ตอนที่ 195 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

"ใต้เท้าลิ เกรงว่าจงป้าจะไม่ได้คิดเช่นนั้นขอรับ เพียงแต่เขาต้องการจะเพาะสร้างทหารม้าชั้นยอดผ่านการต่อสู้ในครั้งนี้ ในแง่ของจำนวนนั้น ทหารม้าในภาคกลางเองก็มีอยู่ไม่น้อย เพียงแต่พวกเขาไม่เคยผ่านการทำศึกในสนามรบขนาดใหญ่มาก่อน การประลองระหว่างทหารม้าก็ยิ่งหายากยิ่งกว่า แม้บรรดาเจ้าเมืองจะมีทหารม้าอยู่ในมือ แต่พวกเขาก็จะเก็บไว้เป็นไพ่ตาย กลัวว่าคนอื่นจะรู้ ด้วยเหตุนี้เอง วิชาขี่ม้าของพวกเขาจึงค่อนข้างอ่อนแอ เทียบกับทหารม้าเฟยฉีที่ใช้บังโกลนม้าด้วยแล้วก็ยิ่งเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน" จูล่งอธิบาย

ลิโป้พยักหน้า "แม่ทัพจูล่งกล่าวได้มีเหตุผล"

หลังจากฝุ่นควันจางลง ในสนามก็เหลือทหารม้าอยู่เพียงหนึ่งร้อยสิบสามนาย ทหารม้าเฟยฉีไม่ได้สังหารอีกฝ่ายจนหมดสิ้น

จงป้าหน้าขาวซีดขณะมองดูทหารม้าที่บาดเจ็บจำนวนสิบแปดคนควบม้ากลับมารวมตัว ในการประลองทหารม้าที่เขาตั้งความหวังไว้ จากทหารม้าหนึ่งห้าสิบคน พวกเขากลับตกตายไปถึงหนึ่งร้อยสามสิบสองคน ขณะที่ทางฝั่งทหารม้าเฟยฉีเสียคนไปเพียงห้าคนเท่านั้น ความแตกต่างราวฟ้ากับดินนี้ทำให้เขารู้สึกว่ายากจะทำใจยอมรับผลได้

ลิโป้เดินออกมาก่อนจะกล่าวด้วยเสียงอันดัง "ดังที่ตกลงกันไว้ ในเมื่อกองทัพของข้าชนะแล้ว ข้าก็หวังว่าจงตูเว่ยจะรักษาสัญญา"

"ใต้เท้าลิโปรดวางใจ แม้ว่าข้า จงป้าจะไม่ใช่สุภาพชน แต่ก็เป็นคนรักษาสัญญา" จงป้าเดินออกไปตอบ แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ในการแข่งขัน แต่เขาก็ไม่อาจตระบัดสัตย์ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

ลิโป้เผยยิ้มพลางกล่าวว่า "จงตูเว่ย กองทัพของข้าได้จัดเตรียมสุราชั้นดีไว้แล้ว ไม่ทราบว่าจงตูเว่ยกล้ามาเข้าร่วมงานเลี้ยงของข้าหรือไม่?"

จงป้าแค่นเสียง "ไฉนจะไม่กล้า!"

"ดี คืนนี้ ขุนนางผู้นี้จะรอท่าน" กล่าวจบ ลิโป้ก็ขี่ม้ากลับค่ายพัก

"ท่านแม่ทัพ ใยท่านจึงตกปากรับคำไปเช่นนั้น? การเข้าร่วมงานเลี้ยงอันตรายยิ่งนัก ผู้ใดจะรู้เล่าว่าลิโป้ไม่ได้มีแผนการใด?" เซียงหูกล่าวอย่างวิตกกังวล

จงป้าตอบว่า "แม่ทัพเซียง หากว่าลิโป้ต้องการจะเอาชีวิตพวกเราจริงๆ เขาคงไม่รั้งรอจนถึงตอนนี้หรอก ยิ่งไม่ต้องจัดงานเลี้ยงให้สิ้นเปลือง"

เซียงหูนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็ยังไม่อาจคลายความกังวล "ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น หากแต่ท่านแม่ทัพเป็นผู้นำของทัพหลงเสีย ท่านไม่ควรเสี่ยงพาตัวเข้าไปในค่ายทหารของทัพปิ้งโจว"

"หากแม่ทัพผู้นี้ไม่ไป ไม่ใช่ว่าข้าจะกลายเป็นที่หัวเราะเยาะเอาได้หรอกหรือ?" จงป้ากล่าว "อีกทั้งจิ้นโหวยังไม่ใช่คนที่มีจิตใจชั่วร้าย พวกเจ้าก็อย่ากังวลเกินไปนักเลย!"

งอตุ้นกล่าวขึ้นว่า "ในเมื่อท่านแม่ทัพยืนกรานว่าจะไป เช่นนั้นท่านก็ควรนำทหารมือดีติดตามไปด้วย หากเกิดเหตุแปรเปลี่ยนใด หากมีผู้ช่วยย่อมดีกว่า"

"ตกลง สำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ ข้าจะนำองค์รักษ์ไปด้วยสิบคน เพราะหากนำคนไปด้วยมากไป กองทัพปิ้งโจวจะหัวเราะเยาะเอาได้" จงป้าคิดว่าลิโป้คงไม่ทำอย่างไรกับเขา เพราะถึงอย่างไร อีกฝ่ายก็คือกองทัพปิ้งโจว หากต้องการเอาชีวิตเขาจริงๆ พวกเขาคงไม่ต้องทำอะไรให้วุ่นวายเช่นนี้ นอกจากนั้นยังไม่มีประโยชน์ใดจากการฆ่าเขา ตรงกันข้าม นั่นกลับจะยิ่งทำให้สมุนของเขาเกิดความเคียดแค้น และในตอนที่ประลองแม่ทัพนั้น ขอเพียงลิโป้มีใจคิดสังหารเขา เขาสามารถลงมือได้เลย

ความพ่ายแพ้ในทั้งสองการประลองทำให้จงป้าไม่กล้าสร้างความยุ่งยากให้กับตระกูลบิอีก ได้ทราบเช่นนี้ บิต๊กก็รู้สึกเบาใจ ถึงอย่างไรเสีย ในช่วงคับขันเป็นตาย หากว่าลิโป้ต้องการจะผลักไสตระกูลบิออกไปรับดาบ เขาก็ไม่มีทางขัดขืนได้เลย ทว่าลิโป้เลือกที่จะยืนหยัดปกป้องตระกูลบิ นี่ทำให้บิต๊กยิ่งคิดจะติดตามรับใช้ลิโป้ให้ดี

จงป้ากล้ามายังค่ายทัพปิ้งโจวด้วยผู้ติดตามเพียงสิบกว่าคน ทำให้แม่ทัพในกองทัพปิ้งโจวรู้สึกนับถือในความกล้าของเขา ความกล้าหาญระดับนี้ ทอดตามองทั่วทั้งแผ่นดิน เกรงว่าจะมีคนเพียงพยิบมือเท่านั้นที่มีมัน แม้ว่ากองทัพหลงเสียจะพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ หากแต่ความกล้าส่วนตัวของจงป้าก็ได้ช่วยเพิ่มชื่อเสียงให้กับทัพหลงเสียไม่น้อย

หลังจากดื่มสุราไปสองจอก จงป้าก็รู้สึกตัวเบาโหวง สุราจิ้นที่ผลิตขึ้นในจิ้นหยางนั้นมีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วแผ่นดิน จงป้ารู้สึกตื่นเต้นเมื่อเขาสามารถลิ้มลองสุราขึ้นชื่อชนิดนี้

สุราสามารถลดระยะห่างระหว่างคนกับคน หลังจากดื่มพลางพูดคุยไปพลาง จงป้าก็รู้สึกยอมรับนับถือกองทัพปิ้งโจวมากยิ่งขึ้นอย่างอดไม่ได้

หลังจากลิโป้เอ่ยปากเข้าประเด็นสำคัญ จงป้าที่รู้สึกเลื่อมใสอยู่แล้วก็ทุบอกและบอกให้วางใจ กองทัพปิ้งโจวจะสามารถเดินทางผ่านพื้นที่หลงเสียได้โดยสวัสดิภาพ

วันต่อมา จงป้าก็จัดงานเลี้ยงขึ้นในไคหยางและเชื้อเชิญลิโป้และคนอื่นๆให้มาเข้าร่วมงานเลี้ยง

ลิโป้และจูล่งตอบตกลง

ครั้งนี้ จงป้าไม่ได้ดื่มอย่างหนักอีก

มองดูผู้คนที่พลุกพล่านในงานเลี้ยง จงป้าก้เดินเข้ามาลดเสียงลงกล่าวกับลิโป้ว่า "ข้าน้อยหวังว่าจิ้นโหวจะไม่บอกต่อผู้อื่นเรื่องม้าศึก โดยเฉพาะทางชีจิ๋ว" แม้ว่าทหารม้าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กองทัพได้อย่างมาก กระนั้นเล่าปี่ก็ยังมีอำนาจอย่างเต็มเปี่ยมในชีจิ๋ว การที่อีกฝ่ายจะยกทัพมาปราบเขาเมื่อใดก็เพียงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นเล่าปี่ยังมีขุนพลพยัคฆ์อย่างกวนอูและเตียวหุยอยู่ด้วย

ลิโป้พยักหน้ากล่าวว่า "จงตูเว่ยไม่ต้องกังวล"

"ในภายหน้าจิ้นโหวสามารถเรียกข้าน้อยว่า เซวียนเกา[1]"

[1 ชื่อรองของจงป้า]

"ตกลง เซวียนเกา ข้าไม่รู้ว่าควรกล่าวหรือไม่กล่าวดี" ลิโป้หัวเราะ

"หากใต้เท้ามีสิ่งใดคิดกล่าว ก็สามารถกล่าวออกมาได้เลย" จงป้าตอบ "ขอบคุณที่ใต้เท้าให้เกียรติข้าน้อย ดังนั้นข้าน้อยจึงจัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นเพื่อตอบแทนน้ำใจของใต้เท้า"

"กองทัพของเซวียนเกาจะยึดครองพื้นที่หลงเสียตลอดไปก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก หลงเสียอยู่ในอาณาเขตการปกครองของชีจิ๋ว เมื่อใดที่เล่าปี่สะสางธุระในมือเสร็จสิ้น คนแรกที่เล่าปี่คิดจะจัดการก็คือท่าน มีหรือที่เขาจะปล่อยให้ท่านเป็นหอกข้างแคร่ โตเกี๋ยมนั้นอ่อนแอ ไม่กล้าตัดสินใจ ดังนั้นจึงไม่คิดจัดการกับเซวียนเกา หากแต่เล่าปี่นั้นเป็นผู้ที่มีใจทะเยอทะยาน เขาจะไม่ปล่อยให้มีกลุ่มอิทธิพลอื่นอยู่ในดินแดนของเขาแน่นอน อีกทั้งเมื่อตอนที่กองทัพโจโฉรุกรานชีจิ๋ว เซวียนเกาก็ไม่ได้ส่งคนไปช่วยเหลือ ดังนั้นเล่าปี่สามารถอ้างความชอบธรรมนี้เข้ากวาดล้างเซวียนเกา ถึงตอนนั้นกองทัพของท่านยังจะหยุดยั้งเขาได้หรือ?" ลิโป้กล่าวตามสิ่งที่กุยแกเคยวิเคราะห์ให้ฟัง

สีหน้าของจงป้าเปลี่ยนกลับไปกลับมาเมื่อได้ยิน ตัวเขาแทบไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับจวนเจ้าเมืองชีจิ๋วเลย แต่เมื่อตอนนี้นำกลับมาพิจารณาให้ดีแล้ว กองทัพหลงเสียก็กำลังตกอยู่ในอันตรายจริงๆ "จิ้นโหวกล่าวได้ถูกต้องแล้ว"

"หากว่าข้าเดาไม่ผิด ข่าวการเดินทางของขบวนรถตระกูลบิที่มาถึงทัพหลงเสียก็คงมาจากคนในเพงเสียกระมัง?" ลิโป้กล่าวพลางจ้องตาจงป้า

จงป้าไม่คิดจะปกปิดอยู่แล้ว เขาพยักหน้าก่อนจะกล่าวว่า "ข่าวการเดินทางของพวกท่านได้รับมาจากคนจากจวนเจ้าเมืองชีจิ๋วจริงๆ ตอนนี้เมื่อมาคิดดูให้ดีแล้ว ดูเหมือนว่าเจตนาของพวกเขาคือต้องการเห็นข้าน้อยและจิ้นโหวต่อสู้กัน จากนั้นพวกเขาก็จะสามารถฉกฉวยผลประโยชน์ ช่างต่ำช้ายิ่งนัก"

เมื่อเห็นว่าจงป้ามองอุบายนี้ออก ลิโป้ก็ทราบว่าจงป้าไม่คิดจะเข้าร่วมกับเล่าปี่แน่นอน คงไม่มีผู้ใดคิดรับใช้ผู้ที่วางอุบายต่อตนเอง

"หวังว่าจิ้นโหวจะช่วยชี้แนะข้าน้อยด้วย" จงป้าประสานมือค้อมคำนับด้วยท่าทางสุภาพนอบน้อม

ลิโป้ประคองจงป้าขึ้นก่อนจะค่อยๆกล่าวว่า "ไม่ทราบว่าแม่ทัพจงสนใจจะคอยแบ่งเบาภาระของปิ้งโจวหรือไม่?"

จงป้านิ่งคิดอย่างหนัก เขาย่อมเข้าใจความหมายในวาจาของลิโป้ และเขาก็ตระหนักด้วยว่าการเข้าร่วมกับปิ้งโจวนั้นจะนำประโยชน์มหาศาลเพียงใดมา อย่างไรก็ตาม เขาจะต้องกลายเป็นผู้ติดตามของผู้อื่น และยากจะรับรองได้ว่าปิ้งโจวจะไม่ยัดใส่คนของพวกเขาเข้ามาควบคุมกองทัพหลงเสีย ซึ่งนั่นก็ขัดต่อความตั้งใจเดิมของทัพหลงเสีย ในสนามรบเมื่อวานนี้ เขาเองก็สัมผัสได้ถึงเจตนาที่จะรับตัวเขาจากลิโป้ได้ลางๆ แม้ว่าเขาจะรู้สึกนับถือเลื่อมใสลิโป้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมเข้าร่วมกับปิ้งโจวโดยง่าย

คล้ายกับมองออกว่าจงป้ากำลังกังวลเรื่องใด ดังนั้นลิโป้จึงกล่าวเสริมว่า "เซวียนเกาไม่ต้องกังวล ปิ้งโจวจะไม่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของทัพหลงเสีย เพียงแต่มีบางเรื่องที่ต้องการความร่วมมือจากกองทัพหลงเสีย"

จงป้าลังเลอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง "ข้าน้อยมีคำขอหนึ่ง ขอเพียงจิ้นโหวตอบตกลง กองทัพหลงเสียก็จะอยู่ใต้บัญชาของจิ้นโหวทันที"