ตอนที่ 206 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

"จูล่ง เจ้าคิดเห็นอย่างไร?" ลิโป้เอ่ยถามจูล่ง

"สถานการณ์ของปิ้งโจวตอนนี้ ข้าน้อยพอจะทราบอยู่บ้าง คงจะดีหากว่าอิวจิ๋วนั้นเหมือนกับปิ้งโจว" จูล่งถอนหายใจ อันที่จริง จูล่งหวังเป็นอย่างมากว่าลิโป้จะมีกำลังทหารอยู่พอจะเคลื่อนทัพเข้าสู่อิวจิ๋ว บุกตีรวดเดียวจบ ให้ชาวอิวจิ๋วได้สัมผัสกับความสงบสุข หลังการศึกกับชนเผ่าเซียนเป่ย ชื่อเสียงบารมีของกองทัพปิ้งโจวก็ขจรขจายไปทั่วทั้งทุ่งหญ้า หากว่าอิวจิ๋วสามารถถูกรวมเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของลิโป้ได้ ต่อให้ชาวเซียนเป่ยคิดปล้นชิงตามชายแดน พวกเขาก็ต้องชั่งน้ำหนักให้ดี

กองซุนจ้านสัญญาว่าจะยกเมืองไต้จิ๋วและเมืองซ่างกู่ให้ลิโป้ เจตนาที่แฝงอยู่ก็คือให้ลิโป้ช่วยต้านทานแรงกดดันจากชนเผ่าเซียนเป่ยที่นอกด่าน เมืองไต้จิ๋วและซ่างกู่นั้นมักจะถูกพวกเซียนเป่ยรุกรานอยู่ตลอดทั้งปี ชาวบ้านต้องทุกข์ทรมาณอย่างแสนสาหัส ตอนที่เล่าหงียังอยู่ เขาก็ทำได้เพียงป้องกันตัวเองหรือไม่ก็พยายามเจรจาสงบศึกกับชาวเซียนเป่ย

"หากมอบเวลาให้ปิ้งโจวสักหนึ่งปี ต่อให้มีอ้วนเสี้ยว กองซุนจ้าน และเหยียนโร่วอยู่ ปิ้งโจวก้ไม่จำเป็นต้องกังวลสิ่งใด" ลิโป้กล่าว

"ไต้จิ๋วและซ่างกู่ต่างก็หวังว่าพี่ใหญ่จะสามารถส่งกำลังทหารไปได้ ผู้คนในเขตเมืองทั้งสองต่างก็หวังจะเข้าร่วมกับกองทัพปิ้งโจวมานานแล้ว" จูล่งกล่าว

ลิโป้รู้สึกยินดียิ่งที่จูล่งเลือกที่จะยืนหยัดฝ่ายปิ้งโจวเต็มตัว เขาทราบถึงสถานการณ์ในเมืองทั้งสองนี้ดี นั่นเป็นพื้นที่ที่พวกเซียนเป่ยภาคกลางรุกรานบ่อยที่สุด แต่สำหรับชาวเวียนเป่ยนั้น กองทัพปิ้งโจวหาเกรงกลัวไม่

"นายท่าน การส่งกองทัพไปยังอิวจิ๋วถือเป็นเรื่องสำคัญ การศึกครั้งก่อนเพิ่งผ่านไปไม่นาน จิตใจของผู้คนยังคงโหยหาความสงบ" ลิซกกุมมือกล่าว

กาเซี่ยงและกุยแกต่างก็นิ่งเงียบ แม้ว่าคำพูดของลิซกจะสมเหตุสมผล อย่างไรก็ดี การส่งกองทัพไปยังอิวจิ๋วในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อปิ้งโจว ทั้งสองคนต่างก็เป็นยอดกุนซือ ย่อมมองออกว่ากองซุนจ้านไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะกองทัพของเหยียนโร่วและอ้วนเสี้ยวได้ หากว่ากองซุนจ้านพ่ายแพ้ให้กับอ้วนเสี้ยว ผลลัพธ์นั้นก็จะยิ่งเลวร้ายต่อปิ้งโจว

"เรื่องนี้มีความสำคัญยิ่ง หลังจากหารือเรื่องนี้กับแม่ทัพขุนนางแล้ว ข้าจะให้คำตอบแก่จูล่งในอีกสองสามวัน ระหว่างนี้จูล่งและอาเหวยก็ไปเดินท่องชมเมืองเพื่อสร้างความคุ้นชินเถอะ" ลิโป้หัวเราะ

หลังจากจูล่งออกไปแล้ว ลิโป้ก็หารือกับลิซก กาเซี่ยง และกุยแกอีกรอบ กุยแกและกาเซี่ยงสนับสนุนให้ส่งกองทัพไปยังอิวจิ๋ว ขณะที่ลิซกแนะนำว่าไม่ควรส่งกองทัพไปเพราะกองทัพยังต้องใช้เวลาพักฟื้น

ร้านค้าภายในเมืองจิ้นหยางเริ่มไม่พอต่อความต้องการ บัดนี้ทั่วทั้งแผ่นดินกำลังวุ่นวาย และความสงบมั่นคงของปิ้งโจวก็ทำให้พ่อค้าจำนวนแห่แหนกันมาที่ปิ้งโจว นอกจากนี้สุราจิ้นที่มีมูลค่าสูงก็ยังเป็นที่นิยมอย่างมาก

ด้วยการสนับสนุนจากจวนเจ้าเมือง ถ่านหินก็ค่อยๆได้รับความนิยมในปิ้งโจว ในฤดูหนาว สิ่งนี้จะสะดวกต่อการสร้างความอบอุ่น นอกจากนี้ เตาถ่านที่ผลิตขึ้นโดยโรงงานช่างฝีมือยังใช้งานได้สะดวกมาก ไม่เพียงแต่ใช้เพื่อเพิ่มความอบอุ่นได้เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ต้มน้ำร้อนได้อีกด้วย ขณะที่ลมหนาวพัดผ่านอยู่ที่ด้านนอก พวกเขาก็สามารถใช้เตาถ่านในการอุ่นสุรา ครอบครัวต่างๆสามารถผ่านฤดูหนาวไปได้อย่างมีความสุข ภาพฉากครอบครัวอบอุ่นนี้ทำให้ถ่านหินได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ีกทั้งถ่านหินยังมีราคาไม่แพง แม้แต่ชาวบ้านทั่วไปก็สามารถจับจ่ายไหว

การจัดตั้งสำนักคุ้มภัยทำให้เหล่าพ่อค้าเกิดความมั่นใจ พวกเขามาที่ปิ้งโจวเพื่อทำการค้า ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะอาศัยอยู่ที่ปิ้งโจวเป็นเวลานาน พวกเขาจพเป็นต้องขนส่งสินค้ามาเพื่อค้าขาย สำนักคุ้มภัยได้จัดส่งผู้คุ้มกันโดยอิงจำนวนตามขนาดของขบวนรถ สำหรับการจ้างวานผู้คุ้มกันนั้น พวกเขาเพียงต้องจ่ายสองส่วนของราคาสินค้าที่ขน ซึ่งสำนักคุ้มภัยจะรับรองความปลอดภัยในการเดินทาง สำหรับพ่อค้าที่ประกอบกิจการขนาดเล็กแล้ว ต่อให้จ่ายสองส่วนของราคาสินค้าก็จะมีผู้คุ้มกันติดตามไม่มากเกินไป ขณะที่พ่อค้าที่มีขบวนสินค้าขนาดใหญ่ก็จะมีผู้คุ้มกันติดตามไปด้วยจำนวนมาก

ต่อให้ทหารของสำนักคุ้มภัยที่ส่งไปจะไม่ได้ทำหน้าที่ปฏิบัติการ แต่พวกพ่อค้าก็ยังคงจะจ่ายเงินให้เป็นค่าคุ้มครอง

