"ใต้เท้าเจ้าเมืองเคยได้ยินชื่อของข้าหรือ?" กุยแกถามด้วยถวามสนใจ เขาเพิ่งกราบลาท่านอาจารย์และกำลังจะออกเดินทางท่องเที่ยวไปหลายๆแห่งเพื่อตามหาเจ้านายให้พึ่งพิง หลังจากมาถึงจิ้นหยาง เขาก้สังเกตพบความน่าสนใจของเมืองจิ้นหยาง ดังนั้นจึงลองไปลงชื่อที่โถงรับสมัคร แต่คิดไม่ถึงว่าจะไปดึงดูดความสนใจของลิโป้เข้า
"เฟิ่งเซี่ยวมีชื่อเสียงขจรไกล ข้ารู้สึกเลื่อมใสมานานแล้ว" น้ำเสียงของลิโป้แฝงไว้ด้วยความตื่นเต้น
กุยแกประหลาดใจเล็กน้อย ลิโป้เป็นถึงเจ้าผู้ครองเมือง ควบคุมกำลังทหารจำนวนหลายหมื่นอยู่ในมือ ขณะที่เขาเป็นเพียงคนตัวเล็กๆที่ไร้ชื่อเสียง อาจจะถือว่ามีชื่อเสียงอยู่บ้างในแถบอิ่งชวน แต่เมื่อมาถึงปิ้งโจว ยังจะมีผู้ใดรู้จักเขาอีก?
"ขอบังอาจเรียนถามใต้เท้า ไม่ทราบว่าใต้เท้าได้ยินชื่อของข้าน้อยมาจากผู้ใดหรือ?" กุยแกยังหนุ่ม ดังนั้นย่อมบังเกิดความสนใจขึ้นมาอย่างเสียมิได้
"นี่...." ลิโป้ไม่ทราบจะเริ่มกล่าวจากที่ใด
"หากว่าใต้เท้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรหรอกขอรับ" กุยแกกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"เฟิ่งเซี่ยวเดินทางมาไกลถึงปิ้งโจว ทั้งยังลงชื่อในโถงรับสมัคร ท่านต้องการเป็นขุนนางของปิ้งโจวหรือไม่? ขอเพียงเฟิ่งเซี่ยวตอบตกลง ขุนนางผู้นี้จะมอบตำแหน่งให้ท่านทันที" ลิโป้กล่าวอย่างจริงจัง
ยิ่งเป็นเช่นนี้กุยแกก็ยิ่งมึนงง เกิดอะไรขึ้นกับท่านเจ้าเมืองผู้นี้กัน? แม้กุยแกจะเปี่ยมด้วยปัญญา แต่เขาย่อมคิดไม่ถึงแน่ว่าลิโป้ไม่ใช่คนในยุคนี้
"ใต้เท้า หลังจากที่กราบลาท่านอาจารย์แล้ว ข้าก็ตั้งใจจะท่องเที่ยวไปทั่วหล้า ข้าน้อยรู้สึกว่าเมืองจิ้นหยางมีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างดี โถงรับสมัครนั้นเปิดรับสมัครผู้มีความสามารถทั่วแผ่นดิน ข้าเกิดความสนใจจึงไปชมดู" เมื่อสัมผัสได้ว่าลิโป้ให้ความสนใจ กุยแกก็รู้สึกยินดี แม้ว่าลิโป้จะเป็นเพียงนักรบหยาบกร้านในสายตาชาวโลก กระนั้นความจริงใจของเขาก็ทำให้กุยแกซาบซึ้งใจ
"ประเสริฐมาก เมื่อมีเฟิ่งเซี่ยวคอยช่วยเหลือ ปิ้งโจวก็มีแต่จะแข็งแกร่งขึ้น ฮ่าๆ" ลิโป้หัวเราะด้วยความปลาบปลื้มใจ
"ใต้เท้า ข้าน้อยจะพักอยู่ที่ปิ้งโจวสักระยะ จากนั้นจะออกท่องทั่วหล้า หวังว่านายท่านจะเห็นชอบ" กุยแกกุมมือกล่าว เขาไม่กล้าตกปากรับคำว่าจะรั้งอยู่ที่จนกว่าจะทราบว่าปิ้งโจวเหมาะกับเขาจริงๆ การเลือกนายนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต
"เฟิ่งเซี่ยวจะจากไปงั้นรึ?" ลิโป้ถาม ด้วยความสามารถของกุยแกแล้ว ไม่ว่าไปเข้าร่วมกับเจ้าเมืองคนใดก็จะได้รับการใช้สอยอย่างแน่นอน แน่นอนว่าเขาย่อมไม่เต็มใจจะปล่อยยอดกุนซือผู้นี้ให้หลุดมือไป
"ใต้เท้า ข้าน้อยเพียงเป็นบัณฑิตที่ไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าไก่ กลับได้รับความสนใจจากใต้เท้า" กุยแกรู้สึกซาบซึ้งใจ เขาย่อมมั่นใจในความรู้ความสามารถของตนเอง กระนั้นก็ยังต้องการได้รับการใส่ใจจากผู้อื่น เจ้าเมืองที่มีอำนาจส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับภูมิหลังตระกูล กุยแกเองก้เป็นหนึ่งในบัณฑิตยากไร้ที่ไม่มีโอกาสแสดงฝีมือ
ลิโป้ย่อมไม่สนใจเรื่องเหล่านั้น ความคิดของเขาไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร แต่เขาคิดไม่ถึงว่าประกาศรับสมัครของเขาจะสามารถดึงดูดบัณฑิตจากทั่วทั้งแผ่นดิน แม้ว่าลิโป้จะมีชื่อเสียงไม่ค่อยดีในหมู่เจ้าเมือง กระนั้นประกาศรับสมัครของเขาก็ยังมีแรงดึงดูดใจต่อเหล่าบัณฑิตที่ไม่มีภูมิหลัง
"เฟิ่งเซี่ยวมีความสามารถหยั่งรู้ฟ้าดิน แม้จะนำไปเทียบกับยอดกุนซืออย่างเหวินเหอก็ไม่ด้อยกว่า เมื่ออยู่ในปิ้งโจวจะต้องได้รับการใช้สอยอย่างแน่นอน การได้เฟิ่งเซี่ยวมาทำงานให้นับเป็นบุญวาสนาของปิ้งโจวแล้ว"
"ใต้เท้ากล่าวเกินไปแล้ว ข้าน้อยรู้สึกละอายใจ ไม่กล้ารับคำชมนี้" กุยแกกุมมือกล่าว เขาไม่กล้ารับคำชมนี้ไว้จริงๆ หากเขาต้องการจะรั้งอยู่รับใช้ปิ้งโจว เขาก็ต้องไม่ทำให้คนเก่าคนแก่ของที่นี่คิดว่าเขาเป็นคนเย่อหยิ่ง กุยแกเคยได้ยินชื่อเสียงของกาเซี่ยงมาบ้าง
ลิโป้ย่อมไม่เข้าใจเรื่องราวที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเหล่านี้ กุยแกนับเป็นยอดกุนซือแถวหน้าของแผ่นดิน แม้จะยังหนุ่มแต่ก็มีความรอบรู้ในการพิจารณาเรื่องราวต่างๆ
หลังจากเดินออกจากโรงเตี๊ยมพร้อมกัน ลิโป้ก็อดตื่นเต้นในใจไม่ได้ ค่ำนั้นเขาจดงานเลี้ยงต้อนรับกุยแกขึ้นที่จวนเจ้าเมือง จ้าวหมิงที่ทำหน้าที่รับผิดชอบการลงทะเบียนที่โถงรับสมัครก็พลอยได้รับการเลื่อนขั้นไปด้วย
บ่าวรับใช้จวนเจ้าเมืองจัดที่นั่งของลิซกและกาเซี่ยงไว้ในลำดับแรก เรื่องนี้เป็นที่ยอมรับทั่วกัน ลิซกมีส่วนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาปิ้งโจวมาถึงจุดนี้ เขามีศักดิ์ฐานะที่พิเศษ อีกทั้งเขายังเป็นที่ชื่นชมในหมู่ขุนนางฝ่ายบุ๋น ขณะที่กาเซี่ยงนั้นนำทัพออกเดินทางไปปราบชนเผ่าซยงหนู ด้วยกลอุบายมากมายที่ใช้ออก ทำให้กองทัพปิ้งโจวมีชัยเหนือชนเผ่าซยงหนูอย่างยิ่งใหญ่ ดังนั้นเขาจึงเป็นที่ชื่นชมของเหล่าแม่ทัพบู๊
กุยแกนั้นได้นั่งอยู่ข้างลิโป้ เรื่องนี้ทำให้ทั้งหมดไม่พอใจอยู่บ้าง คนผู้นี้หนุ่มเกินไป คนหนุ่มมักเชื่อใจไม่ได้
กาเซี่ยงซึ่งนั่งอยู่ข้างลิซกไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ยังคงสุขุมเช่นปกติ เขาได้สังเกตชายหนุ่มผู้มาใหม่ และจากการพพิจารณาของเขาแล้ว เขาก็พบว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา
"เฟิ่งเซี่ยวเพิ่งมาถึงปิ้งโจว การเดินทางคงเหน็ดเหนื่อยยิ่ง หลังจากพักผ่อนแล้ว เขาจะรับตำแหน่งขุนนางดูแลความสงของเมืองจิ้นหยาง ควบตำแหน่งที่ปรึกษาของกองทัพปิ้งโจว" ลิโป้ประกาศแต่งตั้งตำแหน่งให้กุยแก
เมื่อได้ยินวาจาประโยคหลัง ทุกคนก็หันไปพูดคุยกันทันที เพิ่งมาถึงปิ้งโจวก็ได้รับตำแหน่งสำคัญขนาดนี้ ดูเหมือนว่าลิโป้จะให้ความสำคัญกับเขามาก แม่ทัพบางคนขมวดคิ้ว หลันเป้งพลันลุกขึ้นกล่าวว่า "ในแง่ฝีมือเชิงยุทธ์ คนผู้นี้อ่อนแอยิ่ง ในแง่ของความสามารถ ข้าน้อยเพียงนับถือท่านกุนซือกาเซี่ยง"
"ถูกแล้ว คนผู้นี้ยังหนุ่มเกินไป จะมีความสามารถสักเท่าใดกัน?"
................
กุยแกยังคงไม่ทุกข์ร้อน ดูเหมือนจะไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อยที่ทุกคนจะมีความเห็นเช่นนี้ เขาหันไปมองลิโป้
ลิโป้กระแอมไอเบาๆ "เฟิ่งเซี่ยวมีความสามารถหยั่งรู้ฟ้าดิน ไม่ขอพูดถึงตำแหน่งโหวหรือตำแหน่งเจ้าเมืองก็แล้วกัน ขุนนางผู้นี้นับถือเฟิ่งเซี่ยวมานานแล้ว ครั้งนี้เฟิ่งเซี่ยวสามารถมาถึงปิ้งโจวได้ ก็นับเป็นวาสนาของปิ้งโจว ขอทุกคนปฏิบัติตามด้วย"
ลิโป้มีบารมีสูงสุดในปิ้งโจว เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มมีโทสะขึ้นมา ทั้งหมดก็ได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ในใจพลางครุ่นคิดว่าจะทำให้กุยแกรู้สึกเสียหน้าได้อย่างไร
"เฟิ่งเซี่ยวเป็นลูกศิษย์ของท่านซินแสแว่นน้ำแห่งอิ่งชวน เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ อาจมีหลายอย่างที่เขาไม่เข้าใจเพราะเพิ่งรับตำแหน่ง ขอเว่ยกงดูแลเขาให้มากๆ"
"ขอรับ" ลิซกลุกขึ้นกุมมือรับคำ
"เหวินเหอ ท่านสามารถปรึกษาหารือเรื่องแผนการเฟิ่งเซี่ยว จะอย่างไรกองทัพปิ้งโจวก็แตกต่างจากกองทัพของเจ้าเมืองอื่นๆ"
"ขอรับ" กาเซี่ยงรับคำอย่างนอบน้อม เขาย่อมเคยได้ยินชื่อเสียงของซินแสแว่นน้ำ
กุยแกสีหน้าแปรเปลี่ยน วาจาเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าลิโป้ชื่นชมเขามาก ลิโป้กระทั่งช่วยพูดกับลิซกและกาเซี่ยงให้กับเขาต่อหน้าธารกำนัล แม้จะยังงุนงงว่าทำไมลิโป้ถึงให้ค่ากับเขาถึงขนาดนี้ แต่เขาก็รู้สึกซาบซึ้งมาก
"ทุกท่านสุภาพไปแล้ว หากว่าผู้แซ่กุยมีความสามารถไม่เพียงพอทำงานสำคัญก็จะจากไปในทันที" กุยแกลุกขึ้นกล่าว
กาเซี่ยงยิ้มพลางกล่าวว่า "ใต้เท้ากุยถ่อมตัวไปแล้ว สามารถขึ้นเป็นที่ปรึกษากองทัพด้วยวัยเพียงเท่านี้ จะต้องอนาคตไร้สิ้นสุดเป็นแน่"
ในใจลิซกรู้สึกไม่พอใจต่อกุยแกอยู่บ้าง คำพูดเมื่อครู่ของกุยแกออกจะอวดอ้างความสามารถเกินไป ดังนั้นเขาจึงแค่นเสียงคำหนึ่งไม่กล่าวอะไร
"ขอบคุณใต้เท้าที่ให้ความสำคัญ ข้าน้อยจะทุ่มเทกำลังความสามารถเพื่อช่วยงานใต้เท้าอย่างเต็มที่" กุยแกค้อมคำนับให้ลิโป้
กาเซี่ยงสีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย กล่าวกันว่าคนหนุ่มมักจะหุนหันพลันแล่น เมื่อได้รับความสำคัญถึงขนาดนี้ แน่นอนว่าจะต้อมคำนับอีกฝ่ายเป็นนายท่าน แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่ากุยแกจะไม่ได้ยึดถือลิโป้เป็นนาย ช่างน่าสนใจจริงๆ ไม่ว่าคนผู้นี้จะมีความสามารถจริงหรือไม่ ทว่าตำแหน่งทางการเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอจะสร้างความประทับใจให้กับเขา
กาเซี่ยงในฐานะที่ดูแลหน่วยข่าวกรองของปิ้งโจว เขาลอบจดจำชื่อกุยแกไว้ในใจ สถานการณ์ของปิ้งโจวในปัจจุบันต้องรอบคอบกว่าเจ้าเมืองอื่นหลายเท่า ลิโป้เป็นนายทหารที่ไม่มีภูมิหลังตระกูล แต่กาเซี่ยงสามารถมองเห็นความจริงใจที่เขามีต่อประชาชน หากปิ้งโจวพัฒนาต่อไปภายใต้วิสัยทัศน์ของลิโป้ มันจะต้องเปลี่ยนรูปแบบของยุคสมัยและประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างแน่นอน
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved