ตอนที่ 94 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

กัวไท่มีบารมีในหมู่ผู้คนที่อยู่ในหุบเขาไม่น้อย หลังจากอธิบายบอกกล่าว นอกจากคนกลุ่มน้อยที่เลือกจะรั้งอยู่ต่อแล้ว คนอื่นๆล้วนเต็มใจออกจากหุบเขาไป๋ปอ

ผู้ซึ่งเลือกที่จะอยู่ต่อส่วนใหญ่เป็นคนเฒ่าคนแก่ที่อ่อนแอ พวกเขาอาศัยอยู่ภายในหุบเขามาหลายปี ดังนั้นจึงรู้สึกผูกพันกับที่นี่อยู่บ้าง ไม่มีผู้ใดรู้ว่าโลกภายนอกดีเหมือนอย่างที่กัวไท่บอกหรือไม่

"แม่ทัพกัว ใต้เท้าเจ้าเมืองกล่าวเช่นนั้นจริงๆรึ?" ชายชราผมสีดอกเลาเอ่ยถาม แม้ว่าเขาจะแก่ชราแล้ว แต่หลานชายของเขาต้องการจะออกไปยังโลกเบื้องนอก

"ท่านผู้เฒ่า เรื่องนี้ใต้เท้าเจ้าเมืองเอ่ยกับข้าเอง ด้วยฐานะอย่างเขาแล้ว ยังมีอะไรต้องหลอกลวง? แต่หากคำพูดของเขาไม่เป็นความจริง ทุกคนก็สามารถกลับมาที่หุบเขาไป๋ปอได้" กัวไท่กล่าว หลังจากได้พูดคุยกับทหารระหว่างเดินทางมา เขาก็เริ่มเชื่อใจลิโป้โดยไม่รู้ตัว

"ประเสริฐ ในเมื่อท่านแม่ทัพกล่าวเช่นนี้ เฒ่าชรากระดูกผุผู้นี้ก็จะทำตามจวนเจ้าเมืองสักครา" ชายชรากล่าว

หลังจากเดินตรวจตราหมู่บ้านภายในหุบเขาไป๋ปอ ลิโป้ก็เกิดความคิดที่จะปรับเปลี่ยนที่นี่ให้กลายเป็นป้อมปราการ จากนั้นก็สร้างโรงอาวุธและชุดเกราะขึ้นที่นี่ หุบเขาไป๋ปอง่ายต่อการป้องกัน แต่ยากที่จะตีหัก ทั้งยังมีสภาพภูมิประเทศที่อันตราย ในหุบเขายังมีพื้นที่กว้าง หมดห่วงเรื่องอาหารเลี้ยงปากท้อง เพียงแค่ส่งทหารมาประจำการอยู่ที่นี่สักสามพันนายก็สามารถต้านทานทัพใหญ่หลายหมื่นได้แล้ว ที่นี่เรียกได้ว่าเหมาะจะเป็นฐานทัพลับของปิ้งโจวมาก

แต่ทุกอย่างจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อผู้คนในหุบเขาไป๋ปอได้ลงหลักปักฐานอย่างเหมาะสมแล้วเท่านั้น และโรงงานช่างฝีมือในจิ้นหยางก็จะสามารถดำเนินการผลิตได้ในไม่ช้า รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเสียก่อน ถึงตอนนั้นเขาก็จะเริ่มดำเนินโครงการปรับปรุงหุบเขาไป๋ปอ

ทั้งเมืองกู่โหลวและเมืองผิงติ้งต่างก็ตกตะลึงเมื่อทราบข่าวเรื่องที่ลิโป้ปราบพิชิตหุบเขาไป๋ปอลงได้ นับตั้งแต่ที่หวังหลินตาย ก็ไม่มีผู้ใดส่งข่าวสถานการณ์ให้พวกเขารู้อีก พวกเขาทราบดีว่าเมื่อลิโป้มาถึงทั้งสองเมือง พวกเขาจะพบเจอกับอะไร

เมื่อลิโป้นำกำลังใกล้จะมาถึงเมืองกู่โหลว ตระกูลหวังและตระกูลหลินก็เริ่มนั่งกันไม่ติดเก้าอี้ นายอำเภอจ้าวชวนยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนยิ่งกว่า

"ใต้เท้าจ้าว อีกไม่นานลิโป้ก็จะมาถึงเมืองนี้แล้ว หากเขารู้ว่าพวกเราร่วมมือกับกัวไท่ เกรงว่าคงหัวหลุดกันหมด!" หลินเหอกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

"ประมุขหลิน พวกเราควรทำอย่างไรดี?" จ้าวชวนถามอย่างหมดหนทาง

"ฮึ่ม เจ้าลิโป้ผู้นั้นมีฝีมือสูงเยี่ยม เช่นนั้นพวกเราก็แสร้งเป็นยอมทำตามมันไปก่อน จากนั้นพวกเราก็จัดงานเลี้ยงขึ้นในจวน ในระหว่างงานเลี้ยง พวกเราก็จะจับตัวมันไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ปิ้งโจวยังจะไปไหนได้?" หลินเหอกล่าวด้วยสีหน้ามืดครึ้ม เขาย่อมไม่เต็มใจละทิ้งอำนาจในมือไป ดังนั้นจึงได้แต่ต้องลองเสี่ยงดูสักครา

จ้าวชวนหน้าขาวซีด หลังจากครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน ในที่สุดก็เอ่ยขึ้นว่า "ประมุขหลินต้องลงมืออย่างรอบคอบ อย่าให้ลิโป้พบเห็นพิรุธ"

"ใต้เท้าจ้าวไม่ต้องกังวล" หลินเหอลุกขึ้นกล่าวลา

..........

ประตูเมืองกู่โหลวเปิดอ้าออก นายอำเภอจ้าวชวนนำคณะขุนนางภายในเมืองพร้อมทหารสองร้อยนายออกไปต้อนรับ ดูเป็นพิธีการใหญ่โตอย่างยากจะได้เห็น ชาวเมืองต่างก็ออกมาต้อนรับท่านเจ้าเมืองเต็มสองข้างทางภายใต้การเฝ้าดูแลอย่างเข้มงวดของกองทหาร

"เรียนท่านแม่ทัพ นายอำเภอแห่งเมืองกู่โหลว ใต้เท้าจ้าวชวน นำกำลังทหารออกมาต้อนรับที่นอกเมืองขอรับ" หลี่เยี่ยนกุมมือกล่าวรายงาน

"เหอะ เตรียมคนของเราให้เรียบร้อย ข้าจะไปพบเขาสักหน่อย" ลิโป้แค่นเสียง เขานึกว่าจ้าวชวนจะชิงหลบหนีไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะกล้ารั้งอยู่ หรือเขายังไม่รู้ว่ากัวไท่โดนปราบไปแล้ว?

กัวไท่มุมปากกระตุก หลังจากทำท่าจะกล่าวอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ทำเพียงนั่งเงียบอยู่บนหลังม้า

"นายท่านโปรดระวังตัว" กาเซี่ยงกระตุ้นเตือน

"อืม แค่นายอำเภอตัวเล็กๆ ยังจะก่อคลื่นลมอะไรได้มากมาย" ลิโป้แค่นเสียง

"นายท่าน หลังจากเข้าเมืองไปแล้วให้....." กาเซี่ยงกระซิบบอกแผนการต่อลิโป้

"นายอำเภอเมืองกู่โหลว จ้าวชวน น้อมคำนับใต้เท้าเจ้าเมือง!" จ้าวชวนโค้งตัวลงคำนับแต่ไกล

"ลำบากใต้เท้าจ้าวแล้ว ลุกขึ้นเถอะ เข้าไปพูดคุยกันในเมือง"

เมื่อพบว่าในน้ำเสียงของลิโป้ยังเป็นปกติ จ้าวชวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก นามของคน เงาของไม้ ลิโป้มีชื่อเสียงเลื่องลือเสียขนาดนั้น จะไม่ให้กริ่งเกรงก็คงยาก

"ใต้เท้า ที่นี่เป็นเพียงเมืองเล็กๆ หากเคลื่อนทัพใหญ่เข้าเมือง เกรงว่าจะรบกวนชาวเมืองได้นะขอรับ" จ้าวชวนก้าวออกมากล่าว

"อืม ใต้เท้าจ้าวช่างละเอียดรอบคอบจริงๆ หลี่เยี่ยน เจ้านำทหารไปตั้งค่ายที่นอกเมือง จ้าวจิน เจ้านำทหารร้อยนายติดตามข้าเข้าไปในเมือง"

เหล่าแม่ทัพของกองทัพปิ้งโจวต่างก็ทราบดีว่าเมืองกู่โหลวและเมืองผิงติ้งทำอะไรเอาไว้บ้าง ดังนั้นทั้งหมดจึงมองดูจ้าวชวนด้วยสายตาดุร้าย

จ้าวจินคัดเลือกทหารม้าเฟยฉีหนึ่งร้อยลำดับแรกติดตามลิโป้เข้าเมือง

กำแพงของเมืองกู่โหลวทั้งต่ำเตี้ยและไม่มีคูเมือง ถนนและบ้านเรือนภายในเมืองก็ทรุดโทรม กระนั้นจวนของจ้าวชวนกลับหรูหรามาก ด้วยเหตุนี้ลิโป้จึงได้ข้อสรุปในใจว่าจ้าวชวนจะต้องเป็นขุนนางที่รีดนาทาเร้นชาวเมืองอย่างแน่นอน

ลิโป้ปรายตามองผู้คนที่ออกมาต้อนรับสองฟากข้าง จากนั้นจึงยิ้มกล่าวว่า "นึกไม่ถึงว่าขุนนางในกู่โหลวจะเป็นที่รักใคร่ของประชาชนขนาดนี้ มีผู้คนมาต้อนรับกันมากมายจริงๆ"

"ใต้เท้าเมตตาผู้คน ชาวกู่โหลวได้ยินชื่อเสียงของใต้เท้ามานาน วันนี้จึงอยากมาต้อนรับใต้เท้าขอรับ" จ้าวชวนอธิบาย

"อ้อ ใช่แล้ว ขุนนางผู้นี้ได้ยินมาว่าผู้คนต่างบ่นเรื่องข้ากันไม่น้อย ใช่มีเรื่องเช่นนี้หรือไม่?" ลิโป้ถามอย่างไม่นำพา

"เรื่องนี้..." จ้าวชวนนิ่งไปครู่หนึ่ง "ใต้เท้าล้อเล่นแล้ว ผู้คนต่างก็สำนึกขอบคุณใต้เท้า พวกเขาจะกล้าบ่นได้อย่างไร? หากว่าใต้เท้าถูกบ่น ข้าน้อยก็คงถูกก่นด่าแล้วขอรับ"

"ท่านก็ยังรู้ตัวนี่" ลิโป้แค่นเสียง

"ใต้เท้าตรากตรำมาตลอดทาง ข้าน้อยได้จัดงานเลี้ยงขึ้นที่จวนของข้าน้อย ขอเชิญใต้เท้าขอรับ" จ้าวชวนหน้าเปลี่ยนสี เขารีบเอ่ยปากเชิญชวนเพราะกลัวว่าลิโป้จะถามคำถามแปลกๆออกมาอีก

"โอ๊ะ ใต้เท้าจ้าวไม่สบายหรือ? ไฉนจึงตัวสั่นอย่างนั้นเล่า?" ลิโป้ถามด้วยรอยยิ้ม

"ขอบคุณใต้เท้าที่เป็นห่วงขอรับ ข้าน้อยเพียงตากลมนานเกินไป ดังนั้นจึงรู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง" จ้าวชวนรีบอธิบาย

"ไม่มีงานเลี้ยงอะไรทั้งนั้น เกรงว่ารอบๆนี่คงวางมือกระบี่เอาไว้แล้วใช่หรือไม่?" ลิโป้ยังคงถามด้วยรอยยิ้ม

ได้ยินดังนั้น จ้าวจินและพวกทหารม้าก็พลันชักกระบี่ออกมาตั้งขบวนโอบล้อมลิโป้เป็นชั้นๆ

"ใต้เท้าล้อเล่นแล้ว ใต้เท้าล้อเล่นแล้ว จะมีมือกระบี่อยู่รอบๆได้อย่างไรขอรับ" จ้าวชวนขาสั่นจนแทบจะล้มลง

"เช่นนั้นขุนนางผู้นี้ขอถามเจ้า ลอบสมคบคิดกับโจรโพกผ้าเหลืองเช่นนี้ หรือตั้งใจจะก่อกบฏ?"

จ้าวชวนรีบคุกเข่าโขกศีรษะอย่างไม่คิดชีวิต "ใต้เท้า ข้าน้อยไม่ได้ทำ ข้าจะกล้าสมคบคิดกับพวกโจรได้อย่างไรขอรับ?"

ลิโป้ส่ายหน้าเบาๆ เอ่ยเพียงแค่นี้ก็แสดงท่าทางออกมาจนหมดแล้ว จ้าวชวนผู้นี้นับว่าขวัญอ่อนมาก

"ใช่แล้วขอรับ ใช่แล้ว ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ ต้องเข้าใจผิดแน่ๆขอรับ" จ้าวชวนรีบปาดเช็ดเหงื่อไม่หยุด

ผู้คนที่อยู่สองข้างทางต่างก็ซุบซิบพูดคุยกัน ไฉนนายอำเภอที่มักจะอวดบารมีไปทั่วถึงกลายเป็นคนขวัญอ่อนขนาดนี้ได้? ชายหนุ่มผู้นั้นเป็นใครกันแน่? จ้าวชวนเพียงบอกว่าเป็นคนใหญ่คนโต แต่ไม่ได้บอกว่าผู้มาเป็นใคร

ลิโป้มีชื่อเสียงที่ดีภายในปิ้งโจว จ้าวชวนจึงกังวลว่าจะมีคนไม่กลัวตายมาฟ้องร้องต่อลิโป้เกี่ยวกับพฤติกรรมของเขา

"โอ๊ะ ใต้เท้าจ้าวร้อนแล้วหรือ?"

"เปล่าขอรับ ข้าน้อยไม่ได้ร้อน ไม่ได้ร้อนจริงๆ" จ้าวชวนเริ่มกล่าวติดๆขัดๆ เวลานี้จิตใจของเขากำลังปั่นป่วนสับสน เขามีลางสังหรณ์ว่าลิโป้ต้องรู้อะไรบางอย่างแล้วแน่ๆ