"ใต้เท้า ข้าน้อยเองก็ได้ยินมาจากคนอื่นเช่นกัน พวกเขากล่าวกันว่า หากต้องการเป็นทหารก็สามารถไปสมัครที่ค่ายทหารได้ขอรับ" จ้าวหมิงย่อมไม่ทราบว่าลิโป้ให้ความสำคัญกับการรับคนมากเพียงไหน
"ภายหน้า ใต้เท้าจ้าวควรละวางศักดิ์ศรี และปฏิบัติต่อผู้คนทั่วไปด้วยทัศนคติที่ดีกว่านี้ มิเช่นนั้น....." ลิโป้กล่าวเสียงเย็น
"ข้าน้อยทราบความผิดแล้ว ภายหน้าจะต้องกระทำให้ดีกว่านี้แน่นอนขอรับ" จ้าวหมิงรีบกล่าว ในใจรู้สึกคลายกังวลลงบ้าง จากคำพูดของลิโป้ แสดงว่าไม่คิดลงโทษความผิดก่อนหน้านี้แล้ว
การค้นพบถ่านหินครั้งนี้ ลิโป้ให้ความสำคัญกับมันมาก ในยุคอาวุธเย็นเช่นนี้ ยิ่งมีอาวุธดีก็ยิ่งเพิ่มพลังรบ เมื่อมีถ่านหินเหล่านี้ การสร้างอาวุธก็จะสะดวกขึ้นมาก
วันรุ่งขึ้น ลิโป้ก็นำองค์รักษ์ร้อยกว่าคนเดินทางไปยังหมู่บ้านหลิงซือ
"เรียนใต้เท้า เฉ่าหมินเก็บของสิ่งนั้นได้ที่นี่ขอรับ" เขากังวลเกี่ยวกับสัญญาว่าจะมอบรางวัลของลิโป้อยู่บ้าง ถึงอย่างไรสิ่งนี้ก็มีอยู่ทั่วภูเขา
หลังจากพิจารณาโดยละเอียดแล้ว ลิโป้ก้ปลาบปลื้มยินดี "เป็นถ่านจริงด้วย"
"ใต้เท้ารู้จักสิ่งนี้หรือขอรับ?" หลี่ต้าถาม สิ่งของสีดำสนิทนี้พบเห็นได้ทั่วภูเขา ไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่มีผู้ใดทราบชื่อเรียกของมัน แม้จะสกปรก แต่ก็ใช้งานง่ายยิ่ง ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆมักจะขึ้นภูเขามาเก็บไปใช้อยู่เป็นประจำ
ลิโป้ยิ้มพลางกล่าวว่า "ขุนนางผู้นี้เองได้ทราบโดยบังเอิญเช่นกัน ผู้เฒ่าหลี่ครั้งนี้นับว่าสร้างผลงานแล้ว"
"ใต้เท้าเรียกเฉ่าหมินว่าหลี่ต้าก็พอขอรับ" หลี่ต้ารีบค้อมคำนับ ได้รับการเรียกจากใต้เท้านายอำเภอว่าผู้เฒ่า เขาจะกล้ารับได้อย่างไร?
หลังจากสั่งตบรางวัลแก่หลี่ต้าและคนอื่นๆอย่างใจกว้างแล้ว ลิโป้ก็ให้หลันเป้งนำทหารหนึ่งพันนายมาตั้งค่ายอยู่ที่นี่เพื่อคอยป้องกันเหมืองถ่านหิน จากนั้นจึงระดมคนมาขุดถ่านหินโดยเร็วที่สุด ขนาดพื้นผิวยังมีถ่านหินอยู่เกลื่อนกลาด แสดงว่าใต้ดินต้องมีมากยิ่งกว่านี้
แม้ว่าชาวบ้านจะไม่เข้าใจว่าไฉนจึงมีกองทัพมาตั้งค่ายปิดทางอยู่ที่นี่ แต่พวกเขาก็ยังคงปฏิบัติตามคำสั่งจากสำนักงานเมืองไม่ให้เข้าไปก่อกวน มีเพียงหลี่ต้าเท่านั้นที่ดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องราว
การรับสมัครคนงานเหมืองและจำนวนเงินค่าจ้างก็ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงพากันตื่นเต้นขึ้นมา ในหมู่บ้านนอกเมืองนั้น คนหนุ่มหลายคนมักจะต้องเข้าไปหางานทำในเมืองเพื่อจุนเจือครอบครัว แต่หากไม่มีทักษะฝีมือพอสมควร ก็ยากจะหางานที่เหมาะสมภายในเมืองจิ้นหยาง
ส่วนการขุดเหมืองนั้น ขอเพียงมีกำลังกายก็เพียงพอ เงื่อนไขที่เรียบง่ายนี้ทำให้ผู้คนต่างกระตือรือร้น อย่างไรเสียสำนักงานเมืองก็มีชื่อเสียงที่ดี ไม่เอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน
หลังจากใช้ทั้งเวลาและทรัพยากรไปเกือบหนึ่งปี ในที่สุดหอกลางเมืองก็สร้างเสร็จสิ้น ผู้คนที่ผ่านไปมาล้วนแต่มองดูหอแห่งนี้ด้วยความสงสัย นี่เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดภายในเมือง เพียงแต่ไม่มีผู้ใดทราบความหมายของมัน
หลังจากเข้าไปสอบถาม จึงได้ทราบว่าหอแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า หอวีรชน เป็นหอที่เตรียมไว้สำหรับเหล่าทหารที่ตาย
วันนี้จะเป็นวันที่ทหารทุกนายในปิ้งโจวไม่มีวันลืม
ด้านหน้าของหอวีรชนมีอนุสาวรีย์วีรุบุรุษตั้งอยู่ แผ่นหินเหล่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เหล่าทหารที่ตายไปนับตั้งแต่ที่ลิโป้ได้ขึ้นเป็นเจ้าเมือง โดยจะสลักประวัติโดยย่อของทหารไว้ที่ด้านหลัง
"มีผู้กล้าหนึ่งหมื่นสามพันห้าร้อยแปดสิบเจ็ดคนที่ล่วงลับไปในสนามรบ พวกเขาพลีชีพเพื่อความสงบสุขของปิ้งโจว แม้ร่างกายจะจากไปแล้ว หากแต่ดวงวิญญาณของพวกเขาจะสถิตอยู่ที่นี่ พวกเขาตายเพื่อประชาชน เป็นการตายอย่างมีเกียรติ คู่ควรให้อนุชนรุ่นหลังได้หวนรำลึก ในฐานะชาวปิ้งโจวแล้ว พวกเจ้าต้องจดจำได้ว่าผู้ใดได้หลั่งโลหิตเพื่อทำให้ปิ้งโจวมั่นคงเช่นทุกวันนี้"
บนแท่นยกสูง ลิโป้ในชุดเกราะกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง "ทหารทุกนายของปิ้งโจวจะต้องมีจิตใจที่กล้าหาญ กำจัดผู้รุกราน เพื่อบ้านเกิด เพื่อครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง"
ชาวเมืองบางคนที่ได้ฟังยังหลั่งน้ำตาออกมา ลูกหลานของพวกเขาเสียชีวิตในการรบ พวกเขาสมควรเศร้าเสียใจ ทว่าพวกเขากลับรู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกหลาน การเสียสละของลูกหลานเหล่านี้ได้ทำให้ปิ้งโจวเป็นปิ้งโจวเฉกเช่นทุกวันนี้ การได้สลักชื่ออยู่บนหอวีรชนให้ผู้คนได้หวนรำลึกนับว่าเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลอย่างมาก
ทหารจากทั้งสามทัพต่างพากันสงบนิ่ง ในใจรู้สึกพลุ่งพล่าน กำจัดศัตรูที่รุกรานบ้านเกิด ต่อให้ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อ พวกเขาก็จะขอต่อสู้เพื่อบ้านเมือง เพื่อครอบครัวที่อยู่ด้านหลัง
"ตายเพื่อบ้านเกิดเมืองนอน พวกเจ้าจะมีตัวตนอยู่ในใจของชาวเมืองตลอดไป แต่หากหลบลี้หนีศัตรู ชาวเมืองก็สาปแช่งพวกเจ้าไปตลอดกาล เบื้องหลังของเจ้ายังมีครอบครัว ยังมีบ้านเกิด หากถอยหลังแล้วไซร้ ผู้ที่รับกรรมก็คือครอบครัว คือบ้านเกิดของพวกเจ้า"
ซัวหยงที่ยืนดูอยู่ไม่ไกลพยักหน้าเบาๆ ถ้อยคำปลุกใจเหล่านี้นั้นว่าดียิ่ง เขาเป็นบัณฑิตที่คลุกคลีอยู่กับหนังสือตำรา แต่ยังไม่เคยได้ยินการปลุกใจเช่นนี้มาก่อน ความจริงในประโยคเหล่านั้นชวนให้ครุ่นคิดอยู่ไม่น้อย
วินาทีนี้ ซัวหยงคล้ายค้นพบเป้าหมาย เขาจะตีแผ่ความรู้ในหนังสือตำราของเขาไปให้ทั่วแผ่นดิน เพื่อรักษามรดกของชนรุ่นก่อนไม่ให้ตกหล่นไปตามกาลเวลา
ผู้คนนั้นเรียบง่ายยิ่ง ขอเพียงแสดงความจริงใจให้กับพวกเขาได้เห็น โดยเฉพาะกับเหล่าผู้ที่มาจากครอบครัวที่ยากลำบาก ยิ่งสถานการณ์ของครอบครัวของพวกเขาดีมากเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งมีขวัญกำลังใจในการทำศึกมากขึ้นเท่านั้น
ในวันที่อนุสาวรีย์วีรบุรุษและหอวีรชนถูกก่อตั้งขึ้น ทหารของกองทัพปิ้งโจวก็ค้นพบสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ พวกเขาจะสู้เพื่อบ้านเกิด เพื่อผู้คนที่อยู่ด้านหลัง พวกเขาไม่ใช่ทหารที่ต่อสู้ไปวันๆอย่างไร้จุดหมายอีกต่อไป แต่เป็นทหารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธา!
ในบรรดากองทัพทั้งหมด ทัพทหารใหม่นับว่าได้รับผลกระทบมากที่สุด พวกเขาล้วนมาจากครอบครัวที่ยากจน ดังนั้นย่อมเข้าใจความรู้สึกของการต้องพลัดถิ่นมากที่สุด โดยเฉพาะเหล่าผู้ที่มาจากเมืองลั่วหยางพร้อมกับลิโป้ พวกเขานับว่าเข้าใจความรู้สึกของการสูญเสียอย่างถึงแก่น ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นกลุ่มคนที่ไม่อยากเห็นบ้านเกิดต้องถูกทำลายมากที่สุด
ในยุคที่แผ่นดินวุ่นวาย ชีวิตของคนทั่วไปเป็นสิ่งไร้ค่า ทว่าชีวิตทหารยังไร้ค่ายิ่งกว่า หลังจากพวกเขาตายไป ก็ไม่มีผู้ใดคิดดูดำดูดีครอบครัวของพวกเขาอีก
ผู้ที่มาเป็นทหารส่วนใหญ่ล้วนมีจิตใจใสซื่อ โดยเฉพาะทหารในยุคราชวงศ์ฮั่น น่าเสียดายที่พวกเขามักจะถูกเบื้องบนคอยชักจูงอย่างเอารัดเอาเปรียบ
ทั้งที่ความจริงแล้วผู้คนนั้นเรียบง่ายมาก ขอเพียงมีที่ให้พวกเขาอยู่อาศัยอย่างมั่นคง พวกเขาก็จะไม่สร้างความวุ่นวายแล้ว
หอวีรชนที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองได้ได้ทำให้จิตใจของชาวปิ้งโจวเกิดความมั่นคง แต่เรื่องนี้ได้ทำให้ไส้ศึกของบรรดาเจ้าเมืองต่างๆต้องวุ่นวายอยู่พักหนึ่ง อย่างไรเสียนี่ก็เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในปิ้งโจว พวกเขาย่อมต้องหาทางรายงานกลับไปยังต้นสังกัด
หอวีรชนและอนุสาวรีย์วีรบุรุษมีทหารคอยเดินตรวจตราทั้งกลางวันและกลางคืน
เรื่องราวของหอวีรชนได้กระตุ้นให้เหล่าทหารมีจิตใจมุ่งมั่นมากขึ้น พวกเขาตั้งใจฝึกฝนให้หนักกว่าเดิม หลังจากมีประสบการณ์ในการทำสงครามมาแล้ว ทหารใหม่ของทัพปิ้งโจวก็ดูหนักแน่นมั่นคงกว่าเดิม
กองทัพปิ้งโจวจะมีการวัดประเมินเป็นประจำทุกเดือน หากอยู่ในช่วงที่ไม่มีสงคราม หากพวกเขาต้องการสร้างผลงาน สิ่งที่ทำได้ก็มีแต่ต้องแสดงผลการฝึกฝนอันยอดเยี่ยมออกมาเท่านั้น
ตันเตามายังค่ายทหารกองทัพปิ้งโจวด้วยความประหม่าอยู่บ้าง หลังจากไปสอบถามที่จวนเจ้าเมือง เขาก็ได้ทราบว่าจดหมายที่เขานำมานั้นเป็นจดหมายแนะนำต่อใต้เท้าเจ้าเมือง เรื่องนี้ทำให้เขาเกิดความคาดหวังขึ้นมา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved