ตอนที่ 253 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

"ใต้เท้า! ใต้เท้าซูผูเหยียนต้านทานไว้ไม่ไหวแล้วขอรับ!" ทหารม้าอูหวนที่ร่างโชกเลือดผู้หนึ่งควบม้าพลางตะโกนเข้ามา

เป๊กตุ้นตกตะลึง "ซูผูเหยียนมีทหารราบจำนวนห้าพัน หรือว่าอ้วนเสี้ยวยังมีทหารม้าอยู่อีก?"

"ใต้เท้า ทหารเซียนเติงแข็งแกร่งเกินไป ทัพเราไม่มีหน่วยรบใดสามารถหยุดยั้งพวกเขาได้เลย ดังนั้นจึงล้มตายอย่างหนัก" ขณะที่กล่าว ดวงตาของทหารนายนี้ก็ทอแววหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าทหารเซียนเติงได้ทิ้งเงามืดเอาไว้ภายในใจหนักหน่วงเพียงใด

ทหารเซียนเติงเป็นหน่วยรบที่กล้าแข็งอย่างแท้จริง พวกเขากระทั่งสามารถต้านทานทัพม้า ดังนั้นในหมู่ทหารราบด้วยกันย่อมไม่มีหน่วยใดสามารถหยุดยั้งฝีเท้าของทหารเซียนเติงได้ และจ๊กยี่ที่กำลังกังวลก็คิดที่จะเผด็จศึกโดยเร็ว ดังนั้นเขาจึงสั่งให้ทหารเซียนเติงบุกโจมตีเข้าไปในทัพกลางของทหารอูหวนโดยตรง ความไร้เทียมทานของทหารเซียนเติงได้ทำให้ชาวอูหวนตระหนักได้ถึงความสำคัญของอุปกณ์สวมใส่

ใช้ประโยชน์จากแสงไฟที่พอจะส่องสว่างอยู่ในสนามรบ เป๊กตุ้นก็กวาดมองสนามรบเที่ยวหนึ่ง สถานการณ์ของทัพอูหวนบัดนี้กำลังเลวร้ายยิ่ง หลังจากต้องแบ่งทหารม้าจำนวนสองพันไปต่อสู้กับทหารม้าของทัพกิจิ๋วและเหยีนโร่วแล้ว ในมือเป๊กตุ้นก็เหลือทหารม้าเพียงสองพันกว่าคนเท่านั้น หากว่าเขามีทหารมากกว่านี้อีกสักสองพัน เขาก็คงจะไม่ต้องกลัวเกรงใดๆ ปัญหาก็คือ ทหารกิจิ๋วใช้ป้อมค่ายมาต่อสู้กับพวกเขา โดยใช้วิธีการระดมยิงธนูเพื่อตัดทอนกำลังของทัพอูหวนอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าทหารม้าอูหวนจะห้าวหาญ ทว่าทหารม้ากิจิ๋วเองก็ใช่ว่าจะอ่อนแอ การต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดแตกหัก ไม่ว่าฝ่ายใดก็ไม่ยอมแพ้โดยง่าย

ตอนนั้นเอง เสียงกีบเท้าม้าก็ดังใกล้เข้ามาทางสนามรบ พวกทหารที่มีประสบการณ์ล้วนทราบดีว่านี่ก็คือสภาวะตอนที่ทัพม้ากำลังพุ่งจู่โจม เหล่าทหารที่กำลังต่อสู้กันอยู่ต่างหันมองไปโดยรอบด้วยความประหลาดใจ คล้ายต้องการทราบว่าทหารม้านั้นมาจากทางทิศใด

เป๊กตุ้นเผยสีหน้าตื่นเต้นยินดี เขารีบตะโกนขึ้นว่า "ลูกหลานชาวอูหวนจงฟัง ทัพปิ้งโจวมาแล้ว! ทัพหนุนของเรามาถึงแล้ว! จงฆ่าสุนัขทัพกิจิ๋วให้สิ้น!"

ได้ยินคำพูดของเป๊กตุ้น ทหารชาวอูหวนก็ฮึกเหิม การมาของทัพหนุนทำให้พวกเขาคึกคักแจ่มใส ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าที่มานั้นก็คือทัพม้าปิ้งโจว!

เทียบกับท่าทีตื่นเต้นของเป๊กตุ้นแล้ว ทหารทัพกิจิ๋วก็เริ่มรวมตัวกันตั้งกระบวนทัพ แม้แต่ทหารเซียนเติงเองก็เริ่มถอยเข้าใกล้ค่าย

"เป๊กตุ้นสมคบคิดกับทัพปิ้งโจวจริงๆ" อ้วนเสี้ยวแค่นเสียงเย็น

"ใต้เท้าควรรีบเข้าค่าย ทัพปิ้งโจวใกล้เข้ามาแล้วขอรับ!" เขาฮิวกล่าวด้วยความร้อนใจ บัดนี้ทัพกิจิ๋วเปลี่ยนจากได้เปรียบเป็นเสียเปรียบด้านจำนวนแล้ว

"ให้จ๊กยี่นำทหารไปป้องกันประตูค่ายไว้" หลังจากออกคำสั่ง อ้วนเสี้ยวก็รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง เขาทราบว่าหลังจากเกิดเรื่องนี้ ทัพกิจิ๋วคงไม่มีหวังจะยึดเมืองปักเป๋งกลับมาอีก เรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการถอยทัพ เพียงแต่ยังไม่ทราบว่าทัพปิ้งโจวจะปล่อยพวกเขาไปหรือไม่ ในใจอ้วนเสี้ยวนึกเคียดแค้นชาวอูหวนอย่างที่สุด หากไม่ใช่เพราะชาวอูหวนเกิดแปรพักต์ สถานการณ์ก็จะเป็นใจต่อทัพกิจิ๋วมาก

"นายท่าน หลังจากต้านทานทัพปิ้งโจวไว้แล้ว ทัพเราควรถอนกำลังจากเมืองปักเป๋ง ภายในเมืองยีหยงยังมีไพร่พลทัพปิ้งโจวอีกบางส่วน หากถูกโอบล้อมจากสองด้าน ทัพเราจะตกอยุ่ในอันตรายได้" เตียนห้องเสนอ

บรรดาแม่ทัพและที่ปรึกษาซึ่งอยู่ในทัพกลางต่างก็รู้สึกได้ถึงวิกฤตใหญ่หลวง หลังจากทัพปิ้งโจวผนึกกำลังกับทัพอูหวน สถานการณ์ของทัพกิจิ๋วก็น่าเป็นกังวลอย่างมาก

อ้วนเสี้ยวมองดูสนามรบอย่างไม่เต็มใจ สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากอิวจิ๋วมากที่สุดกลับเป็นทัพปิ้งโจว ขณะที่ทัพกิจิ๋วนั้นเสียสละมากที่สุด!

ลิโป้นำทหารม้าเฟยฉีเข้าสู่สนามรบที่กำลังวุ่นวาย ความมืดยามกลางคืนทำให้พวกทหารยิ่งบังเกิดความกลัว โดยเฉพาะหลังจากได้ยินว่าทหารม้าทัพปิ้งโจวกำลังมา มีหรือที่ทหารกิจิ๋วจะไม่กลัว?

ทหารอูหวนพลันตระหนักได้ถึงความโหดร้ายของสนามรบ ทหารม้าเฟยฉีจะไม่หยุดยั้งม้าเพื่อพวกเขา ดังนั้นทหารอูหวนหลายคนจึงไม่ได้ตายด้วยมือทหารกิจิ๋ว แต่เป็นกีบเท้าม้าของทัพเฟยฉี

ลิโป้ที่อยู่ด้านหน้าสุดนำทหารม้าจำนวนหนึ่งพันบุกโจมตีค่ายของทัพกิจิ๋ว

เมื่อเห็นว่าที่หน้าค่ายมีทหารเซียนเติงตั้งขบวนไว้คอยท่า ลิโป้ก็ขมวดคิ้วเบาๆ ชาวอูหวนออกจะใช้การไม่ได้เกินไปแล้ว มีทหารม้าตั้งห้าพันกลับไม่อาจบุกทะลวงค่ายของทัพกิจิ๋วเข้าไปได้ หากว่าทัพอูหวนทะลวงค่ายไว้ให้ก่อน ทหารม้าเฟยฉีก็จะสามารถรุกเข้าไปเข่นฆ่าทัพกิจิ๋วจนแตกพ่ายได้แน่

"ยิงธนู!" ลิโป้ปักทวนไว้ก่อนจะเปลี่ยนมาถือธนู ลูกธนูอันแหลมคมพลันพุ่งฉิวเข้าหาขบวนของทหารเซียนเติง

นายกองคนหนึ่งของทหารเซียนเติงพลันยกมือขึ้นกุมลำคอที่มีลูกธนูเสียบคาไว้ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ยากจะจินตนการได้ว่าลูกธนูนั้นมาจากที่ใด

จ๊กยี่ที่ให้ความสนใจลิโป้ตั้งแต่ต้นพลันตกตะลึง ลิโป้ฉวยโอกาสยิงผ่านช่องว่างของโล่เข้ามาปลิดชีพนายกองคนหนึ่ง นั่นเป็นระยะห่างมากกว่าร้อยก้าว.... ไม่ว่าผู้ใดก็ยากจะยิงผ่านช่องว่างของโล่และปักเข้าลำคอของเป้าหมายที่มีทหารรายล้อม ทว่าลิโป้ทำได้

"ป้องกัน!" จ๊กยี่ตะโกน

ฝนธนูที่ทหารม้าเฟยฉียิงเข้ามาไม่ได้สร้างความเสียหายต่อทหารเซียนเติงมากนัก เพียงทิ้งประกายไฟไว้บนโล่ได้เท่านั้น

แม้ว่าทัพกิจิ๋วจะรอด หากแต่ทัพเหยียนโร่วและทัพอูหวนกลับได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทัพอูหวนที่ไม่ทราบจะไประบายความแค้นกับผู้ใดก็หันเขี้ยวเล็บเข้าหาทัพเหยียนโร่ว อาศัยจำนวนคนที่มากกว่า ผนวกกับมีทัพปิ้งโจวมาถึง ขวัญกำลังใจของทหารม้าอูหวนก็พุ่งขึ้นสูง

งันเหลียงที่มีสีหน้าขมขื่นนำทหารม้าล่าถอยกลับไปทางค่ายทัพกิจิ๋ว

"ทหารม้าเฟยฉี?" เมื่อได้เห็นธงของทัพศัตรู งันเหลียงก็หน้าเปลี่ยนสี เขารีบนำทหารม้าเข่นฆ่าเปลี่ยนทิศไปทางอื่นทันที

เตียนอุยมองดูทหารม้ากิจิ๋วที่หนีไปโดยไม่ทันได้ต่อสู้ด้วยสีหน้าเหม่อลอย กระนั้นเขาก็ไม่คิดจะปล่อยโอกาสไล่หวดสุนัขตกน้ำ หลังจากแบ่งทหารร้อยนายให้ไล่ตามทหารม้ากิจิ๋วไป เขาก็นำทหารที่เหลือบุกโจมตีต่อ

"หน่วยทะลวงค่าย!"

"ฆ่า!"

เสียงตะโกนของทหารจำนวนแปดร้อยดังขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายในสนามรบ

"ใต้เท้า หน่วยทะลวงค่ายมาถึงแล้ว" ซูผูเหยียนประหลาดใจ หลังจากได้เดินชมการฝึกซ้อมของทหารปิ้งโจวภายใต้การนำของกุยแก เขาก็รู้สึกได้ว่าหน่วยทะลวงค่ายของทัพปิ้งโจวสามารถต่อกรกับทหารเซียนเติงได้

ได้ยินดังนั้น เป๊กตุ้นก็ตาเป็นประกาย ก่อนหน้านี้ ที่เขาให้ความสำคัญที่สุดก็คือทหารม้า แต่หลังจากได้ประจักษ์พลังรบของทหารเซียนเติง เขาก็พลันเข้าใจว่าทหารม้านั้นไม่ได้ไร้เทียมทานในสนามรบดังที่คิด หากว่าหน่วยทะลวงค่ายสามารถต่อกรกับทหารเซียนเติงได้ เช่นนั้นอ้วนเสี้ยวก็จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

"หน่วยทะลวงค่าย?" จ๊กยี่ขมวดคิ้ว เขาย่อมต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของหน่วยทะลวงค่ายมาก่อน นี่เป็นกองทหารที่สามารถต้านทารการโจมตีจากทัพม้าเหล็กแห่งเสเหลียงได้สำเร็จ

เมื่อทหารหน่วยทะลวงค่ายปรากฏตัวขึ้น จ๊กยี่ก็ตกตะลึง อาวุธชุดเกราะที่ทหารหน่วยทะลวงค่ายใช้ไม่ได้ด้อยไปกว่าทหารหน่วยเซียนเติงเลย ทั่วร่างของอีกฝ่ายล้วนสวมใส่เกราะหนักทั้งตัว และจากการเคลื่อนขบวนของทหารหน่วยทะลวงค่ายแล้ว เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายฆ่าฟันและความอหังการ คล้ายกับบังเกิดความกริ่งเกรงต่อทหารหน่วยทะลวงค่าย ทหารที่กำลังต่อสู้กันอยู่โดยรอบจึงพากันหลีกเปิดทางให้

"ยิง!" จ๊กยี่ตะโกนสั่งการ ฝนลู฿กศรจากหน้าไม้พลันพุ่งเข้าหาหน่วยทะลวงค่าย

"โล่" โกซุ่นสั่งการ จากนั้นเหล่าทหารก็ยกโล่ในมือขึ้นอย่างเป็นระเบียบพร้อมเพรียง

ความแตกต่างระหว่างธนูและหน้าไม้ก็คือ หน้าไม้นั้นมีอำนาจทะลุทะลวงมากกว่า

เกิดเสียงดัง "ติ๊งๆ" อย่างต่อเนื่อง หน้าไม้ของทหารเซียนเติงล้มเหลวในการหยุดยั้งหน่วยทะลวงค่าย....