"เชี่ยเซินเป็นคนของตระกูลเว่ยแห่งเหอตง มาฉางอันเพื่อตามหาท่านซัวหยงผู้เป็นบิดา ขอบคุณผู้กล้าที่ช่วยชีวิต" น้ำเสียงของนางเรียบเฉย ไม่ถ่อมตนเกินไปและไม่หยาบกระด้างเกินไป
"ซัวหยง? หรือจะเป็นตระกูลซัวอันเลื่องชื่อ?" ลิโป้กล่าวด้วยความตื่นเต้น คิดไม่ถึงว่าจะมีโอกาสได้พบกับบุตรีของซัวหยงก่อนจะไปถึงฉางอันเสียอีก นับเป็นการเริ่มต้นที่ดี แม้จะพาตัวเข้าไปเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ตราบที่สามารถเชิญคนผู้นี้กลับกลับไปที่ปิ้งโจวได้ เขาก็ไม่กลัวว่าปิ้งโจวจะขาดแคลนขุนนางบุ๋นแล้ว
"ค่ะ" หญิงสาวผู้สง่างามตอบ ในดวงตายังทอแววยินดี
"ได้ยินชื่อเสียงมานาน ท่านคือซัวเอี๋ยมใช่หรือไม่?" ลิโป้ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอันมั่นใจ
"ท่านทราบได้อย่างไร?" ซัวเอี๋ยมตกตะลึง
การสื่อสารในยุคโบราณนั้นย่ำแย่ยิ่ง ดังนั้นสตรีที่แทบไม่เคยก้าวเท้าออกจากบ้านจึงมักไม่เป็นที่รู้จัก นอกจากคนที่ใกล้ชิดด้วยแล้ว จึงมีน้อยคนที่จะรู้จักพวกนาง
"เหอๆ เพียงโชคดีเดาถูกเท่านั้น" ลิโป้หัวเราะกลบเกลื่อน
"เฉียวจ้วงซื่อ[1] เมื่อท่านเองก็ต้องการเดินทางไปยังฉางอันเช่นเดียวกัน เช่นนั้นทั้งหมดร่วมทางกันจะดีกว่า จะได้ดูแลซึ่งกันและกันได้" ซัวเอี๋ยมปล่อยวางไม่ซักไซ้เรื่องที่ลิโป้ทราบชื่อของนาง เพียงกล่าวเชื้อเชิญ
[1 จ้วงซื่อ ผู้กล้า]
"ตกลง" ลิโป้ตกปากรับคำ ลืมเลือนความไม่พอใจกับการแสดงออกของเว่ยหลินอย่างไปรวดเร็ว
"ฮูหยิน ไหนๆวันนี้ฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ทั้งยังมีพวกโจร มิสู้คืนนี้พวกเราพักค้างแรมบนภูเขากันก่อน" ลิโป้เสนอแนะ
"ค่ะ" หญิงสาวนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า
"เอาล่ะ รังของเจ้าอยู่ที่ไหน? รีบพ่นออกมา" เตียนอุยเค้นถามอย่างดุร้าย
หัวหน้าใหญ่ที่ตัวสั่นเทารีบชี้บอกเส้นทางเพราะกลัวว่าถ้าทำให้เตียนอุยไม่พอใจจะต้องถูกทุบตีอีก
ขบวนรถม้าออกเคลื่อนตัว พวกผู้คุ้มกันมองรอบข้างอย่างระแวดระวัง จากที่เคยมีกันห้าสิบคน บัดนี้เหลือผู้คุ้มกันเพียงยี่สิบคนเท่านั้น มิหนำซ้ำกว่าครึ่งยังได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นคนที่เหลือจึงตื่นตัวกว่าปกติ
"คุณชาย ท่านคงไม่ได้ตกหลุมรักหญิงสาวผู้นั้นเข้าแล้วใช่ไหมขอรับ?" เตียนอุยโน้มตัวมากระซิบถามลิโป้หลังจากมอบหมัดเป็นรางวัลให้หัวหน้าโจรไปหลายตุ้บ
"เหลวไหล" ลิโป้พ่นลมทางจมูก สำหรับซัวเอี๋ยมนั้น ในใจเขามีแต่ความยกย่องชื่นชมต่อสตรีผู้มีชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์นางนี้ แม้จะไม่ได้ยลโฉมหน้าของนาง แต่นางจะต้องเป็นสตรีที่งดงามอย่างแน่นอน
"คุณชาย เช่นนั้นทำไมพวกเราไปแยกตัวไปเล่า? ทำไมต้องอยู่ร่วมทางกับพวกเขาด้วย ท่านไม่เห็นหรือว่าสีหน้าของเว่ยหลินอัปลักษณ์เพียงใด" เตียนอุยกระซิบ
"ก็เพราะคุณชายของเจ้าพอใจ" ลิโป้ถลึงตาใส่เตียนอุย เขาคิดไม่ถึงว่าเตียนอุยที่สัตย์ซื่อจะมีด้านที่ซุบซิบนินทาผู้อื่นอยู่ด้วย
ค่ายโจรตั้งอยู่ครึ่งทางขึ้นภูเขา ตำแหน่งพื้นที่นับว่าไม่เลว ง่ายต่อการป้องกัน ยากแก่การโจมตี อาจเป็นเพราะข่าวที่หัวหน้าโจรทั้งสามพบเหตุไม่คาดฝัน ค่ายโจรยามนี้จึงว่างเปล่าไร้เงาคน
กระทั่งฟ้าเริ่มมืดลง ลิโป้ก็ไม่ได้พบกับซัวเอี๋ยมอีก เมื่อนึกถึงหญิงงามที่งดงามปานภาพวาดนางนั้นแล้ว เขาก็อดจะรู้สึกเสียดายขึ้นมาไม่ได้ เขาเองก็อยากจะเห็นโฉมหน้าของสตรีผู้มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์นางนี้เช่นกัน
"พูดมา สมบัติของเจ้าซุกซ่อนอยู่ที่ใด?" เมื่อนั่งลงแล้ว ลิโป้ก็กลับมาให้ความสนใจต่อหัวหน้าโจรอีกครั้ง
เมื่อตั้งตัวเป็นโจรเที่ยวปล้นชิงมานานนม เขาไม่เชื่อเด็ดขาดหากอีกฝ่ายบอกว่าไม่ได้ซุกซ่อนสิ่งใดไว้
"สมบัติ? สมบัติอะไรหรือขอรับ?"
"อย่ามาทำไขสือ ถ้ายังไม่พูดอีก เก็บเจ้าไว้ก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว" ลิโป้ส่งสายตาให้เตียนอุย
เตียนอุยย่อมเข้าใจ เขารวบกำหมัดก่อนจะย่างสามขุมเข้าหาหัวหน้าโจร จากนั้นจึงง้างหมัดขึ้นพลางแสยะยิ้ม
"พูด ข้าพูดแล้วๆ!" มองดูเตียนอุยที่มองมาอย่างเย็นเยียบ หัวหน้าโจรก็ไม่อาจสะกลั้นความกลัวได้อีกต่อไป เขาเห็นกับตาว่าเตียนอุยปลิดปลงหัวหน้ารองหัวสามอย่างง่ายดายเพียงใด
"ดูเหมือนจะยังคุยรู้เรื่องอยู่บ้างนี่" เตียนอุยใช้หลังมือตีท้องหัวหน้าโจรเบาๆ
หัวหน้าโจรหน้าซีดเผือด เหงื่อเย็นหลั่งไหลเต็มใบหน้า เมื่อเห็นว่าเตียนอุยยังจ้องมองมา เขาก็รีบกล่าว "ข้าจะพาท่านไปเองขอรับ"
คงต้องบอกว่าการเป็นโจรนั้นเป็นอาชีพที่ทำกำไรได้ดีจริงๆ เป็นการค้าที่ไม่ต้องลงทุน แน่นอนว่านอกจากเงินแล้วพวกเขาก็ยังต้องเก็บเสื้อผ้าและอาหารเอาไว้ หัวหน้าโจรตั้งตัวมาได้ไม่ถึงปี กระนั้นก็ยังรวบรวมสมบัติได้มหาศาล เพียงได้เห็นแวบแรก เตียนอุยก็นิ่งตะลึง
ทั้งสองนำเงินบางส่วนออกมาขณะที่เก็บซ่อนเพชรนิลจินดาสมบัติมีค่าที่เหลือไว้ก่อน ของดีเหล่านี้พวกเขาย่อมไม่ไม่ต้องการนำไปแบ่งปันกับคนนอก
หวัหน้าโจรมองดูสมบัติที่เคยเป็นของเขาค่อยๆถูกขนย้ายออกไปด้วยความสิ้นหวัง ไม่ทราบว่าต่อไปเขาจะต้องพบเจอชะตาแบบใด
"ท่านผู้กล้าทั้งสอง สมบัติทั้งหมดของข้าน้อยล้วนอยู่ที่นี่แล้ว ขอพวกท่านให้อภัยข้าน้อย ให้ข้าน้อยเป็นวัวเป็นม้าคอยรับใช้พวกท่านในชีวิตหน้าด้วยขอรับ" หัวหน้าโจรคุกเข่ากระแทกพื้นพลางโขกหัวขอร้อง
"เด็กน้อยเจ้ายังนับว่ามีสำนึกอยู่บ้าง" ลิโป้เดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับไปมอง ทิ้งเตียนอุยที่มีสีหน้าเหี้ยมเกรียมเอาไว้
วันต่อมา ทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อ ในระหว่างที่เดินทางพวกคนตระกูลเว่ยก็ไม่ได้เข้ามาถามถึงสาเหตุที่หัวหน้าโจรหายตัวไปราวกับไม่เคยมีคนผู้นี้มาก่อน
ยิ่งเข้าใกล้ฉางอัน ลิโป้ก็ยิ่งรู้สึกถึงความซับซ้อนของสถานการณ์มากขึ้น บางครายังมองเห็นกลุ่มทหารม้าขี่ม้าตะโกนโหวกเหวกโวยวายในระหว่างทาง โชคดีที่ไม่มีทหารกลุ่มใดเข้ามายุ่มย่ามกับขบวนรถม้าของตระกูลเว่ย พวกเขาเพียงกวาดมองคร่าวๆก่อนจะปล่อยให้ผ่านไป
ครั้งหนึ่งฉางอันเคยเป็นเมืองหลวงของต้าฮั่น มีภูมิหลังประวัติศาสตร์ไม่ได้ด้อยไปกว่านครหลั่วหยางเลย ด้วยมีด่านหันกู่กวนคอยพิทักษ์ พื้นที่แถบนี้จึงอุดมสมบูรณ์ทอดยาวไปนับพันลี้ ทางใต้มีแคว้นปาสูอันมั่งคั่ง ทางเหนือมีทุ่งเลี้ยงสัตว์ของชาวหู เมืองหลวงได้รับการปกป้องจากสามด้าน ทางตะวันออกยังเชื่อมกับแผ่นดินภาคกลาง ขอเพียงเฝ้ารักษาเส้นทางทางของแม่น้ำเว่ยสุ่ยไว้ได้ ต่อให้แผ่นดินทางตะวันออกจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังสามารถหลบหนีไปทางน้ำ ดั่งคำกล่าวที่ว่า ผืนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์เป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดที่จะใช้แย่งชิงอำนาจในใต้หล้า
หวังหมั่งเผาทำลายเมืองหลวง พฤติการณ์นี้คล้ายคลึงกับตั๋งโต๊ะยิ่ง บัดนี้เมืองโบราณกลับมาเป็นที่ประทับของโอรสสวรรค์อีกครั้ง หากแต่ที่มาพร้อมกันกลับไม่ใช่สันติสุข แต่เป็นหายนะ
"สมกับเป็นด่านน่าเกรงขามอันดับหนึ่งในใต้หล้า ขอเพียงเฝ้ารักษาได้ก็ไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด" ลิโป้มองดูด่านหันกู่กวนพลางทอดถอนใจ ตราบใดที่ตั๋งโต๊ะยังเฝ้ารักษาด่านแห่งนี้ไว้ได้อย่างมั่นคงและค่อยๆพัฒนาเมืองไป ในแผ่นดินนี้ก็แทบจะไม่มีผู้ใดทำอะไรเขาได้ ต้องบอกว่าสมแล้วที่ราชวงศ์ฉินยืนหยันมาได้อย่างยาวนาน
น่าเสียดายที่หลังจากโจรเฒ่าตั๋งโต๊ะย้ายเมืองหลวงมายังฉางอันแล้ว เขาก็รู้จักแต่หาความสำราญและสร้างหายนะให้กับประชาชน
"เฉียวจ้วงซื่อยังเข้าใจด้านการทหาร?" ได้ยินลิโป้ทอดถอนใจ ซัวเอี๋ยมที่อยู่ภายในรถม้าก็เอ่ยถามขึ้น
ลิโป้ชะงัก นับตั้งแต่ที่พูดคุยกันวันนั้น เขาก็ไม่ได้ยินเสียงซัวเอี๋ยมอีกเลย เขาเรียกสติกลับมาก่อนจะตอบอย่างถ่อมตน "เว่ยฮูหยินมีความข้างรู้กว้างขวาง ข้าเพียงเอ่ยซี้ซั้ว ให้ท่านเห็นน่าอายแล้ว"
ใบหน้าอันงดงามของซัวเอี๋ยมฉายแววขุ่นเคืองเล็กน้อย น้ำเสียงของนางกระทั่งยังเพิ่มความเย็นชาขึ้น "เชี่ยเซินเป็นเพียงสตรี ไม่กล้ารับคำชมจากผู้กล้า"
"เหอเหอ สตรีแล้วอย่างไรเล่า? แผ่นดินนี้มีบุรุษที่ด้อยกว่าสตรีอยู่มากมายก่ายกอง ในบางด้าน สตรียังยอดเยี่ยมยิ่งกว่าบุรุษด้วยซ้ำ" ลิโป้แย้งทันควัน เขาเคยเห็นสตรีที่แข็งแกร่งมามากมาย ทหารหน่วยรบพิเศษที่เป็นสตรีก็มีไม่น้อย นั่นยังไม่รวมถึงเหล่าวอนเดอร์วูแมนที่ปรากฏตัวยามเมื่อเห็นสินค้าซุปเปอร์เซลล์ตามห้างสรรพสินค้า.....
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved