หลังจากปะทะกันไปหนึ่งคำรบ จงป้าก็หน้าแดงด้วยความอับอาย ผลของการต่อสู้อยู่เหนือความคาดหมายของเขาไปมาก ทว่าในฐานะแม่ทัพบู๊คนหนึ่งแล้ว ตัวเขาย่อมมีศักดิ์ศรีของตัวเอง แม้จะต้องตายในสนามรบ แต่นั่นก็ยังดูกว่าถูกลิโป้ดูหมิ่นเหยียดหยาม
ลิโป้ยิ้มกว้าง "จงตูเว่ยช่างกล้าหาญนัก!"
มุมปากของจงป้ากระตุกเบาๆ มือข้างที่กำง้าวสั่นเทาอยู่ตลอด เขาทราบดีว่าตนคงไม่อาจรับทวนของลิโป้ได้แน่ ยิ่งเมื่ออีกฝ่ายกล่าวเช่นนี้ แสดงว่าล่วงรู้จิตใจของเขา แต่เพื่อรักษาศักดิ์ศรีหน้าตาของตัวเองไว้ เขาก็ได้แต่กัดฟันสู้ต่อ
จงป้าคำรามพลางควบม้าพุ่งเข้าหาลิโป้
ลิโป้ส่ายหน้าเบาๆ เพียงกวาดทวนออกไปคราหนึ่ง เขาย่อมมองเจตนาของจงป้าออก นี่ก็คือศักดิ์ศรีของแม่ทัพ
หลี่เยี่ยนรับมือกับเซียงหูอย่างกระตือรือร้น นับว่าเขาได้รับความกดดันน้อยที่สุดภายในสนาม ความคิดเดียวของเขาก็คือ ทำอย่างไรจึงจะชนะได้โดยเร็วที่สุด จากนั้นจึงรีบไปช่วยลิโป้
เซียงหูยิ่งมายิ่งร้อนใจ แม้ว่าหลี่เยี่ยนจะไม่ได้เรียนวิชากับอาจารย์ยอดฝีมือ แต่ประสบการณ์จากในสนามรบก็ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก เขาติดตามลิโป้ออกรบมาหลายศึก ย่อมต้องได้เรียนรู้วิชาจากยอดขุนพลอย่างลิโป้มาสักท่าสองท่า
ม้าศึกหยุดนิ่ง สายตาของเขาติดตรึงอยู่ที่ทวนกรีดนภาของลิโป้ที่พาดอยู่บนลำคอ จงป้าเผยยิ้มขมขื่นพลางกล่าวว่า "จิ้นโหวมีฝีมือเลิศภพจบแดนนัก"
ลิโป้ถอนทวนกลับและยิ้มให้กับจงป้า ในสายตาของคนนอก นี่อาจเป็นการกระทำที่ประมาทเลินเล่อ แต่จงป้ายอมสู้สุดใจเพื่อได้รับคำชื่นชมจากลิโป้
จงป้าขี่ม้ากลับไปด้วยสีหน้าเหม่อลอย ในการประลองครั้งนี้ พวกเขาพ่ายแพ้แล้ว
เมื่อเห็นว่าลิโป้สามารถจบการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว เตียนอุยก็รู้สึกกระวนกระวายใจ เขาพลันเปลี่ยนรูปแบบการโจมตี ต้องการจะพิชิตศัตรูทั้งสองโดยเร็วที่สุด เมื่อม้าศึกวิ่งเฉียดเข้าใกล้กัน เตียนอุยออกแรงเหยียบโกลนม้าพลางเอนตัวหงายหลัง อาศัยจังหวะที่งอตุ้นตกตะลึง หลบการโจมตีที่งอตุ้นทุ่มสุดตัวได้สำเร็จ ขณะที่นึกถึงคำกำชับก่อนจะเข้าสู่สนามของลิโป้ ทวนในมือขวาก็กระแทกอินเล้ร่วงตกม้าไป ขณะที่ด้านซ้ายใช้ด้ามทวนกระทุ้งใส่หน้าอกของงอตุ้น
ในเวลาเดียวกัน งอตุ้นและอินเล้ก็อาศัยจังหวะนี้กวาดมองดูสนามรบเที่ยวหนึ่ง ทว่าที่กึ่งกลางของสนามมีเพียงร่างที่สูงโปร่งประดุจเทพสงครามของลิโป้เพียงร่างเดียว ทวนกรีดนภาในมือของเขาสะท้อนประกายเย็นเยียบภายใต้ดวงอาทิตย์ ดูเหมือนว่าจงป้าและซุนก้วนจะพ่ายแพ้ไปเรียบร้อยแล้ว
กุยแกที่ดูอยู่ไกลๆถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อลิโป้ลงสนามด้วยตัวเอง เขาก็รู้สึกกังวลอยู่ตลอด แม้จะทราบว่าลิโป้มีฝีมือล้ำเลิศ กระนั้นก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้อยู่ดี
ลิโป้เอาชนะซุนก้วนและจงป้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ทหารม้าเฟยฉีส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีไม่หยุด เทียบกับขวัญกำลังใจที่เปี่ยมล้นของทหารม้าเฟยฉีแล้ว ทหารม้าของจงป้ากลับรู้สึกท้อแท้หดหู่
"ไม่ต้องท้อใจไป จิ้นโหวมีฝีมือเลิศล้ำ ทั่วทั้งแผ่นดินต่างให้การยอมรับ แต่ก็ใช่ว่าพวกเราจะแพ้แก่ทหารม้าเฟยฉีเสียหน่อย" จงป้ากล่าวปลอบโยน การต่อสู้กับลิโป้เมื่อครู่ทำให้เขาตระหนักได้ว่าตนเองยังแข็งแกร่งไม่พอ ในฐานะแม่ทัพใหญ่ของกองทัพ เขาจะต้องมีจิตใจที่หนักแน่นและยืดหยุ่น เห็นได้ชัดว่าการประลองนี้พวกเขาได้เปรียบอีกฝ่ายมาก กระนั้นกลับยังคงพ่ายแพ้แก่อีกฝ่าย ได้แต่เพียงบอกว่าพวกเขายังแข็งแกร่งไม่พอ จะพ่ายแพ้ให้แก่คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ก็ไม่แปลกอะไร
บัดนี้ภายในสนามเหลือเพียงเซียงหูที่กำลังต่อสู้กับหลี่เยี่ยนอย่างดุเดือด เซียงหูผู้นี้นับว่าคู่ควรแล้วที่เป็นแม่ทัพพยัคฆ์ของจงป้า
หลังต่อสู้กันอีกสิบกระบวน เซียงหูก็รั้งทวนกลับก่อนจะชักม้าถอนตัวจากสนามรบ จากนั้นจึงกุมหมัดกล่าวว่า "ในเมื่อผลการประลองถูกตัดสินแล้ว ผู้แซ่เซียงจึงไม่ต้องการลากถ่วงให้ล่าช้า"
หลังจากหลี่เยี่ยนคารวะตอบ เขาก็ขี่ม้ากลับไปรวมกับทัพเฟยฉี
การประลองแรกจบลงด้วยชัยชนะของปิ้งโจว นี่เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงการใช้สองคนกลุ้มรุมหนึ่ง ต่อให้ใช้สามคน ด้วยระดับฝีมือของสี่ขุนโจรแห่งเขาไทสันแล้ว ลิโป้ก็มั่นใจว่าเขาสามารถชนะได้
การประลองแม่ทัพทำให้จงป้ารู้สึกเลื่อมใสลิโป้มาก ยิ่งกว่านั้นอีกฝ่ายยังยั้งมือให้ เพียงโยนซุนก้วนและอินเล้ลงจากม้าแทนที่จะเอาชีวิต จงป้ารู้สึกขอบคุณในข้อนี้เช่นกัน
แม้ว่าการประลองแรกจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ หากแต่จงป้ายังคงตั้งความหวังไว้ที่การประลองต่อไป ทหารม้าหนึ่งร้อยปะทะทหารม้าหนึ่งร้อยห้าสิบ เรียกได้ว่าใช้สามคนสู้สองคน แม้แม่ทัพของปิ้งโจวจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทหารม้าของพวกเขาจะชนะการประลอง เมื่อพ่ายแพ้ในการประลองแม่ทัพ พวกเขาได้แต่ฝากความหวังไว้ที่ประลองไพร่พล
ทหารม้าทั้งสองฝ่ายจะไม่มีแม่ทัพคอยสั่งการ เป็นการปะทะกันระหว่างทหารโดยแท้จริง อีกทั้งยังใช้อาวุธตามปกติ แม้จะกล่าวว่าเป็นการประลอง แต่ในความจริงแล้ว นี่เป็นการต่อสู้ในสนามรบขนาดย่อม
ทหารม้าเฟยฉีทั้งร้อยนายนี้ล้วนคัดเอาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทัพเฟยฉีมา กล่าวได้ว่าพวกเขาก็คือแกนหลักของทัพเฟยฉี หลายคนเคยผ่านการสู้รบกับพวกเซียนเป่ยมาหลายศึก และด้วยการหนุนเสริมจากบังโกลนม้า เกรงว่าต่อให้อีกฝ่ายส่งระดับแม่ทัพออกมารบก็ยากจะเทียบพวกเขาได้
