ตอนที่ 76 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

"นายท่าน กาเซียนเซิง" ลิซกกุมมือคารวะลิโป้และกาเซี่ยง เขาเลื่อมใสในความสามารถของกาเซี่ยงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นจึงคารวะโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ

"ใต้เท้าลิ" กาเซี่ยงรีบกุมมือคารวะตอบ เขาเพิ่งเข้าร่วมกับปิ้งโจว ย่อมต้องสร้างความรู้สึกที่ดีต่อคนเก่าคนแก่ของปิ้งโจวไว้

"นายท่าน ได้ยินว่าท่านได้รับบาดเจ็บ ให้หมอรักษาตรวจดูอาการก่อนเถอะขอรับ" ลิซกกล่าวอย่างห่วงใย

"ไม่เป็นไร แค่บาดแผลเล็กน้อย" ลิโป้โบกมือ

"เว่ยกง เกิดอะไรขึ้นในซีเหอ?" ลิโป้ถามด้วยสีหน้าจริงจัง หลังได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นในซีเหอ ลิโป้ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะท่องเที่ยวระหว่างทางอีก เร่งล่วงหน้ากลับมาพร้อมกับกาเซี่ยงก่อน

เมื่อพูดถึงเมืองซีเหอ ลิซกก็มีสีหน้าเคร่งเครียด

"เรียนนายท่าน สถานการณ์ในเมืองซีเหอค่อนข้างซับซ้อน ก่อนหน้านี้ขุนนางดูแลพื้นที่ซยงหนูจางซิวเพิกเฉยต่อจวนเจ้าเมืองของพวกเรามาตลอด แต่ด้วยเหตุใดก็ไม่อาจทราบ เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ จู่ๆชนเผ่าซยงหนูก็ยกพลไปปิดล้อมเมืองเหม่ยจีกับเมืองก่วงเหยี่ยนเอาไว้ นายอำเภอของทั้งสองเมืองเห็นว่าพวกซยงหนูมีกำลังเข้มแข็งยากต้านทาน ดังนั้นจึงทิ้งเมืองหลบหนี จากข่าวที่ม้าส่งเร็งมา หลังจากพวกซยงหนูเข้าเมืองไปแล้วก็เกิดการปล้นฆ่าอย่างหนัก แม้เหล่าผู้นำชนเผ่าจะพยายามห้ามปรามแล้ว แต่ก็ยังมีราษฏรชาวฮั่นบาดเจ็บล้มตายหลายพันคน ขุนนางดูแลพื้นที่จางซิวก็หลบหนีออกมาเพราะทราบว่าชนเผ่าซยงหนูโกรธแค้นเขามาก" ลิซกกล่าวรายงานสถานการณ์โดยละเอียด

ลิโป้สีหน้ามืดครึ้ม ชนเผ่าซยงหนูนับเป็นปัจจัยที่สร้างความไม่มั่นคงให้ปิ้งโจว แต่เขาก็ยังคิดไม่ถึงว่าจู่ๆอีกฝ่ายจะชูธงลุกฮือเช่นนี้

"นายท่าน เรื่องนี้คล้ายมีเลศนัย" กาเซี่ยงกล่าวขึ้นเนิบๆ

"โอ้ เหวินเหอเชิญกล่าว" ลิโป้หันมามองกาเซี่ยงด้วยความสนใจ

"นายท่าน ชนเผ่าซยงหนูอยู่ภายใต้การคุ้มครองของต้าฮั่นมาโดยตลอด ผู้ที่รับผิดชอบดูแลพวกเขาก็คือจางซิว หากไม่มีคำสั่งจากระดับผู้นำ มีหรือที่จู่ๆพวกเขาจะเข้าตีเมือง? อีกทั้งก่อนหน้านี้ชนเผ่าซยงหนูยังมีความขัดแย้งภายใน ไฉนจู่ๆพวกเขาจึงหยุดแก่งแย่งแล้วหันมาร่วมมือกัน? ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นแผนอุายของใครสักคน บางทีอาจจะเป็นตั๋งโต๊ะ หรือบางทีอาจจะเป็นบรรดาเจ้าเมืองจากภาคกลาง" กาเซี่ยงวิเคราะห์แจกแจง

ลิโป้ตาเป็นประกาย เขาพยักหน้าก่อนจะกล่าวว่า "โจรเฒ่าตั๋งโต๊ะน่าสงสัยที่สุด แต่อ้วนสุดซึ่งอยู่ที่หวยหนานนับว่ามีข้อบาดหมางกับข้าที่สุด เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นฝีมือเขา?"

"ไม่ใช่" กาเซี่ยงส่ายหน้า "อ้วนกงลู่เวลานี้แม้แต่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด แม้ว่าเขาจะมีข้อบาดหมางกับนายท่าน แต่เมื่อถูกนายท่านเอาชนะไปได้ เขาก็คงไม่คิดมาตอแยปิ้งโจวอีกพักใหญ่ จากความเห็นของข้าน้อยแล้ว บางทีอาจจะเป็นฝึมือของอ้วนเปิ่นซู่แห่งกิจิ๋ว"

น้ำเสียงที่มั่นใจของกาเซี่ยงทำให้ลิโป้รู้สึกหนักใจ "เหวินเหอ ชนเผ่าซยงหนูจะเชื่อฟังอ้วนเสี้ยวได้อย่างไร?"

"นายท่าน ตระกูลของอ้วนเสี้ยวเป็นขุนนางใหญ่มาสามชั่วอายุคน มีชื่อเสียงขจรขจายทั่วหล้า อีกทั้งอ้วนเสี้ยวยังเป็นผู้นำแห่งพันธมิตรกวนตง ขณะที่ภายในชนเผ่าซยงหนูเกิดความขัดแย้งภายใน พวกเขาย่อมต้องมองหาการสนับสนุนจากราชสำนัก ซึ่งช่วงเวลานั้นตั๋งโต๊ะที่กุมอำนาจของราชสำนักกำลังรับมือกับกองทัพพันธมิตรอยู่ เวลานี้อำนาจราชสำนักกำลังเสื่อมโทรม เป็นไปได้มากว่าชนเผ่าซยงหนูจะเบนเข็มไปเข้าหาอ้วนเสี้ยวซึ่งเป็นผู้นำกองทัพพันธมิตรแทน" จากนั้นจึงกล่าวต่ออีกว่า "อีกทั้งนายท่านยังเคยส่งกำลังไปช่วยเหลือกองซุนจ้านโดยการรุกรานกิจิ๋ว แน่นอนว่าอ้วนเสี้ยวย่อมต้องเคียดแค้นท่าน"

หลังได้ฟังคำอธิบายของกาเซี่ยง ลิซกก็พลันเข้าใจเรื่องราว เขากุมมือกล่าวว่า "ท่านกาเปี่ยมด้วยความสามารถ ข้าน้อยเลื่อมใสนัก"

กาเซี่ยงกุมมือคารวะตอบ "ใต้เท้าลิเพียงไม่ทันคิดถึงเรื่องนี้เพราะมีธุระต้องจัดการมากมาย ข้าไม่กล้ารับคำชม" กาเซี่ยงย่อมมีวิธีรับมือกับเรื่องราวต่างๆ และเขาก็ไม่ต้องการล่วงเกินผู้ใด ต่อให้คนผู้นั้นจะมีปัญญาไม่เท่าเขาก็ตาม

"เหวินเหอไม่ต้องถ่อมตัวไป ขอเหวินเหอโปรดชี้แนะข้าด้วย" ลิโป้กุมหมัดค้อมตัวให้กาเซี่ยง

"เป็นหน้าที่ของข้าน้อยที่จะแบ่งเบาภาระของนายท่าน นายท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้" กาเซี่ยงหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย เขารีบค้อมคำนับกลับ

หลังจากนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง กาเซี่ยงก็กล่าวขึ้นว่า "ในตอนนี้ จำเป็นจะต้องทำให้ปิ้งโจวมั่นคงและปลอบโยนชนเผ่าซยงหนู มิเช่นนั้นใจคนจะไม่มั่นคง หากนายท่านสามารถระงับการลุกฮือของชนเผ่าซยงหนูได้ บารมีของนายท่านในปิ้งโจวก็จะสูงขึ้นดุจทะยานฟ้า เมื่อออกคำสั่งอีกครั้ง ยังมีผู้ใดไม่กล้าชานรับ? นี่เป็นโอกาสที่นายท่านจะควบคุมปิ้งโจวได้อย่างเบ็ดเสร็จ หากมีขุนนางหรือกลุ่มอำนาจท้องถิ่นไม่พอใจ พวกเขาก็ต้องชั่งน้ำหนักอำนาจในมือของนายท่านให้ดี"

"บัดนนี้นายท่านเป็นเจ้าเมืองแห่งปิ้งโจวอยู่แล้ว" ลิซกกล่าวเตือน

"เว่ยกง เหวินเหอหมายถึงการควบคุมปิ้งโจวได้ทั้งหมดจริงๆ" ลิโป้กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง นี่ก็คือสิ่งที่ลิโป้ต้องการมาตลอด เพียงแต่ในมือของเขามีกำลังทหารไม่พอที่จะสั่งการบรรดาขุนนางในพื้นที่อื่นๆของปิ้งโจว แม้แต่อำเภอเล็กๆอย่างติ้งเซียงยังกล้าส่งกำลังมาลอบโจมตีเมืองจิ้นหยาง จะเห็นได้ว่าอำนาจบารมีของเขาในปิ้งโจวนั้นยังมีไม่พอ

"ระหว่างทางมาจิ้นหยาง จากการสนทนากับนายท่าน ข้าน้อยก็พอเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆของปิ้งโจว จากเก้าอำเภอของปิ้งโจว มีเพียงสามอำเภอคือไท่หยวน จิ่วหยวน และเสียงต๋งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนายท่าน ส่วนอีกหกอำเภอที่เหลือยังคงตั้งตัวเป็นอิสระ ไม่ยอมรับคำสั่ง เยี่ยนเหมินเป็นเมืองหน้าด่านติดชายแดน บ่อยครั้งมักจะเกิดการสู้รบขึ้นที่นี่ ต่อให้นายท่านส่งแม่ทัพไปเฝ้าด่าน แต่ก็ยังยากจะควบคุมกำลังทหารซึ่งประจำการอยู่ที่นั่น" กาเซี่ยงวิเคราะห์

"หากว่านายท่านส่งกำลังทหารไปที่ซีเหอเพื่อปราบปรามและปลอบโยนชาวซยงหนู นั่นก็อาจจะไม่ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ของปิ้งโจวสักเท่าใด ชาวซยงหนูขึ้นชื่อเรื่องความกล้าหาญและชำนาญในการสู้รบ ฝึกฝนทักษะขี่ม้ายิงธนูมาตั้งแต่เด็ก สามารถหยิบดาบขึ้นม้าเป็นทหารได้ทุกเมื่อ"

ลิโป้พยักหน้าตาม ตอนนี้เขานับว่าเข้าใใจความสำคัญของการมีกุนซืออย่างถ่องแท้แล้ว ด้วยการวางแผนของกาเซี่ยง คิดจะควบคุมทั้งปิ้งโจวก็ไม่ยากแล้ว

"สั่งให้หน่วยข่าวกรองรวบรวมข่าวสารของเมืองซีเหอด้วยกำลังทั้งหมดที่มี หากมีสถานการณ์ใดให้รายงานต่อเหวินเหอทันที อย่าให้เกิดข้อผิดพลาด!" ลิโป้สั่งการ

"ขอรับ" ลิซกกุมมือรับคำ แม้นี่จะเป็นการลดทอนอำนาจของเขาไปบ้าง เขาก็เต็มใจ

"เหวินเหอ นับจากนี้ไปข้าขอแต่งตั้งให้ท่านเป็นกุนซือแห่งกองทัพปิ้งโจว มีอำนาจดูแลหน่วยข่าวกรองแห่งปิ้งโจว หากมีสถานการณ์ใดเกิดขึ้น สามารถประหารก่อน รายงานทีหลัง" ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลิโป้ไว้วางใจและประเมินกาเซี่ยงสูงเพียงใด

"ขอบคุณสำหรับความไว้วางใจของนายท่าน ข้าน้อยจะพยายามสุดความสามารถเพื่อรับใช้นายท่าน" กาเซี่ยงไม่ได้ปฏิเสธ แต่โค้งคำนับด้วยความยินดี จะไม่ให้เขาตื่นเต้นยินดีได้อย่างไร? เขาเพิ่งมาถึงปิ้งโจวได้ไม่ทันไร ลิโป้ก็ให้ความสำคัญกับเขาถึงเพียงนี้แล้ว

ลิซกคิดขึ้นในใจอย่างตกตะลึง 'ดูเหมือนภายหน้าจะต้องคบหากับกาเซี่ยงไว้ให้มากๆเสียแล้ว เป็นกุนซือแห่งกองทัพ ทั้งยังมีอำนาจประหารก่อนค่อยรายงาน ภายหน้าต้องมีบทบาทสำคัญเป็นแน่' ลิซกมั่นใจว่า ด้วยความสามารถของกาเซี่ยงแล้ว ฐานะของกาเซี่ยงในปิ้งโจวมีแต่จะสูงขึ้น ตราบที่เขาคบหาและเรียนรู้จากกาเซี่ยงเอาไว้ นี่มีแต่ประโยชน์ ไม่มีอันตราย

"ถ่ายทอดคำสั่งไปยังค่ายทหารม้าหน่วยเฟยฉีที่อยู่นอกเมือง ให้พวกเขาเตรียมตัวให้พร้อม และให้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองไส้ศึกที่จะเข้าเมือง" ลิโป้ออกคำสั่ง

"ขอรับ" กาเซี่ยงและลิซกกล่าวรับคำ

ทหารใหม่ของปิ้งโจวเวลานี้มีมากกว่าสองหมื่นสองพันคน หลังจากคัดออกอย่างต่อเนื่อง ทหารเดิมที่เคยมีจำนวนสามหมื่นคนก็ถูกลดลงเหลือประมาณแปดพันคน นับเป็นเรื่องที่ไม่เคยปรากฏขึ้นในกองทัพอื่น สำหรับเจ้าเมืองคนอื่นๆนั้น ยิ่งมีทหารมากก็ยิ่งดี จะมาคัดออกเพื่ออะไร? ยิ่งกว่านั้นทหารที่เหลืออยู่ทั้งยังหนุ่มแน่นและแข็งแรง ฝึกฝนเพียงเล็กน้อยก็สามารถกลายเป็นกองทัพชั้นยอดได้

ระบบการคัดออกทำให้เหล่าทหารฝึกฝนด้วยความมุ่งมั่น ไม่ว่าใครก็ไม่อยากถูกคัดออก แม้จะต้องพากเพียรอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ยังสามารถอดทนไหว

ทั้งหมดเป็นทหารหนุ่มและกำยำเหมือนกัน ย่อมไม่ต้องการจะด้อยกว่าคนอื่นๆ ยิ่งกว่านั้นหลังจากถูกคัดออกไปแล้ว พวกเขาจะมีหน้ากลับไปอธิบายต่อเหล่าผู้อาวุโสในหมู่บ้านได้อย่างไร?

กระทั่งกาเซี่ยงที่เพิ่งเข้าเมืองจิ้นหยาง เมื่อเห็นความกระตือรือร้นของกองทัพปิ้งโจว เขาก็ทราบได้ว่ากองทัพปิ้งโจวเป็นกองทัพชั้นยอด กระนั้นเขาก็ยังคิดไม่ถึงว่าพวกทหารจะมีขวัญกำลังใจสูงถึงเพียงนี้ มองดูการเคลื่อนไหวของทหารแต่ละคน แม้จะเพิ่งเข้ากองทัพมา แต่พวกเขาก็มีแววของยอดทหาร กาเซี่ยงอดลอบพยักหน้าเบาๆไม่ได้ หากนำทหารเหล่านี้ออกทำศึกสักหลายครั้ง พวกเขาแน่นอนว่าจะต้องกลายเป็นมือดีในหมู่มือดี