ตอนที่ 213 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

"ฮึ่ม แล้วอย่างไร?"

กุยแกยิ้มก่อนจะกล่าวว่า "ด้วยปัญญาของใต้เท้าเตียนแล้ว มีหรือที่จะมองเจตนาของใต้เท้าอ้วนไม่ออก? เกรงว่าเขาคงคิดอาศัยภารกิจการทูตในครั้งนี้ ยืมมือทัพปิ้งโจวเรากำจัดใต้เท้าเตียนแล้ว"

"เหลวไหล" เตียนห้องหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย เขากล่าวขึ้นด้วยความโกรธทันที

"ข้าเองก็มองเช่นกัน" ลิโป้กล่าว "ใต้เท้าเตียนเดินทางมาไกล ข้าจะจัดงานเลี้ยงขึ้นในค่าย ให้ใต้เท้าเตียนได้ลิ้มลองสุราดีของปิ้งโจวสักครา"

เตียนห้องกุมมือกล่าวว่า "ข้าน้อยน้อมรับด้วยความยินดี"

ลิโป้พูดไม่ออก เขาคิดว่าด้วยลักษณะนิสัยของเตียนห้องแล้ว อีกฝ่ายจะสะบัดหน้าจากไปทันที มิคาด อีกฝ่ายกลับรั้งอยู่เสียอย่างนั้น

"ท่านนี้คงเป็นท่านกุยแก ใต้เท้ากุยกระมัง? ใต้เท้ากุยมีส่วนช่วยในการปราบพวกเซียนเป่ย ข้าน้อยนับถือเลื่อมใสนัก" เตียนห้องหันมากล่าวกับกุยแก แม้จะอยู่คนละฝ่าย แต่เตียนห้องก็นิยมเลื่อมใสกุยแกมาก เป็นบัณฑิตแต่มีความกล้าเข้าสู่สนามรบและทำให้ชาวเซียนเป่ยรู้สึกยำเกรงได้ ขุนนางบุ๋นเช่นนี้นับว่ายากจะพบพานในแผ่นดิน แม้แต่การคาดเกาเมื่อครู่ของกุยแกก็ยังใกล้เคียงกับความเป็นจริงยิ่ง

"ใต้เท้าเตียนกล่าวยกย่องข้าน้อยเกินไปแล้ว" กุยแกกล่าวตอบ

ในยามปกติ กองทัพปิ้งโจวมีกฏห้ามดื่มสุราโดยเด็ดขาด ต่อให้มีงานเลี้ยงฉลอง ก็เพียงดื่มพอเป็นพิธีเท่านั้น

หลังออกจากค่าย ลิโป้ก็พาเตียนห้องไปเยี่ยมชมทัพปิ้งโจว

เตียนห้องมีความสนใจใคร่รู้เกี่ยวกับทัพปิ้งโจวจริงๆ หลังจากได้ลักษณะท่าทางของของทหารทัพปิ้งโจวแล้ว เตียนห้องก็เกิดความประหลาดใจขึ้นมา จากสีหน้าท่าทางของพวกทหาร เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความฮึกเหิม ตอนที่เขาอยู่ในทัพกิจิ๋ว เขาเพียงเคยเห็นสีหน้าท่าทางเช่นนี้จากทหารหน่วยเซียนเติงเท่านั้น

เตียนห้องเคยคิดมาตลอดว่ากองทัพของเจ้าเมืองต่างๆก็คงจะเหมือนกัน พวกทหารมักขยาดสนามรบ หากแต่กองทัพปิ้งโจวได้ล้มล้างความคิดเดิมของเขาทิ้งไป

แววตาของพวกทหารที่เบื้องหน้าของเขาไร้ซึ่งความกลัวโดยสิ้นเชิง ตอนนี้เอง เตียนห้องก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าการที่ใช้เรื่องสงครามมาขู่ปิ้งโจวนั้นน่าหัวร่อเพียงใด หากว่ากองทัพปิ้งโจวเป็นเช่นนี้ เมื่อเกิดศึกสงครามระหว่างปิ้งโจวและกิจิ๋วขึ้นมา กองทัพกิจิ๋วก็คงไม่อาจมีเปรียบแต่อย่างใด

เมื่อได้เห็นแบบนี้แล้ว เตียนห้องก็คิดว่ากองซุนจ้านแห่งอิวจิ๋วนั้นกลายเป็นศัตรูที่อ่อนแอไปเลย ไม่ว่าจะอย่างไร ลิโป้ก็ครอบครองปิ้งโจว เป็นผู้ปกครองหนึ่งมณฑลที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม กองซุนจ้านนั้นเคยปกครองแค่เมืองปักเป๋งเท่านั้น ต่อให้กองทัพของเขาจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีขีดจำกัด แล้วมีหรือที่หนึ่งเมืองจะนำมาเทียบกับหนึ่งมณฑลได้? เล่าหงีไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากองทัพ ดังนั้นกองซุนจ้านจึงสามารถฉฏฉวยโอกาสได้ แน่นอนว่าที่เขาต้องจ่ายออกไปก็มีไม่น้อยเช่นกัน หลังจากที่บรรดาเจ้าเมืองในแผ่นดินมีตอบสนองต่อเรื่องนี้ กองซุนจ้านก็จะไม่มีจุดจบที่ดีแน่นอน

ถึงอย่างไรเล่าหงีก็เป็นผู้ที่โจโฉและอ้วนเสี้ยวเสนอชื่อให้เป็นผุ้สืบทอดราชบัลลังก์ แต่กองซุนจ้านกลับสั่งประหารเขา เรื่องนี้เขาจะต้องมีคำอธิบาย

ลิโป้ไม่ทราบว่าเตียนห้องกำลังครุ่นคิดเรื่องราวต่างๆมากมาย เขายังคงเอ่ยแนะนำทัพปิ้งโจวต่อเตียนห้อง

"ใต้เท้าเตียน ทหารม้าทั้งสามพันคนนี้ก้คือทหารม้าเฟยฉีที่เคยติดตามข้าไปโจมตีชนเผ่าเซียนเป่ย สร้างความหวาดกลัวและมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทุ่งหญ้า ทำให้ทุกคราที่พบเห็นธงรูปเหยี่ยวบิน ชาวเซียนเป่ยก็จะหลบลี้หนีหน้าไปทันที" ลิโป้ชี้ไปยังทหารม้าที่อยู่ไม่ไกลพลางเอ่ยอธิบาย

ทหารม้าเฟยฉีคือคือกองทหารชั้นยอดของทัพปิ้งโจว เป็นตัวแทนของพลังรบที่แข็งแกร่งที่สุดของปิ้งโจว

สำหรับทหารม้านั้น เตียนห้องไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ต้องทราบว่าทัพกิจิ๋วบุกอิวจิ๋วครั้งนี้ พวกเขาจักเตรียมวิธีการรับมือกับทหารม้ามาด้วย ทหารเซียนเติงแปดร้อยนายคือหน่วยทหารที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการกับทหารม้าโดยเฉพาะ เตียนห้องเคยเห็นการฝึกฝนของทหารหน่วยเซียนเติงมาแล้ว นับว่าร้ายกาจมาก ผู้ที่จะเข้าหน่วยนี้ได้ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง ลองจินตนาการถึงทหารราบที่ต้องเผชิญกับทัพม้าที่พุ่งโถมเข้ามา ส่วนใหญ่แล้วปฏิกิริยาแรกสุดต้องเป็นการหลบหนีแน่นอน ทว่าทหารหน่วยเซียนเติงนั้นไม่กลัวต่อเรื่องนี้

ทหารหน่วยเซียนเติงทั้งหมดสวมใส่เกราะหนักทั้งตัว มือถือหอกยาว หลังสะพายหน้าไม้แกร่ง ดาบและหอกของพวกทหารม้าจึงยากจะทำอันตรายพวกเขาได้ เกราะที่พวกเขาสวมใส่เป็นเกราะชั้นดี และหน้าไม้ของพวกเขาก็จัดสร้างขึ้นมาเพื่อยิงสังหารทหารม้าโดยเฉพาะ

"ท่าทางสมกับเป็นทหารชั้นยอด!" เตียนห้องกล่าวชื่นชม

"ใต้เท้าเตียน ข้าได้ยินว่าแม่ทัพงันเหลียงนำทัพม้าสามพันบุกเข้าอิวจิ๋วก่อนจะพ่ายแพ้ต่อทหารม้าขาวหนึ่งพันของจูล่ง" กุยแกถามขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นสีหน้าของเตียนห้อง

เตียนห้องหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย "แม่ทัพงันเหลียงเพียงประมาทไปชั่วครั้งชั่วคราว มิเช่นนั้นทหารม้าหนึ่งพันของอิวจิ๋วคงไม่ใช่คู่ต่อสู้"

ลิโป้ยิ้มก่อนจะกล่าวว่า "แม่ทัพงันเหลียงห้าวหาญและเก่งกาจ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแผ่นดิน มีหรือที่ทหารม้าขาวจะเทียบเปรียบได้?"

เตียนห้องหน้าแดงเล็กน้อย เขาไม่กล้าเอ่ยคำพูดอื่นอีก งันเหลียงและลิโป้เคยประลองฝีมือกัน จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของงันเหลียงในการปะทะเพียงสองกระบวน ทั่วทั้งทัพกิจิ๋วล้วนโจษจันถึงเรื่องนี้

"ครึ่งหนึ่งเป็นทหารที่เคยมีประสบการณ์ในการทำศึกกับเผ่าเซียนเป่ย อีกครึ่งเพิ่งรับสมัครเข้ามา" ลิโป้กล่าว

เตียนห้องไม่เข้าใจว่าไฉนลิโป้จึงอธิบายลงลึกถึงรายละเอียดเช่นนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าต้องการทำให้อ้วนเสี้ยวรู้สึกอิจฉาหลังจากได้เห็นความแข็งแกร่งของทัพปิ้งโจว ครึ่งหนึ่งเพิ่งรับสมัครเข้ามา ซึ่งหมายความว่าเมื่อเกิดการต่อสู้ เป็นไปได้มากว่าคนเหล่านี้จะหนีไปกลางคัน