แม้ว่าทหารม้าเฟยฉีจะเป็นทหารม้าเหมือนกัน แต่หลังจากพุ่งโถมออกไป พวกเขาก็ยังคงรักษารูปขบวนเอาไว้ โดยเว้นระยะเอาไว้ช่วงใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงลูกธนูของข้าศึก และเมื่อแยกตัวกันแล้ว ศัตรูก็ยากจะยิงถูกพวกเขาได้
ลูกธนูหลิวว่อนประดุจห่าฝน วิชาขี่ม้ายิงธนูของทหารม้าของจงป้าอยู่คนละระดับกับทหารม้าเฟยฉีโดยสิ้นเชิง
จงป้าที่มองดูอยู่แต่ไกล เมื่อเห็นทหารม้าร่วงม้าไปคนแล้วคนเล่าก็รู้สึกโศกเศร้าอยู่ในใจ เขาคิดว่าทหารม้าของเขาจะสามารถเอาชนะได้ มิคาด เพื่อศึกดวลธนูก็พ่ายแพ้อีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง ฝ่ายเขาเสียทหารม้าไปรวดเดียวสามสิบกว่าคน ขณะที่ทางฝั่งทหารม้าเฟยฉีไม่เสียคนไปแม้แต่คนเดียว จงป้าพบว่ามีทหารม้าเฟยฉีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บจากลูกธนู ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่านั้นคือ ทหารม้าที่บาดเจ็บเหล่านั้นยังช่วงชิงม้าศึกของทางฝั่งเขาไป ซึ่งแม้แต่แม่ทัพบางคนก็ยังไม่มีความสามารถสูงถึงเพียงนี้
"ข้าแพ้แล้ว!" จงป้าทอดถอนใจ กระนั้นก็ไม่ได้เอ่ยปากหยุดการประลองแต่อย่างใด การต่อสู้ในครั้งนี้จะทำให้ทหารของเขาได้รับประสบการณ์ที่ล้ำค่า แม้จะมีคนบาดเจ็บล้มตายไม่น้อย แต่ขอเพียงทหารม้าที่เหลือได้เรียนรู้บางสิ่งจากฝ่ายตรงข้าม เช่นนั้นก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว ในเรื่องแบบนี้ จงป้ายังคงมีวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร ความเย่อหยิ่งในช่วงหลายปีมานี้ทำให้พวกเขาคิดว่าตนเองนั้นไร้เทียมทานในชีจิ๋ว ดังนั้นพวกเขาสมควรได้รับการเตือนสติเช่นนี้แล้ว
เซียงหูและแม่ทัพคนอื่นๆเองก็เห็นว่าพวกเขากำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างหนัก เพียงยิงธนูใส่กันรอบเดียว ความได้เปรียบด้านจำนวนที่เคยมีก็พลันสลายหายไปทันที ที่ทำให้เซียงหูและคนอื่นๆตกตะลึงมากที่สุดก็คือ ทางฝั่งทหารม้าเฟยฉีกลับไม่เสียคนไปแม้แต่คนเดียว นั่นหมายความว่าหทารม้าของทั้งสองฝ่ายอยู่คนละชั้นกันโดยสิ้นเชิง
เซียงหูโน้มตัวเข้าไปกล่าวกับจงป้าเบาๆว่า "หากพวกเราไม่เข้าไปหยุดไว้ เกรงว่าทหารม้าของเราคงตกตายจนหมดสิ้น"
จงป้าถอนหายใจเบาๆ "คงจะดีกว่าหากถูกกวาดล้างจนหมด ให้ทหารที่ถือดีเหล่านั้นได้ทราบว่าทหารม้าชั้นยอดแท้จริงนั้นเป็นอย่างไร" กล่าวถึงตรงนี้ ดวงตาของจงป้าก็ฉายแววเคร่งขรึม เขาจะใช้บทเรียนเลือดอันแสนแพงในครั้งนี้ทำให้ทหารม้าของเขาแข็งแกร่งขึ้น
ผ่านไปสิบห้านาที ทหารม้าของจงป้าก็หลงเหลือเพียงห้าสิบกว่านาย คนที่เหลือหลายคนยังได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ทางฝั่งทหารม้าเฟยฉีก็เกิดการสูญเสียเช่นกัน
"จงป้าผู้นี้นับเป็นคนโหดจริงๆ เขาจงใจปล่อยให้ทหารม้าของตัวเองถูกสังหารจนหมด" ลิโป้กล่าวขึ้นเบาๆ
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved