ตอนที่ 192 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

จงป้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงผงกศีรษะ "ได้ยินว่าทหารม้าเฟยฉีห้าวหาญชาญศึก ทหารม้ากองทัพหลงเสียไม่มีชื่อเสียงเทียบเท่า ขณะที่แม่ทัพภายในทัพก็มีฝีมือดาษดื่นทั่วไป"

ลิโป้ย่อมเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ เขาแสร้งลังเลอยู่เป็นนาน จากนั้นจึงค่อยกล่าวขึ้นว่า "เช่นนี้ดีหรือไม่ ในการประลองแม่ทัพ จงตูเว่ยสามารถส่งคนออกมาห้าคน และในการประลองไพร่พล ตูจงเว่ยสามารถส่งทหารออกมาหนึ่งร้อยห้าสิบคน หากว่าต่างฝ่ายต่างเอาชนะได้หนึ่งรายการ ให้ถือว่าจงตูเว่ยชนะเป็นอย่างไร?"

จงป้าหน้าแดง เขากุมมือกล่าวว่า "หากเป็นเช่นนั้น ข้าน้อยคงต้องบากหน้ารับไว้แล้ว"

ไม่ใช่ว่าจงป้าไม่มั่นใจในบรรดาแม่ทัพและทหารม้าของตน แต่สาเหตุหลักก็คือ ทหารม้าเฟยฉีมีชื่อเสียงยิ่งใหญ่เกินไป อีกทั้งในกองทัพปิ้งโจวยังมีแม่ทัพขุนพลชั้นยอดมากมาย ที่เขาต้องทำเช่นนี้ก็เพื่อรับรองว่าฝ่ายเขาจะชนะ

ทั้งสองสนทนากันอีกสักพัก ต่างฝ่ายต่างคิดว่าอีกฝ่ายมีนิสัยไม่เลวเลย จงป้าให้ความรู้สึกว่าเป็นคนตรงไปตรงมา เขาไม่รู้สึกเขินอายเมื่อจะกล่าวสิ่งใด ขณะที่ความรู้สึกที่จงป้าสัมผัสได้จากลิโป้นั้น คือความมั่นใจอย่างเปี่ยมล้น ทั่วร่างของเขามอบความรู้สึกที่ทำให้ผู้คนรู้สึกไว้วางใจโดยไม่รู้ตัว

หลังจากกลับมาถึงทัพและอธิบายเหตุการณ์โดยละเอียดให้กุยแกฟัง กุยแกก็กล่าวว่า "นายท่าน ครั้งนี้ฝ่ายเราจะต้องชนะอย่างแน่นอน ฟังจากคำพูดของจงป้าแล้ว จะเห็นได้ว่าจงป้าผู้นี้ไม่ใช่คนกลับกลอก"

ลิโป้ผงกศีรษะเบาๆ เขาเองก็มองลักษณะนิสัยของจงป้าออก ตัดสินจากประสบการณ์ในอดีต เขานับว่าเป็นคนซื่อตรงที่กล้าคิดกล้าทำผู้หนึ่ง

"นายท่าน ข้าน้อยสงสัยว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเอาชนะใจจงป้า? จงป้าอาศัยอยู่ในชีจิ๋วมานาน จึงมีความเข้าใจในสถานการณ์โดยรอยเป็นอย่างดี ความสัมพันธ์ระหว่างนายท่านและเจ้าเมืองชีจิ๋วก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก ดังนั้นจงป้าจึงเป็นตัวเลือกที่ดี"

ลิโป้ตาเป็นประกาย เขาเพียงคิดแต่จะกลับปิ้งโจว โดยลืมพิจารณาถึงเรื่องให้ดี หากว่าจงป้าเต็มใจจะเข้าร่วมกับปิ้งโจว หากมีผู้ช่วยที่แข็งแกร่งเช่นนี้เป็นสายภายใน ต่อให้ในอนาคตเขาจะกลายเป็นศัตรูกับชีจิ๋ว ผลลัพธ์ก็เป็นที่คาดคำนวณได้ "เฟิ่งเซี่ยวมีความคิดดีๆหรือไม่?"

"ชีจิ๋วและปิ้งโจวอยู่ห่างไกลกันยิ่ง กองทัพของจงป้าขาดแคลนม้าศึก ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสที่นายท่านจะเอาชนะใจจงป้า" จากนั้นจึงกล่าวเสริมว่า "จงป้าไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าเมืองชีจิ๋ว สถานการณ์ในปัจจุบันของเขาจะต้องเลวร้ายอย่างแน่นอน บางทีตัวจงป้าเองก็ทราบดีว่าชีจิ๋วจะต้องลงมือหลงเสียไม่ช้าก็เร็ว นายท่านอาจจะปลอบโยนเขาด้วยคำพูดแสดงความปรารถนาดีและลอบให้คำมั่นสัญญาที่เป็นประโยชน์ต่อเขา คาดว่าจงป้าจะต้องไม่ปฏิเสธ เพียงแต่เรื่องนี้ยิ่งมีคนรู้น้อยก็ยิ่งดี หากว่าเล่าปี่รู้เรื่องนี้ จงป้าจะตกอยู่ในอันตรายทันที"

"อืม ข้าจะจัดงานเลี้ยงขึ้นในกองทัพ และข้าจะเชิญจงป้ามาหารือรายละเอียดในเรื่องนี้" ลิโป้กล่าว

"นายท่าน เกรงว่าจงป้าจะไม่มา แต่หากนายท่านจัดงานเลี้ยงขึ้นภายในเมือง เขาจะมา" กุยแกกล่าวด้วยรอยยิ้ม

"ให้หลี่เยี่ยนคัดเลือกทหารม้าเฟยฉีมาร้อยนาย พวกเขาไม่ได้ออกศึกมาระยะหนึ่งแล้ว ถึงเวลาที่ทัพเฟยฉีจะแสดงฝีมือ มิเช่นนั้นผู้ที่อยู่ในชีจิ๋วคงคิดว่าทัพเฟยฉีมีเพียงแค่ชื่อ" ลิโป้กล่าวเสียงขรึม

เตียนอุยเมื่อได้รับคำสั่งก็รีบไปแจ้งต่อหลี่เยี่ยนให้ดำเนินการ การสนทนาระหว่างลิโป้และกุยแกเมื่อครู่ยังคงติดอยู่ในใจของเขา วันพรุ่งนี้จะเป็นการประลองแม่ทัพ ซึ่งแม่ทัพปิ้งโจวที่จะลงสนามได้มีอยู่สามคน ขณะที่ฝ่ายจงป้าสามารถส่งลงมาห้าคน สิ่งที่เขาให้ความสนใจมากที่สุดก็คือข่าวหลัง ในการประลองแม่ทัพในวันพรุ่งนี้ เขาต้องการจะแสดงให้กองทัพหลงเสียเห็นว่าเขาแข็งแกร่งเพียงใด หลายวันมานี้ ชีวิตที่ขาดสีสันภายในชีจิ๋วทำให้เตียนอุยรู้สึกหดหู่ยิ่ง

เมื่อขบวนหยุดพักตั้งค่าย บิต๊กที่เพิ่งได้รับข่าวรู้สึกกังวลอยู่บ้าง เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของจงป้ามาก่อน แต่ตระกูลบิและจงป้าไม่มีบุญคุณความแค้นต่อกัน เมื่อคิดถึงขบวนรถอันมั่งคั่งของตระกูลบิแล้ว บิต๊กก็เข้าใจความคิดของจงป้า เขารู้สึกซาบซึ้งต่อการปกป้องของลิโป้ ตอนเขาอยู่ที่เพงเสีย ลิโป้ก็ไม่ลังเลที่จะเป็นปฏิปักษ์กับเล่าปี่ สังหารพวกทหารที่ถูกส่งมากวาดล้างตระกูลบิ มาตอนนี้ก็เป็นจงป้า

สิ่งที่ทำให้บิต๊กรู้สึกกังวลจริงๆก็คือสิ่งที่จะเกิดหลังจากที่เขาไปถึงปิ้งโจว แม้ว่าทรัพย์สมบัติเหล่านี้จะเย้ายวนใจ ที่เขากังวลก็คือฐานะของตระกูลบิ หากตระกูลของเขาต้องการจะได้รับการปฏิบัติที่ดีขึ้น หนทางเดียวก็คือโน้มน้าวให้ลิโป้ตอบตกลงว่าจะแต่งงานกับบิเจิน แม้ทั้งสองจะเคยพบหน้ากันมาสองสามครั้ง แต่ลิโป้ก็ไม่เคยเผยท่าทีว่ารู้สึกชอบบิเจินเลย ขณะที่บิเจินชมชอบลิโป้

ความเห็นของบิเจินนั้นสำคัญยิ่งสำหรับบิต๊ก ในเมื่อน้องสาวของเขาชอบลิโป้ เรื่องนี้ก็เหลือเพียงความเห็นจากทางฝ่ายลิโป้แล้ว

ตอนนี้เอง บิต๊กก็นึกถึงกุยแกที่เคยมอบคำแนะนำต่อเขา ในช่วงระหว่างนี้ เขายังตระหนักได้ว่าลิโป้ให้ความสำคัญกับกุยแกมาก ความคิดดูหมิ่นใดๆต่อชายหนุ่มผู้นี้ควรจะเก็บไว้เงียบๆอยู่ในใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีเรื่องสำคัญ ลิโป้ก็มักจะหารือกับกุยแกก่อน เพียงเท่านี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ากุยแกมีฐานะในปิ้งโจวไม่ธรรมดาเลย

เมื่อบิต๊กมาเยี่ยมคำนับ กุยแกก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใด นับแต่แรกเริ่ม การที่ตระกูลบิเลือกจะลี้ภัยไปที่ปิ้งโจวก็เป็นเขาที่ออกอุบายความคิด

หลังจากสองฝ่ายคารวะต่อกันแล้ว บิต๊กก็ลดเสียงลงถามว่า "ใต้เท้ากุย ใต้เท้าลิมีความเห็นต่อน้องสาวข้าอย่างไรหรือ?"

กุยแกกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม "ไม่ใช่ว่านายท่านก็ได้พบหน้าน้องสาวท่านหลายครั้งหรอกหรือ? ใต้เท้าบิควรจะทราบมากกว่าข้า"

สีหน้าของบิต๊กดูกังวล "น้องสาวของข้ามีความรู้สึกดีต่อใต้เท้าลิ เพียงแต่ผ่านมานานถึงขนาดนี้ ใต้เท้าลิกลับยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ ดังนั้นข้าจึงไม่สบายใจ"

"อืม นั่นก็จริง เวลานี้นายท่านมีภรรยาเพียงหนึ่งคน ข้าได้ยินว่านายท่านมีหญิงสาวที่จะตบแต่งด้วยอีกคนอยู่ในเมืองจิ้นหยาง ข้าจะช่วยท่านอีกแรง ใต้เท้าบิวางใจได้ น้องสาวของท่านมีรูปโฉมงามงด มีหรือที่นายท่านจะไม่หวั่นไหวใจเลย?" กุยแกกล่าวปลอบโยน

"ลำบากใต้เท้ากุยแล้ว หากเรื่องนี้สำเร็จ ตระกูลบิจะรู้สึกสำนึกขอบคุณท่านยิ่ง" บิต๊กกุมมือกล่าว

กุยแกพยักหน้าเบาๆ ลิโป้ให้ความสำคัญต่อตระกูลบิมาก ตอนที่เขามาถึงปิ้งโจว เขายังคงหนุ่มเกินไป ต่อให้มีความรู้ความสามารถ แต่เมื่อเทียบกับลิซกและกาเซี่ยงแล้ว ตัวเขาก็ยังคงขาดคนหนุนหลัง หากว่าได้รับการสนับสนุนจากตระกูลบิ คำพูดของเขาในปิ้งโจวก็จะมีน้ำหนักมากขึ้น แม้ว่าเขาจะยังหนุ่ม แต่เมื่อเผชิญกับเรื่องราวเหล่านี้ เขาเองก็ไม่อยากจะอับอายต่อหน้าผู้อื่น เทียบกับความรอบคอบของกาเซี่ยง และความสุขุมของลิซกแล้ว ตัวเขายังคงเป็นชายหนุ่มที่หุนหัน ทว่าดูเหมือนลิโป้จะไม่ใส่ใจต่อสิ่งเหล่านี้ มิเช่นนั้นลิโป้คงไม่พาเขามายังชีจิ๋วด้วยกัน

เรื่องแรกที่จงป้ากระทำหลังจากกลับมาคือการคัดเลือกทหารม้า ขอเพียงเขาชนะได้หนึ่งจากสองการแข่งขัน เขาก็จะได้รับสิ่งที่เขาต้องการ หากว่าประลองไพร่พลชนะ เช่นนั้นผลประลองแม่ทัพจะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญแล้ว

อย่างไรก็ตาม จงป้ารู้สึกมั่นใจในการประลองแม่ทัพ ไม่ใช่ประลองไพร่พล สามคนสู้ห้าคน พวกเขาได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าจงป้าจะมั่นใจในฝีมือตัวเองมาก แต่เมื่อเผชิญกับการประสานงานระหว่างเซียงหูกับงอตุ้น เขาเองก็รู้สึกลำบากกินแรงไม่น้อย ในความเห็นของเขา ต่อให้ลิโป้ร้ายกาจปานใด การจะเอาชนะในการประลองนี้ได้ก็นับว่ายากลำบากไม่น้อย

เซียงหูและคนอื่นๆต่างมารวมตัวอยู่ข้างเขา หลังจากได้ยินคำบอกเล่าของจงป้า พวกเขาก็รู้สึกมั่นใจมาก ไม่ว่าจะมองจากมุมใด พวกเขาก็ได้เปรียบ หากว่าพวกเขาชนะ ไม่เพียงแต่จะได้รับทรัพย์สินของตระกูลบิมาครอบครอง แต่ยังสามารถซื้อม้าศึกจากปิ้งโจว ซึ่งมีแต่ได้กับได้

เป็นเรื่องยากที่จะก่อตั้งทัพม้าขึ้นในภาคกลาง เพราะภาคกลางขาดแคลนม้าศึก อีกทั้งวิชาขี่ม้าของพวกทหารก็ค่อนข้างแย่ หากต้องการจะฝึกฝนทหารม้าขึ้นมาสักขบวน ค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูง และหากว่าไม่มีม้าศึกชั้นดี ต่อให้ฝึกฝนทหารม้าไปก็ไร้ความหมาย