คืนนั้น ลิโป้จัดงานเลี้ยงต้อนรับเตียนห้อง และแน่นอนว่าเตียนห้องย่อมได้ดื่มสุราจิ้นอันขึ้นชื่อของปิ้งโจว

ภายในงานเลี้ยง เตียนห้องเอ่ยชมสุราจิ้นไม่ขาดปาก

กิจิ๋วและปิ้งโจวไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน พวกเขากระทั่งปฏิเสธสิ่งของต่างๆที่ผลิตขึ้นในปิ้งโจว แน่นอน นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของอ้วนเสี้ยวเพียงผู้เดียว สุราจิ้นสร้างผลกำไรมหาศาล และเพื่อที่จะหากำไรเข้าตัว ในกิจิ๋วจึงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ลักลอบขายสุราจิ้น เพียงแต่ในญานะขุนนางของกิจิ๋ว เตียนห้องก็ต้องทำตัวให้เป็นเยี่ยงอย่าง ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงแม่ทัพขุนนางคนอื่นๆ มิเช่นนั้นหากว่าซื้อสุราที่ผลิตขึ้นในปิ้งโจวมาดื่ม เขาฮิวก็จะใช้โอกาสนี้กล่าวว่าร้ายต่อหน้าอ้วนเสี้ยว นั่นจะเลวร้ายอย่างยิ่ง

งานเลี้ยงดำเนินต่อไป เตียนห้องทราบว่าสุรานี้ง่ายที่จะทำให้มึนเมา ดังนั้นจึงไม่ได้ดื่มเข้าไปมากนัก เพียงลองลิ้มชิมรส เขามาที่ค่ายทัพปิ้งโจวในฐานะทูต หากว่าเขาร่ำสุราจนเมามาย เกรงว่าคงจะกลายเป็นที่หัวเราะเยาะกันทั่ว

หลังจากทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว ลิโป้ก้รั้งเตียนห้องและกุยแกให้อยู่ก่อน

กุยแกดูเหมือนจะคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ ด้วยความชื่นชมที่มีต่อเตียนห้อง ลิโป้จะต้องลองพยายามชักชวนเตียนห้องอย่างแน่นอน

"ที่นี่ไม่มีคนนอก ดังนั้นข้าจะเรียกท่านว่าหยวนเฮ่าก็แล้วกัน" ลิโป้หยุดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า "หยวนเฮ่า แม้ว่าอ้วนเสี้ยวจะมาจะตระกูลสูงศักดิ์ แต่เขาก็ไม่ใช่เจ้านายที่ดี อยู่ที่กิจิ๋ว หยวนเฮ่าก็ถูกกีดกันไม่น้อย ใต้หล้านี้มีคนจำนวนมาก ที่แม้มีความรู้ความสามารถก็ไม่ได้รับการใช้สอย เมื่อข้าได้ยินเรื่องราวของท่าน ข้าก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ข้ามักคิดอยู่เสมอว่า หากปิ้งโจวมีผู้มีความสามารถเช่นนี้ มีหรือที่จะไม่ยิ่งใหญ่"

เตียนห้องคาดคิดไม่ถึงว่าลิโป้จะกล่าวออกมาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ บัณฑิตให้ความสำคัญกับความภักดีต่อเจ้านาย ในเมื่อเขาเลือกรับใช้อ้วนเสี้ยวแล้ว เตียนห้องจึงไม่เคยคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนนาย ด้วยฐานะของลิโป้แล้ว เขาย่อมทราบถึงเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น ไฉนลิโป้จึงกล่าวคำพูดเหล่านี้ออกมา?

"ใต้เท้า ข้าน้อยเพียงเป็นบัณฑิตที่ไร้ชื่อเสียง แต่โชคดีที่ได้รับความชื่นชมจากใต้เท้าอ้วน ดังนั้นข้าน้อยจึงไม่กล้าทำผิดต่อเจ้านายของตน" เตียนห้องตอบ

"หยวนเฮ่ายังไม่ต้องรีบปฏิเสธเช่นนี้ หากท่านรู้สึกว่าหมดหวังกับกิจิ๋วแล้ว ท่านสามารถที่ปิ้งโจวได้ทุกเมื่อ ข้าจะรอต้อนรับท่านเสมอ หากว่าหยวนเฮ่ามาที่ปิ้งโจว จะต้องได้รับการใช้สอยอย่างแน่นอน"

"เช่นนั้นต้องขอบคุณใต้เท้าแล้ว" เตียนห้องกุมมือคารวะ ในใจรู้สึกซาบซึ้ง จากคำพูดของลิโป้ เขาก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจ เพียงแต่เขาได้เลือกเส้นทางของตัวเองแล้ว แม้ว่าจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่เขาก็ยังจะมุ่งหน้าไปต่อ และทำได้เพียงเก็บความชื่นชมของลิโป้เอาไว้ในใจ