ตอนที่ 241 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

เตียนอุยยิ้มเหยียดหยันพลางปัดดาบใหญ่ของอีกฝ่ายออกด้วยทวนในมือขวา ขณะที่ม้าศึกกำลังจะพุ่งสวนกัน ทวนในมือซ้ายก็ฟันใส่หน้าอกของน่าหยานตกจากหลังม้าด้วยดวงตาที่ยังเบิกค้าง

เมื่อเห็นว่าเตียนอุยสังหารแม่ทัพศัตรูได้ในทวนเดียว ทหารม้าเฟยฉีก็ส่งเสียงโห่ร้องดังกึกก้อง แม้แต่พวกทหารที่อยู่บนกำแพงเมืองเองก็โห่ร้องยินดี ขวัญกำลังใจของกองทัพเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด

ลิโป้ยิ้มพลางกล่าวว่า "เตียนอุยไปเรียนรู้การอวดโอ่มาตั้งแต่เมื่อใดกัน เขากล้าอ้างตัวเป็นแม่ทัพแห่งทัพปิ้งโจวเชียวรึ"

"แม่ทัพเตียนห้าวหาญชาญศึกจริงๆ" กุยแกกล่าวยิ้มๆ

ม่านตาของเป๊กตุ้นพลันหดวูบเมื่อได้เห็นฉากนี้ น่าหยานนับเป็นแม่ทัพแถวหน้าของทัพอูหวน สุดท้ายกลับตายอนาถในมือแม่ทัพของทัพปิ้งโจว ดังนั้นแม่ทัพอูหวนที่เหลือจึงพากันเงียบกริบ ไม่กล้าอาสาออกไปอีก ที่น่าตกตะลึงมากที่สุดก็คือ แม่ทัพชาวฮั่นผู้นั้นถึงกับสามารถฟันน่าหยานขาดเป็นสองท่อนได้ในทวนเดียว ฉากอันน่าสยดสยองเช่นนี้ แม้แต่เป๊กตุ้นก็ยังหน้าเปลี่ยนสี "มีผู้ใดจะอาสาออกไปสังหารเจ้าผู้นี้อีกรึไม่?"

"ข้าจะออกไปเอาชีวิตเจ้าผู้นี้เอง" โหลวปานควบม้าพุ่งออกไป

เมื่อเห็นโหลวปานควบม้าออกไป ทหารทัพอูหวนพลันโห่ร้องเสียงดัง ในใจพวกเขาค่อยรู้สึกผ่อนคลาย โหลวปานนั้นเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งทัพอูหวน

เมื่อเห็นแม่ทัพที่ถือกระบองปรากฏกายขึ้น เตียนอุยก็ไม่รู้สึกหวั่นเกรงแต่อย่างใด แม้ว่าผู้ที่สามารถใช้กระบองใหญ่ได้เช่นนี้จะต้องเป็นผู้มีกำลังวังชามหาศาล แต่เตียนอุยนั้นมั่นใจว่าในแผ่นดินนี้ยากที่จะมีผู้ใดมีพละกำลังเทียบเท่าเขาได้ ยิ่งกว่านั้น ผู้ที่ใช้กระบองมักจะต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก ทวนคู่ของเตียนอุยนั้นกล่าวได้ว่าจัดขึ้นทำขึ้นเพื่อเตียนอุยเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงไม่เพียงแต่สามารถแสดงพลังของเตียนอุยออกมาได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ยังทำให้เขาใช้ได้คล่องแคล่วถนัดมือ

ในการต่อสู้กับน่าหยานเมื่อครู่ เตียนอุยใช้กำลังไปเพียงหกส่วนเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถฉีกผ่าร่างของน่าหยานได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นครั้งนี้ เตียนอุยกระทั่งคิดจะสังหารโหลวปานเร็วยิ่งกว่า ให้ชาวอูหวนได้หวาดกลัวจนหัวหด จำนวนทหารอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในสนามรบขนาดใหญ่ได้ก็จริง แต่ชัยชนะในการประลองของแม่ทัพก็สามารถเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับทหารได้มาก ขณะเดียวกันก็เป็นการทำลายขวัญกำลังใจของทัพศัตรู

ชาวอูหวนเองก็ไม่มีข้อยกเว้น พวกเขาเทิดทูนวีรบุรุษ เคารพผู้แข็งแกร่ง กองซุนจ้านสามารถกวาดพิชิตเผ่าอูหวน แม้ว่าชาวอูหวนมากมายจะถูกสังหาร แต่ขณะเดียวกันก็ยังทำให้ชาวอูหวนหวาดกลัว เผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง พวกเขาก็ไม่หลงเหลือความคิดจะล้างแค้น หากว่าทหารม้าที่ฝั่งตรงข้ามถูกแทนที่ด้วยทหารม้าขาว ทหารอูหวนจะต้องไม่ประมาทแน่นอน

เตียนอุยจับจ้องมองโหลวปานที่กำลังควบม้าเข่นฆ่าเข้ามา เขากำลังมองหาช่องโหว่ของศัตรูผู้นี้ ต้องบอกว่าโหลวปานผู้นี้มีฝีมืออยู่บ้าง เขามีพละกำลังมหาศาล แต่ท่วงท่าการเคลื่อนไหวยังแข็งทื่อเกินไป

หลังจากปะทะกันสามกระบวน สีหน้าของเตียนอุยก็ทอแววเหยียดหยัน

เมื่อได้เห็นสีหน้าของเตียนอุย โหลวปานก็ตกตะลึง หลังจากได้ต่อสู้กัน เขาจึงได้เข้าใจพละกำลังของแม่ทัพฮั่นผู้นี้ ในแง่ของพละกำลัง อีกฝ่ายต้องไม่ด้อยกว่าเขาแน่นอน อีกทั้งทวนคู่ของเตียนอุยยังทำให้ยากจะรับมือ

"ย่าห์!" เตียนอุยตวาดพลางใช้ทวนมือขวาปัดกระบองของโหลวปานออกจนเกิดสะเก็ดไฟ จากนั้นจึงใช้ทวนในมือซ้ายพุ่งแทงไปยังลำคอของโหลวปาน

โหลวปานใจหายวาบ ชั่วขณะนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะดึงกระบองกลับมาป้องกัน กำลังที่ถูกส่งผ่านกระบองมาทำให้แขนของเขาชาหนึบ ต่อให้ถอนกระบองกลับมา มันก็คงไม่ช่วยอยู่ดี

สัญชาตญาณการต่อสู้ที่สั่งสมมาหลายปีทำให้โลหวปานเบี่ยงตัวออกขวา

โหลวปานสัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบจากคมทวนที่พุ่งเข้ามา

"อ๊าก!" วินาทีถัดมา เสียงร้องของโลหวปานก็ดังขึ้นจากในสนามรบ ทวนของเตียนอุยพลันเปลี่ยนไปตัดแขนซ้ายของโหลวปานจนขาดออกจากลำตัว ทวนนี้รวดเร็วเสียจนต้องผ่านไปชั่วขณะ โหลวปานจึงจะรู้สึกถึงความเจ็บปวด

หลังจากม้าศึกทั้งสองวิ่งสวนกันไป โหลวปานก็พยายามสะกดกั้นบาดแผลอันรุนแรงที่แขนซ้าย เขารีบใช้เท้ากระทุ้งท้องม้า หนีกลับไปยังทัพอูหวน

เตียนอุยลดทวนคู่ลง พลางกวาดมองทัพอูหวนอย่างเย็นชา

เป๊กตุ้นตกตะลึง แม่ทัพที่ราวกับหอคอยเหล็กผู้นี้ เขาไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาก่อน แต่หนึ่งทวนสามารถสังหารน่าหยาน และอีกหนึ่งตัดแขนซ้ายของนักรบอันดับหนึ่งของชาวอูหวน เมื่อได้เจอกับความแข็งแกร่งถึงขั้นนี้ มีหรือที่เขาจะไม่ตกตะลึง?

ทหารม้าอูหวนพลันเงียบกริบ สายตาทุกคู่จับจ้องมองดูเตียนอุยด้วยความหวาดผวา ไม่ว่าผู้ใดก้ไม่ต้องการพบเจอกับแม่ทัพที่ดุดันเช่นนี้ในสนามรบ

"บุก!" เป๊กตุ้นกัดฟันออกคำสั่ง เขาต้องการจะใช้จำนวนที่มากกว่าในการกดดันทหารม้าเฟยฉี

เพียงแต่ความปรารถนาของเป๊กตุ้นต้องพังทลายลงอย่างรวดเร็ว เดิมทีทหารม้าเฟยฉีคิดว่าทหารม้าอูหวนจะพากันหลบหนี ดังนั้นจึงนึกว่าอดสร้างผลงานเสียแล้ว ลิโป้ยืนดูอยุ่บนเชิงเทิน ดังนั้นทหารม้าเฟยฉีย่อมต้องการแสดงผลงาน เผชิญกับทหารม้าอูหวน พวกเขาก็รู้สึกได้แบบเดียวกับตอนที่เผชิญทหารม้าเซียนเป่ย ไม่รู้สึกดี และไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด

ทวนคู่ในมือเตียนอุยกราดฟันอย่างดุดัน ที่ด้านหลังมีทหารม้าเฟยฉีหนึ่งพันนายติดตามเข่นฆ่ามา

การยิงธนูสามารถสะท้อนความสามารถของทหารม้าได้มากที่สุด และทหารม้าเฟยฉีก็ช่ำชองการขี่ม้ายิงธนูยิ่ง ขณะที่พุ่งโถมเข้าจู่โจม พวกเขาก็ทราบว่าควรจะยิงธนูออกในระยะใด และจะหลบฝนธนูของศัตรูอย่างไร แม้แต่ทหารม้าเซียนเป่ยที่ปกครองทุ่งหญ้ายังเคยพ่ายแพ้ต่อทักษะการยิงธนูของทหารม้าเฟยฉีมาแล้ว ดังนั้นยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงทหารม้าอูหวนที่สู้ไม่ได้แม้แต่กองซุนจ้าน

เป๊กตุ้นมองดูฝนธนูที่ทหารม้าเฟยฉียิงเข้ามาและหลบฝนธนูจากทางฝั่งเขาไปพร้อมกันด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ความสามารถเช่นนี้ เกรงว่าแม้แต่ทหารม้าขาวก็ยังกระทำไม่ได้ เพียงธนูระลอกเดียว ทหารม้าอูหวนก็บาดเจ็บล้มตายอย่างหนัก

หลังจากศึกธนูประลองธนูผ่านไป ถัดมาก็เข้าสู่ส่วนของการต่อสู้ที่แท้จริง นี่ก็คือช่วงเวลาที่ทหารม้าจะแสดงฝีมือแท้จริงออกมา ทหารม้าเฟยฉีมีจำนวนน้อยกว่า เผชิญกับศัตรูที่มีกำลังมากกว่าฝ่ายตนถึงห้าเท่า พวกเขาย่อมต้องระมัดระวังกว่าปกติ ดาบทวนไม่มีตา ในฐานะทหารม้าแล้ว พวกเขาจะต้องหูไวตาไว

ลิโป้ที่ชมดูจากบนกำแพงเมืองพยักหน้าเบาๆ จากการรบพุ่งกับทหารม้าอูหวน เขาก็คล้ายได้เห็นทหารม้าเฟยฉีที่ควบทะยานไปทั้งทุ่งหญ้าอีกครั้ง หลังจากศึกกับเซียนเป่ยครานั้น จำนวนของทหารม้าเฟยฉีก็ลดลงมาก อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้รับมรดกทางจิตวิญญาณของทหารม้ากลับมา ต่อให้เผชิญหน้ากับศัตรูที่มีกำลังมากกว่าหลายเท่า พวกเขาก็ยังกล้าโถมพุ่งออกไป นี่ก็คือความมั่นใจในความแข็งแกร่งของตน

ต่อให้ในอนาคตเจ้าเมืองคนอื่นๆจะค้นพบความลับการคงอยู่ของโกลนม้าและเกือกม้า นั่นก็ไม่ส่งผลสักเท่าใด ในการเผชิญหน้าของทหารม้านั้น สิ่งที่ทหารม้าพึงมีมากที่สุดก็คือจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ กล้าที่จะพุ่งไปข้างหน้าแม้จะเจอกับทางแคบ ทหารม้าที่ไม่เกรงกลัวความตายก็คือทหารม้าที่ไร้เทียมทาน

เตียนอุยควบม้านำหน้าขณะบุกเข้าไปในกระบวนทัพของทหารม้าอูหวน ทหารม้าอูหวนที่พบเห็นเขาต่างพากันชักม้าหลบเลี่ยง การต่อสู้ระหว่างแม่ทัพเมื่อครู่นี้ พวกเขาได้เห็นฝีมือของแม่ทัพฮั่นผู้นี้แล้ว พวกเขาย่อมไม่ต้องการจะต่อสู้กับแม่ทัพที่ดุร้ายเช่นนี้

ที่ด้านหลังของเตียนอุยติดตามมาด้วยทหารม้าเฟยฉีที่บอกต่อทหารม้าอูหวนว่าแบบใดจึงเรียกว่าทหารม้าชั้นยอด

จากบนกำแพงเมือง พวกเขาก็มองเห็นขบวนทัพของเตียนอุยแหวกฝ่าทะลวงทัพม้าอูหวนประดุจกระบี่คมเล่มหนึ่งที่แทงทะลวงเข้าไปอย่างไร้แรงต้าน