พ่อค้าขนาดเล้กนั้นก็ย่อมมีวิธีการของตัวเอง หากว่าเป็นจุดหมายเดียวกัน พวกเขาก็จะรวมกลุ่มกันก่อนจะไปจ้างวานสำนักคุ้มภัย ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขาได้รับผู้คุ้มกันเพิ่มขึ้น สำหรับค่าจ้างจำนวนสองส่วนนั้น พวกเขาก็จะหารกัน

เพื่อที่จะไม่สร้างความขุ่นเคืองต่อเหล่าเจ้าเมือง แม้ว่าสำนักคุ้มภัยเจิ้นเหยี่ยนจะก่อตั้งขึ้นภายใต้การควบคุมจากปิ้งโจว หากแต่ในทางเปิดเผยนั้น พวกเขาไม่ได้มีความข้องเกี่ยวใดๆกับทางกองทัพปิ้งโจว เหล่าทหารที่อยู่ภายในสำนักคุ้มภัยจะถูกเรียกว่าหน้าฉาก โดยมีแม่ทัพคอยควบคุมดูแลอยุ่เบื้องหลัง

แม้ว่าตัวตนจะเปลี่ยนแปลง แต่พ่อค้าที่มีไหวพริบเสียหน่อยก็ย่อมมองออกว่าพวกผู้คุ้มกันนั้นเป็นทหารอาชีพ ความร้ายกาจของทัพปิ้งโจวนั้นเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งแผ่นดิน มีผู้คุ้มกันระดับนี้ให้ความคุ้มครองตลอดทาง พวกเขายังมีอะไรให้ต้องกังวลด้วยหรือ?

แน่นอน ความสัมพันํ์ระหว่างปิ้งโจวและกิจิ๋วในตอนนี้กำลังตึงเครียด ดังนั้นปัจจุบัน ผู้คุ้มกันจึงรับงานเพียงในพื้นที่ซือลี่และกุนจิ๋ว

................................

อ้วนสุดตกตะลึงอย่างหนักเมื่อทราบว่าเล่าเปียวส่งกองทัพเกงจิ๋วบุกเข้าโจมตีกุนจิ๋วและยึดครองดินแดนได้เกือบทั้งหมดแล้ว

เขาและเล่าเปียวไม่เคยญาติดีกันได้มาก่อน หากว่าเล่าเปียวมีอำนาจมากขึ้น นั่นก็จะยิ่งไม่เป็นผลดีต่ออ้วนสุด สำหรับการสืบทอดราชบัลลังก์ของเล่าเปียวนั้น เขาคัดค้านหัวชนฝา เขาเพิ่งส่งคนไปยังกิจิ๋วเพื่อหยั่งทราบความคิดเห็นของอ้วนเสี้ยว อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ทราบว่าอ้วนเสี้ยวสนับสนุนการสืบทอดราชบัลลังก์ของเล่าเปียว อ้วนสุดก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

ในแง่ของศักดิ์และฐานะ อ้วนสุดเป็นบุตรสายตรงของตระกูลอ้วน ขณะที่อ้วนเสี้ยวเป็นเพียงบุตรที่เกิดจากอนุภรรยาเท่านั้น และในแง่ของกำลังทหาร อ้วนสุดควบคุมเองจิ๋วไว้กว่าครึ่ง ยังมีเมืองของอิจิ๋วและชีจิ๋วอีกหนึ่งเมือง ไม่ว่ามองอย่างไรเขาก็มีอำนาจมากกว่าอ้วนเสี้ยว ใต้บญชาของเขาเองก็เต็มไปด้วยผู้มีความรู้ความสามารถ แม้แต่อดีตยอดขุนพลอันดับหนึ่งของตั๋งโต๊ะก็ยังมาพึ่งใบบุญ และเขาจะเต็มใจอยู่ใต้บัญชาของผู้อื่นได้อย่างไร? การมีตราหยกแผ่นดินอยู่ในมือทำให้ความทะเยอทะยานของเขาเติบโตขึ้น

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการจัดการเล่าเปียว การกระทำของเล่าเปียวได้ล้ำเส้นความอดทนของเขามาแล้ว นั่นก็คือ อิจิ๋ว อ้วนสุดมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ ไม่เพียงแต่ราชวงศ์ฮั่น แต่ยังผู้ที่คิดจะประชันขันแข่งกับเขาด้วย

อ้วนสุดลอบตระเตรียมไพร่พล เตรียมจะบุกโจมตีเกงจิ๋ว ตอนนี้ไพร่พลกว่าครึ่งของเกงจิ๋วถูกส่งไปประการที่อิจิ๋วและกุนจิ๋ว ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่จะบุกเกงจิ๋ว เขาไม่ได้สนใจสำนักคุ้มภัยเจิ้นเหยี่ยนที่ได้รับการกล่าวถึงในหนังสือพิมพ์ต้าฮั่นแต่อย่างใด คนเหล่านั้นก็เป็นเพียงผู้คุ้มกันของพวกพ่อค้า แต่ขอเพียงมีขบวนพ่อค้าจากปิ้งโจวกล้ามายังเองจิ๋ว เขาก็รับรองว่าจะไม่ปล่อยคนเหล่านี้กลับไป เขาเกลียดชังลิโป้สุดหัวใจ โดยเฉพาะหลังจากที่มีข่าวลือว่า กิเหลง อดีตแม่ทัพอันดับใต้บัญชาของเขา ได้เข้าสวามิภักดิ์ต่อปิ้งโจวแล้ว ความเคียดแค้นชิงชังที่มีต่อลิโป้จึงยิ่งมายิ่งลึกล้ำ

................................

ด้วยความช่วยเหลือจากจิวยี่ ซุนเซ็กจึงใช้ตราหยกแผ่นดินเพื่อขอหยิบยืมทหารจำนวนสามพันจากอ้วนสุดไปปราบพิชิตกังตั๋ง ขณะนี้เขากำลังลับคม เตรียมจะบุกโจมตีเกงจิ๋วเพื่อแก้แค้นให้กับบิดา

เมื่อมีคำสั่งจากอ้วนสุดส่งมาถึง ซุนเซ็กก็ตระหนักได้ว่าโอกาสที่รอคอยนั้นมาถึงแล้ว ขอเพียงอ้วนสุดและเล่าเปียวทำสงครามกัน การป้องกันของเมืองกังแฮก็จะย่อหย่อน และด้วยรากฐานของเมืองกังแฮนี้ เขาก็จะสามารถใช้เป็นฐานกำลังในการพิชิตเกงจิ๋ว

ก่อนที่ซุนเกี๋ยนจะตาย เขายังจดจำได้ว่าตนเองยังคงติดค้างค่าม้าศึกของลิโป้อยู่ สำหรับลิโป้นั้น ซุนเซ็กนับถือเลื่อมใสยิ่ง ปราบปรามซยงหนู พิชิตเซียนเป่ย เพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็เพียงพอให้มีชื่อเสียงเลื่องลือทั่วแผ่นดินได้แล้ว เพียงแต่กังตั๋งในตอนนี้ค่อนข้างยากจน หากต้องการชดใช้หนี้ที่ติดปิ้งโจวไว้ ก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก

................................

กองทัพของซัวหยงพลันเปิดฉากบุกโจมตีเมืองซงหยงอย่างไม่ทันตั้งตัว สร้างความวิตกกังวลให้กับเล่าเปียวยิ่ง ก่อนที่จะโจมตีกุนจิ๋ว เล่าเปียวและอ้วนสุดก็ได้ทำสัญญาสงบศึกกันแล้วแท้ๆ และอ้วนสุดก็รับปากแล้วว่าจะไม่ทำสงครามกัน แต่ผ่านไปได้เพียงสองเดือน เจ้าอ้วนสุดผู้นี้กลับส่งแม่ทัพมาโจมตีเมืองซงหยงเสียแล้ว