ความมั่นใจเป็นพื้นฐานของชัยชนะ นามของคน เงาของไม้ ชื่อเสียงของทหารม้าเฟยฉีและตัวลิโป้นั้น จะดีที่สุดหากเพิ่มความระวังเอาไว้ก่อน
วันต่อมา หน่วยสอดแนมก็เข้ามารายงานว่า จูลงและอ๋องก้ายคุมทหารมสามพัน กำลังจะมาที่หลงเสีย เมื่อลิโป้ได้ยินดังนั้น เขาก็ตัดสินใจจะรอจูล่งก่อนจะเริ่มการประลอง
เมื่อกำหนดการถูกเลื่อนออกไป จงป้าก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย เป็นไปได้หรือไม่ว่าลิโป้จะเกิดไม่มั่นใจว่าจะชนะ ดังนั้นจึงต้องการจะโกง? แต่เมื่อนึกดูแล้ว เขาก็คิดว่านี่เป็นไปไม่ได้ ลิโป้มีชื่อเสียงโด่งดังปานนั้น มีหรือที่เขาจะทำลายชื่อเสียงตัวเอง? หลังจากได้รับรายงานอีกข่าว จงป้าก็รู้สึกวิตกกังวล ที่แท้กำลังจะมีอีกกองทัพเคลื่อนผ่านที่นี่ ดูเหมือนว่าลิโป้คิดจะร่วมทางไปกับทหารจากอิวจิ๋ว
จูล่งที่มีท่วงท่าสง่างาม เมื่อรวมกับอาชาขาวที่ขี่อยู่ก็ทำให้เขาดูน่าองอาจยิ่ง ได้เห็นภาพนี้ แม้แต่ลิโป้ก็ยังเกิดความอิจฉาอยู่ในใจ
เมื่อเห็นลิโป้ จูล่งก็รีบลงจากม้ามาคารวะ
จูล่งเองก็ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในชีจิ๋วมาเช่นกัน เขาจึงได้กล่าวอำลาต่อเล่าปี่และกำลังจะกลับอิวจิ๋ว สำหรับเล่าปี่นั้น พูดไม่ได้ว่าเขามีความรู้สึกดีต่ออีกฝ่าย แม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามเชื้อเชิญเขาหลายครั้ง และเขาเองก็รู้สึกหวั่นไหวกับความจริงใจที่เล่าปี่แสดงออกมา ทว่าเขากลับนึกไม่ถึงเลยว่าเล่าปี่จะวางอุบายต่อคนของตัวเอง หลังจากเคยคลุกคลีอยู่กับลิโป้มาช่วงใหญ่ เขาก็ยากจะรู้สึกเห็นด้วยกับเล่าปี่ ถึงอย่างไรเล่าปี่ก็ยังคงไร้ชื่อเสียงเรียงนาม ก่อนหน้าก็เป็นเพียงนายอำเภอเพงงวนก๋วนเท่านั้น ยังด้อยกว่าลิโป้อยู่มาก
นอกจากนี้ ยังมีคนเสียมารยาทต่อลิโป้ในจวนเจ้าเมือง ทำให้ความประทับใจที่มีต่อเล่าปี่ลดลงไปอีก
หลังจากลิโป้บอกเล่ารายละเอียดการประลองต่อจูล่งโดยกระชับ จูล่งก็ส่งมอบการดูแลทัพให้อ๋องก้วย จากนั้นจึงติดตามลิโป้ไปยังสถานที่นัดหมายประลอง
รอบแรกจะเป็นการประลองแม่ทัพ โดยทางฝั่งของกองทัพปิ้งโจวมี ลิโป้ เตียนอุย และหลี่เยี่ยน ในสามคนนี้ หลี่เยี่ยนมีฝีมืออ่อนด้อยที่สุด กระนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะถูกแม่ทัพกองทัพหลงเสียรังแกได้โดยง่าย แต่นั่นก็หาเป็นไรไม่ ขอเพียงลิโป้หรือไม่ก็เตียนอุยได้รับชัยชนะ พวกเขาก็จะชนะแน่นอน
สำหรับฝีมือต่อสู้ส่วนตัวนั้น ลิโป้ค่อนข้างมั่นใจอยู่ แม้จะยังไม่ถึงระดับลิโป้คนก่อน แต่หลังจากออกกรำศึกอย่างต่อเนื่อง รวมกับประสบการณ์ที่มีจากชีวิตก่อน เขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวแม่ทัพคนใด
ฝีมือการต่อสู้สามารถยกระดับขึ้นได้ผ่านการต่อสู้เท่านั้น ลิโป้เชื่อในคำกล่าวนี้ อย่างไรก็ตาม มีแม่ทัพจำนวนไม่มากนักที่จะช่วยขัดเกลาฝีมือให้กับเขาได้ คงต้องเป็นระดับขุนพลอย่าง เตียวหุย กวนอู เท่านั้น เพียงแต่ในแผ่นดินนี้จะมีขุนพลระดับนี้สักกี่คนเชียว?
ทางฝั่งกองทัพหลงเสียมี จงป้า เซียงหู งอตุ้น อินเล้ และซุนก้วน ทั้งห้าเป็นแม่ทัพที่มีอำนาจมากที่สุดในกองทัพ ทั้งยังเป็นเหล่าผู้ที่มีฝีมือสูงสุด เซียงหูและคนอื่นๆที่เหลือได้รับการขนานนามว่าสี่ขุนโจรแห่งเขาไทสัน มีชื่อเสียงเลื่องลือในแถบภูเขาไทสัน(ไท่ซาน) พวกเขามั่นใจมากกว่าจะสามารถเอาชัยฝ่ายตรงข้ามได้
ลิโป้กระตุ้นท้องม้าเบาๆ ย่ำอัคคีที่ใต้ร่างก็เข้าใจ ลิโป้มือถือทวนกรีดนภาโถมม้าเข้าหาจงป้า ขณะที่เตียนอุยและหลี่เยี่ยนก็ติดตามอยู่ทางซ้ายขวา
ทวนกรีดนภายกขึ้นเล็กน้อย ภายใต้แสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์ มันก็ให้ความอันเเย็นเยียบต่อผู้พบเห็น
นี่เป็นครั้งแรกที่จงป้าได้เห็นลักษณะยามเข้าสู่สนามรบของลิโป้ ต้องกล่าวว่าส่วนสูงของลิโป้และม้าศึกที่เขาขี่อยู่นั้นสร้างความตกตะลึงให้เขาไม่น้อย ม้าที่สูงใหญ่กำยำและสง่างามเช่นนี้ต้องเป็นม้าวิเศษไม่ผิดแน่ มันถึงกับสูงกว่าม้าทั่วไปถึงหนึ่งช่วงศีรษะ เป็นไปได้มากว่าลิโป้ที่อยู่บนม้าจะมีความได้เปรียบเหนือผู้ใด
จงป้ากระตุ้นท้องม้าอย่างแรง ม้าศึกของเขาส่งเสียงร้องก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมพวกเซียงหู มองดูลิโป้ที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พวกเขาก็รู้สึกวิตกกังวลอย่างไม่ทราบสาเหตุ แผนการของฝ่ายเขาคือใช้สองกลุ้มรุมหนึ่ง ส่วนอีกคนที่เหลือเพียงต้องคอยพัวพันแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามไว้ เพื่อซื้อเวลาให้คนที่เหลือเอาชนะคู่ประลองของตน
ย่ำอัคคียิ่งมายิ่งรวดเร็ว เสียงทวนที่กรีดฝ่าอากาศและเสียงของกีบเท้าม้าที่โดยรอบก็คล้ายกับค่อยๆเบาลง สายตาของลิโป้เพียงจับจ้องอยู่ที่จงป้าและซุนก้วนเท่านั้น
ทวนกรีดนภากวาดฟันออก ขณะที่จงป้าก็ฟันง้าวในมือออกมา ทว่าทันใดนั้น จู่ๆทิศทางของทวนกรีดนภาก็พุ่งเข้าหาซุนก้วนที่อยู่ทางด้านขวา!
ด้วยความเร็วของย่ำอัคคี อำนาจของทวนที่อยู่ในมือของลิโป้จึงพุ่งขึ้นถึงขีดสุด ซุนก้วนเมื่อเห็นว่าจู่ๆทวนของอีกฝ่ายก็วกทางตน ประกายเย็นเยียบที่สะท้อนอยู่บนคมทวนทำให้เขารู้สึกราวกับศีรษะกำลังจะถูกบั่น ด้วยประสบการณ์การต่อสู้มาหลายปี สัญชาตญาณบังคับให้เขาโบกง้าวในมือเข้าต้าน
พลังทำลายล้างอันมหาศาลส่งผ่านมาทางง้าว ซุนก้าวคล้ายกลายเป็นว่าวที่สายป่านขาด เขาไม่อาจต้านรับทวนนี้ของลิโป้ ร่างกายลอยกระเด็นตกจากหลังม้าไป
สีหน้าท่าทางของพวกทหารม้าเฟยฉียังคงเป็นธรรมชาติราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา หากแต่ทหารของจงป้าต่างรู้สึกขนลุกซู่ หนึ่งคนปะทะสองคน และเพียงพุ่งผ่านรอบเดียว หนึ่งในแม่ทัพที่เก่งกาจที่สุดในกองทัพของพวกเขาก็ถูกฟาดตกจากหลังม้าอย่างไม่เป็นท่า ดีที่สองฝ่ายมีการตกลงกันเอาไว้ก่อนว่าเป็นเพียงการประลอง ไม่ต่อสู้จนถึงแก่ชีวิต มิเช่นนั้นซุนก้วนคงตายแน่นอน อานุภาพทวนนี้ของลิโป้สร้างความพรั่นพรึงให้แก่ทหารของจงป้าที่ชมดูอยู่อย่างมาก
เมื่อเห็นลิโป้แสดงฝีมืออยู่ในสนาม ใบหน้าที่มักจะจริงจังของจูล่งก็เผยรอยยิ้ม เมื่อมองดูจงป้าและพรรคพวกของเขาแล้ว จูล่งก็รู้สึกรังเกลียดเดียดฉันท์ ในพฤติการณ์ที่ไร้ยางอายของพวกเขา ในเมื่อนี่เป็นการประลองแลกเปลี่ยนฝีมือ เช่นนั้นสองฝ่ายก็ควรจะประลองกันอย่างยุติธรรม มิเช่นนั้นต่อให้เอาชนะได้แล้วจะมีความหมายอะไร? จะไม่ถูกผู้คนหัวเราะเยาะเอาหรือ?
จงป้าตกใจจนแทบจะลืมหายใจ เขาพยายามจะต้านรับทวนนี้ไว้ มิคาดทวนกลับวกไปจู่โจมใส่ซุนก้วนจนพ่ายแพ้อนาถ จะเห็นได้ว่าทวนเมื่อครู่มีอานุภาพมากปานใด และเวลานี้ เหลือเพียงเขาที่ต้องเผชิญหน้ากับลิโป้ มองดูท่าทางที่องอาจของลิโป้แล้ว เขาก็รู้สึกหัวใจหนักอึ้ง ความทะนงในอดีตได้สลายไปพร้อมกับทวนนั้นของลิโป้
"ร้ายกาจสมคำร่ำลือ!" จงป้าชื่นชม ในใจยิ่งรู้สึกเลื่อมใสลิโป้มากยิ่งขึ้น ต่อหน้าพลังที่ไร้คู่ต่อกร จงป้าก็ทำได้เพียงเคารพชื่นชมเท่านั้น จากทวนเมื่อครู่ของลิโป้ เขาก็ทราบได้ทันทีว่าครั้งนี้พวกเขาพ่ายแพ้แล้ว
นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ลิโป้ต้องการ หากต้องการกำราบให้จงป้ามาสวามิภักดิ์ต่อปิ้งโจว เขาก็จะต้องแสดงความแข็งแกร่งออกมา และทวนเมื่อครู่ก็นับว่าบรรลุผลแล้ว จงป้าเป็นแม่ทัพที่มีความคิดอ่าน เขาจะไม่รู้สึกต่อต้านต่อผู้ที่มีฝีมือสูงส่งกว่า
เทียบกับลิโป้แล้ว เตียนอุยกลับชื่นชอบที่จะต่อสู้จนหนำใจมากกว่า เขารู้สึกว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะระบายความเครียดออกไปได้ โดยเฉพาะการได้ต่อสู้กับผู้ที่มีกำลังวังชาก็ยิ่งสมใจ คู่ต่อสู้ของเขาก็คืออินเล้กับงอตุ้น ทั้งสองลงมือพร้อมกัน กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้เตียนอุยรู้สึกลำบากกินแรงแต่อย่างใด พวกเขาไม่อาจทำอย่างไรต่อเตียนอุย ตรงกันข้าม พวกเขากลับถูกเตียนอุยทุบตีอยู่เพียงฝ่ายเดียว ทวนคู่ฟาดออกพร้อมกัน อินเล้และงอตุ้นได้แต่ต้านรับไว้จนแขนชา
อินเล้และงอตุ้นหันไปสบตากัน ในดวงตาของพวกเขาฉายแววตกตะลึง เตียนอุยแข็งแกร่งเกินไปแล้ว เกรงว่าแม้แต่จงป้าที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาก็ไม่อาจเอาชนะเตียนอุยได้ ในระหว่างการต่อสู้ อินเล้ก็ลอบเหลือบมองสถานการณ์ที่โดยรอบ แล้วเขาก็ต้องตกตะลึงอย่างหนัก
เพียงการพุ่งปะทะกันหนึ่งคำรบ ซุนก้วนก็พ่ายแพ้แก่ลิโป้ไปแล้ว พวกเขาเคยหารือเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆมาก่อน ใช้จงป้าที่เข้มแข็งที่สุดประสานงานกับซุนก้วนเข้ารับมือกับลิโป้ หลังจากเอาชนะได้แล้วค่อยมาช่วยคนที่เหลือ เป้าหมายของเซียงหูคือการลากถ่วงแม่ทัพอีกคนเอาไว้ โดยรอให้ผู้ที่เป็นกำลังหลักก็คือจงป้ามาช่วย
ในความเห็นของพวกเขา ในฐานะเจ้าเมืองปิ้งโจว ลิโป้กินตำแหน่ง ใช้ชีวิตสุขสบายจนเคยชิน ต่อให้ในอดีตจะร้ายกาจปานใด แต่ปัจจุบันจะต้องไม่แข็งแกร่งเท่าในอดีตแน่นอน มิคาด ลิโป้กลับร้ายกาจปานนี้
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved