ตอนที่ 155 - เกิดใหม่เป็นลิโป้

ศูนย์การแพทย์จิ้นหยางนั้นก่อตั้งอยู่ใจกลางเมืองจิ้นหยาง ซึ่งอยู่ติดกันกับโรงเรียนจิ้นหยางเอง ที่นี่มีหมอรักษาอยู่ไม่น้อย ซึ่งในสงครามที่ผ่านมา หมอรักษาเหล่านี้ก็มีบทบาทอย่างมากเช่นกัน การปรากฏตัวของพวกเขาที่ด่านเยี่ยนเหมินและหยุนจงนั้นได้ช่วยชีวิตทหารที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก แม้ว่าระดับการช่วยเหลือนี้จะยังไม่เป็นที่พึงพอใจสำหรับลิโป้ หากแต่ในสายตาของพวกทหารแล้ว การรักษานี้มีความสำคัญมาก ทำให้พวกเขาสามารถทุ่มเทแรงกายแรงใจอยู่ที่สนามรบได้มากขึ้น

ทหารในยุคอาวุธเย็นนั้น เมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยพื้นฐานแล้วก็ยากจะรอดชีวิตได้ ต่อให้โชคดีได้รับการรักษา แต่เกรงว่าคงจะพิการจนต้องออกจากกองทัพไป ศูนย์การแพทย์จิ้นหยางเพิ่งจะก่อตั้งขึ้นได้ไม่นาน ยังคงขาดความรู้อย่างเป็นระบบ เป็นการยากที่จะฝึกอบรมหมอรักษาที่มีคุณภาพออกมาได้ในเวลาอันสั้น

การพัฒนาคุณภาพของหมอรักษานั้นยากเย็นยิ่ง ถึงอย่างไรในยุคนี้ก็มีหมอที่เก่งอยู่น้อยมาก อย่างเช่น หมอฮัวโต๋ และหมอจางจ้งจิ่ง

เวลานี้ หมอฮัวโต๋ยังไม่มีชื่อเสียงมากนัก จู่ๆเขาก็ได้รับคำเชิญจากจวนเจ้าเมืองปิ้งโจว ทำให้เขารู้สึกสับสนอย่างมาก เขาพอจะรู้เกี่ยวกับเรื่องของลิโป้มาบ้าง แต่เขาและลิโป้นั้นไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด ทั้งสองกระทั่งไม่เคยพบเจอกันมาก่อนเสียด้วยซ้ำ ไฉนจู่ๆลิโป้จึงเชิญตัวเขาไปที่ปิ้งโจว? หากแต่เงื่อนไขที่เสนอมาในจดหมายนั้นน่าสนใจยิ่ง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจจะเดินทางไปยังจิ้นหยาง ไปชมดูศูนย์การแพทย์จิ้นหยาง ไปดูว่าลิโป้ ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือทั่วแผ่นดินในเวลานี้นั้นเป็นคนเช่นไร

เมื่อฮัวโต๋มาถึง ลิโป้ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เขากระทั่งเป็นคนมาต้อนรับหมอฮัวโต๋ด้วยตัวเอง หลังจากได้สนทนากันสักพัก ฮัวโต๋ก็ตัดสินใจจะรั้งอยู่ที่จิ้นหยางสักระยะหนึ่ง ความใฝ่ฝันของเขาคือการได้เดินทางท่องไปทั่วแผ่นดิน บันทึกสิ่งที่เขาพบเห็นและได้ยินเอาไว้ให้อนุชนรุ่นหลังใช้อ้างอิงในอนาคต ดังนั้นเพื่อที่จะสามารถรักษาผู้คนได้มากขึ้น เขาจึงตัดสินใจจะอยู่ที่ปิ้งโจวก่อน แน่นอนว่าเงื่อนไขที่ลิโป้เสนอออกมานั้นก็ดึงดูดใจเขามากเช่นกัน จากคำกล่าวของลิโป้แล้ว ทักษะทางการแพทย์ของเขาจะต้องพัฒนาขึ้นไปอีกหลายระดับ

ฮัวโต๋ไม่ใช่คนที่เห็นแก่ตัว ในระหว่างที่ฝึกฝนทักษะทางการแพทย์ เขายังช่วยชี้แนะจุดที่หมอรักษาหลายคนไม่เข้าใจ

ฮัวโต๋นั้นมีกำลังใจขึ้นมากเมื่อได้รับความสนใจจากลิโป้ ในอดีตนั้น ไม่ว่าขุนนางคนไหนๆก็มักจะเชิดหน้าใส่เขา ปฏิบัติต่อเขาราวกับเป็นบ่าว ส่วนลิโป้นั้น เขาสัมผัสได้ถึงความจริงใจ จัดตั้งศูนย์การแพทย์สำหรับแพทย์ นับเป็นเจ้าเมืองหนึ่งเดียวในแผ่นดินที่กระทำเช่นนี้ เดิมที เขามาจิ้นหยางเพราะแค่จะทดลองดูเท่านั้น แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจิ้นหยางจะทำให้เขาต้องรู้สึกประหลาดใจถึงเพียงนี้

ในเวลานี้ ทักษะการแพทย์ของฮัวโต๋พอจะมีชื่อเสียงขึ้นมาบ้างแล้ว เขาฝึกฝนการรักษามานานหลายปี เดินทางท่องเที่ยวไปแผ่นดิน พบเจอกับโรคที่ไม่อาจรักษามากมายนับไม่ถ้วน ระหว่างที่พักอยู่ในจิ้นหยาง เขาก็คิดที่จะบันทึกสิ่งที่ได้เห็นและได้ยิน พยายามสร้างรากฐานให้คนรุ่นหลังเอาไว้ใช้รักษาโรคในอนาคต ซึ่งจะสามารถลดจำนวนการเสียชีวิตของคนไข้ได้มากมาย

ลิโป้เห็นด้วยกับความต้องการของฮัวโต๋ ถึงอย่างไรปิ้งโจวก็ไม่ได้ขาดแคลนกระดาษอยู่แล้ว ตราบใดที่ฮัวโต๋จดบันทึกลงไป ลิโป้ก็สามารถรับประกันได้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะถูกคัดลอกทำสำเนาเก็บไว้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง

ภายในโรงพยาบาลเองก็หน่วยงานพิเศษอยู่ พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบคอยขนย้ายผู้บาดเจ็บอย่างฉุกเฉินและสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งพวกเขาก็คือแพทย์ทหารในยุคปัจจุบันนั่นเอง หมอเหล่านี้จะเป็นหมอทหารประจำกองทัพ สามารถอ่านออกเขียนได้ หลังจากเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลกับลิโป้แล้ว พวกเขาก็ถูกส่งมาที่ศูนย์การแพทย์จิ้นหยางเพื่อศึกษาศาสตร์การแพทย์เพิ่มเติม

"หยวนฮั่ว ที่นี่มีที่ปรึกษาของขุนนางผู้นี้นามว่า กุยแก อยู่ ร่างกายของเขาค่อนข้างอ่อนแอ ไม่ทราบว่าหยวนฮั่วพอจะตรวจดูอาการของเขาหน่อยได้หรือไม่?" ลิโป้พลันเอ่ยปากถามขึ้น

ฮัวโต๋ตอบกลับทันที "ขอใต้เท้าส่งทหารสักนายมานำทางให้เฉ่าหมิน"

"เอาเถอะ ถึงอย่างไรข้าก็กำลังว่างอยู่พอดี ข้าจะนำทางให้หยวนฮั่วเอง" ลิโป้กล่าวกลั้วหัวเราะ

ในประวัติศาสตร์นั้น กล่าวได้ว่ากุยแกนั้นต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร หลายคนกล่าวว่าหากไม่ใช่เพราะกุยแกเสียชีวิตไปเสียก่อน สถานการณ์ในแผ่นดินจะต้องแตกต่างไปจากเดิมอย่างแน่นอน แน่นอนว่าลิโป้นั้นย่อมกังวลถึงสุขภาพของกุยแกที่สุด เขายิ่งมายิ่งต้องพึ่งพากุยแกมากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่าเขาย่อมไม่ต้องการจะให้ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอยเดิม

ขณะที่กุยแกกำลังสะสางงานอยู่นั้น เมื่อทราบว่าลิโป้มาถึง เขาก็รีบวางงานในมือแล้วออกมาต้อนรับทันที

"ท่านนี้คือฮัวโต๋ ฮัวหยวนฮั่ว เป็นแพทย์เลื่องชื่อแห่งแผ่นดิน" ลิโป้กล่าวแนะนำ "ส่วนท่านนี้คือ นายอำเภอจิ้นหยางกุยแก กุยเฟิ่งเซี่ยว"

"คารวะฮัวเซียนเซิง" กุยแกกุมมือกล่าว เมื่อเป็นผู้ที่ได้รับความสำคัญจากลิโป้ เขาย่อมไม่อาจละเลย แต่การที่ลิโป้มาพร้อมกับแพทย์ผู้หนึ่งนั้นทำให้เขารู้สึกงุนงนอยู่บ้าง

"ใต้เท้ากุย" ฮัวโต๋ประสานมือคารวะตอบ แม้หลายปีมานี้เขาจะได้พบเจอกับบุคคลสำคัญมาแล้วมากมาย แต่นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอคนหนุ่มเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงบังเกิดความสนใจต่อกุยแกขึ้นมา

"เฟิ่งเซี่ยว ข้าได้รับรายงานมาว่าสุขภาพของเจ้าไม่ค่อยจะดีสักเท่าใด หยวนฮั่วนั้นมีวิชาแพทย์เลิศล้ำในแผ่นดิน ให้เขาตรวจดูอาการของเจ้าสักหน่อยเถอะ" ลิโป้เอ่ยอธิบายจุดประสงค์การมาเยือน

กุยแกได้ยินดังนั้น ไม่ว่าหมอรักษาท่านนี้จะมีฝีมืออยู่ในระดับใด แต่ถึงอย่างไรการที่ลิโป้รู้สึกเป็นห่วงสุขภาพของเขานั้น็ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งใจมาก "นายท่าน ร่างกายของข้าน้อยยังดีอยู่"

"เฟิ่งเซี่ยว ให้เขาตรวจดูสักหน่อยก็ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่หรือ" ลิโป้แสร้งทำเป็นโกรธ

"ขอรับ" เมื่อเห็นว่าลิโป้ยืนกราน กุยแกก็กุมมือรับ

หลังจากตรวจดูชีพจรและสอบถามอาการแล้ว ฮัวโต๋ก็เผยสีหน้าครุ่นคิด หลังจากนั้นพักหนึ่ง เขาก็ค่อยๆกล่าวขึ้นว่า "ใต้เท้ากุยมักจะรู้สึกวิงเวียนและเหนื่อยง่ายใช่หรือไม่?"

กุยแกตกใจ เขาไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้กับผู้ใดมาก่อน หลังจากตรวจดูเพียงชั่วครู่ ฮัวโต๋ก็สามารถวินิจฉัยออกมาได้แล้ว จะเห็นได้ว่าฮวโต๋ะนั้นมีฝีมือเก่งกาจจริง "เป็นเช่นนั้น"

ลิโป้เอ่ยถามด้วยความกังวล "หยวนฮั่ว โรคนี้สามารถรักษาได้หรือไม่?"

"เฉ่าหมินเคยพบเจอคนไข้ที่มีอาการเช่นนี้มาก่อน ตอนแรกเขาก็เหมือนกับใต้เท้ากุย ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่เมื่อโรคนี้กำเริบขึ้น มันก็ยากจะรักษา เฉ่าหมินไม่แน่ใจสักเท่าใด"

ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของลิโป้ก็ยิ่งกังวล "ฮัวเซียนเซิง ขอเพียงช่วยรักษาเฟิ่งเซี่ยวได้ หากอยู่ภายในความสามารถของข้าแล้ว ไม่ว่าท่านร้องขอสิ่งใดข้าย่อมหามาให้"

กุยแกรีบกุมมือกล่าวว่า "นายท่าน ไม่เป็นไรขอรับ ข้าน้อยทราบสภาพร่างกายของตนเองดี นายท่านจะให้สัญญาด้วยเรื่องเพียงเล็กน้อยนี้ได้อย่างไร?"

ลิโป้โบกมือกล่าวว่า "ขอเพียงสามารถรักษาอาการของเฟิ่งเซี่ยวได้ ไม่ว่าจ่ายออกเท่าใดล้วนคุ้มค่า"

มุมปากของกุยแกกระตุกเหมือนจะกล่าวอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่เอ่ยออกไป

"เฉ่าหมินมีเทียบยาอยู่ใบหนึ่ง ร่างกายของใต้เท้ากุยนั้นต้องค่อยๆทำการรักษาอย่างค่อยเป็นค่อยไป และไม่ควรใช้งานร่างกายหนักเกินไป" จากนั้นจึงกล่าวต่อว่า "แม้วิธีนี้จะช่วยบรรเทาอาการได้ แต่ก็ยังยากจะรักษาให้หาย"

ลิโป้กล่าวขึ้นว่า "เรื่องอาการของเฟิ่งเซี่ยวนั้น คงต้องรบกวนฮัวเซียนเซิงแล้ว"

"ใต้เท้าไม่ต้องห่วง นี่เป็นหน้าที่ของหมอรักษาอยู่แล้ว" ฮัวโต๋ตอบ จากคำพูดของลิโป้แล้ว เขาก็สัมผัสได้ถึงความสำคัญของกุยแกในใจลิโป้ อันจะเห็นได้ว่าลิโป้ถึงกระทั่งให้สัญญาอย่างหนักเช่นนั้น

"ขอบคุณนายท่าน ขอบคุณฮัวเซียนเซิง" กุยแกกุมมือกล่าว

"เฟิ่งเซี่ยว อย่าได้หักโหมทำงานหนักอีก อย่าได้ลืมคำแนะนำของฮัวเซียนเซิง" ลิโป้เอ่ยเตือน

ในเมื่อเขาพาฮัวโต๋มาถึงปิ้งโจวแล้ว เขาย่อมต้องพาอีกฝ่ายไปยังจวนเจ้าเมือง ไปตรวจดูสุขภาพของกาเซี่ยงแล้วและลิซก คนเหล่านี้ล้วนเป็นเสาหลักของปิ้งโจว หากเกิดเรื่องกับพวกเขาคนใดคนหนึ่งขึ้นมา ปิ้งโจวคงไม่พ้นต้องเกิดการสั่นคลอนอย่างหนัก....