ลิโป้เองก็โล่งใจเมื่อหยิ่นสงส่งสารท้ารบมา ปัจจุบันอิวจิ๋วกำลังวุ่นวาย แม้ว่ากองซุนจ้านจะเป็นเจ้าเมืองอิวจิ๋ว แต่นั่นก็เป็นเขาที่แต่งตั้งตัวเอง ดังนั้นจึงยากจะโน้มน้าวผู้คน นอกจากนั้นตอนนี้กองซุนจ้านยังรบติดพันอยู่กับเหยียนโร่ว ขณะที่ศัตรูตัวฉกาจอย่างอ้วนเสี้ยวก็กำลังมุ่งหน้าไปทางเขา แม้แต่ปกป้องตัวเองยังลำบาก ดังนั้นคำสั่งที่มีต่อเมืองไต้จิ๋วและเมืองซ่างกู่จะมีผลเป็นอย่างไรก็เป็นที่คิดคำนวณได้
เมื่อหยิ่นสงเป็นฝ่ายส่งสารท้ารบมาเอง ทัพปิ้งโจวก็จะสามารถจัดการปัญหาของเมืองซ่างกู่ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแต่ทางด้านเมืองไต้จิ๋วกลับยังไม่มีความเคลื่อนไหว ขอเพียงทัพปิ้งโจวสามารถเอาชนะทัพของหยิ่นสงโดยเร็ว เมืองซ่างกู่ก็จะไม่เกิดความวุ่นวาย
แน่นอน ลิโป้ย่อมไม่ประมาทไพร่พลที่ประจำการอยู่ที่เมืองซ่างกู่ พวกเขาทำศึกกับพวกเซียนเป่ยอยู่ตลอดทั้งปี ทหารของทั้งสองเมืองนี้ย่อมเป็นทหารชั้นยอด ราชสีห์ยามออกล่ากระต่ายยังทุ่มเทสุดกำลัง แม้ว่าทัพปิ้งโจวจะรบชนะมาแล้วหลายศึก แต่ก็ไม่อาจประมาทคู่ต่อสู้ได้
ที่ทำให้ลิโป้รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งกว่าก็คือการที่กิจิ๋วสงทูตมา คงไม่เกินไปนักหากจะกล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างปิ้งโจวและกิจิ๋วนั้นตึงเครียดยิ่ง เพราะเมื่อตอนที่ปิ้งโจวกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต อ้วนเสี้ยวก็ยังกองทัพมาโจมตีด่านหูกวน ในใจลิโป้นั้นยึดถืออ้วนเสี้ยวเป็นศัตรูมาตั้งนานแล้ว หากไม่ใช่เพราะปิ้งโจวต้องการเวลาเพื่อพักฟื้นฟูกองทัพ ทันทีที่เตียวเอี๋ยนบุกโจมตีเมืองเย่เฉิง เขาเองก็คงเคลื่อนทัพเข้าตีกระหนาบไปแล้ว คงไม่รั้งรอจนถึงตอนนี้
"นายท่าน ทูตของกิจิ๋วคงมาที่นี่เพื่อให้ทัพเราวางตัวอยู่นอกวง สงครามในอิวจิ๋วกำลังอยู่ในช่วงชี้ชะตา เหยียนโร่วและกองซุนจ้านต่อสู้กันจนเจ็บหนักทั้งสองฝ่าย อ้วนเสี้ยวมีใจจะครอบครองอิวจิ๋ว เขาย่อมต้องโค่นกองซุนจ้านลงแน่นอน หากแต่นายท่านยกทัพมาครั้งนี้ คาดว่าอ้วนเสี้ยวคงกินไม่ได้นอนไม่หลับ พะวงหน้าพะวงหลัง จึงได้แต่แต่งทูตมาเพื่อคิดจะมอบผลประโยชน์แลกกับการที่พวกเราวางตัวอยู่เฉย" แกกุยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าววิเคราะห์
"เช่นนั้น เป็นว่าอ้วนเสี้ยวจะยกทั้งสองเมืองนี้ให้ปิ้งโจว?" ลิโป้ถาม
"อ้วนเสี้ยวไม่มีทางเลือกอื่น หากเขาต้องการจะบุกโจมตีทัพของกองซุนจ้านโดยเร็วที่สุด เขาก็ได้แต่ต้องยกผลประโยชน์บางอย่างให้นายท่าน แน่นอนว่าอ้วนเสี้ยวมีอีกทางเลือกคือหันมาโจมตีทัพปิ้งโจวและตัดหนทางถอยของกองซุนจ้านจนสิ้น" กุยแกกล่าว
สีหน้าของลิโป้แปรเปลี่ยนเล็กน้อย เขาไม่เคยเห็นพลังรบของกองทัพกิจิ๋วด้วยตาตนเองมาก่อน แต่ว่าอ้วนเสี้ยวสามารถทำให้กองซุนจ้านที่มีชื่อเสียงในด้านการรบต้องประสบกับความพ่ายแพ้ได้ ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ยิ่งกว่านั้นความตั้งใจเดิมของทัพปิ้งโจวที่มายังอิวจิ๋วครั้งนี้ก็ไม่ใช่เพื่อทำสงคราม หากเขาฉีกหน้าลงมือกับทัพกิจิ๋ว นั่นรังแต่จะมีผลเสียมากกว่าดี แต่แน่นอน หากว่ามีผลประโยชน์เพียงพอ ลิโป้ก็ไม่ลังเลที่จะเปิสงครามกับทัพกิจิ๋ว
"นายท่านโปรดวางใจ ตอนนี้อ้วนเสี้ยวส่งทูตมา หมายความว่าเขาเองก็ไม่อยากจะทำสงครามกับทัพเราเช่นกัน" กุยแกกล่าว
"ทูตจากกิจิ๋วเป็นใครกัน?" ลิโป้ถามด้วยความสงสัย
อ้วนเสี้ยวมีภูมิหลังตระกูลที่โดดเด่น ทั้งยังเคยเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรเจ้าเมือง ใต้บัญชาจึงมีแม่ทัพขุนนางที่มีความสามารถอยู่มากมาย
"ตอบนายท่าน ทูตจากกิจิ๋วชื่อว่า เตียนห้อง ขอรับ" เตียนอุยตอบ
"เตียนห้อง?" ลิโป้ตาเป็นประกาย เตียนห้องเป็นกุนซือที่มีชื่อเสียง หากสามารถดึงตัวมารับใช้ปิ้งโจวได้ ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาล แน่นอน ความเป็นไปได้นี้มีต่ำยิ่ง ผู้คนในยุคนี้ให้ความสำคัญกับการเลือกนาย เมื่อเลือกแล้วก็จะร่วมหัวจมท้ายจนถึงที่สุด ยกตัวอย่างเช่นกาเซี่ยง กว่าที่เขาจะดึงตัวมาที่ปิ้งโจวได้ก็ต้องใช้ความพยายามไปมากมาย
"นายท่านรู้จักคนผู้นี้หรือ?" กุยแกถาม เขาย่อมไม่ลืมว่าตอนที่พบกับเขาเอง ลิโป้ก็มีท่าทางเช่นนี้
"คนผู้นี้มากความสามารถ ไม่ควรประมาทเด็ดขาด" ลิโป้ตอบ
กุยแกยกระดับความสำคัญของเตียนห้องขึ้นเงียบๆ ในหัวคิดหาวิธีจะหาประโยชน์จากเตียนห้องหลังจากที่ได้พบตัวแล้ว
"ให้ทูตจากกิจิ๋วเข้ามาได้" ลิโป้กล่าว ในใจรู้สึกอยากพบหน้าบุคคลที่มีชื่อเสียงในหน้าประวัติศาสตร์ผู้นี้
เตียนห้องสูงราวเจ็ดฉื่อ เขาแต่งกายด้วยชุดขุนนางบุ๋น มีสง่าราศีของผู้คงแก่เรียนไม่ธรรมดา
"เตียนห้อง ทูตจากกิจิ๋วคารวะจิ้นโหว" เตียนห้องประสานมือคารวะ ท่าทีไม่ได้ถ่อมตัวหรือว่าเย่อหยิ่งจนเกินไป หากแต่สีหน้าไม่อาจปกปิดความหยิ่งทะนงเอาไว้ได้
"ข้าได้ยินชื่อเสียงของใต้เท้าเตียนมานาน วันนี้ได้พบพาน นับเป็นเกียรติของข้านัก" ลิโป้หัวเราะเบาๆ
เตียนห้องเพิ่มความตื่นตัวขึ้นในใจ จากคำพูดของลิโป้ เขาก็พบว่าอีกฝ่ายเข้าใจสถานการณ์ของกิจิ๋วเป้นอย่างดี "ข้าน้อยเป็นเพียงคนไร้ชื่อเสียงเรียงนาม ขอบคุณที่ใต้เท้าให้ความสนใจ"
"ใต้เท้าเตียนถ่อมตัวไปแล้ว ในบรรดาขุนนางกิจิ๋วทั้งหมด มีผู้ใดบ้างที่ไม่ทราบว่าใต้เท้าเตียนมีความสามารถหยั่งรู้ฟ้าดิน" ลิโป้ยิ้ม
"จิ้นโหว ข้าน้อยมาที่นี่ด้วยเรื่องระหว่างกิจิ๋วและปิ้งโจว ที่จิ้นโหวเกิดความขัดแย้งกับนายท่านของข้าก็เพราะเรื่องของกองซุนจ้าน ไฉนพวกเราไม่เจรจาสงบศึกกันเล่าขอรับ?" เตียนห้องอธิบายถึงจุดประสงค์การมาโดยตรง ความตื่นตัวที่มีต่อลิโป้ยิ่งเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน เพราะในคำพูดของลิโป้นั้นแสดงให้เห็นว่าปิ้งโจวให้ความสนใจกับเรื่องภายในกิจิ๋วไม่น้อย
"ใต้เท้าเตียน ย้อนกลับไปตอนที่ชนเผ่าเซียนนำระดมกำลังกว่าหนึ่งแสนมาบุกตีด่านเยี่ยนเหมิน แล้วกิจิ๋วทำสิ่งใด? การกระทำของกิจิ๋วครานั้นทำให้ชาวปิ้งโจวโกรธแค้นยิ่ง โชคดีที่จขิ้นโหวกล้าหาญชาญศึก นำทัพม้าบุกเข้าไปในถิ่นของศัตรูด้วยตัวเองจนช่วยปิ้งโจวเอาไว้ได้ หากแต่ในช่วงเวลาคับขันเช่นนั้น กิจิ๋วกลับส่งแม่ทัพมาบุกโจมตีด่านหูกวน ไม่ทราบว่ามีเจตนาใด?" กุยแกที่อยุ่ด้านข้างก้าวออกมาถาม
เมื่อเหล่าบรรดาแม่ทัพในกระโจมได้ฟังดังนั้นก็พากันจ้องมองเตียนห้อง งุยซกกระทั่งยื่นมือไปจับด้ามกระบี่ขณะเอ่ยถามเสียงเย็นว่า "ตั้งแต่เมื่อใดที่ทัพปิ้งโจวของเราหวาดกลัวที่จะต้องทำศึก? ผู้ใดจะทราบได้ว่าอ้วนเสี้ยวจะวางแผนลับหลัง?"
สีหน้าของเตียนห้องแปรเปลี่ยนเล็กน้อย ครั้งนั้นเขาก็ไม่เห็นด้วยที่อ้วนเสี้ยวจะส่งกองทัพไปโจมตีด่านหูกวน แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าชาวปิ้งโจวแล้ว เขาย่อมไม่อาจกล่าววาจาที่ส่งผลเสียต่อกิจิ๋ว
"จิ้นโหว ในอดีต ใต้เท้าอ้วนนั้นกำลังทำศึกกับกองซุนจ้าน แต่ปิ้งโจวก็ได้ส่งกองทัพเข้ามารุกรานกิจิ๋วเราเช่นกัน นั่นมีเจตนาใด?"
"เอาเถอะ ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ในเมื่ออ้วนเสี้ยวส่งหยวนเฮ่ามาที่นี่ คงมีวาจาคิดกล่าวกระมัง" ลิโป้โบกมือ หากปล่อยให้พูดถึงเรื่องนี้ต่อไปก็รังแต่จะทำให้สองฝ่ายโกรธแค้นกันมากขึ้น เขามีลางสังหรณ์ว่า ไม่ช้าก็เร็ว การศึกระหว่างปิ้งโจวและกิจิ๋วจะต้องปะทุขึ้น เพียงแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้
กองซุนจ้านคงยืนหยัดได้อีกไม่นานแล้ว นี่เป็นเรื่องที่แน่นอน แต่ก่อนที่กองซุนจ้านจะถูกโค่นลง ปิ้งโจวจะได้รับผลประโยชน์จากอิวจิ๋วมากเพียงใด นั่นต่างหากคือสิ่งที่ลิโป้อยากจะเห็น
เตียนห้องเหลือบมองซ้ายขวา แต่ไม่กล่าวอะไรออกมา
"นอกจากเฟิ่งเซี่ยว คนที่เหลือให้ออกไปก่อน" ลิโป้ย่อมเข้าใจความหมาย เขาออกคำสั่งทันที
หลังจากเหล่าแม่ทัพออกจากกระโจมไปแล้ว เตียนห้องก็กล่าวว่า "ใต้เท้าอ้วนเต็มใจยกเมืองซ่างกู่และไต้จิ๋วให้ท่าน โดยหวังว่าทัพปิ้งโจวจะไม่ทำสงครามกับกับกิจิ๋วในตอนนี้"
หลังจากกล่าวไปแล้ว เตียนห้องก็ดูผ่อนคลายลงมาก ไม่ว่าจะถูกหรือผิด นี่ก็คือการตัดสินใจของอ้วนเสี้ยว
"ยกไต้จิ๋วและซ่างกู่ให้? ขอถามใต้เท้าอ้วน เขามีอำนาจอะไรถึงกล่าวเช่นนี้? บัดนี้ผู้ที่เป็นเจ้าเมืองอิวจิ๋วก็คือกองซุนจ้าน ไม่ทราบว่าใต้เท้าอ้วนไปเป็นเจ้าเมืองอิวจิ๋วตั้งแต่เมื่อใดกัน?" ลิโป้เอ่ยถาม
เตียนห้องถอนหายใจ "จิ้นโหวก็ทราบเรื่องนี้ดี ใยจึงต้องถาม? เดิมทีแล้วมีผู้ที่เสนอให้นายท่านของข้าบุกโจมตีทัพปิ้งโจวก่อน จากนั้นจึงค่อยไปปราบกองซุนจ้าน"
"แล้วใยปิ้งโจวจึงต้องเกรงกลัวด้วย?" ลิโป้ถามเสียงเย็น
"ข้าน้อยได้ถ่ายทอดเจตนาของนายท่านไปแล้ว ไม่ว่าจะทำศึกหรือไม่ทำศึก นั่นล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของจิ้นโหว"
ตอนนี้เอง ลิโป้จึงเข้าใจแล้วว่าทำไมเตียนห้องถึงไม่ได้รับการใช้สอยจากอ้วนเสี้ยวสักเท่าใด ด้วยลักษณะการพูดจาอย่างไม่เกรงใจเช่นนี้ อ้วนเสี้ยวย่อมทนทานไม่ได้แน่นอน ครั้งแรกเตียนห้องถูกส่งไปเป็นทูตเจรจากับเตียวเอี๋ยน ต่อมาก็ถูกส่งมาที่ทัพปิ้งโจว เพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากสองเรื่องนี้ก็มีโอกาสที่เขาจะถูกเอาชีวิตสูงมากแล้ว นี่แสดงให้เห็นว่าตำแหน่งของเตียนห้องในกิจิ๋วนั้นอยู่ในสภาพง่อนแง่นเพียงใด
"หากว่าข้าคาดเดาไม่ผิด ผู้ที่เสนอให้โจมตีทัพปิ้งโจวก่อนคงจะเป็นใต้เท้าเตียน แต่ใต้เท้าอ้วนไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงส่งใต้เท้าเตียนเป็นทูตมาเจรจากับทัพปิ้งโจวกระมัง?" กุยแกจ้องมองเตียนห้องด้วยดวงตากระจ่างใส
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved