ตอนที่ 239 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

เหล่าแม่ทัพบู๊ต่างไม่กล่าวอะไร ในฐานะแม่ทัพแล้ว พวกเขาย่อมไม่หวาดหวั่นการทำศึก การวางแผนใช้กลยุทธ์ให้เป็นหน้าที่ของพวกขุนนางบุ๋น สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือนำทหารออกทำศึกและคว้าชัยชนะกลับมา

โดยปกติแล้วขุนนางบุ๋นแม่ทัพบู๊จะไม่กล่าวขัดกันเอง แม่ทัพบู๊นั้นมีความคิดที่ตรงไปตรงมา ขณะที่ขุนนางบุ๋นนั้นมักจะใช้เวลาพิจารณาเรื่องราวต่างๆอย่างยาวนานแล้วจึงค่อยตัดสินใจ โดยปกติแล้วขุนนางบัณฑิตมักจะดูแคลนแม่ทัพบู๊ว่าเป็นคนหยาบกร้าน แล้วมีหรือที่แม่ทัพบูีจะมองขุนนางบุ๋นในแง่ดี?

เมื่อภายในโถงเกิดความเงียบอยู่นาน อ้วนเสี้ยวก็ค่อยๆเยือกเย็นลง จากนั้นจึงสั่งการว่า "ส่งคนไปเชิญเหยียนโร่ว"

หลังจากยึดเมืองจี้ได้ เหยียนโร่วก็พบว่าตนยิ่งมายิ่งไม่อาจควบคุมชาวอูหวน แม้แต่เป๊กตุ้นก็ยังขัดคำสั่งของเขาอย่างเปิดเผย ในอดีตนั้น แม้ว่าเป๊กตุ้นจะลอบออกคำสั่งลับหลังเหยียนโร่ว กระนั้นเปลือกนอกเขาก็ยังคงยอมรับคำสั่งจากเหยียนโร่ว ชัยชนะและผลประโยชน์ครั้งใหญ่ทำให้ชาวอูหวนเกิดความเหิมเกริม ทัพกิจิ๋วยึดตำแหน่งที่สำคัญที่สุดของของเมืองไป ดังนั้นชาวอูหวนที่ไม่เต็มใจจะออกจากเมืองจึงออกปล้นชิงสิ่งของไม่หยุด ภายในจวนเจ้าเมือง เหล่าที่ปรึกษาของกิจิ๋วต่างก็กังวลเกี่ยวกับชาวอูหวนเหล่านี้ เพราะถึงอย่างไร ชาวอูหวนก็ยังเป็นพวกนอกด่าน

ผู้ที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกันย่อมมีจิตใจที่ผิดแผก ชาวฮั่นนั้นกังวลเกี่ยวกับชาวเผ่านอกด่านมาตลอด แม้ว่าชาวซยงหนูจะย้ายเข้ามาตั้งรกรากในแผ่นดินต้าฮั่นได้หลายปีแล้ว กระนั้นก็ยังมีการจัดกำลังไปเฝ้าระวังอยู่ในดินแดนของชาวซยงหนูอยู่ตลอด เป้าหมายก็เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวซยงหนูเรืองอำนาจ เมื่อชาวซยงหนูยังเป็นเช่นนั้น ชาวอูหวนก็เป็นดุจเดียวกัน สำหรับชีวิตหลังจากย้ายเข้ามาอยู่ในดินแดนต้าฮั่นนั้น ขุนนางฮั่นที่ถูกส่งไปดูแลย่อมไม่กังวลสนใจในเรื่องนี้

เมื่อเหยียนโร่วได้รับแจ้งว่าอ้วนเสี้ยวส่งคนมาเชิญตัว เขาก็ไม่กล้าเพิกเฉย รีบนำเป๊กตุ้นและเหล่าแม่ทัพไปยังจวนจ้าเมือง

บรรยากาศอันคร่งเครียดภายในห้องโถงทำให้เหยียนโร่วเกิดความงุนงงอยู่บ้าง เหยียนโร่วกุมมือพลางกล่าวว่า "ใต้เท้าอ้วนเชิญข้าน้อยมาเช่นนี้ ไม่ทราบมีเรื่องอันใด?"

เมื่ออยู่ต่อหน้าอ้วนเสี้ยว เหยียนโร่วมักจะแสดงท่าทีอ่อนน้อมอยู่เสมอ

"ใต้เท้าเหยียน ทัพปิ้งโจวซึ่งอยู่ที่เมืองซ่างกู่พลันเคลื่อนทัพโจมตีเมืองปักเป๋ง บัดนี้เมืองปักเป๋งถูกทัพปิ้งโจวยึดครองไปแล้ว" อ้วนเสี้ยวค่อยๆกล่าวขึ้น

"เมืองปักเป๋งถูกยึด?" เหยียนโร่วอุทาน เขาทราบดีว่าเมืองปักเป๋งสำคัญเพียงใด เรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายเพียงเพราะที่นั่นเคยเป็นฐานบัญชาการของกองซุนจ้าน หากว่าเมืองปักเป๋งถูกทัพปิ้งโจวตีชิงไป เมื่อทัพของเหยียนโร่วต้องการจะกลับเมืองเลียวไส นั่นก็จะยากลำบากแล้ว เมื่อเทียบกับอ้วนเสี้ยว เขายังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของเมืองปักเป๋งยิ่งกว่า ในตอนแรกนั้น กองซุนจ้านตั้งทัำประจำการอยู่ที่เมืองปักเป๋ง สกัดกั้นการรุกรานจากชาวเซียนเป่ยและสังหารชาวอูหวน สร้างชื่อเสียงให้กองกำลังม้าขาวโด่งดังขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เมืองปักเป๋งจึงมีความสำคัญต่อทั้งอิวจิ๋วอย่างมาก

"โหวผู้นี้โจมตีเมืองปักเป๋งเพื่อล้างแค้นให้กับไพร่พลที่ตายไป น่าเสียดายที่ข้าเหลือคนอยู่น้อยนัก" อ้วนเสี้ยวถอนหายใจ ตอนนี้เองที่เขาพลันตระหนักได้ถึงความสำคัญของกำลังทหาร เมื่อในมือมีไพร่พลไม่เพียงพอให้ใช้สอย แม้อยากจะยึดครองมากกว่านี้ หากแต่ท้ายที่สุดแล้วก็ทำได้เพียงยืนมอง หลังจากยึดเมืองใหญ่ได้ ก็ต้องใช้ทหารจำนวนมากเข้าประจำการ แม้ว่ากิจิ๋วจะมั่งคั่งร่ำรวย ทว่านั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจวนเจ้าเมืองของกิจิ๋วจะร่ำรวยด้วย ความมั่งคั่งส่วนใหญ่เป็นของตระกูลขุนนาง พวกเขาย่อมไม่มีทางหยิบยื่นกำลังทรัพย์ออกมาช่วยเหลืออ้วนเสี้ยวเพียงเพราะชื่อเสียงของตระกูลอ้วน กล่าวก็คือ หากว่าอ้วนเสี้ยวมีศักยภาพมาก พวกเขาก็จะยิ่งได้รับประโยชน์จากอ้วนเสี้ยว

แม้ว่าอิวจิ๋วจะแร้นแค้น ทั้งยังมีอาณาเขตติดกับชนเผ่าเซียนเป่ยและอูหวน หากแต่ผลประโยชน์จากการค้าขายก็ยังน่าตื่นตะลึง ความแข็งแกร่งของทัพกิจิ๋วจะทำให้เหล่าตระกูลใหญ่ภายในอิวจิ๋วปลอดภัยมากขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตอนที่อ้วนเสี้ยวส่งกองทัพมายังอิวจิ๋ว เขาจึงได้รับการสนับสนุนอย่างลับๆจากบรรดาตระกูลใหญ่ของอิวจิ๋ว

"หากว่าใต้เท้าต้องการตีชิงเมืองปักเป๋งกลับมา ข้าน้อยพร้อมจะส่งกำลังไปช่วยเหลือ" เหยียนโร่วย่อมเข้าใจความหมายในวาจาของอ้วนเสี้ยว เพียงแต่สถานการณ์ในปัจจุบันไม่อนุญาตให้เขากระทำได้ตามอำเภอใจ เว้นเสียแต่ว่าเขาจะติดต่อกับทัพปิ้งโจวเพื่อขอเคลื่อนทัพผ่าน นอกจากนี้ อ้วนเสี้ยวยังเคยรับปากว่าจะยกเมืองปักเป๋งให้กับเขา

ได้ยินดังนั้น สีหน้าของอ้วนเสี้ยวก็ทอแววยินดี แม้ว่าทัพกิจิ๋วจะมีกำลังไม่เพียงพอ แต่หากว่าเหยียนโร่วส่งทหารจำนวนสามหมื่นมาช่วย พวกเขาก็จะกลายเป็นทัพแกร่งทันที อีกทั้งภายในไพร่พลเหล่านี้ยังมีหทารม้าอูหวนอยู่เกือบห้าพันคน ความแข็งแกร่งในส่วนนี้จะสามารถคุกคามทัพปิ้งโจวได้อย่างมาก

"ดี หากว่าโหวผู้นี้สามารถตีเมืองปักเป๋งได้สำเร็จ ใต้เท้าเหยียนจะมีผลงานเป็นอันดับหนึ่ง และข้าก็จะปฏิบัติตามข้อตกลงที่เคยให้ไว้" ในใจอ้วนเสี้ยวนั้น เขาย่อมไม่คิดยกเมืองปักเป๋งให้ใคร หากว่าเสียเมืองปักเป๋งไป นั่นก็จะเท่ากับสูญเสียผลประโยชน์ภายในอิวจิ๋วไปกว่าครึ่ง หากว่าเขาต้องการยึดครองทั้งอิวจิ๋ว เช่นนั้นก็จะขาดเมืองปักเป๋งไปไม่ได้ สำหรับเรื่องช่วยเหยียนโร่วยึดเมืองปักเป่งนั้น มันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น

หลังจากเหล่าที่ปรึกษากำหนดแผนการ อ้วนเสี้ยวก็นำทหารห้าพันนายพร้อมกับกองทัพของเหยียนโร่วเคลื่อนพลไปโจมตีเมืองปักเป๋ง

บุนทิวทั้งโกรธทั้งอับอายกับเรื่องราวในคราวนี้ ทัพปิ้งโจว เขาสาบานว่าจะต้องทำลายลงให้จงได้

"นายท่าน ทัพปิ้งโจวเพิ่งยึดครองเมืองไต้จิ๋วและซ่างกู่ได้ไม่นาน ขณะที่ฝีเท้ายังไม่มั่นคง กลับรีบร้อนโจมตีเมืองปักเป๋งเช่นนี้ นี่นับเป็นโอกาสที่สวรรค์ประทานมาขอรับ" เขาฮิวก้าวออกมากล่าว

อ้วนเสี้ยวตาเป็นประกาย "จื่อหย่วนมีอะไรจะกล่าวก็กล่าวออกมาเถอะ"

"เมื่อทัพปิ้งโจวโจมตีเมืองปักเป๋ง ก็จำต้องทุ่มกำลังออกมาทั้งรัง ในเวลานี้ ภายในเมืองทั้งสองคงมีไพร่พลประจำการอยู่ไม่มาก หยิ่นสง เจ้าเมืองซ่างกู่เองก็อยู่ในทัพเรา ด้วยชื่อเสียงบารมีในกองทัพเมืองซ่างกู่แล้ว คิดชิงเมืองซ่างกู่กลับมาคงไม่ยาก" ขณะที่เขาฮิวกล่าวเช่นนี้ สีหน้าก็ฉายแววภาคภูมิใจ นี่เป็นสิ่งที่เขาเพิ่งนึกขึ้นได้

"ภายในเมืองมีไพร่พลอยู่เพียงไม่กี่พัน เมื่อส่งทัพกิจิ๋วบางส่วนออกไป เกรงว่าคงไม่มีกำลังพอจะแบ่งอีก" อ้วนเสี้ยวถอนหายใจ เมื่อนึกโอกาสอันดีที่ต้องปล่อยให้หลุดมือไป ในใจก็เกิดความไม่เต็มใจ

"นายท่าน ผู้น้อยขอทหารในการยึดเมืองซ่างกู่เพียงสองพันเท่านั้นขอรับ" เขาฮิวกล่าวด้วยความมั่นใจ

"ดี กิจิ๋วโชคดีที่มีจื่อหย่วน" อ้วนเสี้ยวหัวเราะอย่างเบิกบานใจ

ซึ่งความจริง ไม่ใช่ว่าเขาฮิวไม่มีเป้าหมาย ทัพปิ้งโจวเพิ่งครอบครองเมืองซ่างกู่ได้ไม่นาน จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้เพียงใดกันเชียว? เขายังได้สอบถามหยิ่นสงมาก่อน และหยิ่นสงที่เพิ่งเข้าร่วมกับทัพกิจิ๋วก็กระตือรือร้นจะสร้างผลงาน เขาตบอกขันอาสา ขอเพียงพาเขาไปที่นั่นได้ ต่อให้ไม่มีกำลังทหารอยู่ในมือ เขาก็สามารถทำงานนี้ได้สำเร็จ แต่เพื่อความปลอดภัยแล้ว เขาจึงขอกำลังทหารจากอ้วนเสี้ยวมาจำนวนสองพัน

เขาฮิวลดเสียงลงบอกกล่าวแผนการ อ้วนเสี้ยวพยักหน้าอยู่หลายครั้ง

เวลานี้เอง เตียนห้องก็กุมมือกล่าวว่า "นายท่าน ทัพปิ้งโจวประสบความสำเร็จในการยึดเมืองปักเป๋งได้เช่นนี้ จะเป็นไปได้หรือที่จะไม่เตรียมการป้องกันเมืองไต้จิ๋วและเมืองซ่างกู่เลย?"

สิ่งที่เขาฮิวสามารถนึกออก เหล่าที่ปรึกษาของทัพปิ้งโจวหรือจะนึกไม่ออก โดยเฉพาะกุยแกที่มากด้วยปัญญา ที่ทัพกิจิ๋วเสียเมืองปักเป๋งคราวนี้ คงเป็นอุบายของกุยแกไม่ผิดแน่

"ใต้เท้าเตียน เจ้าเมืองหยิ่นอยู่ในเมืองซ่างกุ่มาหลายปี อีกทั้งทัพปิ้งโจวที่โจมตีเมืองปักเป่งยังมีจำนวนนับหมื่น ดังนั้นภายในเมืองทั้งสองจะต้องมีทหารอยู่ไม่มากอย่างแน่นอน" เขาฮิวกล่าวอย่างเย็นชา

"จื่อหย่วนเต็มใจจะรับหน้าที่นี้หรือไม่?" อ้วนเสี้ยวกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด เขาต้องการจะทำให้ทัพปิ้งโจวไร้หนทางให้ถอยกลับ

เขาฮิวชำเลืองมองเตียนห้องอย่างผู้ชนะ เขามีความบาดหมางกับเตียนห้องและจอสิว นี่ไม่ใช่ความลับภายในกิจิ๋ว เขาฮิวไม่ชอบเตียนห้องและจอสิว และจอสิวกับเตียนห้องเองก็มองเขาไม่ดีเช่นกัน