบเรื่อง เกรงว่าไม่ดีแน่

หลังจากจัดที่พักให้กับเก๊งอวดและคนอื่นๆเสร็จแล้ว กาเซี่ยงก็กลับมาถึงข้างกายของลิโป้ เขาลดเสียงลงกล่าวว่า "นายท่าน ไม่ว่าจะอย่างไร เก๊งอวดก็มาที่นี่ในฐานะผู้แทนพระองค์ของราชวงศ์ฮั่น"

ลิโป้แค่นเสียงเย็น "ตัวแทนราชวงศ์แล้วอย่างไร? เล่าเปียวคิดจริงหรือว่าเมื่อสถาปนาเป็นฮ่องเต้แล้วจะสามารถออกคำสั่งต่อเจ้าเมืองคนอื่นๆได้? เก๊งอวดผู้นี้กลับยึดถือตนเองเป็นผู้แทนพระองค์จริงๆ เขากระทั่งทำตัวกำเริบเสิบสานภายในเมืองของข้า"

"นายท่าน การสืบทอดราชบัลลังก์ของเล่าเปียวย่อมต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าเมืองส่วนใหญ่ก่อน หากแต่ครั้งนี้ ปิ้งโจวจำต้องส่งกองทัพไป" กาเซี่ยงกล่าว สถานการณ์ความเป็นไปภายในแผ่นดิน เขาย่อมทราบโดยละเอียดกว่าผู้ใด แม้ว่าบารมีของราชวงศ์ฮั่นแทบจะไม่หลงเหลืออยู่ในใจเหล่าเจ้าเมืองทั้งหลายแล้ว หากว่าต้องการให้เจ้าเมืองทั้งหลายส่งกองทัพมาช่วยโจมตีอ้วนสุด เล่าเปียวก็จำต้องมีสิ่งตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ

"เจ้าเมืองที่เหลือเองก็จะต้องส่งกองทัพมาโจมตีอ้วนสุดอย่างแน่นอน" กาเซี่ยงกล่าวเสริม

ลิโป้พยักหน้า เล่าเปียวต้องการให้ปิ้งโจวส่งกองทัพไป กระทั่งให้คนมาประกาศราชโองการเสียใหญ่โต เขาก็ไม่ต้องกริ่งเกรงว่าการเคลื่อนทัพขนานใหญ่จะทำให้เจ้าเมืองคนอื่นๆเกิดความตื่นตัว

"เรื่องส่งกองทัพย่อมต้องส่งไปแน่ เพียงแต่ดินแดนในซือลี่และอิวจิ๋ว ปิ้งโจวต้องได้มา" ลิโป้กล่าว

กุยแกที่ยืนฟังอยู่ด้านข้างพลันกุมมือกล่าวว่า "เรื่องนี้ง่ายดายยิ่งขอรับ ที่เกงจิ๋วต้องการย่อมไม่ใช่ของสิ่งอื่นนอกจากตราหยกแผ่นดินที่อ้วนสุดครอบครองอยู่ หากไม่อาจชิงตราหยกแผ่นดินมาได้ การสืบทอดราชบัลลังก์ของเล่าเปียวก็จะไม่ชอบธรรม เรื่องนี้ขอเพียงปิ้งโจวรับปากว่าจะส่งกองทัพ เล่าเปียวจะต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน"

กาเซี่ยงถอนหายใจกล่าวว่า "ใต้เท้ากุย เกงจิ๋วอยู่ติดกับซือลี่ แล้วมีหรือที่พวกเขาจะนั่งอยู่เฉย ปล่อยให้ซือลี่ตกอยู่ในมือของปิ้งโจว"

"เหวินเหอกล่าวถูกต้องแล้ว แต่ต่อให้เราไม่ได้ทั้งซือลี่ แต่เมืองโห้ลายและเมืองเหอตงต้องเป็นของปิ้งโจวเรา" จากนั้นลิโป้จึงหันไปกล่าวกับกุยแกว่า "ให้เฟิ่งเซี่ยวรับผิดชอบดูแลเรื่องนี้" เขาย่อมไม่ต้องการเห็นท่าทางอันเย่อหยิ่งจองหองของเก๊งอวดอีก บุคคลประเภทนี้ไม่ว่าเดินทางไปที่ใดก็จะมักไม่เป็นที่ต้อนรับของผู้คน

"ขอรับ!" กุยแกกุมมือรับคำ

ยามนี้ปิ้งโจวมีไพร่พลอยู่ห้าหมื่นคน มีกำลังพลสำรองจำนวนสามหมื่น หน้าที่ของกำลังพลสำรองก็คือฝึกฝน ทั้งหมดนี้เป็นจำนวนที่ไม่ได้นับรวมทหารที่ประจำการอยู่ในที่ต่างๆ หากว่านับรวมทั้งหมด ปิ้งโจวก็จะมีไพร่พลเกินหนึ่งแสนนาย แน่นอนว่าปิ้งโจวย่อมไม่อาจเคลื่อนย้ายพวกเขามาใช้งานได้ทั้งหมด

"ส่งคนไปตามตัวจูล่งกลับมาที่ปิ้งโจวเพื่อเตรียมตัว" ลิโป้กล่าว

เวลานี้จูล่งและส่านจิงสามารถทำให้เมืองยีหยงสงบลงได้แล้ว โดยมีเถียนยู่คอยเฝ้ารักษาเมืองปักเป๋งและยีหยงอยู่ ดังนั้นลิโป้จึงค่อนข้างโล่งใจ

"ให้โจเส็งไปยังจิ่วหยวน แล้วให้เตียวเลี้ยวกลับมายังจิ้นหยางเพื่อเตรียมตัว"

จูล่งและเตียวเลี้ยวคือสองขุนพลที่ลิโป้ไว้วางใจมากที่สุด เตียวเลี้ยวเป็นขุนพลที่สามารถมอบหมายให้บัญชาการทัพได้โดยลำพัง ก่อนหน้านี้ได้รับคำสั่งจากลิโป้ให้ไปเฝ้ารักษาเขตจิ่วหยวน อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ที่ลิโป้นำทัพไปโจมตีชาวเซียนเป่ยในทุ่งหญ้าจนแตกพ่าย พวกเขาก็ไม่กล้านำกำลังมารุกรานชายแดนอีก ต่อให้เรียกตัวเตียวเลี้ยวกลับมา มีโจเส็งเฝ้ารักษาจิ่วหยวนเพียงคนเดียว ชาวเซียนเป่ยก็จะไม่อาจมีเปรียบได้แน่

หลังจากลิโป้หารือกับที่ปรึกษาทั้งสองอยู่พักใหญ่ พวกเขาก็แยกย้ายกันไป

หลังจากมีการถ่ายทอดคำสั่งออกไปมากมาย ทั่วทั้งปิ้งโจวก็มีความเคลื่อนไหวใหญ่โต

หนังสือพิมพ์ต้าฮั่นได้กล่าวประณามอ้วนสุด โดยผู้ที่เขียนก็คือซัวหยงที่โกรธแค้น หลังจากบอกเล่าถึงวีรกรรมชั่วร้ายที่อ้วนสุดเคยก่อเอาไว้แล้ว ในบทความก็ยังเขียนถึงลักษณะนิสัยที่ชั่วร้ายต่างๆของอ้วนสุด

หลังจากปล่อยให้เก๊งอวดเดินท่องชมเมืองได้สองวัน กุยแกก็เข้าพบเก๊งอวด เวลานี้ เก๊งอวดไม่ได้มีท่าทีหยิ่งยโสดังเช่นตอนมาอีกแล้ว ก่อนที่เขาจะมา เล่าเปียวได้กำชับเอาไว้ว่าภารกิจนี้จะต้องสำเร็จลุล่วง กองทัพของปิ้งโจวยิ่งใหญ่เกรียงไกรในบรรดาหัวเมืองทั้งหมด หากสามารถได้รับการสนับสนุนจากปิ้งโจว ตำแหน่งของเล่าเปียวก็จะมั่นคงยิ่งขึ้น

หลังจากทักทายตามธรรมเนียมแล้ว กุยแกก็เอ่ยเข้าประเด็นทันที "เรื่องส่งกองทัพไปนั้น ปิ้งโจวสามารถกระทำ เพียงแต่เรื่องของอิวจิ๋วนั้น ท่านคิดเห็นอย่างไร?"

เก๊งอวดยิ้มอย่างเข้าใจ "ขอเพียงปิ้งโจวยินดีจะส่งกองทัพไปปราบโจรกบโอ้วนสุด ทั้งสี่เมืองของอิวจิ๋วจะถือเป็นเมืองของปิ้งโจวโดยชอบธรรม"

"ไม่ใช่เพียงสี่เมือง แต่เป็นทั้งอิวจิ๋ว" กุยแกเอ่ยเตือน

เก๊งอวดขมวดคิ้วเบาๆ บัดนี้กิจิ๋วยึดครองเมืองของอิวจิ๋วเอาไว้สองเมือง ในบรรดานี้ เมืองจี้ตกอยุ่ในมือกองทัพกิจิ๋ว หากว่ารับปากเรื่องนี้ต่อปิ้งโจว อ้วนเสี้ยวจะต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน เทียบกับปิ้งโจวแล้ว เล่าเปียวให้ความสำคัญกับท่าทีของอ้วนเสี้ยวมากกว่า อย่างไรเสียอ้วนเสี้ยวก็มาจากตระกูลขุนนางใหญ่ ทั้งยังเคยเป็นผู้นำกองทัพพันธมิตร แม้ว่าลิโป้จะมีชื่อเสียงไม่น้อย แต่ในแง่ของฐานะแล้ว ลิโป้ก็ยังต่ำกว่าอ้วนเสี้ยวอยู่

"ทั้งสองเมืองที่อยู่ในมือของอ้วนเสี้ยวก็สามารถอยู่ต่อไป แต่เจ้าเมืองแห่งอิวจิ๋วจะต้องมาจากปิ้งโจว" กุยแกต่อรอง นี่ก็คือผลลลัพธืหลังจากที่ได้หารือกับลิโป้แล้ว

เก๊งอวดกัดฟันก่อนจะตอบตกลง "เรื่องนี้ข้าจะต้องกราบทูลต่อฝ่าบาทหลังจากที่กลับไป"

"ปิ้งโจวอยู่ติดกับซือลี่" กุยแกเกริ่นขึ้น

คิ้วของเก๊งอวดขมวดเข้าหากันอีกครั้ง แม้ว่าในซือลี่ยามนี้จะค่อนข้างวุ่นวาย แต่ก็เป็นดินแดนที่มีความดึงดูดใจต่อบรรดาเจ้าเมืองทั้งหลาย ฉางอันเคยเป็นราชธานีเก่าของราชวงศ์ฮั่นมาช้านาน แม้ว่าตอนนี้จะทรุดโทรมลงมากก็ตาม ทว่าก็มีความสำคัญต่อราชวงศ์ฮั่นไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ซือลี่ยังอยู่ติดกับเกงจิ๋ว หากว่าเกงจิ๋วสามารถครอบครองดินแดนแถบนี้ได้ เล่าเปียวก็จะมีอำนาจสั่งการต่อเหล่าเจ้าเมืองมากขึ้น

"เรื่องนี้ข้าไม่อาจรับปากได้ ใต้เท้ากุยคงจะทราบดีว่าซือลี่มีความสำคัญต่อราชวงศ์ฮั่นอย่างมาก" เก๊งอวดกล่าวเสียงหนัก

"ทหารปิ้งโจวเชี่ยวชาญชำนาญการศึก หากว่าเกิดความคิดขึ้นมา ใต้เท้าคิดเก๊งคิดว่าซือลี่จะต้านทานได้หรือ?" กุยแกจ้องตาเก๊งอวด

เก๊งอวดนิ่งตะลึง แน่นอน ต่อให้ลิโป้เพียงกล่าวประณามอ้วนสุดแต่ไม่ส่งกำลังไป เล่าเปียวก็ไม่อาจโทษว่าอะไรได้ เพราะถึงอย่างไร ปิ้งโจวและเองจิ๋วก็อยู่ห่างกันมาก หลังจากที่ปิ้งโจวพักฟื้นกองทัพมาได้พักใหญ่ การจะบุกโจมตีซือลี่ก็ง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ ในสงครามที่อิวจิ๋วนั้น กระทั่งทัพกิจิ๋วก็ยังพ่ายแพ้ต่อทัพปิ้งโจว