ตอนที่ 244 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

มองดูซูผูเหยียนที่มีฝีเท้าหนักอึ้งขึ้นเล็กน้อย บนใบหน้าของกุยแกก็ปรากฏรอยยิ้ม หลังจากเหตุการณ์นี้ ชาวอูหวนจะยิ่งหวาดกลัวต่อทัพปิ้งโจวแน่นอน แม้จะเผชิญกับการผนึกกำลังของทัพอูหวนและทัพกิจิ๋ว ปิ้งโจวก็มั่นใจว่าจะชนะ แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ต้องแบกรับความเสี่ยงมากขึ้น ในฐานะที่ปรึกษาคนหนึ่งแล้ว เขาต้องคิดหาวิธีที่ฝ่ายตนจะได้รับประโยชน์สูงสุดโดยที่สูญเสียน้อยที่สุด

เพียงแต่หลังจากสงครามครั้งนี้จบลงแล้ว แผ่นดินจะวุ่นวายถึงขั้นใดกัน? เล่าหงีที่มีโอาสสืบทอดราชบัลลังก์มากสุดก็ดันมาถูกกองซุนจ้านสังหารไปเสียก่อน เล่าเปียวแห่งเกงจิ๋วตอนนี้ก็ยังไม่อาจถอนตัวจากศึกในกุนจิ๋วได้ อ้วนเสีย้วเองก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากอิวจิ๋ว สถานการณ์ดูเหมือนจะยิ่งมายิ่งเต็มไปด้วยความวุ่นวาย

บรรดาเจ้าเมืองในแผ่นดินล้วนแต่คิดถึงประโยชน์ส่วนตน มีหรือที่พวกเขาจะสนใจชะตากรรมของราชวงศ์ฮั่น? แม้แต่เล่าเปียวที่เป็นเชื้อพระวงศ์ฮั่นก็ยังบุกโจมตีกุนจิ๋วด้วยเพราะประโยชน์ส่วนตน ในขณะนี้ กุยแกก็รู้สึกว่าแผ่นดินที่กำลังวุ่นวายนี้ต้องการกองทัพที่เข้มแข็งอย่างทัพปิ้งโจวมาทำให้แผ่นดินสงบสุข

กุยแกส่ายศีรษะ สลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ที่ต้องพิจารณาก่อนก็คือทำอย่างไรจึงจะขับไล่ทัพกิจิ๋วกลับไป

หลังจากได้เดินชมค่ายทหารของทัพปิ้งโจวภายใต้การนำทางของกุยแก คืนนั้น ซูผูเหยียนก็อำลาลิโป้และขอตัวกลับ

หลังจากได้เข้าพบเป๊กตุ้น ซูผูเหยียนก็บอกเล่าสิ่งที่ได้ยินได้เห็นในวันนี้ออกไป เกิดความเงียบขึ้นภายในกระโจมเป็นเวลานาน เมื่อซูผูเหยียนกล่าวว่าทหารม้าเฟยฉีมีจำนวนอยู่สามพัน เป๊กตุ้นก็อยากจะถอยทัพโดยพลัน แม้แต่พันเดียวยังสู้ไม่ได้ ยิ่งอย่าว่านี่มีกันถึงสามพัน เขาไม่ต้องการให้ทัพม้าอูหวนต้องถูกทำลายลงในมือทหารม้าเฟยฉี กองซุนจ้านเพิ่งจากไปได้ไม่ทันไร ตอนนี้เขายังต้องมาเจอกับศัตรูที่กล้าแข็งยิ่งกว่า เขาคล้ายมองเห็นภาพทัพอูหวนถูกทำลายลงภายใต้กีบเท้าม้าของทหารเฟยฉีอยู่รำไร

"ไม่ได้ ต้องไม่เป็นศัตรูกับทัพเฟยฉี" เป๊กตุ้นกล่าวขึ้นในใจ

"ใต้เท้า ชาวอูหวนเรายิ่งมายิ่งเผชิญกับวิกฤตเมื่ออยู่ใต้บัญชาของเหยียนโร่ว ถึงอย่างไรเหยียนโร่วก็เป็นชาวฮั่น ในการโจมตีเมืองจี้ครั้งนี้ ทัพอูหวนเราก็เสียสละอย่างมาก หากแต่ผลประโยชน์ที่พวกเขามอบให้กลับมาจริงๆเล่า? อ้วนเสี้ยวก็เหมือนกับเหยียนโร่ว เขาหวาดระแวงชาวอูหวนเรา มิเช่นนั้นทุกครั้งที่มีการประชุมเรื่องสำคัญ พวกเขาจะกีดกันใต้เท้าออกมาหรือ? การโจมตีเมืองปักเป๋งไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกับพวกเรา ซึ่งความจริง ทัพกิจิ๋วเพียงส่งพวกเรามาเบิกทางให้เท่านั้น จากคำพูดของอ้วนเสี้ยว จะเห็นได้ว่าอ้วนเสี้ยวมุ่งมั่นที่จะพิชิตเมืองปักเป๋งให้จงได้ แสดงว่าเขาคิดฮุบเมืองปักเป๋งเอาไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ใยพวกเราชาวอูหวนจึงต้องเสียสละให้พวกเขาด้วย? เพียงเพื่อสัญญาปากเปล่างั้นหรือ? ใต้เท้าเชื่อจริงหรือว่าอ้วนเสี้ยวจะยอมยกเมืองปักเป่งให้พวกเราจริงๆ?" ซูผูเหยียนกล่าว

"หากว่าทัพกิจิ๋วไม่อาจเอาชนะทัพปิ้งโจวที่อยู่ภายในเมืองปักเป๋งได้เล่า? พวกเขาจะทำอย่างไร? เมื่อครั้งที่ชาวเซียนเป่ยระดมกำลังกว่าหนึ่งแสนบุกโจมตีด่านเยี่ยนเหมิน ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องพ่ายแพ้ให้กับทัพปิ้งโจวหรอกหรือ? ไม่ใช่ว่าสุดท้ายพวกเขาต้องกล้ำกลืนความอัปยศและยอมส่งมอบม้าศึกและสัตว์เลี้ยงให้กับปิ้งโจวหรอกหรือ?"

เป๊กตุ้นขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่ากำลังพิจารณาผลได้ผลเสีย หลังจากผนึกกำลังจากสองทัพแล้ว ทัพกิจิ๋วก็จะได้เปรียบกว่าในด้านกำลังทหารอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม หากเทียบกันในแง่พลังรบแล้ว เขาเชื่อว่าทัพปิ้งโจวกล้าแข็งกว่า โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ปะทะกับทัพเฟยฉีมากับตัว เป๊กตุ้นมั่นใจว่าทัพปิ้งโจวเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าทีพวกเขาเคยเจอมา

แม้จะรู้สึกชื่นชม แต่ก็ทำให้เป๊กตุ้นเกิดความไม่สบายใจในเวลาเดียว หากเลือกที่จะไม่สู้ได้ เขาจะต้องเลือกไม่สู้แน่นอน

"ทัพกิจิ๋วสามารถทำลายทหารม้าขาวลงได้ แม้แต่กองวุนจ้านก็ยังหนีไม่รอด" เป๊กตุ้นพลันกล่าวขึ้น

ซูผูเหยียนส่ายหน้าเบาๆ "ใต้เท้า แม้ว่าทัพปิ้งโจวจะไม่ได้กล่าวออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ทว่าข้าน้อยก็รู้สึกได้ ทัพปิ้งโจวไม่ได้ใส่ใจทัพกิจิ๋วเลย ที่เรียกว่าทหารเซียนเติงนั่น เมื่อได้รบกับทัพปิ้งโจวจริงๆจะสามารถเอาชนะได้โดยง่ายหรือ? ไม่ทราบว่าใต้เท้าเคยได้ยินชื่อของหน่วยทะลวงค่ายมาก่อนหรือไม่?"

"หน่วยทะลวงค่าย?" เป๊กตุ้นส่ายหน้า

ซูผูเหยียนกล่าวว่า "เมื่อครั้งตั๋งโต๊ะยึดครองลั่วหยาง จิ้นโหวเคยนำทัพทำศึกกับตั๋งโต๊ะมาก่อน หน่วยทะลวงค่ายสามารถต้านทานทหารม้าเหล็กเสเหลียงได้ ทำให้ทัพม้าเกราะหนักที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วแผ่นดินต้องกลับไปมือเปล่า เช่นเดียวกับทหารเซียนเติง พวกเขามีจำนวนราวแปดร้อยคน ทว่าข้าน้อยรู้สึกได้ว่าพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าทหารเซียนเติงเลย"

"หากว่าเป็นเช่นนี้ ทัพอูหวนเราสมควรผนึกกำลังกับทัพปิ้งโจวจึงจะเหมาะสมกว่า" เป๊กตุ้นหรี่ตาลงขณะที่เอ่ยออกมาช้าๆ เหตุผลที่ทัพอูหวนยำเกรงทัพกิจิ๋วก็เพราะหน่วยเซียนเติงนี้ หากว่าทัพปิ้งโจวสามารถรับมือกับทหารเซียนเติงได้ เช่นนั้นก็เห็นได้ชัดว่าทัพปิ้งโจวมีโอกาสชนะมากกว่า

นอกจากทหารเซียนเติงแล้ว ทหารหน่วยอื่นของทัพกิจิ๋วแล้วแต่ไม่นับเป็นอย่างไรในสายตาของเป๊กตุ้น

"ใต้เท้า หากว่าทัพปิ้งโจวขอให้พวกเราโจมตีทัพกิจิ๋วเล่า?" ซูผูเหยียนถาม ในเรื่องนี้ เขายังต้องใช้เวลาปรับสภาพจิตใจสักพัก

"ชาวอูหวนจะรอคอยโอกาสที่จะเคลื่อนไหวลงมือ" เป๊กตุ้นกล่าว

ซูผูเหยียนพยักหน้าอย่างเข้าใจควาหมายของเป๊กตุ้น เวลานี้พวกเขายังไม่ต้องการเลือกข้างผิด จะเป็นการดีกว่าที่จะไม่ไปล่วงเกินทั้งสองฝ่าย ขอเพียงพวกเขาสามารถกลับเผ่าได้อย่างปลอดภัย ล่วงเกินอ้วนเสี้ยวแล้วจะเป็นไร? แต่หากว่าทำให้ทัพปิ้งโจวไม่พอใจ เช่นนั้นเผ่าอูหวนก็เตรียมตัวรับศึกได้เลย

เมื่อมีภารกิจ ซูผูเหยียนก็มาเยือนเมืองปักเป๋งอีกครั้ง หลังจากพูดคุยกับกุยแกแล้ว เขาก็โล่งใจ แต่รอยยิ้มอันลี้ลับของกุยแกทำให้เขารู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง หลังจากได้สืบข้อมูลดูแล้ว เขาก็ได้ทราบว่าที่แท้ ชายหนุ่มนามกุยแกผู้นี้มีชื่อเสียงโด่งดังยิ่ง เขาอดเพิ่มระแวดระวังขึ้นในใจไม่ได้ แต่ระหว่างสนทนากัน กุยแกก็ไม่ได้เปิดเผยเจตนาเพิ่มเติม

...........................

อ้วนเสี้ยวมีความมั่นใจในการโจมตีเมืองปักเป่งในครั้งนี้อย่างเปี่ยมล้น ด้วยมีฮองกี๋ โกลำ และคนอื่นๆนั่งประจำการอยู่ที่เมืองจี้ เขาก็เบาใจมาก ดังนั้นจึงนำทัพไปยังเมืองปักเป๋งด้วยตัวเอง

ในเมืองยีหยง กองทัพของอ้วนเสี้ยวไม่ได้ถูกสกัดแต่อย่างใด สำหรับเรื่องการใช้โอกาสนี้บุกยึดเมืองยีหยงนั้น อ้วนเสี้ยวไม่มีความคิดเช่นนั้น เวลานี้ ที่สำคัญที่สุดก็คือการตีชิงเมืองปักเป๋งกลับมา เมืองยีหยงยากจะทำให้สงบลงได้ในเวลาอันสั้น ขอเพียงขับไล่ทัพปิ้งโจวออกจากเมืองปักเป๋งได้ ทุกอย่างก็จะง่ายแล้ว

สิ่งที่อ้วนเสี้ยวไม่คาดคิดก็คือทัพอูหวนที่นอกเมืองปักเป๋ง หลังจากสู้แพ้เพียงครั้งเดียว พวกเขาก็โน้มเอียงไปทางทัพปิ้งโจวมากกว่า ไม่มีทีท่าว่าจะยอมเสียสละนักรบในศึกนี้

ขบวนทัพของคนเกือบสี่หมื่นเคลื่อนเข้าใกล้เมือง หอกทวนแลธงประจำทัพเรียงรายแน่นขนัด จากบนกำแพงเมืองจะมองเห็นธงของทัพกิจิ๋วและทัพเหยียนโร่วปรากฏขึ้นทุกหนแห่ง เป็นภาพที่ตระการตาและน่าขนลุกยิ่ง

อ้วนเสี้ยวไม่ได้เลือกที่ะจปิดล้อมเมือง ตรงกันข้าม หลังจากนำกองทัพออกมาอวดแสนยานุภาพที่นอกเมืองเที่ยวหนึ่งแล้ว พวกเขาก็ตั้งค่ายและเริ่มจัดสร้างเครื่องมือตีเมืองทั้งกลางวันและกลางคืน ชาวอูหวนกระตือรือร้นที่จะกลับบ้าน และตัวอ้วนเสี้ยวเองก็ร้อนใจเช่นกัน หากว่าทัพปิ้งโจวเฝ้ารักษาเมืองปักเป๋งเอาไว้ได้ นั่นก็จะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของทัพกิจิ๋วในอิวจิ๋วอย่างร้ายแรง เรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายเพียงเสียเมืองไปหนึ่งเมืองเท่านั้น

หากมีเมืองปักเป๋ง อ้วนเสี้ยวก็จะมีเหยียนโร่วเป็นพันธมิตร นอกจากนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกองซุนแห่งเหลียวตงและตระกูลอ้วนยังมีส่วนช่วยต่ออ้วนเสี้ยวไม่น้อย สำหรับเมืองปักเป๋งแล้ว อ้วนเสี้ยวมีแต่ต้องยึดมาให้ได้ ครองปักเป๋งได้ ก็เท่ากับได้ครองอิวจิ๋ว...