ชีจิ๋วเองก็ยังไม่มั่นคงเช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่แถบหลงเสีย ที่นั่นยังมีไพร่พลที่ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของชีจิ๋ว
เมื่อขามา พวกเขามาพร้อมกับทหารม้าทั้งหนึ่งพัน พวกเขาจึงสามารถห้อตะบึงได้เต็มที่ แต่เมื่อขากลับเพิ่มรถม้าเข้ามาอีกยี่สิบกว่าคัน สถานการณ์ก็แตกต่างไปจากเดิม ประการแรก พวกเขาเคลื่อนที่ได้เชื่องช้า ประการที่สอง พวกเขาดึงดูดสายตาของพวกโจร ในสายตาพวกโจรแล้ว รถม้าขบวนนี้จะต้องขนสมบัติที่ล้ำค่ามากด้วยเป็นแน่ มิเช่นนั้นคงไม่มีทหารม้าคอยคุ้มกันมากมายปานนี้
ในเขตหลงเสียนั้น มีจงป้าเป็นผู้นำ ใต้บัญชาของเขามีไพร่พลกล้าแข็งจำนวนหลายหมื่น เขาก็ผนวกรวมกำลังกับซุนก้วน อินเล้ งอตุ้น และเซียงหูเข้าด้วยกัน เดิมทีจงป้านั้นรับใช้โตเกี๋ยม เมื่อโจรโพกผ้าเหลืองล่มสลาย ทั้งห้าคนก็มาที่หลงเสีย ตั้งตัวเป็นใหญ่ ไม่ยอมรับคำสั่งจากจวนเจ้าเมือง เป็นที่รู้จักกันในนามกองทัพหลงเสีย แม้แต่เจ้าหน้าที่ของทางการก็ยังต้องสุภาพต่อจงป้าสามส่วน และทุกๆปี พวกเขาก็จะต้องส่งเครื่องบรรณาบางส่วนมาให้จงป้า
เพราะเคยกรำศึกออกรบมาหลายปี จงป้าจึงมีความสามารถในการปกครองกองทัพ เขาค่อนข้างเป็นที่รักของเหล่าทหาร ยิ่งไปกว่านั้น ไพร่พลใต้บัญชาของเขายังเชี่ยวชาญการศึก พวกเขาห้าวหาญไม่กลัวตาย ทุกครั้งที่กองทัพหลงเสียบุกโจมตีเมือง พวกเขาจะไม่แตะต้องผู้บริสุทธิ์ เพียงมุ่งเน้นไปที่ตระกูลมั่งคั่งและพวกขุนนาง
จงป้าได้ออกจากกองทัพโจรโพกผ้าเหลืองตั้งแต่ปีแรกๆ เขาได้รับคำเชื้อเชิญจากโตเกี๋ยมให้มาเป็นผู้บัญชาการทหารม้าให้ชีจิ๋ว ซึ่งตำแหน่งนี้ก็ไม่ใช่ตำแหน่งเล็กๆ แต่จงป้านั้นเป็นแม่ทัพบู๊หยาบกระด้าง แม้จะมีกำลังทหารอยู่ในมือ ทว่าเขาก็ยังถูกพวกขุนนางบุ๋นดูถูกดูแคลน แล้วมีหรือที่จงป้าซึ่งอยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์จะสะกดกลั้นความโกรธไว้ได้? ด้วยเหตุนั้นเขาจึงตัดสินใจตัดขาดกับชีจิ๋ว ด้วยเพราะเขาเป็นโจรกลับใจที่เคยนำทัพออกกวาดล้างกากเดนของกองทัพโจรโพกผ้าเหลือง กองทัพทหารที่ประจำการอยู่ในหลงเสีย และไคหยาง จึงหันมาเคารพเขา ไม่เคารพจวนเจ้าเมืองชีจิ๋ว ทหารที่ติดตามจงป้านี้มีความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวจงป้ายิ่ง ดังนั้นกองทัพภายในเขตหลงเสียจึงยิ่งมายิ่งกระด้างกระเดื่อง ไม่ยอมรับคำสั่งจากชีจิ๋ว เพียงรับคำสั่งจากจงป้า
โตเกี๋ยมเองก็รู้สึกจนปัญญาต่อเรื่องนี้ แม้มีความตั้งใจ หากแต่ไร้ซึ่งกำลัง เขาจึงได้แต่ปลอ่ยให้จงป้ายึดครองหลงเสีย
ชื่อชั้นของจงป้านั้นได้ดึงดูดให้สี่ขุนโจรจากเขาไทสันให้มาสวามิภักดิ์ พวกเขายมอรับในความซื่อสัตย์และความสามารถของจงป้า กลายเป็นกำลังสำคัญของจงป้าในภายหลัง
เมื่อขบวนของลิโป้ออกจากชีจิ๋ว พวกเขาก็ต้องผ่านหลงเสีย ซึ่งเป็นอาณาเขตของจงป้า ชีจิ๋วไม่มีอำนาจควบคุมที่นี่โดยสิ้นเชิง แม้ชีจิ๋วจะมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล แต่ก็มีคนไม่มากที่ยอมรับคำสั่งจากโตเกี๋ยม มิเช่นนั้นยามที่โจโฉยกทัพมารุกราน โตเกี๋ยมคงไม่ต้องกังวลแล้ว
ขบวนเดินทางของลิโป้ย่อมไม่อาจหลบซ่อนจากสายตาของจงป้าและคนอื่นๆไปได้ จงป้ามีประสบการณ์ออกศึกมานาน ย่อมเข้าใจถึงความร้ายกาจของทหารม้า อย่างไรก็ตาม เซียงหูและคนอื่นๆนั้นเกิดความโลภต่อม้าศึกและทรัพย์สมบัติที่อยู่ภายในรถม้า เมื่อพวกเขาได้รับข่าวว่าภายในรถม้าเหล่านี้เป็นทรัพย์สมบัติที่ตระกูลบิเก็บสะสมมานานหลายปี พวกเขาก็พากันลูบปาก หากสามารถปล้นชิงมาได้สำเร็จ นั่นจะเป็นทรัพย์สมบัติมหาศาลเพียงใดกัน?
ความมั่งคั่งร่ำรวยดึงดูดใจคน โดยเฉพาะตระกูลคหบดีอย่างตระกูลบิ จงป้าไม่อาจทนต่อการรบเร้าของสมุนทั้งสี่ได้ เพราะสมบัติเหล่านี้ก็สูงเกินค่ามากจริงๆ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจจะลองดูสักครา ไม่ว่าทหารม้าแข็งแกร่งเพียงใด แต่ด้วยกำลังของกองทัพหลงเสียแล้ว การจะเอาชนะทหารม้าจำนวนหนึ่งพันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
จงป้าครุ่นคิด เขามีทหารม้าใต้บัญชาอยู่ห้าร้อยคน รวมกับทหารราบอีกเกือบสองหมื่น การจะปล้นชิงขบวนรถย่อมไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นทหารม้าทั้งหมด แต่ทางฝั่งเขาก็สามารถความได้เปรียบด้านจำนวน ฝั่งเขาสามารถใช้จำนวนถมทับอีกฝ่ายจนตาย แต่ให้สถานการณ์พลิกผันจนเลวร้ายถึงขีดสุด พวกเขาก็ยังมีเมืองให้พึ่งพิง ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวกองทัพปิ้งโจวแม้แต่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเพิ่งได้รับข่าวจากชีจิ๋ว ว่าลิโป้และจวนเจ้าเมืองนั้นเกิดความบาดหมางกันขึ้น หรือก็คือ หากพวกเขาเกิดปะทะกับลิโป้ จวนเจ้าเมืองชีจิ๋วก็จะทำเพียงยืนดูอยู่ด้านข้าง สำหรับชื่อเสียงของลิโป้นั้น เขาหานำพาไม่ เขาเองก็เคยผ่านสนามรบมาไม่ใช่น้อย เทียบกับแม่ทัพขุนศึกคนอื่นๆแล้วก็ใช่ว่าจะด้อยกว่าแต่อย่างใด ผู้ใดจะไปรู้ บางทีเขาอาจจะร้ายกาจกว่าลิโป้ก็ได้
การเคลื่อนกำลังของทหารม้านั้นรวดเร็วยิ่ง ในเมื่อต้องการจะฮุบกลืนรถม้าทั้งขบวน สิ่งแรกที่ต้องกระทำก็คือการจัดการกับทหารม้าคุ้มกันขบวนก่อน
ลิโป้และคนอื่นๆในขบวนย่อมไม่ทราบว่าในหลงเสียนั้น มีคนกำลังคิดจัดการกับพวกเขา
ทหารหน่วยเฟยอิงนั้นปฏิบัติงานอยู่ในเงามืดมาตลอด ในชีจิ๋วนั้นมีทหารเฟยอิงอยู่ร้อยกว่าคน พวกเขาคอยลอบอารักขาลิโป้อยู่ตลอด ทักษะความสามารถของพวกเขายิ่งไม่มีทหารหน่วยใดในแผ่นดินนี้จะเทียบติด อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับเลือกที่จะคอยรับใช้ปิ้งโจวอยู่ในเงามืดโดยไม่สนใจชื่อเสียงลาภยศ
ขบวนรถเดินทางค่อนข้างช้า และภารกิจของทหารหน่วยเฟยอิงก็คือการดูแลเส้นทางข้างหน้าขบวนให้ปลอดภัย คอยค้นหาปัจจัยที่จะก่อให้เกิดอันตราย ขณะที่กำลังจะเข้าสู่พื้นที่หลงเสีย ทหารหน่วยเฟยอิงก็เพิ่มความตื่นตัวยิ่งกว่าเดิม เหอคัง ผู้บัญชาการค่ายซ้ายของหน่วยเฟยอิง ทราบอยู่ก่อนแล้วว่ากองทัพหลงเสียนั้นไม่ยอมขึ้นตรงต่อชีจิ๋ว ครั้งนี้ แม้ว่ากองทัพโจโฉจะเข้ารุกรานชีจิ๋ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแต่อย่างใด
"หัวหน้า กองทัพหลงเสียมีความเคลื่อนไหวขอรับ" ทหารเฟยอิงนายหนึ่งพลันเข้ามารายงาน
หน่วยเฟยอิงมีการติดต่อสื่อสารกันแทบจะตลอดเวลา และข้อมูลที่พวกเขาได้รับมาก็แสดงให้เห็นว่าจงป้าและคนอื่นๆในหลงเสียมีแผนจะโจมตีขบวนรถของลิโป้
หลังจากสั่งให้ลูกน้องสืบข่าวเพิ่มเติมแล้ว เขาก็เร่งรีบมุ่งหน้าไปยังขบวนของลิโป้ทันที แม้ว่าหน่วยเฟยอิงจะแข็งแกร่งมาก แต่พวกเขาก็มีจำนวนเพียงน้อยนิด แทบจะไม่มีบทบาทในสนามรบขนาดใหญ่
สำหรับเหอคังนั้น ลิโป้คุ้นเคยเป็นอย่างดี บุรุษร่างท้วมผู้นี้ไม่อ่อนแอแม้แต่น้อย ในระหว่างการคัดเลือกผู้บัญชาการค่าย เหอคังได้แสดงฝีมืออันโดดเด่นออกมา ดังนั้นจึงเป็นเฟยอิงค่ายซ้ายที่ได้รับหน้าที่ตามมาอารักขาที่ชีจิ๋ว
การปรากฏตัวขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนของเหอคังทำให้ทหารม้าเฟยฉีเกิดความปั่นป่วน หน่วยสอดแนมของพวกเขาไม่พบเห็นคนในรัศมีตรวจค้น เรื่องนี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับหลี่เยี่ยนไปครู่หนึ่ง เมื่อตั้งสติได้เขาก็รีบควบม้าออกมาข้างหน้า
เมื่อเห็นว่าเหอคังกำลังซุบซิบพูดคุยกับลิโป้อยู่ เขาก็ถอนตัวจากมาเงียบๆอย่างรู้ความ เขาเรียกหน่วยสอดแนมมาตำหนิติเตียนกับเรื่องที่ปล่อยให้มีคนเล็ดรอดสายตาของพวกเขาเข้ามาได้ เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของลิโป้ พวกเขาไม่อาจสะเพร่าโดยเด็ดขาด
หลังจากฟังรายงานจากเหอคัง ลิโป้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงค่อยกล่าวขึ้นว่า "จงป้าแห่งหลงเสีย? ขุนนางผู้นี้ไม่เคยติดต่อกับคนผู้นี้มาก่อน"
กุยแกจ้องมองเหอคังเขม็ง เขาทราบว่าปิ้งโจวมีหน่วยรบพิเศษที่ทำงานด้านข่าวกรองโดยเฉพาะอยู่ แต่เขานึกไม่ถึงเลยว่าหน่วยงานนี้จะกระทั่งสามารถสืบทราบจำนวนทหารของหลงเสียได้โดยละเอียดถึงเพียงนี้ กุยแกนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก็กล่าวขึ้นเบาๆว่า "ตอนขามา นายท่านเพียงนำทัพม้ามาด้วย ต่อให้จงป้ามีจิตคิดไม่ซื่อ เขาก็ยากจะทำอย่างไร ทว่าตอนนี้พวกเรามีรถม้าเพิ่มมาอีกยี่สิบกว่าคันรถ ขอเพียงที่ชีจิ๋วมีคนส่งข่าวนี้ให้กับพวกเขา มีหรือที่จงป้าและคนอื่นๆจะไม่บังเกิดความโลภขึ้นได้?"
"ประเสริฐ เล่าปี่ผู้นี้ใช้ได้จริงๆ ขุนนางผู้นี้ดั้นด้นเดินทางนับพันลี้มาช่วยชีจิ๋ว แต่เขากลับกล้าทำกับข้าเช่นนี้" ลิโป้ขบกรามแน่น โทสะที่กักเก็บอยู่ภายในอกพลันปะทุขึ้นมา ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในชีจิ๋ว เขาก็ไม่พอใจกับการกระทำของเล่าปี่อยู่ก่อนแล้ว
กุยแกทราบว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่ฝีมือของเล่าปี่ กระนั้นเขาก็ไม่ได้บอกต่อลิโป้ เพราะเขาเองก็ไม่พอใจเล่าปี่เช่นกัน ยิ่งกว่านั้น เขายังมีลางสังหรณ์ว่าในอนาคต เล่าปี่จะกลายเป็นศัตรูกับปิ้งโจว ยิ่งอีกฝ่ายแข็งแกร่งขึ้นมากเพียงใดก็ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อปิ้งโจว มีเพียงศัตรูที่ตายไปแล้วเท่านั้นจึงจะไม่อาจคุกคามต่อปิ้งโจว การแสดงออกที่ผ่านมาของเล่าปี่ก็เพียงพอจะบอกได้แล้วว่าเขาเองก็มีความทะเยอทะยานไม่แพ้เจ้าเมืองคนอื่นๆ
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved