"ผะ...ผู้....ผู้คุ้มกันอวี๋....ท่าน.....ท่านอย่าคิด.....เช่น...เช่นนั้น....คิด...คิดเสียว่า....จะ....โจร....ปล้น....ปล้น....ท่าน...ท่าน...ท่านไม่อาจ.....ทำ...ทำ....ทำอย่างไร.....นอก....นอกจาก...นอกจากนั้น....พวกโจร...โจร....ต้อง....ต้องตาย.....ตายหมด....ปิ้ง....ปิ้งโจว....จะ....จะ...ไม่....ไม่....ไม่...ตำ....ตำ....ตำหนิ....ทะ....ทะ...ท่าน....นะ....แน่" ม้ากิ้นกล่าวด้วยความกังวล
"ท่านไม่เข้าใจ" อวี๋ฉางกล่าวพึมพำ
ทันใดนั้น ทหารหน่วยเฟยอิงในชุดดำสองคนก็พุ่งพรวดเข้ามาจัดการโจรสองคนที่เฝ้าห้องขังอยู่ จากนั้นเมื่อพวกเขากวาดตามองดูโดยรอบ พวกเขาก็สังเกตเห็นอวี๋ฉางซึ่งอยู่ในชุดผู้คุ้มกันของสำนักคุ้มภัย
"พะ....พะ...พวก...พวกท่าน....พวกท่านเป็น...เป็น....เป็นใคร..." ม้ากิ้นรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายฆ่าฟันอย่างเข้มข้นจากคนชุดดำทั้งสอง
"คนจากปิ้งโจว" ทหารเฟยอิงคนหนึ่งตอบเบาๆ
อวี๋ฉางตาเป็นประกาย โดยไม่สนใจบาดแผลตามร่าง เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนทันที จากนั้นจึงกุมหมัดกล่าวว่า "ข้าน้อยเป็นหัวหน้าผู้คุ้มกันขบวนรถจากสำนักคุ้มภัยเจิ้นเหยี่ยน"
ทหารเฟยอิงคารวะตอบโดยไม่เอ่ยคำพูดใด หน่วยเฟยอิงย่อมทราบดีว่า ผู้ที่สามารถรับตำแหน่งเป็นหัวหน้าผู้คุ้มกันขบวนรถได้ย่อมมีตำแหน่งในกองทัพปิ้งโจวไม่ต่ำทราม
"คนผู้นี้ชื่อ ม้ากิ้น เขาคิดเดินทางไปที่ปิ้งโจวเช่นกัน เพียงแต่ในระหว่างทางถูกพวกโจรจับตัวมา" อวี๋ฉางรีบกล่าว หลังจากเขาได้รับบาดเจ็บ เขาก็ได้ม้ากิ้นคอยช่วยดูแล แม้ว่าม้ากินจะพูดจาติดขัด ทำให้ยากจะเข้าใจ แต่จากคำพูดแล้ว เขาก็รู้สึกได้ว่าม้ากิ้นเป็นคนที่มีจิตใจดีคนหนึ่ง
"ออกไปกันเถอะ" ทหารหน่วยเฟยอิงกล่าวเบาๆ
"สถานการณ์ที่ด้านนอกเป็นอย่างไรบ้าง?" อวี๋ฉางเอ่ยถาม
"พวกโจรถูกจัดการแล้วเรียบร้อย" ด้วยฐานะของอวี๋ฉาง ทหารหน่วยเฟยอิงจึงต้องอธิบาย
ทหารเฟยอิงคนหนึ่งช่วยพยุงอวี๋ฉางเดินออกไป ขณะที่อีกคนก็เดินไปเปิดประตูห้องขังทั้งหมด ชิงหนิวกักขังผู้คนอาไว้ไม่น้อย เมื่อประตุห้องขังเปิดออก ที่นี่จึงดูพลุกพล่านขึ้นทันตา ภายในถ้ำเต็มไปด้วยคำขอบคุณบางคนกระทั่งหลั่งน้ำตาออกมาหลังจากได้รับการช่วยเหลือ บางคนก็ร้องไห้อย่างเศร้าโศกเพราะญาติสนิทมิตรสหายถูกพวกโจรสังหารไปแล้ว
ทหารเฟยอิงขมวดคิ้วเบาๆ แต่พวกเขาก็สามารถเข้าใจความรู้สึกของคนเหล่านี้ ดังนั้นจึงได้แต่เร่งให้พวกเขาออกจากถ้ำไป
อวี๋ฉางที่ค่อยๆเดินออกจากถ้ำ จู่ๆเขาก็ก้มลงหยิบดาบที่โจรทิ้งไว้กับพื้นขึ้นมา
ทหารเฟยอิงที่พยุงอวี๋ฉางอยู่พลันทิ้งระยะห่างออกไปด้วยความตื่นตัว ในมือชักมีดสามคมบิดเกลียวมาถือไว้ แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ อวี๋ฉางยกดาบขึ้นมาพาดลำคอตัวเอง
"ทักษะยอดเยี่ยม!" อวี๋ฉางอดเอ่ยปากชื่นชมไม่ได้
"ผู้คุ้มกันอวี๋คิดจะทำอะไร?" ทหารเฟยอิงเอ่ยถามด้วยความกังวล เขาทราบดีว่าลิโป้เกิดโทสะเพียงใดเมื่อได้รับข่าวว่าขบวนรถถูกปล้นชิง เขากรพทั่งนำหน่วยเฟยอิงและหน่วยองค์รักษ์บุกมาทำลายค่ายโจรของชิงหนิวด้วยตัวเอง
"หลังจากท่านแม่ทัพกลับไป โปรดบอกใต้เท้าด้วยว่าข้าน้อยไม่สามารถปกป้องคุ้มกันขบวนรถ จากผู้คุ้มกันสองร้อยคนหลงเหลือเพียงสามคน ข้าน้อยไม่มีหน้ากลับไปยังปิ้งโจวอีก ยิ่งรู้สึกละอายใจต่อใต้เท้าและสหายในกองทัพ" น้ำตาค่อยๆไหลรินจากดวงตาอขงอวี๋ฉาง
"ผู้คุ้มกันอวี๋ อย่าทำเช่นนั้น" ทหารเฟยอิงรีบห้ามปราม
"ผะ...ผู้....ผู้คุ้มกันอวี๋...ทั้ง....ทั้งหมด....ปะ....ปะ....เป็น....ฝีมือ.....โจร....ผะ...ผู้....ผู้คุ้มกันอวี๋...พะ....พะ....พยายาม....เต็ม....เต็ม....เต็มที่....แล้ว...ยะ...ใย....ต้อง....ต้อง...ทำ....ทำ...เช่น...เช่นนี้" เนื่องเพราะรีบพูด ม้ากิ้นจึงหน้าแดงไปทั้งหน้า เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดอวี๋ฉางจึงต้องทำเช่นนี้
อวี๋ฉางกล่าวทั้งน้ำตาว่า "เดิมทีข้าเป็นเพียงเป็นลูกหลานชาวบ้านธรรมดาของปิ้งโจว แต่เพราะได้รับความเมตตาจากใต้เท้า จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าผู้คุ้มกันขบวน ครั้งนี้นับว่าข้าสร้างความเสื่อมเสียแก่ปิ้งโจว ทำให้ใต้เท้าต้องผิดหวังแล้ว!" กล่าวจบ เขาก็เลื่อนดาบปาดลำคอตนเอง โลหิตฉีดพุ่งออกมาจากปากแผล ร่างของอวี๋ฉางค่อยๆทรุดลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้ม
ดวงตาของทหารเฟยอิงแดงระเรื่อ เขาโค้งคำนับ จากนั้นก็แบกร่างของอวี๋ฉางขึ้นหลังแล้วเดินต่อไป
ม้ากิ้นจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความตกตะลึง อวี๋ฉางเป็นผู้ที่เกลี้ยกล่อมให้เขาอดทนรอความช่วยเหลือจากทหารปิ้งโจว ทว่าหลังจากทหารของปิ้งโจวมาถึง เขากลับฆ่าตัวตาย จากคำพูดของอวี๋ฉางแล้ว เขาทราบว่าอวี๋ฉางเผชิญหน้ากับความตายอย่างเยือกเย็น ปิ้งโจวเป็นสถานที่แบบใดกัน? คำพูดของอวี๋ฉางได้เปิดเผยศักดิ์ฐานะของเขาออกมา ที่แท้ ผู้คุ้มกันเหล่านี้ก็เป็นทหารของกองทัพปิ้งโจว
"หัวหน้าผู้คุ้มกันอวี๋ฉาง หลังจากได้รับการช่วยเหลือแล้วก็กระทำการอัตวินิบาตกรรม เขากล่าวว่าตนเองปกป้องขบวนรถได้ไม่ดี จึงไม่มีหน้ากลับไปยังปิ้งโจว ไม่มีหน้ากลับไปพบเพื่อนทหาร ไม่มีหน้ากลับมาพบใต้เท้า" กล่าวจบ ทหารเฟยอิงที่เข้มแข็งอยู่เสมอก็ปาดเช็ดน้ำตา
เมื่อได้ยินคำพูดของทหารเฟยอิง ดวงตาของลิโป้ก็แดงขึ้นเล็กน้อย เขาพยักหน้าก่อนจะกล่าวเบาๆว่า "หัวหน้าผู้คุ้มกันอวี๋ฉางคุ้มครองขบวนรถ แต่ในระหว่างทางถูกพวกโจรดักซุ่มโจมตี เขาต่อสู้ดิ้นรนและพลีชีพด้วยความกล้าหาญ เขาจะได้รับการจารึกชื่ออยู่ในหอวีรชน"
กาเซี่ยงที่ยืนอยู่ด้านข้างรู้สึกซาบซึ้งใจเมื่อได้ยิน อวี๋ฉางนับเป็นผู้ที่กล้าหาญและจงรักภักดีต่อปิ้งโจวอย่างแท้จริง บุคคลเช่นนี้กลับต้องมาจบชีวิตด้วยฝีมือของพวกโจร
หลังจากตายแล้วได้รับการจารึกชื่ออยู่ในหอวีรชนเป็นสิทธิพิเศษสำหรับระดับรองแม่ทัพขึ้นไป หรือไม่ก็ต้องเป็นผู้ที่สร้างคุณูปการต่อปิ้งโจวเอาไว้มากมาย สำหรับแม่ทัพผู้หนึ่งแล้ว สิ่งนี้นับเป็นเกียรติอย่างสูง
"นายท่าน คนผู้นี้ชื่อม้ากิ้น หัวหน้าขบวนอวี๋ถูกขังอยู่ร่วมกับเขา จึงโชคดีได้รับการดูแลจากเขาขอรับ" จ้าวซู่ชี้ไปยังม้ากิ้นที่ดูเหม่อลอยเล็กน้อย
"ม้ากิ้น?" ลิโป้ตาเป็นประกาย ม้ากิ้นนับเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ นับเป็นเรื่องที่น่าประหลาดอย่างใจยิ่งที่ได้พบกับม้ากิ้นในค่ายของชิงหนิว
"ให้ทหารเฟยอิงบางส่วนคอยดูแลความปลอดภัยให้ม้ากิ้น คุ้มครองส่งกลับปิ้งโจวโดยปลอดภัย" ลิโป้สั่งการ
"เอาล่ะ คราวนี้ตอบข้ามา เจ้าเป็นใคร?" หลังผู้คนออกจากค่ายไปกันแล้ว ลิโป้ก็หาที่อันเงียบสงบและตั้งคำถามต่อชิงหนิว
ชิงหนิวกล่าวว่า "เป็นแค่โจรคนหนึ่งในละแวกลั่วหยาง คาดไม่ถึงเลยว่าทัพปิ้งโจวจะมายังที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว คงไม่ผิดที่จะบอกว่าข้าพ่ายแพ้ให้กับทัพปิ้งโจว"
"ชิงหนิว จากลักษณะท่าทางของเจ้าแล้ว เจ้าคงจะเป็นแม่ทัพในสังกัดของเจ้าเมืองสักคน เปลือกนอกเจ้าอาจดูเป็นโจร แต่อันที่จริง เจ้านายของเจ้าคงมีความคิดต่อลั่วหยาง" กาเซี่ยงกล่าว
ชิงหนิวหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงยิ้มกล่าวว่า "ใต้เท้าล้อข้าเล่นแล้ว"
กาเซี่ยงแค่นเสียงก่อนจะกล่าวว่า "หากว่าข้าเดาไม่ผิด เจ้าคงจะเป็นแม่ทัพแห่งทัพกิจิ๋ว"
สีหน้าที่ตื่นตะลึงชั่ววูบของชิงหนิวย่อมไม่อาจหลุดรอดจากสายตาของลิโป้ไปได้ "ในเมื่อเป็นแม่ทัพแห่งทัพกิจิ๋ว คาดว่าคงจะไม่ไร้ชื่อเสียงเป็นแน่"
"กิจิ๋วและปิ้งโจวขัดแย้งกันมานาน บัดนี้ยังมีเรื่องที่ปล้นชิงขบวนรถของปิ้งโจวอีก ข้าไม่คิดว่าตนเองจะรอดชีวิตไปได้อยู่แล้ว สังหารข้าเสีย" ชิงหนิวกล่าว
"ต่อให้รู้จักชื่อของข้าไปแล้วจะได้อะไร? ต้องการจะป่าวประกาศเรื่องข้าแก่ผู้คนทั่วแผ่นดินเพื่อให้ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ตระกูลอ้วนงั้นหรือ?"
เมื่อเห็นว่าชิงหนิวยอมรับแล้วว่าตนเองเป็นแม่ทัพในกองทัพกิจิ๋ว ลิโป้ก็หน้ามืดครึ้ม ไม่แปลกใจแล้วว่าเหตุใดชิงหนิวจึงกล้าลงมือต่อขบวนรถของปิ้งโจว ที่แท้เขาก็เป็นแม่ทัพในสังกัดกองทัพกิจิ๋วนี่เอง ดังนั้นเขาย่อมไม่มีความกริ่งเกรงต่อปิ้งโจว ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องชื่นชมต่อการดำเนินการของอ้วนเสี้ยว เขากระทั่งส่งแม่ทัพในสังกัดปลอมตัวมาเป็นโจรในละแวกลั่วหยาง มีความเป็นไปได้ว่าเมื่อกองกำลังของชิงหนิวใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาก็จะกลายเป็นขุมกำลังที่จะมีส่วนช่วยต่อกิจิ๋วอย่างมาก อีกทั้งอ้วนเสี้ยวยังไม่ต้องกังวลกับค่าเลี้ยงดูของพวกชิงหนิว นี่เป็นแผนการที่มีแต่ได้กับได้ ผู้ที่เสียประโยชน์ก็มีแต่ผู้คนในพื้นที่และพวกพ่อค้าที่เดินทางผ่านไปผ่านมา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved