ตอนที่ 228 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

ประตูเมืองที่นิ่งเงียบมาหลายวัน ในที่สุดก็ค่อยๆเปิดออกภายใต้สายตาประหลาดใจของทหารชาวอูหวน ทหารม้ากลุ่มหนึ่งควบม้าออกมา จากร่างกายของพวกของพวกเขา ชาวอูหวนสามารถสัมผัสได้ภึงพลังสภาวะชนิดหนึ่ง เป็นเจตจำนงการต่อสู้อันแรงกล้า แม่ทัพที่นำทัพออกมาขี่ม้าสีขาวปลอด ในมือถือหอกสีเงิน ท่าทางดูองอาจยิ่ง

จูล่งนำทหารม้าขาวสามสิบเจ็ดคนพุ่งโถมเข้าหาทหารอูหวน จากนั้นทหารม้าอิวจิ๋วจำนวนนับพันก็ติดตามมาเพื่อที่จะแสดงให้ชาวอูหวนได้เห็นว่าพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใด

ทหารอูหวนคิดไม่ถึงว่าทหารอิวจิ๋วจะกล้าออกมาสู้ที่นอกเมือง ด้วยการป้องกันที่หละหลวมเช่นนี้ มีหรือที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของทหารม้าขาว โดยเฉพาะจูล่ง หอกสีเงินแทงซ้ายป่ายขวา ชั่วพริบตาก็มีทหารม้าอูหวนแปดคนถูกเขาสังหารไป เมื่อมองเห็นแม่ทัพของทหารม้าอูหวน จูล่งก็ควบม้าตรงดิ่งเข้าหา หอกสีเงินพุ่งแทงออก แม่ทัพอูหวนนั้นก็ถูกแทงตกม้าตาย

ทหารม้าอิวจิ๋วสามารถเอาชัยได้ในเวลาอันสั้น ทำให้ทหารม้าอูหวนจำนวนสองพันที่อยู่ด้านนอกประตูเมืองทางทิศตะวันออกต้องหลบหนีด้วยความอับอาย

หลังจากได้รับชัยชนะ ทหารม้าอิวจิ๋วก็ไม่ได้หยุดยั้งลง พวกเขามุ่งหน้าไปยงประตูเมืองทิศเหนือ เห็นได้ชัดว่าจูล่งยังไม่พอใจต่อชัยชนะเพียงเล็กน้อยนี้ เขาต้องการชัยชนะครั้งใหญ่ เพื่อให้ทหารม้าอิวจิ๋วได้ฟื้นคืนความกล้าหาญที่พวกเขาได้เสียไป

เตียวเหียนได้รับคำสั่งให้มายั่วยุทหารอิวจิ๋วที่ประตูเมืองทิศเหนือ ทหารทั้งสามพันที่ติดตามเขามาล้วนคิดว่าทหารอิวจิ๋วคงไม่กล้าออกมารบ ดังนั้นรูปขบวนของพวกเขาจึงดูไร้ระเบียบอยู่บ้าง แม่ทัพนายกองบางคนกระทั่งเอนกายลงนอนกับพื้นด้วยความเกียจคร้าน ตอนที่พวกเขามาถึง แม่ทัพของพวกเขาได้อธิบายเอาไว้แล้วว่า หากทหารอิวจิ๋วกล้ายกกำลังออกมาต่อสู้ พวกเขา็จะรีบส่งคนไปแจ้งต่อทัพใหญ่ เพียงเท่านั้นก็นับเป็นผลงานใหญ่แล้ว

"ท่านแม่ทัพ ดูนั่น!" ทหารนายหนึ่งชี้ไปยังทหารม้าที่กำลังควบมาจากระยะไกล

เตียวเหียนไม่ได้ใส่ใจมากนัก "โวยวายอะไร ก็แค่ทหารม้าไม่ใช่หรือ? บางทีอาจเป็นทหารม้าอูหวนที่อยู่ว่างจนเบื่อจนออกมาขี่ม้าเล่น"

"ทะ...ท่านแม่ทัพ ทหารม้าเหล่านั้นชูธงทัพอิวจิ๋วขอรับ!" ทหารนายนั้นโพล่งออกมาด้วยสีหน้าขาวซีด

เตียวเหียนหันมองตามไป แล้วในใจก็ต้องตกตะลึง เขารีบตะโกนขึ้นว่า "รีบส่งคนไปแจ้งท่านแม่ทัพว่าทัพอิวจิ๋วออกมาจากเมืองแล้ว!"

ความเร็วของฝีเท้าม้านั้นรวดเร็วยิ่ง เพียงชั่วกระพริบตา พวกเขาก็จ่อประชิดขบวนทัพของทหารกิจิ๋วแล้ว ทหารกิจิ๋วพลันบังเกิดความแตกตื่น ในรูปขบวนทัพเกิดความระส่ำระส่าย กลุ่มทหารม้าขาวสามสิบกว่าโถมเข้าโจมตีเข้าไปในกระบวนทัพของทหารกิจิ๋ว นำโดยจูล่งที่คล้ายกลายเป็นเทพสังหารออกกวาดล้างทัพกิจิ๋ว

เตียวเหียนหน้าขาวซีด หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้แล้วทัพอิวจิ๋วที่อยู่ในเมืองตามมาสมทบล่ะก็ อย่าว่าแต่ผลงานเลย เขาจะโดนถอดออกจากตำแหน่งด้วยซ้ำ นายท่านส่งเขามาเพื่อปิดล้อมเมือง แต่เขากลับคล้ายนำทหารมาเที่ยวเล่น

เผชิญกับทัพที่หิวกระหายดังหมาป่าอย่างทัพอิวจิ๋ว ทหารกิจิ๋วหลายคนก็วิ่งหนีแตกกระจาย หลังจากโจมตีทัพกิจิ๋วนี้แตกพ่ายแล้ว พวกเขาก็รีบมุ่งหน้าไปยังประตูเมืองทิศตะวันตกต่อทันที

ชะตากรรมของทัพกิจิ๋วทางตะวันตกเองก็น่าสังเวชไม่แพ้กัน พวกเขาต่างคิดไม่ถึงว่าทหารอิวจิ๋วที่มีจำนวนน้อยกว่ามากจะกล้าออกมาต่อสู้ที่นอกเมือง

ด้วยชัยชนะต่อเนื่องสามสนามติด ขวัญกำลังใจของทหารภายในเมืองก็เพิ่มสูงขึ้นมาก เหล่าทหารที่อยู่บนกำแพงเมืองต่างประจักษืด้วยตาตนเองว่าจูล่งนำทหารม้าหนึ่งพันเอาชนะทหารม้าอูหวนและทหารกิจิ๋วจะพวกนั้นต้องหนีกระเจิง ชัยชนะเหล่านี้มีความหมายต่อทหารป้องกันเมืองมาก การศึกครั้งนี้ทำให้ชื่อเสียงของจูล่งแพร่กระจายออกไปในทัพเหยียนโร่วและทัพกิจิ๋วอย่างรวดเร็ว

เมื่อนึกถึงว่าจูล่งยังเอาชนะงันเหลียงได้ในสองกระบวน แม่ทัพหลายคนก็ลอบจดจำนามจูล่งเอาไว้ในใจ เตียวเหียนรู้สึกโชคดีที่ตนหนีรอดจากเงื้อมมือแม่ทัพพยัคฆ์เช่นนี้มาได้

สีหน้าของอ้วนเสี้ยวดำทะมึน จูล่งนำทหารม้าหนึ่งพันกวาดล้างกองทัพที่นอกเมืองและทำลายการโอบล้อมของเขา สิ่งที่เขาต้องการคือทำให้ทหารป้องกันเมืองรู้สึกสิ้นหวัง เขาและเหยียนโร่วมีกำลังรวมกันถึงห้าหมื่น มากกว่าทหารป้องกันเมืองหลายเท่า หากต้องการจะพิชิตอำเภอจี้ พวกเชาก็ต้องใช้กำลังคนมากกว่าอีกฝ่ายสิบเท่า ต่อให้ขวัญกำลังใจของทัพอิวจิ๋วจะตกต่ำลง แต่หากไม่มีทหารมากกว่าอีกฝ่ายอย่างน้อยห้าเท่าก็ยังยากที่จะตีเมืองแตก อ้วนเสี้ยวใช้กลศึกทั่วไปอย่าง ล้อมสามละเว้นหนึ่ง ทำให้ทหารป้องกันเมืองมีความหวังที่จะรอด เป็นการทำลายความคิดต่อสู้ของทหารอิวจิ๋ว

จากข่าวที่ส่งมาจากภายในเมือง กองวุนจ้านนั้นเอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ภายในห้องแสดงว่าท้อแท้สิ้นหวัง ตอนนี้เมื่อทหารอิวจิ๋วสามารถรบชนะติดต่อกัน หากต้องการตีชิงเมืองจี้ พวกเขาก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่สูงกว่าเดิม

"นายท่าน ทัพอิวจิ๋วจนตรอกแล้ว แม้จะได้รับชนะเล็กน้อย แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในภาพรวม ความพ่ายแพ้ของกองวุนจ้านถูกกำหนดเอาไว้แล้วขอรับ" ฮองกี๋กล่าว

"เพียงพวกเราต้องเฝ้าระวังทัพปิ้งโจวเอาไว้ ลิโป้เพิ่งยึดครองทั้งสองเมืองได้สำเร็จ เขาย่อมไม่ต้องการผลประโยชน์เพียงแค่นี้เป็นแน่ ทัพปิ้งโจวเป็นทัพแกร่ง ดังนั้นพวกเราจึงควรหาวิธีรับมือไว้แต่เนิ่นๆ"

"อืม ดูเหมือนพวกเราจะแต่เร่งมือจัดการทัพอิวจิ๋ว มิเช่นนั้นหากทัพปิ้งโจวสอดมือเข้ามา นั่นก็จะเป็นปัญหาแล้ว" อ้วนเสี้ยวพยักหน้า

เหล่าที่ปรึกษาภายในกระโจมต่างขานรับ การยึดอำเภอจี้มีความสำคัญยิ่ง สงครามได้ดำเนินมาถึงจุดเกินว่าที่ทั้งสองฝ่ายจะปรองดองกันได้ หากให้เวลากองซุนจ้านได้พักหายใจ ความพยายามที่แล้วมาของทัพกิจิ๋วก็จะเสียเปล่า

ศักดิ์ศรีและบารมีของกองซุนจ้านในกองทัพอิวจิ๋วนั้นไม่อาจดูแคลน แม้จะพ่ายแพ้ในศึกใหญ่สองศึกติดต่อกัน และมีไพร่พลสู้ทัพเหยียนโร่วและทัพกิจิ๋วไม่ได้ แต่พวกเขาควรรีบจบศึกลงโดยเร็ว เหยียนโร่วนั้นชูธงในการล้างแค้นให้เล่าหงี ทหารใต้บัญชากว่าครึ่งเป็นชาวอูหวน แม้พวกเขาสามารถเผชิญหน้ากับกองซุนจ้านมาได้จนกระทั่งถึงตอนนี้ แต่พวกเขาก็อาศัยความพึ่งพาจากเผ่าอูหวน

ภายในเมืองจี้ยังมีขุมกำลังที่พวกเขาไม่อาจมองข้าม นั่นก็คือ เหล่าตระกูลใหญ่ อ้วนเสี้ยวมีบารมีในหมู่ตระกูลขุนนางอย่างสูง เมื่อมีชื่อเสียงของตระกูลขุนนางสี่สมัยแขวนประดับอยู่ พวกเขามีทรัพยากรและมีเส้นสายโยงใย ทำให้ยากจะระวังป้องกัน เว้นแต่จะมั่นใจว่าใต้บัญชานั้นไม่มีคนจากตระกูลใหญ่อยู่เลย

ซึ่งกองซุนจ้านยังควบคุมอิวจิ๋วได้ไม่ถึงขั้นนั้น ซึ่งความจริงหากกองซุนจ้านรบชนะ เหล่าตระกูลใหญ่ของอิวจิ๋วก็ไม่รังเกียจที่จะสนับสนุนกองซุนจ้าน ผู้ปกครองจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ทำลายผลประโยชน์ของพวกเขาเหมือนกับเจ้าเมืองปิ้งโจว เพียงแต่ความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั่งเล่าของกองซุนจ้านทำให้พวกเขารู้สึกผิดหวัง ยิ่งกว่านั้นลิโป้ยังเข้ามาในอิวจิ๋วแล้ว พวกเขาต้องการให้อิวจิ๋วเกิดความมั่นคงโดยเร็ว นั่นก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ของพวกเขาเอาไว้

สำหรับการเอาแต่ตั้งมั่นอยู่ภายในเมือง ผลาญเสบียงให้หมดไปวันๆ เหล่าตระกูลใหญ่ย่อมไม่เห็นด้วย นี่เป็นการสิ้นเปลืองอย่างสูญเปล่า ดังนั้นการจะหันไปร่วมมือกับอ้วนเสี้ยวก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ

ในตอนที่ทัพกิจิ๋วและทหารม้าอูหวนโจมตีทัพหนุนของอิวจิ๋วแตกพ่าย ลิโป้ก็เตรียมจะส่งกองทัพออกไป ทัพหนุนที่กองซุนจ้านพึ่งพาถูกทำลายลงอย่างราบคาบ ดังนั้นกองซุนจ้านก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน ต่อให้กองซุนจ้านตั้งมั่นอยู่ภายในเมืองจี้อย่างรัดกุม แต่มีหรือที่อ้วนเสี้ยวจะปล่อยเขาไป?

กองซุนจ้านที่อยู่ภายในเมือง แมจะได้รับข่าวชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ของจูล่ง หากแต่เขาก็ยังเอาแต่เก็บตัว ตอนนี้เขากำลังครุ่นคิดถึงเรื่องราวตั้งแต่ที่เขาได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองปักเป๋ง เขาย่อมเข้าใจสถานการณ์ในอิวจิ๋วเป็นอย่างดี ต่อให้ครั้งนี้ตั้งรับอยู่ภายในเมืองสำเร็จ แต่ในภายหน้าก็คงจะทำอะไรไม่ได้มาก อีกทั้งอ้วนเสีย้วก็คงจะไม่มอบโอกาสให้เขาฟื้นฟูกลับมาเช่นกัน...