ตอนที่ 294 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

"เมืองโห้ลายมั่งคั่งบริบูรณ์ หากสามารถยึดครองได้ แม้จะไม่ถึงขั้นเป็นรากฐานที่ยอดเยี่ยม แต่ก็นับว่าสามารถใช้ตั้งต้นได้ดี น่าเสียดายที่เมืองโห้ลายอยู่ติดกับปิ้งโจว ต่อให้ฝ่ายอื่นยึดครองไป ไม่ช้าก็เร็ว โห้ลายต้องหวนกลับมาอยู่ในมือปิ้งโจวอยู่ดี" กาเซี่ยงกล่าว

"คล้ายเหวินเหอมีความคิดครอบครองซือลี่นานแล้ว?" ลิโป้หัวเราะเบาๆ

กาเซี่ยงกุมมือตอบว่า "ผู้น้อยและนายท่านนับว่ามีความเห็นตรงกันขอรับ"

ลิโป้ยิ้มอย่างรู้กัน เขายังไม่ต้องการครอบครองโห้ลายในตอนนี้ เพราะหากว่าปิ้งโจวเคลื่อนทัพมา อ้วนเสี้ยวแห่งกิจิ๋วจะต้องไม่นั่งอยู่เฉย มองดูปิ้งโจวยึดครองโห้ลายไป มิเช่นนั้น ด้วยขุมกำลังของปิ้งโจวแล้ว ที่นี่คงถูกปิ้งโจวยึดครองไปนานแล้ว

หลังจากเข้ามาภายในเมือง ลิโป้ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างไปจากยามปกติ ตามท้องถนนมีทหารคอยเดินลาดตระเวนมากมาย ในชั่วเวลาเพียงสั้นๆ ขบวนของเขาถูทหารเรียกตรวจค้นไปสามรอบแล้ว ท่าทางของพวกทหารลาดตระเวนดูตื่นตัวเล็กน้อย ตามชุดและเกราะของพวกทหารยังคงมีคราบเลือดติดอยู่ แม้แต่ชาวเมืองก็ดูมีท่าท่ารีบเร่งผิดวิสัย

"เหวินเหอ พักในเมืองและดูว่าที่นี่ต้องการสุราหรือไม่กันเถอะ" ลิโป้ยิ้มกล่าว เขาเกิดความสงสัยใคร่รู้ต่อผู้ที่นำกำลังบุกโจมตีเมืองโห้ลายแห่งนี้ขึ้นมา

กาเซี่ยงกุมมือรับคำ "ผู้น้อยจะไปดำเนินการเดี๋ยวนี้ขอรับ"

จุดหมายของขบวนพ่อค้ากลุ่มนี้ก็คือที่ ฮอตั๋ง(เหอตง) หากต้องการจะแยกตัวไปในระหว่างทาง ก็จำเป็นจะต้องแจ้งต่อหัวหน้าผู้คุ้มกันเสียก่อน เพราะถึงอย่างไร หน้าที่ของผู้คุ้มกันก็คือคุ้มครองส่งขบวนพ่อค้าไปยังฮอตั๋งโดยสวัสดิภาพ ในยามที่ลิโป้ออกจากปิ้งโจวนั้น เขาออกมาด้วยฐานะพ่อค้า ส่วนผู้คุ้มกันที่อยู่โดยรอบก็คือผู้คุ้มกันส่วนตัวที่จ้างวานมา

มีพ่อค้าในปิ้งโจวไม่มากที่จะว่าจ้างผู้คุ้มกันส่วนตัวจำนวนมากแล้วยังร่วมทางมากับขบวนของสำนักคุ้มภัยเจิ้นเหยี่ยนเช่นลิโป้ กระนั้นพ่อค้าคนอื่นๆก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร ทุกคนต่างก็คิดว่าเพราะลิโป้นำของล้ำค่าติดขบวนมาด้วยมิเช่นนั้นคงจะไม่ว่าจ้างทั้งผู้คุ้มันส่วนตัวจำนวนมากและผู้คุ้มกันจากสำนักคุ้มภัยเจิ้นเหยี่ยนเช่นนี้

หลังจากหาที่พักอันเหมาะสมและเข้ากันแล้ว กาเซี่ยงที่ออกไปข้างนอกก็เคาะปรตูก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง

"เหวินทราบแล้วหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในโห้ลาย?" ลิโป้เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

"เรียนนายท่าน เป็นเอียวฮองที่นำทัพเข้าต่อสู้กับกองทัพเมืองโห้ลายขอรับ ราวช่วงก่อนเดือนมีนาคม จู่ๆเอียวฮองก็นำทหารราวแปดพันเข้ามาในโห้ลาย เจ้าเมืองโห้ลายเกิดความกริ่งเกรงต่อเอียวฮอง จึงยอมมอบอำเภอปอและอำเภอจจื่อให้กับเอียวฮอง ทั้งยังส่งทูตไปเจรจาขอเป็นพันธมิตร มิคาด เอียวฮองยังคงไม่พึงพอใจ เขาเกิดความโลภต้องการครอบครองดินแดนมากยิ่งขึ้น เตียวเอี๋ยงเจ้าเมืองโห้ลายจึงนำทัพใหญ่ไปตั้งประจัญหน้ากับเอียวฮองที่อำเภอปอ"

กาเซี่ยงหยุดลงครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวต่อ "แม้ว่าเอียวฮองจะมีทหารเพียงแปดพัน แต่เอียวฮองก็เป็นแม่ทัพเจนศึกผู้หนึ่ง ยิ่งกว่านั้น ในสังกัดของเอียวฮองยังมีแม่ทัพพยัคฆ์อยู่คนหนึ่ง เขาสามารถสังหารแม่ทัพของทัพโห้ลายได้สามคนติดต่อกัน ทัพโห้ลายแม้จะมีทหารมากถึงหนึ่งหมื่นห้าพันคนก็ยังพ่ายแพ้ เตียวเอี๋ยงกลัวว่าเอียวฮองจะทัพไล่ตามมา ดังนั้นจึงสั่งให้ทหารภายในเมืองเพิ่มความเข้มงวดกวดขัน ข่าวความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับของทัพโห้ลายได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองแล้ว ดังนั้นชาวเมืองจึงพากันหวาดวิตกกังวลขอรับ"

หลังจากได้ฟังรายงานของกาเซี่ยง ลิโป้ก็แววตาไหววูบ เขารีบเอ่ยถามขึ้นว่า "ทราบหรือไม่ว่าแม่ทัพพยัคฆ์ในสังกัดของเอียวฮองผู้นั้นชื่ออะไร?"

กาเซี่ยงทราบอยู่แล้วว่าลิโป้จะต้องเอ่ยถาม ดังนั้นจึงกุมมือกล่าวว่า "ตามข้อมูลที่หน่วยเฟยอิงรวบรวมมา แม่ทัพที่ใช้ขวานเป็นอาวุธนั้นเรียกตัวเองว่า ซิหลง ขอรับ"

"ซิหลง ซิกงหมิง ฮ่าๆ สวรรค์ส่งเสริมข้าแล้วจริงๆ ทันทีที่เข้าเขตซือลี่ ข้าก็ได้พบเจอกับยอดขุนพล" ลิโป้หัวเราะอย่างเบิกบานใจ

ตันเทียนที่นิ่งเงียบฟังอยู่ด้านข้างมาโดยตลอดพลันเอ่ยปากถามขึ้น "หรือว่านายท่านรู้จักแม่ทัพที่ชื่อซิหลง?"

เมื่อเห็นว่ากาเซี่ยงเองก็มองมาด้วยความสงสัยเช่นเดียวกัน ลิโป้ก็ยกยิ้มก่อนจะกล่าวว่า "ข้าเคยส่งคนไปสืบหาในพื้นที่ซือลี่มาก่อน แต่ก็ไม่พบร่องรอยของเขา ที่แท้เพราะเขาติดตามเอียวฮองมายังโห้ลายแล้วนี่เอง"

กาเซี่ยงพลันนึกได้ว่าลิโป้เคยผ่านมาที่เมืองโห้ลายมาก่อน นอกจากนี้ ปิ้งโจวยังวางตัวหน่วยข่าวกรองเอาไว้ในพื้นที่โดยรอบ ไม่ว่าเกิดเรื่องราวใดขึ้นย่อมต้องถูกส่งกลับไปยังปิ้งโจว กาเซี่ยงซึ่งรับผิดชอบดูแลหน่วยข่าวกรองของปิ้งโจวย่อมทราบสถานการณ์ของเมืองโห้ลายโดยละเอียด

หลังจากที่ได้ทราบว่าซิหลงตอนนี้อยู่ในสังกัดของเอียวฮอง ลิโป้ก็ยิ่งอยากจะอยู่ที่โห้ลายต่อ ไม่ว่าผู้ใดในแผ่นดินก็ไม่รังเกียจว่าตนเองจะมียอดขุนพลมากเกินไป ยิ่งกว่านั้น ขุนพลที่ว่ายังเป็นซิหลง เมื่อพบเจอกับโอกาสที่คล้ายกับฟ้าส่งเสริมเช่นนี้ หากว่าไม่สามารถรับตัวซิหลงกลับปิ้งโจวได้ นั่นคงจะน่าเสียดายไปแล้ว

เพียงแต่การจะพบกับซิหลงนั้นค่อนข้างยากอยู่บ้าง แม้ว่าที่ด่านหูกวนจะมีกองทัพที่สามารถเคลื่อนพลได้ตลอดเวลาอยู่ ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจเดินทัพเข้าสู่พื้นที่ซือลี่ได้โดยเปิดเผย ในเวลานี้ แผ่นดินเพิ่งได้พักหายใจจากไฟสงคราม หากว่าจู่ๆปิ้งโจวก็สั่งเคลื่อนทัพ นั่นจะต้องชักนำสายตาจากทั่วหล้ามายังปิ้งโจวอย่างแน่นอน

เนื่องเพราะซือลี่เกิดความวุ่นวายภายใน เจ้าเมืองคนอื่นๆจึงคร้านจะสอดมือเข้ามา แต่หากว่าปิ้งโจวส่งกองทัพเข้ามา สองที่แรกที่จะตอบสนองก่อนผู้ใดก็คือ กิจิ๋วและซือลี่ ในพื้นที่ซือลี่นั้น ทั้งอดีตเมืองหลวงอย่างลั่วหยาง เมืองอันมั่งคั่งอย่างโห้ลาย ฮอตั๋ง และเมืองอื่นๆที่ยังมีความสงบสุขหลงเหลืออยู่บ้าง หากว่าสามารถยึดครองดินแดนอันอุดมสมบูรณ์เหล่านี้ ปิ้งโจวก็จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด และนั่นจะทำให้บรรดาเจ้าเมืองทั้งหลายต้องวิตกกังวล

"เหวินเหอ ข้าต้องการพบหน้าซิหลง ท่านมีแผนการดีๆหรือไม่?" ลิโป้ขอคำปรึกษาจากกาเซี่ยง

กาเซี่ยงเกิดความสงสัยขึ้นในใจ ซิหลงผู้นี้ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก ไฉนลิโป้จึงเกิดความสนใจขึ้นมาได้? อีกทั้งน้ำเสียงของลิโป้ยังแฝงไว้ด้วยความชื่นชม

"นายท่าน หากต้องการจะพบกับซิหลง เช่นนั้นก็มีเพียงแค่ต้องคอยเท่านั้น หลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้ เมืองโห้ลายจะต้องตกอยู่ในความตื่นตระหนก พวกเขาจะต้องส่งคนไปเจรจาขอสงบศึกกับเอียวฮองแน่ ซึ่งหากว่าทางเมืองโห้ลายมอบข้อเสนอไม่เป็นที่พึ่งพอใจของเอียวฮอง ทั้งสองฝ่ายจะต้องเกิดการต่อสู้ขึ้นอีกครั้ง ทว่านายท่านจะต้องไม่เปิดเผยศักดิ์ฐานะออกไป มิเช่นนั้นจะเกิดอันตรายขึ้นได้" กาเซี่ยงกล่าว

"เหวินเหอโปรดบอกรายละเอียด" ลิโป้รีบกล่าว

"เตียวเอี๋ยงและเอียวฮองหยุดสู้กัน พวกเขาย่อมต้องมีการเจรจา แต่เอียวฮองจะต้องไม่มายังโห้ลาย เพราะกลัวว่าเตียวเอี๋ยงจะวางหลุมพราง ขณะที่เตียวเอี๋ยงก็จะไม่ไปที่อำเภอปอเช่นกัน ดังนั้นจึงมีความเป็นได้สูงยิ่งว่าสองฝ่ายจะนัดเจรจากันที่เหย่หวัง ผู้น้อยขออาสาเดินทางไปยังเหย่หวัง พึ่งพาวาทศิลป์ในการเกลี้ยกล่อมซิหลง หากว่าเขามีใจจะเข้าร่วมกับปิ้งโจว ก็นับว่าสามารถบรรลุความตั้งใจของนายท่าน" ซึ่งความจริง เดิมทีกาเซี่ยงต้องการปล่อยให้ลิโป้ไปยังกองทัพของเอียวฮองด้วการสนับสนุนจากหน่วยเฟยอิง แต่เมื่อชั่งน้ำหนักความอันตรายของเหตุการณ์แล้ว กาเซี่ยงก็ตัดสินใจไปด้วยตนเอง ตัวตนของลิโป้ในสายตาของขุนนางบุ๋นอาจไม่นับเป็นอย่างไร ทว่าล่อตาล่อใจแม่ทัพบู๊ยิ่ง

"จุดยืนของเอียวฮองยังไม่ชัดเจน จะให้เหวินเหอเสีย่งเดินทางไปยังค่ายของเขาได้อย่างไร? หากว่าเอียวฮองเกิดมีเจตนาร้ายขึ้นมา..... ไม่ได้ เหวินเหอไม่อาจไป" ลิโป้ส่ายหน้าปฏิเสธ

กาเซี่ยงรู้สึกอบอุ่นใจ เขากุมมือขึ้นกล่าวว่า "นายท่านไม่จำเป็นต้องกังวลถึงความปลอดภัยของผู้น้อย เอียวฮองสามารถตั้งตนขึ้นมาได้ ย่อมต้องเป็นผู้ที่รู้สถานการณ์ ปิ้งโจวทั้งเข้มแข็งและมั่งคั่ง ต่อให้เอียวฮองยึดครองทั้งโห้ลายได้ เขาก็มีแต่ต้องผูกไมตรีกับปิ้งโจวไว้ เขาจะต้องปฏิบัติต่อผู้น้อยด้วยความสุภาพและต้องไม่กล้าแตะต้องผู้น้อยอย่างแน่นอน"

กาเซี่ยงสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่ว่าจะอย่างไร เมืองโห้ลายก็อยู่ติดกับปิ้งโจว กองทัพของปิ้งโจวจะสามารถเคลื่อนออกจากเกาตูและเดินทางถึงโห้ลายได้ในวันเดียว

"นายท่าน วิธีการที่ดีที่สุดก็คือใช้โอกาสนี้ ยุยงให้เกิดการต่อสู้ระหว่างเตียวเอี๋ยงกับเอียวฮอง ยิ่งสองฝ่ายสูญเสียกำลังมากเท่าใดก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อปิ้งโจว" กาเซี่ยงลดเสียงลงกล่าว

ม่านตาของลิโป้หดวูบ หากว่าเอียวฮองและเตียวเอี๋ยงต่อสู้กันจนตกตายไปข้าง ผู้ที่จะได้ประโยชน์ก็คือปิ้งโจว

"นายท่าน หากว่าเอียวฮองหย่าศึกกับเตียวเอี๋ยง นั่นก็จะไม่เป็นผลดีต่อปิ้งโจว หากวันหนึ่ง ปิ้งโจวส่งกองทัพมายังโห้ลาย ทั้งสองจะต้องจับมือกันต่อสู้กับปิ้งโจวจนถึงที่สุดเป็นแน่ ใยเราจึงไม่ใช้โอกาสนี้ตัดทอนกำลังของทั้งสองฝ่ายลงเล่าขอรับ? เมื่อเป็นนี้ การยึดครองโห้ลายก็จะง่ายดายยิ่งขึ้น" กาเซี่ยงกล่าว