ทว่าเมื่อมีผลประโยชน์มหาศาลมาอยู่ตรงหน้า อวี๋ฟู่หลัวก็เลือกที่จะนิ่งเงียบ หลิวเป้าและฮูลี่กำลังดื่มด่ำกับชัยชนะ ทั้งหมดล้วนได้รับผลประโยชน์กันถ้วนหน้า การหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมากล่าวก็รังแต่จะสร้างความไม่พอใจให้กับคนทั้งสอง
เทียบกับชาวฮั่นแล้ว สภาพความเป็นอยู่ของชาวซยงหนูนับว่าแตกต่างอย่างมาก ในสายตาของชาวฮั่นแล้ว เมืองเหม่ยจีและเมืองก่วงเหยี่ยนอาจะเป็นเมืองที่แร้นแค้น แต่ในสายตาขชองชาวซยงหนูแล้ว ทั้งสองเมืองนับว่าอุดมสมบูรณ์มาก
การบุกตีเมืองเหม่ยจีและก่วงเหยี่ยนได้สำเร็จทำให้พวกเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม พวกเขารู้สึกว่าการต้องยอมทนอยู่ใต้ชาวฮั่นนับเป็นเรื่องที่ไม่คู่ควร ชาวฮั่นอ่อนแอเกินไปแล้ว อ่อนแออย่างคาดไม่ถึง อ่อนแอจนยากจะจินตนาการได้ว่าทำไมบรรพบุรุษของพวกเขาจึงบอกว่าชาวฮั่นยากตอแย เวลานี้ต่อให้กองทัพปิ้งโจวเคลื่อนกำลังมา พวกเขาก็หาได้เกรงกลัวไม่
การปล้นสะดมยังดำเนินต่อไป หมู่บ้านแล้วหมู่บ้านเล่าถูกเผาทำลาย ผู้นำชนเผ่าซยงหนูทั้งสามยิ่งมายิ่งยากหักห้ามใจ ชัยชนะอย่างราบรื่นตลอดทางทำให้พวกเขาคลายความระวังลง
"รายงาน! เรียนนายท่าน ที่สามสิบลี้ข้างหน้ามีทหารม้าซยงหนูราวร้อยกว่าคนกำลังปล้นหมู่บ้านแห่งหนึ่งอยู่ขอรับ"
สีหน้าของลิโป้เปลี่ยนเป็นดำทะมึน เขาคิดอยู่เสมอว่าสงครามติดค้างประชาชน เขาต้องการให้ประชาชนชาวปิ้งโจวใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสงบ คิดไม่เลยว่าจู่ๆ ชนเผ่าซยงหนูที่อยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวมาตลอดจะพลันลุกฮือขึ้น
ทหารในกองกำลังเฟยฉีมีพื้นเพมาจากชาวบ้านที่ยากจน พวกเขาย่อมเกลียดชังผู้ที่ข่มเหงรังแกคนไร้ทางสู้ เมื่อได้ยินข่าวจากหน่วยสอดแนม หลายคนก็ขบกรามแน่น ปรารถนาจะทะยานออกไปเข่นฆ่าพวกซยงหนูให้หมดสิ้น
"ให้พวกซยงหนูได้รับทราบว่าดาบของกองทัพปิ้งโจวนั้นคมเพียงใด!" ลิโป้แค่นเสียง "เฟยฉีร้อยนายติดตามข้าไปสังหารศัตรู!"
ลิโป้นำทหารม้ากว่าร้อยคนปลีกตัวออกไป
"ถ่ายทอดคำสั่ง หน่วยสอดแนมให้เพิ่มขอบเขตการสอดแนม" แม้หลี่เยี่ยนต้องการจะควบม้าติดตามไป แต่ในฐานะแม่ทัพของกองกำลังเฟยฉีแล้ว เขาย่อมมีหน้าที่สำคัญต้องกระทำ
พวกซยงหนูส่งเสียงโห่ร้องขณะบุกเข้าปล้นสะดมหมู่บ้าน ทหารม้าแต่ละคนล้วนสิ่งของติดไม้ติดมือ สตรีชาวฮั่นหลายคนถูกจับมัดพาดกับหลังม้า เสียงกรีดร้องของพวกนางยิ่งสะกิดความดุร้ายกระหายเลือดของชาวซยงหนูขึ้นมา
แม้ชาวซยงหนูเหล่านี้จะเติบโตขึ้นในแผ่นดินฮั่น แต่ทักษะการรบบนหลังม้าก็ไม่ได้เลือนหายไป ทั้งยังสืบทอดขนบธรรมเนียมของทุ่งหญ้ามิเคยขาด
เสียงร้องไห้ของเด็กๆ เสียงสะอื้นของสตรี การต่อต้านอย่างสิ้นหวังของพวกชาวบ้าน เหล่านี้ทำให้ชาวซยงหนูยิ่งมายิ่งถือดี ศพชาวฮั่นจำนวนมากนอนอยู่เกลื่อนกลาดเต็มหมู่บ้าน
ทหารม้าซยงหนูคนหนึ่งที่กำลังขี่ม้าหาเหยื่อพลันพบเห็นทหารม้าชาวฮั่นผู้หนึ่ง สองฝ่ายต่างจ้องมองกันด้วยความตกตะลึง
"ท่าไม่ดีแล้ว นั่นมันทหารม้าของชาวฮั่น" เมื่อเห็นชุดเกราะของอีกฝ่าย ทหารม้าซยงหนูก็ตะโกนขึ้นพลางหน้าถอดสี
ชาวซยงหนูหวาดกลัวกองทัพฮั่นจนขึ้นสมอง ลองนึกดูว่าตอนนั้นกองทัพต้าฮั่นเข้มแข็งเกรียงไกรเพียงใด บรรพบุรุษของพวกเขากระทั่งเคยถูกกองทัพต้าขับไล่ไปจนถึงทะเลทรายเลยด้วยซ้ำ
"อย่าไปกลัว! มีทหารฮั่นแค่ร้อยกว่าคน นักรบแห่งซยงหนูไร้เทียมทาน!" นายพันของทหารซยงหนูตะโกนปลุกใจ พวกซยงหนูจึงทิ้งสิ่งของเอาไว้แล้วเข่นฆ่าเข้าใส่กองทหารม้าชาวฮั่น
ระยะห่างของสองทัพร่นเข้าใกล้ ทหารสองฝ่ายหยิบธนูขึ้นพาดสาย การยิงธนูบนหลังม้าถือเป็นวิชาพื้นฐานสำหรับทหารม้า การยิงธนูนั้นเป็นการทดสอบประสิทธิภาพในการรบของทหารม้าได้ดีที่สุด เพราะการยิงธนูไปขี่ม้าไปต้องใช้ทักษะการขี่ม้าในระดับหนึ่ง
"ยิง!" แทบจะในเวลาเดียวกัน แม่ทัพทั้งสองฝ่ายต่างออกคำสั่ง
ทหารซยงหนูต่างก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าทักษะการขี่ม้าของทหารชาวฮั่นไม่ได้ด้อยกว่าพวกเขาเลย บางท่าทางที่มีเพียงการเติบโตอยู่บนหลังม้าเท่านั้นถึงจะมีได้ ทหารม้าชาวฮั่นก็ทำได้ ลูกธนูบินฉวัดเฉวียน ทหารม้าซยงหนูสิบกว่าคนถูกยิงร่วงหลังม้า ขณะที่ทางฝั่งทหารม้าเฟยฉีไม่ได้รับความเสียหายใด ฉากนี้ทำให้ทหารซยงหนูตกตะลึงอย่างหนัก
ฝีเท้าของม้าศึกรวดเร็วยิ่ง หลังยิงธนูออกไปได้ระลอกเดียว ทหารม้าสองฝ่ายก็เข้ารบพุ่งในระยะประชิด นายกองพันของซยงหนูมั่นใจในฝีมือการรบของทหารม้าซยงหนูมาก หากเป็นการต่อสู้ในระยะประชิดแล้วล่ะก็ เขาก็มั่นใจว่าฝีมืออีกฝ่ายยังห่างชั้นจากพวกเขามาก
เพราะมีแรงหนุนจากความเร็วของม้าศึก ทหารม้าจึงลงมือได้หนักหน่วงกว่าทหารราบอยู่สามส่วน
ลิโป้ยกเท้ากระตุ้นท้องม้า ทวนกรีดนภาที่ยกขึ้นเล็กน้อยสะท้อนแสงอันเย็นเยียบออกมา
"ฆ่า!" ลิโป้คำรามพลางกวาดทวนฟันใส่ทหารม้าซยงหนูผู้หนึ่งจนลอยกระเด็นร่วงหลังม้า
นี่ก็คือการโถมพุ่งของทหารม้า ทหารม้าซยงหนูมีความทะนง ทหารม้าเฟยฉีเองก็มีความมั่นใจในฝีมือ
เมื่อทหารม้าเฟยฉีโถมจู่โจม พวกเขาก็มักจับกลุ่มกันราวสามถึงห้าคน ทำให้ทหารม้าซยงหนูหนึ่งคนต้องรับมือกับการโจมตีมากกว่าหนึ่งทิศทาง สถานการณ์นี้สร้างความอึดอัดและทำให้ทหารซยงหนูคล้ายติดอยู่ในหล่มโคลน
หลังพุ่งสวนกันสองระลอก ซากศพที่ถูกม้าศึกเหยียบย่ำก็สามารถพบเห็นได้ทุกที่ ม้าศึกหลายตัวที่ไร้เจ้าของต่างก็ส่งเสียงร้องอย่างอ้างว้าง
สีหน้านายกองทหารซยงหนูยิ่งมายิ่งดำทะมึน เดิมทีทหารม้าฝ่ายเขามีอยู่ร้อยกว่าคน มาบัดนี้หลงเหลือเพียงห้าสิบกว่าคนแล้ว ขณะที่ทางฝ่ายกองทัพฮั่นยังมีทหารมากกว่าเก้าสิบคน ซึ่งกล่าวได้ว่าทหารม้ากองทัพฮั่นหนึ่งนายจะสามารถแลกชีวิตกับทหารม้าซยงหนูได้สี่ห้านายเลยทีเดียว ทันใดนั้นความสิ้นหวังก็ปรากฏขึ้นในใจเขา เกรงว่าครั้งนี้พวกเขาคงต้องตายด้วยฝีมือกองทัพฮั่นเสียแล้ว เวลานี้เอง เขาจึงได้เข้าใจแล้วว่าบรรพบุรุษของพวกเขาจึงได้ย้ำเตือนครั้งแล้วครั้งเล่าว่าอย่าได้ตอแยกองทัพฮั่น
ทวนกรีดนภาตวัดฟันอีกครั้ง มีเพียงการสังหารศัตรูทั้งหมดเท่านั้นจึงจะดับไฟโทสะที่อยู่ภายในใจของเขาได้ การก่อกรรมทำเข็ญของชนเผ่าซยงหนูครั้งนี้ มีเพียงแต่ต้องชดใช้ด้วยเลือดเท่านั้น
เมื่อนายกองพันชาวซยงหนูเห็นลิโป้โจมตีเข้าใส่ เขาก็ใจหายวาบ ก่อนหน้านี้เขาได้เห็นความร้ายกาจของแม่ทัพชาวฮั่นผู้นี้มาแล้ว ไม่ว่าผู้ใดโถมเข้าใส่ล้วนถูกสังหารในท่าเดียว มีทหารม้าซยงหนูอย่างน้อยห้าคนที่สิ้นชีพในมือแม่ทัพผู้นี้
"ฆ่า!" นายกองพันชาวซยงหนูคำรามปลุกปลอบกำลังขวัญพลางพุ่งม้าเข้าใส่ลิโป้ ขอเพียงสังหารแม่ทัพผู้นี้ได้ ทหารซยงหนูก็ยังมีโอกาสที่จะพลิกกลับมาชนะ
ดาบและทวนพุ่งเข้าปะทะกัน ภายใต้แรงสะท้อนอันรุนแรง นายกองพันชาวซยงหนูก็แทบจะร่วงจากหลังม้า
นายกองพันชาวซยงหนูมองดูม้าที่เขาขี่ควบไปข้างหน้าขณะที่ตัวเขายังอยู่กับที่ด้วยความสงสัย เมื่อก้มลงมองดู เขาก็หน้าซีดเผือด กลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายกระชากเขาลงจากหลังม้าด้วยมือเพียงข้างเดียว ฝีมือที่ร้ายกาจถึงขั้นนี้ แม้แต่ในชนเผ่าซยงหนูเองก็หาได้ยาก
ลิโป้ที่มีหยาดโลหิตติดบนใบหน้าแสยะยิ้มออกมา มือหอบหิ้วร่างของนายกองพันชาวซยงหนูด้วยมือข้างเดียวพลางบังคับม้าพุ่งเข้าไปในสนามรบอีกครั้ง
ราวครึ่งชั่วโมงต่อมา บนสนามรบก็ไม่มีทหารม้าชาวซยงหนูหลงเหลืออยู่อีก
"เรียนท่านแม่ทัพ ในการรบครั้งนี้ สามารถสังหารพวกซยงหนูไปเก้าสิบสามคน จับม้าศึกได้ห้าสิบตัว และมีทหารม้าเฟยฉีเสียชีวิตสิบสี่นายขอรับ"
มุมปากของลิโป้กระตุกเบาๆ ในใจรู้สึกเศร้าอยู่บ้าง "เก็บร่างพี่น้องเหล่านั้นฝังรวมกันให้ดี ให้ตัดผมของพวกเขาเก็บกลับไปที่มาตุภูมิ"
"ขอรับ" หลี่เยี่ยนกุมหมัดรับคำก่อนจะจ้องนายกองพันชาวซยงหนูด้วยความเคียดแค้น ทหารม้าเฟยฉีเป็นเขาที่ฝึกอบรมมากับมือ ดังนั้นจึงมีความผูกพันกับทหารทุกนาย
"พวกเจ้ามันปีศาจ!" นายกองพันชาวซยงหนูกรีดร้องด้วยความกลัว พวกเขาเติบโตจากบนหลังม้าชัดๆ เอ่ยถึงด้านการรบบนหลังม้าแล้ว สมควรไร้ผู้ทัดเทียม คิดไม่ถึงเลยว่านักรบซยงหนูเก้าสิบกว่าคนที่สละชีวิตไปจะทำได้แค่สังหารอีกฝ่ายไปสิบสี่คน ทั้งตัวเขายังถูกแม่ทัพอีกฝ่ายจับตัวได้อย่างง่ายดาย ทหารม้ากองนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved