อ้วนเสี้ยวหันไปหางันเหลียงก่อนจะลดเสียงลงกล่าวว่า "หากเห็นว่าแม่ทัพบุนทิวสู้ไม่ได้ ให้ท่านรีบออกไปทันที" ฝีมือของลิโป้นั้นเป็นที่เลื่องลือในแผ่นดิน แม้ว่าบรรดาเจ้าเมืองจะดูแคลนลิโป้เพราะเขาเป็นแม่ทัพบู๊หยาบกร้าน ทว่าพวกเขาก็ต้องยอมรับในฝีมือการรบของลิโป้ บ่อยครั้งที่อ้วนเสี้ยวมักเกิดความคิดขึ้นว่า หากได้ลิโป้มาเข้าร่วมกับกิจิ๋ว ในแผ่นดินนี้ยังจะมีผู้ใดสามารถต้านทานพวกเขาได้?
งันเหลียงพยักหน้ารับคำ หากแต่ในใจเกิดความสะท้อนใจยิ่ง ถึงกับต้องใช้แม่ทัพอันดับหนึ่งและสองเข้ากลุ้มรุมในการประลอง นับเป็นที่น่าขายหน้านัก
ลิโป้แค่นเสียงก่อนจะกระตุ้นท้องม้าเบาๆ ย่ำอัคคีที่รู้ใจก็ควบทะยานตรงเข้าหาบุนทิว
งันเหลียงที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่มองดูย่ำอัคคีพลางทอดถอนใจชมเชย ช่างเป็นความเร็วที่เหนือจิตนาการนัก
"เคร้ง!"
เสียงทวนและง้าวปะทะกันดังขึ้นพร้อมกับเกิดสะเก็ดไฟ
บุนทิวรู้สึกท่อนแขนชาเล็กน้อย ในการต่อสู้เช่นนี้ ความเร็วของม้านับมีส่วนสำคัญยิ่ง เพราะยิ่งม้าศึกวิ่งได้รวดเร็ว แม่ทัพก็จะสามารถสำแดงพลังออกมาได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
การปะทะเมื่อครู่ ลิโป้เพียงหยั่งทราบพละกำลังของบุนทิวเท่านั้น
ทหารของทั้งสองฝ่ายต่างจับจ้องมองดูการประลองอย่างใกล้ชิด หนึ่งเป็นแม่ทัพแห่งทัพกิจิ๋ว อีกหนึ่งคือเจ้าเมืองปิ้งโจว นี่เป็นศึกที่ชี้วัดว่าผู้ใดจะร้ายกาจกว่ากัน
ย่ำอัคคีหันหลังกลับก่อนจะออกวิ่งด้วยความเร็วที่มากขึ้น ลิโป้ที่อยู่บนหลังม้าสามารถได้ยินเสียงทวนที่กรีดฝ่าอากาศได้เบาๆ การโจมตีครั้งนี้ ลิโป้ตัดสินใจว่าจะใส่กำลังมากขึ้นเพื่อเตรียมจะเผด็จศึกบุนทิว
ย่ำอัคคีพุ่งฉิวดุจลูกเกาทัณฑ์
บุนทิวตกตะลึง มองดูลิโป้ที่กำลังพุ่งเข้ามา เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นโลหิตอันเข้มข้นที่เคยอาบไล้อยู่บนคมทวน ทันใดนั้นเขาก็พลันเข้าใจวามหมายของวลีที่ว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" หากไม่ได้มาประมือกับลิโป้ด้วยตนเอง เขาก็ไม่มีทางจินตนาการได้ว่าลิโป้จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ อีกทั้งอาชาของลิโป้เองก็เห็นได้ชัดว่าเป็นม้าวิเศษ
ใช้จังหวะที่ยังไม่ได้เข้าปะทะ บุนทิวก็หันกลับไปทางทัพตัวเอง
ในใจงันเหลียงเกิดพายุถาโถมกระหน่ำ ตัดสินจากสีหน้าท่าทางของบุนทิวแล้ว เห็นได้ว่าบุนทิวไม่อาจต่อกรลิโป้ต่อไป และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ บุนทิวหันมามองเขา เขาและบุนทิวออกรบทัพจับศึกร่วมกันมาหลายปี ดังนั้นงันเหลียงย่อมเข้าใจความหมายของการมองนี้
สายตาที่ลิโป้ใช้มองดูบุนทิวยิ่งทวีความเย็นชา ทวนในมือยกง้างขึ้น
เมื่อเห็นฉากนี้ งันเหลียงก็ไม่อาจลังเลได้อีกต่อไป เขากระตุ้นม้าพลางตะโกนว่า "คนถ่อยลิโป้ ข้างันเหลียงอยู่ที่นี่แล้ว!"
ลิโป้ส่ายหน้าเบาๆ คิดไม่ถึงว่าทัพกิจิ๋วจะไร้ยางอายถึงเพียงนี้ บุนทิวกำลังจะสิ้นชีพในทวนที่สองนี้แล้ว หลังจากหยั่งเชิงไปทวนแรก ในทวนต่อไป ลิโป้ก็มั่นใจว่าจะปลิดชีพบุนทิวลงได้
ลิโป้คิดจะสังหารขุนพลพยัคฆ์อย่างบุนทิวลงเพื่อทำลายขวัญกำลังใจของทัพกิจิ๋วก่อนการศึก ทว่างันเหลียงกลับสอดมือเข้ามา ทำให้ลิโป้มีโทสะแล้ว
เมื่อเห็นฉากนี้ ขณะที่เตียนอุยซึ่งคอยท่าอยู่ก่อนเตรียมจะควบม้าพุ่งออกไป เขาก็เห็นลิโป้ยกมือห้ามไว้ เตียนอุยจำต้องหยุดม้าไว้ แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องมองแม่ทัพศัตรูทั้งสอง ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกอายแทนความความไร้ยางอายของทัพกิจิ๋ว
ไม่เพียงแต่เตียนอุยเท่านั้น แม้แต่ทหารทัพกิจิ๋วก็ยังรู้สึกอับอายขึ้นมา
ใช้สองกลุ้มรุมหนึ่ง ลิโป้หาหวั่นเกรงไม่ ในใจเขาปรารถนาการต่อสู้มานานแล้ว โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ครอบครองย่ำอัคคี ความปรารถนาในการต่อสู้ของเขาก็ยิ่งมายิ่งรุนแรง
ทวนกรีดนภาปัดง้าวของงันเหลียงเบี่ยงออกข้าง จากนั้นคมทวนพลันพุ่งเปลี่ยนทิศ แทงเข้าหาบุนทิวที่อยู่อีกด้าน
บุนทิวเกิดความฮึกเหิม ง้าวในมือฟันออกปะทะ ทว่ากำลังที่ส่งผ่านง้าวมาทำให้เขาต้องหน้าขาวซีด เขานึกไม่ถึงเลยว่าลิโป้กล้าแข็งปานนี้ หลังจากปะทะกับงันเหลียงแล้ว ทวนของเขาจะยังเหลือพลังมหาศาล
พริบตาเดียว ทั้งสามก็ต่อสู้กันได้หลายกระบวน ไพร่พลที่ชมดูอยุ่ทั้งสองฝั่งต่างนิ่งตะลึง โดยเฉพาะบรรดาแม่ทัพและไพร่พลของทัพกิจิ๋ว สายตาที่ใช้มองดูลิโป้เต็มไปด้วยความกลัว งันเหลียงบุนทิวนับเป็นยอดขุนพลไร้คู่เปรียบแห่งทัพกิจิ๋ว มิเช่นนั้นอ้วนเสี้ยวคงไม่กล่าวขึ้นบ่อยๆว่า "ข้ามีงันเหลียงบุนทิวอยู่ ผู้ใดกล้าต่อกร" ทว่าแม้ยอดขุนพลแห่งทัพกิจิ๋วทั้งสองจะกำลังกลุ้มรุมลิโป้อยู่ แต่พวกเขากลับทำได้เพียงต้านทานเอาไว้ สีหน้าของงันเหลียงบุนทิวที่กำลังต่อสู้อยู่กับลิโป้ยังปั้นยากขึ้นเรื่อยๆ
เป๊กตุ้นและซูผูเหยียนหันไปสบตากันด้วยความตกตะลึง เตียนอุย แม่ทัพแห่งทัพปิ้งโจวก็นับว่าสร้างความตกตะลึงอย่างหนักให้ชาวอูหวนมากแล้ว พวกเขาย่อมไม่นึกไม่ฝันเลยว่า ลิโป้ ผู้ซึ่งเป็นถึงจิ้นโหวและเจ้าเมืองปิ้งโจวจะมีฝีมือไร้เทียมทานถึงขั้นนี้
ได้เห็นฉากนี้ กุยแกก็ตวาดว่า "รัวกลองศึก!"
เสียงกลองศึกพลันดังกึกก้องไปทั่วสนามรบ ในสายตาของงันเหลียงและบุนทิว ทวนกรีดนภาในมือลิโป้ยิ่งมายิ่งรวดเร็ว เพียงเพลงทวนของลิโป้ก็ทำให้พวกเขารู้สึกกริ่งเกรงได้แล้ว ทว่าพละกำลังที่ของลิโป้ต่างหากที่อันตรายถึงตราย
หลังจากต่อสู้กันไปได้สิบกระบวน ลิโป้ก็เริ่มมีเปรียบขึ้นเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด เผชิญกับทวนที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีได้ตลอดเวลาแล้ว งันเหลียงและบุนทิวก็ได้แต่ยังทุนขึ้นต้านทาน พยายามประคับประคองกันไปอย่างยากลำบาก
อ้วนเสี้ยวหน้าเขียวคล้ำ เพียงความพ่ายแพ้ของงันเหลียงก็ทำให้ทัพกิจิ๋วเสียชื่อเสียงพอแล้ว มาบัดนี้ แม้จะใช้สองยอดขุนพลกลุ้มรุมลิโป้เพียงคนเดียว พวกเขาก็ยังคงตกเป็นรอง กระทั่งบุนทิวยังเกือบถูกลิโป้แทงสังหารอยู่หลายครั้ง ดีที่ยังมีงันเหลียงคอยช่วยเหลือ งันเหลียงและบุนทิวนั้นสำคัญต่อทัพกิจิ๋วเกินไป เขาไม่อาจเสียขุนพลทั้งสองไปได้
เมื่อเห็นอ้วนเสี้ยวหันมองมาที่ตน เตียวคับก็ตวาดพลางควบม้าพุ่งออกไป เตียวหลำชำเลืองมองอ้วนเสี้ยว จากนั้นจึงบังคับม้าพุ่งออกไป สถานการณ์ภายในสนามรบพลันเต็มไปด้วยความดุเดือดตึงเครียด
ลิโป้ตวาดเสียงดัง ทวนกรีดนภาปัดง้าวของงันเหลียงออก ก่อนจะวกทวนแทงใส่เตียวคับ ลิโป้ที่นั่งอยู่บนหลังย่ำอัคคียังมีเปรียบในด้านความสูง
หนึ่งคนสู้สี่คนโดยลำพัง ทหารของทั้งสองฝายต่างเบิกตาค้าง ลิโป้ในเวลานี้ไม่อาจใช้คำบรรยายว่าห้าวหาญชาญศึกอีกต่อไป แต่เป็นไร้เทียมทาน
เตียวคับเหวี่ยงหอกออกขวา พยายามจะป้องกันทวนของลิโป้ ในความเห็นของเขา ทวนของลิโป้จะต้องมีพลังสภาวะอ่อนโทรมลงมากหลังจากที่ปัดง้าวของงันเหลียงออกไป แต่หลังจากได้ปะทะกันแล้ว เตียวคับก็ต้องรั้งหอกกลับมาคุ้มครองกายด้วยความลนลาน ทว่าทวนของลิโป้กลับเปลี่ยนทิศ พุ่งแทงไปยังเตียวหลำที่กำลังจะโจมตีเข้ามา
รูม่านตาของเตียวหลำพลันหดวูบ บัดนี้สายเกินจะกว่าจะหลบทวนนี้แล้ว ดังนั้นเตียวหลำจึงได้แต่เบิ่งตาค้างขณะมองดูคมทวนอันเย็นเยียบเสียบทะลวงหน้าอกของเขา
เตียวหลำร่วงจากหลังม้า ทหารทัพปิ้งโจวต่างโห่ร้องสุดเสียง เสียงกลองศึกยิ่งมายิ่งดังกระหึ่ม
ทหารทั้งสองฝ่ายต่างยังตะลึงไม่หาย หนึ่งคนสะกดสี่คน ทั้งยังสามารถสังหารไปได้หนึ่ง นี่เป็นความแข็งแกร่งถึงขีดขั้นใดกัน? สายตาที่เหล่าทหารทัพปิ้งโจวมองดูลิโป้ยิ่งมายิ่งเต็มไปด้วยความเทิดทูนอย่างบ้าคลั่ง นี่ก็คือท่านแม่ทัพของพวกเขา ท่านแม่ทัพไร้เทียมทาน!
มือที่ถือทวนคู่ของเตียนอุยเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แม้ว่าลิโป้จะสามารถสะกดข่มงันเหลียงบุนทิวได้ แต่หลังจากเตียวคับและเตียวหลำเข้าร่วมการต่อสู้ สถานการณ์ก็ไม่เรียบง่ายดังเดิมแล้ว เขาเชื่อมั่นในตัวลิโป้ ขอเพียงลิโป้เผยทีท่าว่าจะเพลี่ยงพล้ำแม้เพียงเล็กน้อย เขาก็จะควบม้าเข่นฆ่าออกไปทันที
เผชิญกับการกลุ้มรุมจากสามขุนพลแห่งทัพกิจิ๋ว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของลิโป้ก็ลุกโชน ความเร็วในการออกทวนยิ่งมายิ่งเร็วขึ้น แม้จะใช้หนึ่งสู้สาม ทว่าเขาก็ไม่ได้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแม้แต่น้อย ตอนนี้เอง ลิโป้ก็คล้ายรู้สึกว่าสัมผัสในสนามรบพลันคมชัดขึ้น เพลงทวนของเขายิ่งมายิ่งสมบูรณ์แบบ
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved