ทุ่งหญ้าในปัจจุบันคืออาณาเขตของเซียนเป่ย แม้จะมีที่ปรึกษาอย่างกุยแกอยู่ในกองทัพ ทหารม้าเฟยฉีก็ยังคงตื่นตัว ถึงชาวเซียนเป่ยส่วนใหญ่จะถูกเกณฑ์ไปบุกชายแดนฮั่น แต่ในเผ่าต่างๆจะไม่มีชายหนุ่มแข็งแรงกำยำอยู่เลยได้อย่างไร? หากประมุขเผ่าเหล่านั้นได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในทุ่งหญ้า เกรงว่าจะรีบวิ่งแจ้นกลับมาทันที
การต่อต้านอันสิ้นหวังของเผ่าหยางฮู ทหารม้าเฟยฉีจดจำได้อย่างชัดเจน แม้ชุดเกราะของพวกเขาจะช่วยคุ้มภัยให้พวกเขาได้ แต่หากชาวเซียนเป่ยบ้าคลั่งขึ้นมาก็น่ากลัวไม่ใช่น้อย
ตลอดหลายวันมานี้ ทหารม้าเฟยฉีได้เหยียบย่ำไปทั่วทุ่งหญ้า เพื่อไม่ให้ถูกชาวเซียนเป่ยพบเห็น พวกเขาจึงเดินทางในยามกลางคืน ขณะที่หน่วยสอดแนมก็คอยสังเกตการณ์โดยรอบอย่างระมัดระวัง
"นายท่าน เผ่าที่อยู่เบื้องหน้าคือเผ่าที่ใหญ่ที่สุดของเซียนเป่ยภาคกลาง มีคนอยู่ราวสามหมื่นขอรับ" ดวงตาของเตียนอุยฉายแววกระหายเลือด
"สามหมื่นงั้นรึ ไม่เลว" ลิโป้เลียริมฝีปาก ดวงตาฉายแววกระเหี้ยนกระหือรือที่จะทำศึก
หลังจากเดินทางอย่างต่อเนื่อง กุยแกที่อ่อนแออยู่บ้างก็หน้าขาวซีดกว่าเก่า เขาเองก็เป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง จึงไม่ต้องการสร้างความอับอายต่อหน้าเหล่าทหาร ดังนั้นจึงได้แต่อดทนไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อบุกมาโจมตีเซียนเป่ย เขาก็มีความรู้สึกที่ต่างออกไป ต้องทราบว่าหากสามารถบุกตีราชสำนักเซียนเป่ยแห่งภูเขาต้านหันซานได้จริงๆ นี่ก็จะเป็นการโจมตีครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ซึ่งไม่เคยมีขุนนางบุ๋นคนใดเคยได้รับเกียรติเช่นนี้มาก่อน
หลังจากการตายของถานสือหวย แม้ราชสำนักแห่งภูเขาต้านหันซานจะสื่อมโทรม กระนั้นก็ยังคงเป็นตัวแทนอำนาจสูงสุดแห่งเซียนเป่ย มีความหมายที่พิเศษสำหรับชาวเซียนเป่ย
"เฟิ่งเซี่ยว มีแผนดีๆหรือไม่?" ลิโป้ถาม
"เรียนใต้เท้า ที่นี่มีชาวเซียนมากกว่าสามหมื่นคน พวกเราต้องรีบพิชิตพวกเขาโดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้น หากชาวเซียนเป่ยรู้ตัว พวกเราก็จะตกอยู่ในอันตราย และการโจมตีครั้งนี้จะทำให้ข้อมูลของกองทัพเราถูกเปิดเผยออกไปอย่างแน่นอน เป้นไปไม่ได้ที่ทัพเราจะสังหารผู้คนสามหมื่นกว่าได้หมดสิ้น" กุยแกวิเคราะห์สถานการณื
จูล่งที่อยู่ด้านข้างพลันรู้สึกชื่นชมเมื่อได้ยิน สายตาที่มองดูกุยแกเพิ่มความเคารพขึ้น ผู้ใดก็ตามที่เห็นขุนนางบุ๋นที่เปราะบางเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นในสนามรบย่อมจะรู้สึกดูหมิ่นเหยียดหยาม
แต่หลายวันมานี้ กุยแกได้ใช้ความตั้งใจที่แน่วแน่ของเขาทำให้ทหาร้มาเฟยฉีและทหารม้าขาวเกิดความเลื่อมใสขึ้นมา
"จับโจรต้องจับตัวหัวหน้า โดยทั่วไปนั้น กระโจมของประมุขเผ่ามักจะตั้งอยู่ใจกลางของเผ่า ขอเพียงสังหารประมุขได้รวดเร็วพอ ชาวเผ่าที่เหลือก็ไม่อาจก่อหวอดได้อีก แม้คนที่เหลือจะขึ้นม้าทำศึก แต่ด้วยมีทัพม้าชั้นยอดอย่างอย่างเฟยฉีและม้าขาวแล้ว การจะเอาชนะพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องยาก" กุยแกกล่าวอย่างมั่นใจ
ลิโป้ตาเป็นประกาย ชาวเซียนเป่ยที่ไม่มีประมุขเผ่าก็เปรียบเสมือนฝูงแกะที่รอการถูกเชือด
"จูล่ง เตียนอุย พวกเราสามคนเป็นทัพหน้าทะลวงเข้าไปใจกลางเผ่าแล้วสังหารประมุขเผ่าให้ได้" กล่าวจบ ลิโป้ก็หันไปหากุยแก "คงต้องให้เฟิ่งเซี่ยวคอยอยู่บัญชาการที่ทัพหลังแล้ว"
กุยแกกุมมือกล่าวว่า "ให้เป็นหน้าที่ของข้าน้อยเอง"
จูล่งก็กุมหมัดกล่าวว่า "ข้าน้อยยินดีติดตามท่านแม่ทัพจนกว่าชีวิตจะหาไม่!"
หน่าปู้ตั๋วเป็นประมุขเผ่าหนานอวี๋ เขาได้รับข่าวที่เผ่าหยางฮูถูกล้างเผ่ามาเมื่อวานนี้ ตัวหนังสือเลือดบนกระโจมนั้นได้บอกต่อชาวเซียนเป่ยว่ากองทัพฮั่นได้เข้าสู่ทุ่งหญ้าแล้ว ในฐานะชนเผ่าใหญ่ที่มีชื่อเสียงในภาคกลาง หน่าปู้ตั๋วย่อมเป็นนักรบกล้าคนหนึ่ง มิเช่นนั้นคงไม่สามารถขึ้นเป็นประมุขเผ่าด้วยวัยเพียงสามสิบกว่าปีได้
เซียนเป่ยภาคกลางส่งกำลังทหารไปโจมตีด่านเยี่ยนเหมิน และเผ่าหนานอวี๋เองก็ส่งนักรบของเผ่าไปช่วยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเวลานี้ ภายในเผ่าจึงเหลือทหารม้าเพียงพันเศษ ชาวฮั่นกวาดล้างเผ่าหยางฮูได้ในคืนเดียว แสดงว่าต้องมีจำนวนไม่ใช่น้อย
ขณะที่หน่าปู้ตั๋วกำลังครุ่นคิดว่าจะค้นหาทัพฮั่นเหล่านี้ได้อย่างไรนั้น จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนดังมากจานอกกระโจม พอเงี่ยหูฟังแล้ว เขาก็หน้าเปลี่ยนสีทันที ฟังจากเสียงสั่นสะเทือนของพื้นดินแล้ว จะต้องเป็นการพุ่งโถมของทัพม้าอย่างแน่นอน ตอนนี้เป็นเวลายามวิกาล เผชิญกับการโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวจากทัพฮั่น เผ่าหนานอวี๋จะต้องบาดเจ็บล้มตายอย่างสาหัสเป็นแน่
"เป็นทัพฮั่น! ทหารม้าทัพฮั่นบุกมาแล้ว! พวกมันเป็นปีศาจ!" ชาวเซียนเป่ยคนหนึ่งวิ่งตะโกนขณะล้มลุกคลุกคลานไปตลอดทาง
หน่าปู้ตั๋วหยิบฉวยคันธนูและลูกธนูก่อนจะขึ้นสายยิงไปยังชาวเซียนเป่ยผู้นั้น จากนั้นจึงกล่าวเสียงเหี้ยม "พวกเราเป็นนักรบแห่งทุ่งหญ้า ฆ่าทหารชาวฮั่นให้หมด!"
เสียงตะโกนของหน่าปู้ตั๋วทำให้ชาวเซียนเป่ยที่กำลังแตกตื่นพลันค้นพบที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ พวกเขาค่อยๆมุ่งหน้ามารวมกันตรงตำแหน่งที่หน่าปู้ตั๋วอยู่
สีหน้าของหน่าปู้ตั๋วเผยแววเหี้ยมเกรียม "ขอเพียงมีทหารม้าเพียงพอ ข้าก็กล้านำกำลังไปต้านทานไว้สักพัก"
ทันใดนั้นม่านตาของหน่าปู้ตั๋วก็หดวูบ มีแม่ทัพชาวฮั่นคนหนึ่งถือถวนควบม้าเข่นฆ่ามาทางเขา ที่ด้านซ้ายของเขามีแม่ทัพหนุ่มที่กวัดแกว่งหอกสีเงินอย่างชำนาญ ขณะที่ด้านขวาก็มีบุรุษร่างกำยำท่าทางเหี้ยมหาญถือทวนคู่ติดตามมาไม่ห่าง ทั้งสามบุกทะลวงเข้ามาในค่ายโดยมีเป้าหมายอยู่ที่เขาอย่างชัดเจน
"เตรียมปะทะข้าศึก!" หลังฟื้นจากความตกตะลึง หน่าปู้ตั๋วก็พลิกตัวขึ้นหลังม้า หากวัดกันในด้านทักษะขี่ม้าแล้ว เขาไม่เชื่อว่าทหารทัพฮั่นจะสู้ชาวเซียนเป่ยได้ ไม่ว่าทั้งสามคนนี้จะห้าวหาญเพียงใด แต่เมื่อติดอยู่ในวงล้อมแล้ว ต่อให้มีฝีมือเลิศล้ำปานใดก็คงไม่รอด
ม้าศึกควบทะยานอย่างรวดเร็ว ลิโป้เผยสีหน้าเย็นชาขณะตวัดทวนฟันใส่ทหารม้าเซียนเป่ยที่พุ่งเข้ามาจนลอยกระเด็น เตียนอุยกวัดแกว่งทวนซ้ายขวาปัดป้องลูกธนูที่ยิงเข้าใส่อย่างไม่เกรงกลัว ผู้ที่เข้ามาขวางทางล้วนถูกสังหาร ความเร็วในการสังหารของเขายังเหนือกว่าลิโป้เสียอีก
แม้แต่ชาวเซียนเป่ยที่อยู่อาศัยบนทุ่งหญ้าก็ยังไม่เคยเผชิญกับการต่อสู้ที่ห้าวหาญถึงเพียงนี้มาก่อน ความกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของชาวเซียนเป่ยอย่างรวดเร็ว
หน่าปู้ตั๋วเริ่มกังวลขึ้นมาบ้างแล้ว เขารีบสั่งให้ทหารในเผ่าเข้าไปต้านทานไว้ ดูจากการเคลื่อนที่ของทหารม้าทัพฮั่นแล้ว เขาก็มองเห็นความตั้งใจของอีกฝ่าย ขอเพียงเขายังรักษาชีวิตตนเองไว้ได้ก็ยังมีโอกาสกำจัดทหารฮั่นเหล่านี้
หน่าปู้ตั๋วพาดลูกธนูขึ้นสายก่อนจะเล็งยิงไปยังร่างที่อยู่ห่างออกไป มุมปากปรากฏรอยยิ้มเหยียดหยาม แม้การลอบโจมตีด้วยธนูพิษจะน่ารังเกียจไปบ้าง หากแต่ตอนนี้สถานการณ์กำลังคับขัน เขาจึงไม่ได้สนใจอะไรมาก ตัดสินจากลักษณะราศีแล้ว เขาก็มั่นใจว่าแม่ทัพคนที่ใช้ทวนพู่แดงจะต้องเป็นแม่ทัพใหญ่ของทัพฮั่นอย่างแน่นอน ขอเพียงสังหารคนผู้นี้ลงได้ เผ่าของเขาก็จะรอดแล้ว
อาศัยประโยชน์ของโกลนม้า ทหารม้าเฟยฉีก็แสดงพลังรบที่ทำให้ทหารม้าเซียนเป่ยต้องตะลึงออกมา แม้ในการต่อสู้ตัวต่อตัวนั้นชาวเซียนเป่ยจะร้ายกาจ แต่เมื่อเผชิญกับทหารม้าเฟยฉีที่ร่วมมือกัน วงล้อมของพวกเขาก็ถูกฉีกกระจุยกระจาย
ลิโป้ที่กำลังฟันสังหารข้าศึกผู้หนึ่งอยู่ จู่ๆเขาก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดี ประสบการณ์ที่เดินอยู่บนปากเหวความตายบอกเขาให้รู้ว่าตอนนี้ตัวเขากำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว
เมื่อกวาดมองดูโดยรอบ ลิโป้ก็ทันมองเห็นหน่าปู้ตั๋วยิงธนูตรงมาที่เขา
ลิโป้รีบใช้ทวนปัดทิ้ง ลูกธนูจึงเบี่ยงทิศพุ่งปักใส่ทหารเซียนเป่ยนายหนึ่ง ลิโป้จ้องมองหน่าปู้ตั๋วที่อยู่ห่างออกไปอย่างเย็นชา ทวนของเขาฟันใส่ศัตรูที่ขวางทางอยู่จนโลหิตสาดกระเซ็นไปทั่ว
หน่าปู้ตั๋วตกใจมาก ในด้านของทักษะการยิงธนู ภายในเซียนเป่ยภาคกลางมีน้อยคนนักที่เมื่อตกเป็นเป้าหมายจากธนูของเขาแล้วจะรอดไปได้ แม่ทัพฮั่นผู้นั้นร้ายกาจมาก สามารถปัดธนูไปใส่ทหารของเขาได้ ด้วยพละกำลังและปฏิกิริยาตอบสนองที่แสดงออกมา เกรงว่าในชนเผ่าเซียนเป่ยจะมีอยู่ไม่กี่คนที่พอจะทัดเทียมได้
ลิโป้ที่อยู่บนหลังม้าถือทวนกรีดนภาขณะสายตาจับจ้องไปที่หน่าปู้ตั๋วซึ่งกำลังบัญชาการทหารอยู่ใต้ธงของเผ่า สายตาที่มองดูยิ่งมายิ่งเย็นเยียบ
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved