ตอนที่ 221 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

เตียวคับเองก็ได้เข้าใจความรู้สึกยามที่งันเหลียงต้องนำทหารม้าออกไปเป็นเหยื่อแล้ว หลังจากพลธนูจำนวนหนึ่งพันก็เป็นพลหอกสองพันคน แม้ว่าพลหอกจะสามารถสร้างความเสียหายแก่ทัพม้าได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเผชิญกับทัพม้าชั้นยอดอย่างทหารม้าขาวแล้ว เตียวคับก็ไม่ได้คาดหวังต่อพลหอกมากนัก

หลังจากศัตรูหลบรอดจากห่าธนูระลอกแรกได้ ขบวนแถวของพลธนูก็พลันเกิดความปั่นป่วน พวกเขาย่อมไม่ต้องการจะมาตายอยู่ในสนามรบเช่นนี้ ทหารธนูต่างก็ตื่นตระหนก แยกย้ายกันวิ่งหนีไปยังสองฟากข้าง ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากหลบหนีกลับทัพใหญ่ เพียงแต่ที่อยู่ด้านหลังพวกเขาคือเหล่าพลหอก หากพวกเขากล้าวิ่งแทรกตัวเข้าไปในกระบวนทัพ พวกเขาคงได้ตายด้วยน้ำมือสหายร่วมรบอย่างแน่นอน เมื่อเห็นว่าแม่ทัพของพวกเขาไม่ได้ห้ามปรามเอะไร ยิ่งมาก็ยิ่งมีพลธนูวิ่งหนีไป

"ช่างอ่อนแอนัก!" กองซุนจ้านแค่นเสียงอย่างดูแคลน สีหน้าของเขาลิงโลดยินดี บัดนี้ธงประจำทัพกลางของทัพกิจิ๋วสามารถมองเห็นได้ลางๆแล้ว ขอเพียงทำลายทัพกลางลงได้ ทัพอิวจิ๋วก็จะชนะในศึกนี้ทันที

"ฆ่า!" เตียวคับชูกระบี่ตะโกนสั่งการเมื่อเผชิญหน้ากับการโถมพุ่งของทหารม้าขาว เขาทราบดีว่าตนเองคงพ่ายแพ้แน่นอน กระนั้นเขาก็ไม่ต้องการจะหลบหนีอย่างน่าสังเวช ตัวเขาเองก็มีศักดิ์ศรีของแม่ทัพค้ำคออยู่

ขบวนของพลหอกพลันยกตั้งหอกขึ้นราวกับพยายามจะดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย มือที่จับหอกของพลหอกหลายคนสั่นเทาไม่หยุด พวกเขาเคยลงสนามรบมาก่อน ดังนั้นย่อมทราบว่า เมื่อเผชิญกับการพุ่งโถมจู่โจมของทหารม้า การหลบหลีกนั้นเป็นไปไม่ได้ ต่อให้พวกเขาสังหารทหารม้าบนหลังม้าได้ ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจรอดจากแรงปะทะของม้าศึกที่ตามมาได้อยู่ดี พวกเขาทำได้เพียงพยายามใช้ชีวิตเพื่อแลกชีวิต ไม่ว่าจะสังหารทหารม้าได้หรือไม่ ที่รอพวกเขาอยู่ก็มีเพียงความตายเท่านั้น

แต่ถึงอย่างไร สัญชาตญาณของพวกเขาก็ร้องสั่งให้ยกชูหอกขึ้นแทงใส่ทหารม้าขาวอย่างดุร้าย

จูล่งควบม้านำหน้า เอี้ยวตัวหลบหอกสองเล่มที่แทงเข้าหา จากนั้นจึงสะบัดหอกสีเงินที่อยู่ในมือ แทงสังหารพลหอกทั้งสองไป

แม้ว่าจูล่งจะเข้าร่วมกับกองทหารม้าขาวได้ไม่นาน กระนั้นเขากลับมีศักดิ์ศรีบารมีในกองทัพสูงยิ่ง เป็นรองแค่เพียงกองซุนจ้านเท่านั้น แม้แต่ยำก๋ง ผู้บัญชาการทหารม้าขาวคนก่อนก็ยังเทียบเขาไม่ได้ เหตุผลหลักๆก็เป็นเพราะความกล้าหาญของจูล่ง ทำให้เขาได้รับความเคารพจากทหารม้าขาวอย่างสูง การติดตามจูล่งออกรบทำให้พวกเขารู้สึกมั่นคง และจูล่งเองก็ปฏิบัติต่อเหล่าทหารราวกับสหาย

หลังจากทำลายแนวป้องกันของพลหอกลงได้แล้ว ทหารม้าขาวก็บุกจู่โจมขบวนทัพของเตียวคับดุจหมาป่ากระโจนเข้าสู่ฝูงแกะ

หลังจากเตียวคับสั่งถอยทัพแล้ว ที่มุมปากของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มเยาะ ที่ด้านหลังของเขาก็คือ หทารหน่วยเซียนเติงของจ๊กยี่ พวกเขาถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อใช้กำจัดทหารม้าขาวให้หายไปจากแผ่นดินโดยเฉพาะ

มองดูทหารกิจิ๋วที่แตกพ่ายไม่เป็นกระบวนโดยง่ายดาย จูล่งก็พลันเกิดลางสังหรณ์อันเลวร้ายขึ้นมา ความไม่สบายใจยิ่งมายิ่งหนักข้อ หลังจากที่ทหารหอกของกิจิ๋วหลบหนีไปแล้ว จูล่งก็มองเห็นศัตรูขบวนใหม่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล

ศัตรูขบวนนี้สวมใส่เกราะหนักทั้งตัว กะประมาณดูแล้ว เชุดเกราะเหล่านี้สมควรหนักห้าสิบกว่ากิโลกรัม หากเปลี่ยนเป็นสวมให้ทหารทั่วไป เกรงว่าพวกเขาคงวิ่งไม่ได้เสียด้วยซ้ำ

นี่คือทหารราบ เป็นทหารราบเกราะหนัก แค่เพียงอาวุธที่อยุ่ในมือของพวกเขาก็ยาวกว่าหอกทั่วไปแล้ว อีกทั้งโล่ใหญ่ที่พวกเขาถือเอาไว้ก็ทำให้ผู้คนต้องตกตะลึงเมื่อได้เห็น

แม้จะเผชิญหน้ากับทัพพิสดารเช่นนี้ กองซุนจ้านก็หาได้หวั่นเกรงไม่ ความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องของทหารทัพกิจิ๋วทำให้เขามองเห็นโอกาสที่จะชนะ เขายกชูหอกพลางตวาดคำหนึ่งแล้วจึงควบม้าพุ่งออกไป ลักษระท่าทางดูองอาจและห้าวหาญดังที่แม่ทัพชั้นสูงพึงมี ทหารใต้บัญชาของเขาเองก็ติดตามไปไม่ห่าง ทหารม้าขาวยกชูหอกเล็งไปข้างหน้าขณะพุ่งโถมเข้าใส่ทหารหน่วยเซียนเติง เพียงแต่ในเวลานี้ พวกเขาไม่ได้หยิบธนูขึ้นมาน้าวยิงแต่อย่างใด

เผชิญกับทหารราบเกราะหนักเช่นนี้ ห่าธนูแทบจะไม่อาจเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขาได้ ที่พวกเขาต้องทำก็เพียงแค่ยกโล่ใบใหญ่ในมือขึ้นต้านทานเท่านั้น

เมื่อทหารม้าขาวเข้ามาใกล้จนถึงระดับหนึ่ง จ๊กยี่ก็พลันสั่งการทันที "ยิงได้!"

ลูกศรจากหน้าไม้ของหน่วยเซียนเติงพลันพุ่งออกไปแน่นขนัด ลูกศรจากหน้าไม้นั้นไม่เหมือนกับลูกธนู ลูกศรของหน้าไม้นั้นไม่เพียงแต่มีความแม่นยำสูงเท่านั้น แต่ยังมีพลังเจาะทะลวงสูงมากเช่นกัน การต้องหลบหลีกห่าลูกศรจากระยะกระชั้นชิดเช่นนี้นับเป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่ง

อาวุธที่ทหารหน่วยเซียนเติงถนัดที่สุดก็คือหน้าไม้ และอาวุธชนิดนี้เองก็สามารถทำให้ทหารม้าต้องจ่ายค่าตอบแทนที่สูงล้ำ แม้ว่าหอกยาวจะสามารถทำร้ายทหารม้าได้มากเช่นเดียวกัน กระนั้นก็ยังไม่รวดเร็วเท่ากับลูกศรที่ยิงออกจากหน้าไม้

เมื่อถูกยิงโดยไม่ทันตั้งตัว ทหารม้าขาวร้อยกว่าคนก็ร่วงหล่นจากหลังม้า

กองซุนจ้านยกหอกปัดป้องลูกศรจากหน้าไม้ที่ระดมยิงเข้ามา สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด พลังของลูกศรเหล่านี้ร้ายกาจยิ่ง สามารถสร้างความเสียหายแก่ทหารม้าขาวได้อย่างมหาศาล ในการต่อสู้กับทัพกิจิ๋วก่อนหน้านี้นั้น ฝ่ายเขาเพียงเสียทหารม้าขาวไปสองร้อยกว่าคน แต่เมื่อเผชิญกับลูกศรที่ยิงเข้ามาระลอกนี้ระลอกเดียวก็ทำให้เสียทหารม้าขาวไปร้อยกว่าคนแล้ว นี่เป็นความสูญเสียอย่างหนักอย่างไม่ต้องสงสัย

"ฆ่า!" กองซุนจ้านตะโกนด้วยความโกรธ เผชิญหน้ากับศัตรูประเภท มีเพียงการเข้าถึงตัวของอีกฝ่ายเท่านั้นจึงจะมีโอกาสชนะ

"ป้องกัน!" จ๊กยี่ตะโกนสั่งการหลังจากประเมินสถานการณ์ดูแล้ว

โล่ใหญ่ในมือของพวกทหารกระแทกตั้งลงบนพื้นเสียงดัง พวกเขาเปลี่ยนท่ายึดจับให้มีความมั่นคงมากขึ้นมาก หลังโล่ใหญ่หนึ่งใบจะใช้ทหารสามคนช่วยกันค้ำยันไว้

เมื่อทหารม้าขาวคนแรกชนปะทะกับโล่ใหญ่ด้วยควาาเร็ว ม้าศึกที่ได้ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็พลันยกขาหน้าขึ้นเหยียบลงบนโล่ใหญ่ของทหารหน่วยเซียนเติงจนเกิดรอยกีบเท้าม้าฝังลึกอยู่บนพื้นดิน

"แทง!" จ๊กยี่คำราม

ทหารแถวหลังที่กำหอกเตรียมตัวอยู่ก่อนแล้วก็พลันแทงหอกผ่านช่องว่างรอยต่อของโล่ออกไป ทหารม้าขาวไม่ทันระวังตัว ดังนั้นจึงถูกแทงเข้าที่ลำคอและร่วงตกหลังม้าไป

ในเวลาเพียงไม่ถึงสิบห้านาที ทหารม้าขาวก็ตายภายใต้คมหอกไปแล้วสองร้อยกว่าคน

อัตราความสูญเสียเช่นนี้ทำให้กองซุนจ้านตื่นตระหนก การสูญเสียจากการโจมตีทัพกิจิ๋วก่อนหน้านี้รวมกันยังไม่เทียบเท่ากับช่วงเวลาประเดี๋ยวเดียวนี้ หากไม่สามารถทำลายแนวรบของทหารราบขบวนนี้ลงได้ เช่นนั้นทัพอิวจิ๋วก็คงยากจะที่เอาชนะทัพกิจิ๋วได้ แม้จะเผชิญกับทหารม้า ทว่าทหารราบขบวนนี้กลับยังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ จะเกิดอะไรขึ้นหากทหารม้าขาวถูกแทนที่ด้วยขบวนทหารราบ?

"ดึง!" ทันทีที่สิ้นเสียงของจ๊กยี่ เหล่าทหารก็ดึงหอกที่อยู่ในมือกลับ

"ยิง!" เมื่อจ๊กยี่สั่งการ พลหน้าไม้ที่อยู่ทางด้านหลังก็ยิงออกไปอีกระลอก

วิธีการต่อสู้ของทหารเซียนเติงนั้นเรียบง่ายยิ่ง พวกเขาใช้ทหารถือโล่ตั้งแนวป้องกันไว้ข้างหน้า แถวถัดมาจึงเป็นพลหอก จากนั้นจึงค่อยเป็นพลยิงหน้าไม้ หน่วยของพวกเขาก่อตั้งขึ้นก็เพื่อใช้จัดการกับทหารม้าโดยเฉพาะ หอกในมือของทหารเซียนเติงมีความยาวถึงสิบฉื่อ ดังนั้นต่อให้ซ่อนตัวอยู่หลังโล่ พวกเขาก็ยังสามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับทหารม้าได้ สำหรับวามปลอดภัยนั้น พวกเขามีโล่ใบใหญ่ที่เปรียบประดุจปราการเหล็กเป็นที่กำบัง ไม่ว่าทหารม้าจะชนปะทะสักเท่าใด พวกเขาก็ไม่อาจฝ่าทะลวงมาได้ ตราบใดที่แนวโล่ยังไม่แตก ทหารม้าก็ยากจะสร้างความเสียหายต่อพวกเขา

เมื่อเห็นทหารม้าขาวยังคงสู้ไม่ถอย รอยยิ้มของจ๊กยี่ก็ยิ่งถ่างกว้างขึ้น หากสามารถทำลายกองทหารม้าขาวอันโด่งดังลงได้ เช่นนั้นชื่อของแม่ทัพจ๊กยี่ก็จะแพร่กระจายไปทั่วทั้งแผ่นดิน!