ตอนที่ 310 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

แม้ว่าจะมีทหารม้าเฟยฉีเพียงห้าร้อยนายเท่านั้น แต่นั่นก็เทียบได้กับมีกองหนุนมาเพิ่มอีกห้าพันคน แม้ว่าเมืองโห้ลายจะอยู่ติดกับปิ้งโจว แต่ในด้านการทหารนั้น พวกเขาขาดแคลนม้าศึกอย่างหนัก กองทัพจำนวนหนึ่งหมื่นคนมีทหารม้าสักห้าร้อยคนได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว ดังนั้นโอกาสที่ทัพของหองหยกจะพ่ายแพ้เมื่อเผชิญหน้ากับซิหลงจึงสูงยิ่ง

หองหยกนำไพร่พลมาท้าสู้อยู่ที่นอกเมือง เอียวฮองเชื่อคำแนะนำของซิหลง ดังนั้นจึงสั่งห้ามไม่ให้ไพร่พลออกไปต่อสู้ที่นอกเมือง

เมื่อผ่านไปสามวัน ความกริ่งเกรงต่อกองทัพของเอียวฮองของทัพเมืองโห้ลายก็ค่อยๆจางหายไป พวกเขาผ่อนคลายมากขึ้น วินัยเองก็ย่อนหยานลงจนกระบวนทัพเริ่มหลวมคลาย เมื่อเห็นว่าเอียวฮองไม่กล้าออกมาสู้ หองหยกก็พึงพอใจมาก เขาไม่ได้ให้ความสำคัญต่อเอียวฮองเหมือนกับก่อนหน้านี้อีก ตอนนี้หองหยกรู้สึกว่าที่เขากำลังทำอยู่ไม่ต่างจากการเอาผู้ใหญ่มารังแกเด็ก

ในวันที่สี่ ทัพโห้ลายยังคงมาตะโกนท้าสู้อยู่ที่หน้าเมือง ที่สร้างความประหลาดใจแก่ทัพโห้ลายคือ ประตูที่เคยปิดสนิทมาหลายวนัค่อยเปิดอ้าออกช้าๆ จากนั้นแม่ทัพที่ใช้ขวานยาวเป็นอาวุธก็ขี่ม้า นำกองทหารม้าที่ด้านหลังเปิดฉากเข่นฆ่าเข้าใส่ทัพโห้ลาย

เผชิญหน้ากับกองทหารม้า ทหารราบก็อกสั่นขวัญแขวน ขณะที่ทัพโห้ลายยังไม่ทันก่อตั้งรูปขบวน ฝนธนูระลอกแรกจากทหารม้าเฟยฉีก็โปรยปรายลงมา เผชิญหน้ากับทัพโห้ลายที่กระบวนทัพหย่อนหยานไร้ระเบียบ ฝนธนูระลอกแรกก็คร่าชีวิตทหารทัพโห้ลายไปสองร้อยกว่าชีวิต

ซิหลงชูขวานยาวนำทัพเข่นฆ่าเข้าหาทหารทัพโห้ลาย ขวานยาวในมือกวาดควงออกอย่างดุร้าย ซิหลงทราบว่า หากเขาต้องการจะได้รับการยอมรับจากทหารม้าเฟยฉี เขาก็จำเป็นจะต้องแสดงฝีมือที่คู่ควรออกมา และจากการสอบถามทหารม้าเฟยฉี ซิหลงก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกองทัพปิ้งโจวเพิ่มเติม จากระบบในกองทัพปิ้งโจวแล้ว ซิหลงก็พอจะคาดเดาได้แล้วว่าเหตุใดกองทัพปิ้งโจวถึงสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้

เมื่อเผชิญหน้ากับสภาวะบุกจู่โจมของทหารม้าเฟยฉี กระบวนทัพที่ยังไม่ทันก่อตั้งขึ้นของทัพโห้ลายก็พังทลายลงทันที เวลานี้ ไม่ว่าทั้งพลทหารหรือแม้แต่แม่ทัพ พวกเขาต่างพากันวิ่งหลบจนคล้ายกับแมลงวันไร้หัว ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นเพียงกองทัพที่เกิดจากการรวมตัวกันของหลากหลายอำเภอในเมืองโห้ลาย ส่วนใหญ่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการรบเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าหองหยกจะหยุดทัพฝึกฝนที่อำเภอเหย่หวังราวครึ่งเดือน แต่เมื่อเผชิญกับการนองเลือดที่แท้จริง ทหารของทัพโห้ลายก็ลืมเลือนสิ่งที่เคยเรียนรู้มา หลายคนนั้น ปฏิกิริยาแรกเมื่อเห็นทหารม้าพุ่งเข้ามาคือหันหลังวิ่งหนี

เมื่อเห็นฉากนี้ หองหยกก็ตกตะลึง เขารีบสั่งการให้กองทหารม้าจำนวนสามร้อยคนของทัพโห้ลายไปต้านทานทหารม้าอีกฝ่ายไว้

ทหารม้าสามร้อยปะทะกับทหารม้าเฟยฉีจำนวนห้าร้อย ผลลัพธ์ย่อมเป็นที่คาดคำนวณได้ เมื่อเผชิญกับทักษะที่เหนือกว่าโดยสิ้นเชิงของทหารม้าเฟยฉี เพียงปะทะกันได้ชั่วครู่ ทหารม้าโห้ลายก็ขวัญหนีดีฝ่อ หลังจากแม่ทัพของทหารม้ากองนี้ถูกซิหลงใช้ขวานฟันสังหาร ทหารม้าโห้ลายก็หนีกระเจิงทันที

เป้าหมายของซิหลงก็คือทัพกลางที่หองหยกอยู่ ขอเพียงเขาสามารถทำลายธงของทัพกลางลงได้ ศึกนี้พวกเขาก็จะชนะแล้ว แม้จะเคยได้ยินเรื่องราวของทหารม้าเฟยฉีมาก่อน แต่ซิหลงก็ยังต้องตกตะลึงกับขีดความสามารถในการรบของทหารม้าเฟยฉี ทหารม้าเหล่านี้มีทักษะยอดเยี่ยมในทุกด้าน ทั้งยังมีประสบการณ์ในการรบอย่างสูง พวกเขาทราบว่าจะโจมตีอย่างไรจึงจะทำลายทัพศัตรูที่กำลังวุ่นวายได้ดีที่สุด และการประสานงานกันของพวกเขาก็ทำให้ซิหลงรู้สึกทึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องทราบว่าทหารม้านั้นแตกต่างจากทหารราบ เมื่อพุ่งโถมออกไปแล้วก็ยากที่จะรักษารูปขบวนเอาไว้ได้ ทว่าทหารม้าเฟยฉีได้ทำลายความรู้ความเข้าใจเดิมของเขาทิ้งไป

เอียวฮองที่สังเกตการณ์อยู่ที่ทัพกลาง เมื่อเห็นว่ากระบวนทัพของทัพโห้ลายพังทลายลงอย่างรวดเร็วก็ตื่นเต้นยินดี เขารีบสั่งให้ทหารออกจากเมืองไปโจมตี

หลังจากซิหลงเหวี่ยงขวานยาวฟันธงทัพกลางของทัพโห้ลายจนหักโค่นไป สถานการณ์ในสนามรบก็เปลี่ยนเป็นการเข่นฆ่าอยู่เพียงฝ่ายเดียว เผชิญกับทหารม้าเฟยฉีที่ไร้เทียมทานและทหารกล้าของเอียวฮอง ทัพกลางของทัพโห้ลายก็ถูกซิหลงโจมตีแตกพ่าย ภายใต้แรงผลักดันที่ต้องการจะมีชีวิตรอด พวกทหารจึงหันหลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต

หองหยกกระโดดขึ้นหลังม้าและยกชูหอก เข่นฆ่าเข้าหาซิหลงที่กำลังสังหารไพร่พลทัพโห้ลายอยู่

ซิหลงไม่หวั่นเกรง เขากระตุ้นม้าเข้าต่อสู้กับหองหยก เพลงหอกของหองหยกมีความคล่องแคล่วว่องไว ขณะที่ขวานของซิหลงสามารถโจมตีเป็นวงกว้างและมีพลังโจมตีที่รุนแรง

ม้าศึกทั้งสองวิ่งเฉียดผ่านกัน อย่างไรก็ตาม ซิหลงต้องการจะจับเป็นหองหยก ดังนั้นจึงใช้เพียงสันขวานฟาดหองหยกร่วงม้าไป

ทัพโห้ลายซึ่งขาดแม่ทัพคอยบัญชาการก็เริ่มหลบหนี

ทัพโห้ลายต้องการหลบหนี ซิหลงนำทหารม้าเฟยฉีไล่ติดตามไปโจมตีเป็นระยะทางกว่าสามสิบลี้จึงค่อยถอนกำลังกลับมา

แม่ทัพที่นำทหารม้าเฟยฉีมาในครั้งนี้คือ หลี่เยี่ยน ซึ่งได้รับการไหว้วานจากกาเซี่ยงมา หลี่เยี่ยนเป็นคนสุขุม เขาติดตามลิโป้ออกศึกมาหลายสนาม ต่อให้เอียวฮองและซิหลงเกิดกลับคำ ไม่เข้าร่วมกับปิ้งโจว เมื่อมีหลี่เยี่ยนอยู่ ทหารม้าเฟยฉีก็จะสามารถล่าถอยกลับไปยังปิ้งโจวได้อย่างแน่นอน

"แม่ทัพหลี่ ข้าเบิกบานใจยิ่งนัก!" ซิหลงหัวเราะ

สามารถเอาชนะศึกนี้ได้อย่างรวดเร็ว ซิหลงเข้าใจว่านี่ต้องยกผลงานให้ทหารม้าเฟยฉี มิเช่นนั้น อาศัยเพียงทัพของเอียวฮองแล้ว ต่อให้ทุ่มกำลังออกมาทั้งเมือง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะทัพโห้ลายได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

มองดูหองหยกที่ถูกจับมัดไว้แล้ว เอียวฮองก็แค่นเสียงกล่าวว่า "ว่ากันว่าแม่ทัพหองเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงของเมืองโห้ลาย ในอดีตเคยติดตาม อองของ เจ้าเมืองโห้ลายไปต่อสู้กับกองทัพของตั๋งโต๊ะ ครั้งนี้ยกทัพมาด้วยมุ่งมั่นจะบุกโจมตีทัพข้าให้แตกพ่าย ทหาร เข้ามาลากตัวไปตัดหัว"

ได้ยินดังนั้น ทหารที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็เดินเข้ามาจับตัวหองหยก เตรียมจะพาออก ไป

ซิหลงรีบกุมหมัดกล่าวว่า "ท่านแม่ทัพ แม่ทัพหองเป็นแม่ทัพมีชื่อของโห้ลาย การสังหารเขาทิ้งน่าเสียดายเกินไปขอรับ"

เมื่อได้ยินซิหลงช่วยพูด หองหยกก็รู้สึกสำนึกขอบคุณต่อซิหลงยิ่ง

"ฮึ่ม แม่ทัพมีชื่ออะไรกัน จับพลัดจับผลูเกิดมีชื่อเสียงขึ้นมามากกว่า คนผู้นี้ไม่คู่ควรกับชื่อเสียงแม้แต่น้อย แม่ทัพซิเสียดายไปใย" เอียวฮองแค่นเสียงเย็น

"แม่ทัพหองหยกอยู่ในโห้ลายมาหลายปี ย่อมมีความคุ้นเคยกับโห้ลายอย่างมาก หากว่าได้แม่ทัพหองหยกมาร่วมกับทัพเรา การยึดครองโห้ลายก็จะง่ายดายขึ้นมาก" ซิหลงกล่าว

ได้ยินคำพูดของซิหลง เอียวฮองก็แค่นเสียงคำหนึ่ง หากแต่ไม่ได้กล่าวอะไรอีก เพียงแต่สายตายังคงมองหองหยกด้วยความดูแคลน

หองหยกเองก็เป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงในโห้ลายอย่างมาก มีหรือที่เขาจะทานทนสายตาที่เหยียดหยามเช่นนี้ได้?

ซิหลงค่อนข้างชื่นชมฝีมือของหองหยก หากนับดูแล้ว ในทัพของเขายังไม่มีแม่ทัพคนใดที่สามารถต่อกรกับหองหยกได้เกินสิบกระบวน หากต้องการจะยึดครองโห้ลาย เขาก็ต้องได้รับความช่วยเหลือจากแม่ทัพที่รู้เส้นสนกลในของเมืองโห้ลายเป็นอย่างดีเช่นนี้ ถึงอย่างไรเสีย ในสายตาของชาวโห้ลายแล้ว ทัพของเขาก็เป็นเพียงคนนอก

"ท่านแม่ทัพ ใยจึงไม่ขังหองหยกเอาไว้ก่อนเล่าขอรับ?" ซิหลงเอ่ยแนะนำ

เพราะอารมณ์ดีจากชัยชนะที่ได้รับ เอียวฮองจึงไม่ได้สนใจหองหยกมากนัก เขาพยักหน้ากล่าวว่า "นำตัวหองหยกไปขังเอาไว้ก่อน"

หลี่เยี่ยนที่ยืนอยู่ด้านข้างมองดูฉากนี้เงียบๆโดยไม่กล่าวอะไร เขาเพียงได้รับคำสั่งให้มาติดตามซิหลง แต่หากได้รับคำสั่งที่จะทำให้กองทหารม้าเฟยฉีเสียหายอย่างหนัก เขาย่อมปฏิเสธไม่ทำตาม โห้ลายอยู่ติดกับปิ้งโจว เอียวฮองย่อมเข้าใจว่าอีกไม่นาน ทัพปิ้งโจวก็จะยกมา

"แม่ทัพหลี่ ลำบากท่านแล้ว คืนนี้ แม่ทัพผู้นี้จะจัดงานเลี้ยงขึ้นในจวน หวังว่าท่านแม่ทัพจะมาเข้าร่วม" เมื่อหันมาหาหลี่เยี่ยน ท่าทางของเอียวฮองก็เปลี่ยนเป็นเคารพ

"ขอบคุณแม่ทัพเอียว" หลี่เยี่ยนกุมหมัดตอบ

ข่าวความปราชัยของทัพโห้ลายภายใต้การนำของหองหยกแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว เตียวเอี๋ยนและเหล่าตระกูลใหญ่ต่างพากันตื่นตระหนก ทัพแกร่งจำนวนหนึ่งหมื่นนี้เป็นไพ่ตายใบสุดท้ายของพวกเขาแล้ว หากว่าเอียวฮองยกทัพมาโจมตี เหล่าขุนนางท้องถิ่นตามอำเภอต่างๆยังจะต่อต้านหรือ? ชัดเจนว่าขุนนางเหล่านั้นคงเลือกเปิดประตูยอมอ่อนน้อมเสียมากกว่า นั่นก็เพราะว่าจวนเจ้าเมืองโห้ลายไม่อาจเป็นที่พึ่งพาได้อีกแล้ว

หลังจากทัพโห้ลายพ่ายแพ้ได้สามวัน จดหมายจากอำเภอฉินสุ่ยก็ถูกส่งมาถึงเบื้องหน้าของเอียวฮอง ในจดหมายเชียนคำยกย่องชื่นชมเอาไว้มากมาย เจตนาที่จะขออ่อนน้อมก็ถูกเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน