ลิโป้ให้ความสำคัญในด้านการทหารเหนือด้านอื่นใด ที่ปิ้งโจวสามารถรอดพ้นหายนะจากซยงหนูและเซียนเป่ยมาได้ ทั้งหมดทั้งมวลต้องยกความดีความชอบให้กองทัพปิ้งโจว หากไม่มีกองทัพ ก็ไม่มีสิทธิ์มีเสียงในยุคที่แผ่นดินกำลังวุ่นวายนี้
หลังจากสนทนากันสักพัก ลิโป้ก็ยิ่งรู้สึกชื่นชมความสามารถของเถียนยู่ โดยเฉพาะในด้านการบริหารจัดการ เถียนยู่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า ที่กองซุนจ้านสามารถมีทัพแกร่งอยู่ในปักเป๋งก่อนหน้านี้ได้ นั่นก็เพราะปักเป๋งมีการบริหารงานภายในได้ดี หากไม่มีการสนับสนุนจากภายใน ต่อให้กองทัพจะเข้มแข็ง แต่ก็จะคงอยู่ได้ไม่นาน
"เรื่องราวในอิวจิ๋วคงต้องฝากท่านจัดการดูแลแล้ว" ลิโป้ยิ้มกล่าว
เถียนยู่ค้อมคำนับ "ผู้น้อยจะไม่ทำให้นายท่านต้องผิดหวังขอรับ"
หลังจากส่งลิโป้กลับไปแล้ว ในที่สุดเถียนยู่ก็สามารถสงบใจลง การเลือกรับใช้ลิโป้จะหมายความว่าเขาได้ตัดขาดจากอดีต เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เถียนยู่ก็รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งร่าง เงามืดของตระกูลกองซุนที่คอยตามหลอกหลอนเขานับว่าได้คลี่คลายไปแล้ว
สงครามหลายต่อหลายครั้งในอิวจิ๋วทำให้ทัพปิ้งโจวยิ่งมายิ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง จูล่งที่เฝ้ารักษาเมืองยีหยงยิ่งมีความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างลึกล้ำ เมื่อได้ยินว่าทัพปิ้งโจวมาถึง หลายเมืองต่างก้เปิดประตูยอมอ่อนน้อม ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน ทัพปิ้งโจวก็ควบคุมเมืองยีหยงได้สำเร็จ จูล่งย่อมเข้าใจว่านี่เป็นการควบคุมได้เพียงผิวเผินเท่านั้น ภายในเมืองยีหยงยังมีพวกคิดคดอยู่มากมาย อาจกล่าวได้ว่าที่นี่ก็คือชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในอิวจิ๋ว หากต้องการจะควบคุมเมืองยีหยงให้ได้โดยสมบูรณ์ ไม่เพียงแต่ต้องมีกำลังทหารเข้มแข็ง แต่ยังต้องสามารถยืนระยะได้อย่างยาวนาน
ยีหยงก็คือเมืองที่เกิดสงครามบ่อยที่สุดในอิวจิ๋ว ชาวบ้านทั่วไปมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ขอเพียงมีอาหารและเสื้อผ้านุ่งห่มเพียงพอ มีหรือที่คนจะอยากเป็นโจร? โจรส่วนใหญ่ก็คือผู้คนจิตใจดีที่ถูกสภาพแวดล้อมบีบบังคับให้กลายเป็นโจร และเมื่อเลือกเดินบนเส้นทางสายมิจฉาชีพแล้วก็จะไม่มีเส้นทางให้ถอยกลับอีก ทายาทรุ่นลูกรุ่นหลานก็ไม่อาจเงยหน้าขึ้นสบสายตากับผู้คน
ส่านจิงเองก็รู้สึกเลื่อมใสจูล่งมาก ในอดีตนั้น เขาเคยได้ยินว่าจูล่งเคยนำทหารม้าขาวติดตามทหารม้าเฟยฉีไปปราบชนเผ่าเซียนเป่ย การได้ยินจากคำบอกเล่าและการได้เห็นด้วยตานั้นแตกต่างกันยิ่ง ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของจูล่ง จิตใจของส่านจิงก็ค่อยๆโน้มเอียงไปทางกองทัพปิ้งโจว
แน่นอนว่าที่เป็นเช่นนี้ได้ก็เพราะทัพปิ้งโจวแข็งแกร่ง เหตุผลที่ผู้คนมักพึ่งพิผู้แข็งแกร่งนั้นก็เพราะว่าผู้แข็งแกร่งทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย ส่านจิงทราบว่าทัพปิ้งโจวแข็งแกร่งเพียงใด ต่อให้เขาจะร่วมมือกับตระกูลใหญ่ในเมืองปักเป๋งไปก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด
ลิโป้ทิ้งทหารไว้ที่เมืองปักเป๋งจำนวนสามพัน จากนั้นจึงนำไพร่พลที่เหลือเดินทางไปยังเมืองยีหยง
เมื่อทราบว่าเมืองยีหยงสงบมั่นคงดี ลิโป้ก็บังเกิดความยินดี ต่อให้เมืองยีหยงจะเกิดความวุ่นวายขึ้นบ่อยครั้ง แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นเมืองใหญ่ในอิวจิ๋ว ทั้งยังมีอาณาเขตเชื่อมต่อกับเมืองปักเป๋งและเมืองซ่างกู่ หากสามารถทำให้สงบมั่นคงได้ก็จะมีความสำคัญต่อปิ้งโจวมาก
การรับภาระหน้าที่ในการควบคุมกองทัพทำให้จูล่งดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทุกการก้าวเดินของเขายังแฝงบารมีอยู่ลางๆ
"จูล่งสามารถทำให้ยีหยงมั่นคงได้ ข้าต้องขอบใจน้องเราแล้ว" ลิโป้กล่าวด้วยรอยยิ้ม
"พี่ใหญ่ นี่คือเอกสารสำคัญของเมืองยีหยง" เมื่อเห็นว่ามีเพียงเตียนอุยและกุยแก จูล่งก็เปลี่ยนคำเรียกหา
"เพียงแต่อิวจิ๋วยังไม่สงบมั่นคง จูล่งคงต้องรั้งอยู่ที่อิวจิ๋วไปก่อน พวกเราพี่น้องเพิ่งได้อยู่กันพร้อมหน้า แต่เพียงไม่นานก็ต้องแยกจากกันอีกแล้ว" ลิโป้ถอนหายใจ
"ผู้น้องจะทำงานหนักเพื่อตอบแทนความไว้วางใจของพี่ใหญ่ ต่อให้ต้องตายก็จะปกป้องชื่อเสียงของพี่ใหญ่ไว้ให้ได้" จูล่งกล่าว ในหัวปรากฏภาพเหตุการณ์ในอดีตนับตั้งแต่การศึกบนทุ่งหญ้าจนมาถึงศึกในอิวจิ๋ว ลิโป้นั้นเชื่อมั่นในตัวเขาเสมอมา
"ใยต้องกล่าวเช่นนั้น? เจ้าและข้า พวกเราทั้งสี่เป็นพี่น้องร่วมสาบาน ดังนั้นจงควรมีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน แม้ว่าไม่อาจแก้ไขสถานการณ์ในอิวจิ๋วได้ แต่ในฐานะพี่น้อแล้วง ข้าย่อมไม่ตำหนิจูล่ง ขอเพียงจูล่งสามารถรักษาชีวิตกลับมาได้ก็พอ" ลิโป้กล่าว
จากคำพูดของลิโป้ เตียนอุย กุยแก และจูล่งก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจ ตอนนี้เอง กุยแกที่เคยรู้สึกหดหู่อ้างว้างอยู่บ้างกับสถานการณ์ของราชวงศ์ฮั่นก็รู้สึกว่าตนเองกลับมามีเป้าหมายอีกครั้ง นั่นคือช่วยเหลือลิโป้และทำให้ปิ้งโจวยิ่งใหญ่เกรียงไกร
"พี่จูล่งอยู่ในปักเป๋ง จะต้องระวังตระกูลขุนนางและกองซุนซู่ไว้ให้ดี หากมีเรื่องใดไม่แน่ใจ ให้ปรึกษาเถียนยู่" กุยแกก้าวออกมากระตุ้นเตือน
"จูล่ง หากว่ามีผู้ใดกล้าคิดร้ายต่อเจ้า ข้าจะฆ่ามันด้วยทวนของข้าเอง!" เตียนอุยเดินออกมาตบบ่าจูล่ง
จูล่งซาบซึ้งใจ ดวงตาแดงขึ้นมาเล็กน้อย น้ำเสียงที่กล่าวก็สั่นเครืออยู่บ้าง
"เอาล่ะ จูล่งเพียงเฝ้ารักษาอิวจิ๋วระยะหนึ่ง ทั้งยังมีกองทัพส่วนหนึ่งอยู่ในมือ สมควรมีความสุข อย่าเอาแต่กล่าววาจาโศกเศร้า" ลิโป้กล่าว
"ในอดีตจูล่งเคยเป็นผู้บัญชาการกองทหารม้าขาว ดังนั้นจูล่งสามารถก่อตั้งหน่วยทหารม้าขึ้นมาใหม่ โดยให้จูล่งเป็นผู้ควบคุม ใช้ชื่อว่าทหารม้าขาวเหมือนเดิมก็แล้วกัน!" ลิโป้ค่อยๆกล่าวขึ้น
จูล่งกุมหมัดรับคำด้วยสีหน้าจริงจัง "อาศัยความไว้วางใจจากพี่ใหญ่ ข้าจะปรับโครงสร้างและจัดตั้งหน่วยทหารม้าขาวขึ้นมาใหม่"
จูล่งมีความผูกพันกับทหารม้าขาวยิ่ง นับตั้งแต่ที่เขาเข้าร่วมกับกองซุนจ้าน เขาก็ได้ร่วมดื่มด่ำชัยและความผิดหวังไปพร้อมกับทหารม้าขาว ดังนั้นเขาจึงต้องการจะทำให้กองทหารม้าขาวมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วอิวจิ๋วอีกครั้ง
หลังจากพักอยู่ในเมืองยีหยงเป็นเวลาสามวัน ลิโป้ก็นำทัพออกเดินทางไปยังเมืองซ่างกู่ จนกระทั่งกองทัพของลิโป้ลับสายตาไป จูล่งจึงค่อยนำทหารเดินทางกลับ มองดูทหารม้าขาวสองนายที่ยังมีชีวติอยู่ ในใจจูล่งก็เกิดความฮึกเหิม
หลังจากที่กองทัพของลิโป้เคลื่อนกำลังออกไป ตันเทียนก็นำทหารจำนวนเจ็ดพันนายมาเฝ้าเมืองซ่างกู่ไว้ด้วยตนเอง เมืองไต้จิ๋วนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของตันเทียนมานานหลายปี เขามั่นใจว่าต่อให้ทัพกิจิ๋วมีความคิด แต่ก็ยากจะตีหักเอาเมืองไต้จิ๋วไปได้ เป้าหมายที่มีความเป็นไปได้มากกว่าย่อมเป็นเมืองซ่างกู่ เจ้าเมืองคนก่อนของเมืองซ่างกู่ หยิ่นสง หลังจากพ่ายแพ้ให้ลิโป้ เขาก็หนีไปพึ่งพิงทัพกิจิ๋ว
ลิโป้เคลื่อนทัพไปยึดเมืองปักเป๋ง ซึ่งหมายความว่าจะเกิดความขัดแย้งอย่างไม่มีที่สิ้นสุดกับทัพกิจิ๋ว ดังนั้นตันเทียนจึงต้องเฝ้าระวังภัยคุกคามที่อาจเกิดจากทัพกิจิ๋วเอาไว้ก่อน
...............................
ทางด้านหยิ่นสงและเขาฮิวได้นำไพร่พลลอบเคลื่อนกำลังไปที่เมืองซ่างกู่อย่างเงียบเชียบ ภายในเมืองซ่างกู่นั้น หยิ่นสงยังมีคนให้ใช้สอยอยู่ไม่น้อย
เมื่อเห็นว่าหยิ่นสงนำกำลังทหารมาถึง สมุนของหยิ่นสงก็ลอบเปิดประตูเมืองและส่งคนไปปิดกั้นข่าวสาร
เมื่อเห็นประตูเมืองของสองอำเภอเปิดอ้าออกยอมจำนน เขาฮิวก็ตื่นเต้นยินดี เมื่อสถานการณ์ดำเนินไปตามคาด เช่นนั้นก็คงไม่ยากที่จะยึดเมืองซ่างกู่แล้ว ขอเพียงเมืองซ่างกู่ตกเป็นของทัพกิจิ๋ว ทัพปิ้งโจวซึ่งอยู่ที่เมืองปักเป๋งก็มีแต่ต้องถอยทัพ เมืองซ่างกู่เป็นเส้นทางเดียวที่ทัพปิ้งโจวสามารถใช้เดินทางกลับปิ้งโจวได้ หากว่าเสียเมืองซ่างกู่ไป นั่นก็หมายความว่าทัพปิ้งโจวจะถูกตัดทางถอย ทำให้ต้องกลายเป็นทัพโดดเดี่ยวในต่างแดน
หยิ่นสงรวบรวมไพร่พลจากสองอำเภอได้เพิ่มเป็นสามพันคน แม้จะเพิ่มขึ้นมาอีกเพียงหนึ่งพัน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย สำหรับหยิ่นสงแล้ว เรื่องคุณภาพนั้นไม่สำคัญสักเท่าใด ที่เขาต้องการก็คือพลังสภาวะ
หยิ่นสงไม่คิดเพียงแต่จะช่วยทัพกิจิ๋วยึดเมืองซ่างกู่เพื่อสร้างผลงานเท่านั้น แต่เพราะตอนนั้นเขาหนีเร็วเกินไป ครอบครัวและผู้คนในตระกูลจึงล้วนยังอยู่ที่เมืองซ่างกู่ หลังจากได้ทราบว่าทัพปิ้งโจวไม่ได้ประหารคนในตระกูลของเขา หยิ่นสงก็เกิดความคิดที่จะยึดเมืองซ่างกู่กลับมาด้วยความช่วยเหลือจากทัพกิจิ๋ว หลังจากได้เห็นความแข็งแกร่งของทัพกิจิ๋วแล้ว ความมั่นใจของหยิ่นสงก็เพิ่มขึ้นอักโข ดูเหมือนว่ายิ่งเป็นขุนนางที่มีกำลังทหารอยู่ในมือ อนาคตก็จะยิ่งสดใส
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved