"ทัพปิ้งโจวจะไม่ทำศึกกับกิจิ๋วในช่วงนี้ หยวนเฮ่าสามารถนำเรื่องนี้ไปบอกต่ออ้วนเปิ่นชูเมื่อกลับไป"
กุยแกชื่นชมความตรงไปตรงมาของลิโป้เป็นอย่างยิ่ง เป็นความตรงไปตรงมานี้เองที่ทำให้เขารู้สึกประทับใจและเลือกที่จะรั้งอยู่ที่ปิ้งโจว ในปิ้งโจวนั้น เขาไม่เคยได้ยินข่าวลือว่าลิโป้มีมาตราการใดๆเพราะหวาดระแวงคนเลย ทั้งลิซกและกาเซี่ยงต่างก็เคยอยู่ใต้ัญชาของตั๋งโต๊ะมาก่อน กระนั้นลิโป้ก็ยังไว้ใจและมอบหมายหน้าที่สำคัญให้พวกเขาทำทันทีที่มาถึงปิ้งโจว
กุยแกยังเคยได้ยินเกี่ยวกับสำนักผู้ตรวจการภายในมาบ้าง ซึ่งหน่วยนี้จะสืบสวนและขุนนางที่ฝ่าฝืนวินัยเท่านั้น
"หลังจากกลับไปแล้ว ข้าน้อยจะรายงานต่อใต้เท้าอ้วนอย่างแน่นอน" เตียนห้องกล่าว
เตียนห้องรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างที่เขาสามารถบรรลุภารกิจที่ทัพปิ้งโจวได้อย่างราบรื่น ตามความคิดของเขานั้น หลังจากที่มาถึงทัพปิ้งโจวแล้ว เขาคงจะได้รับความอัปยศอับอายอย่างมาก ถึงอย่างไรความสัมพันธ์ระหว่างปิ้งโจวและกิจิ๋วก็อยู่ในสภาพที่ตึงเครียด สงครามสามารถปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา มิคาด นักบู๊หยาบกร้านในสายคนผู้คนในแผ่นดินจะเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อย อีกฝ่ายกระทั่งชื่นชมในตัวเขา และจากตัวลิโป้นั้น เขาสัมผัสไม่ได้ถึงการวางท่าหรือใช้ตำแหน่งเจ้าเมืองมากดขี่ผู้อื่นเลยแม้แต่น้อย กลับเป็นความรู้สึกเรียบง่ายและเป็นกันเองมากกว่า
แน่นอน หลังจากที่กลับไปถึงทัพกิจิ๋วแล้ว เตียนห้องย่อมต้องรายงานสิ่งที่ได้ยินได้เห็นที่นี่ต่ออ้วนเสี้ยวไปตามจริง ในคณะทูตที่มาด้วยกันนั้นมีคนของเขาฮิวอยู่ ต่อให้เขาไม่พูดออกไป เขาฮิวก็จะลอบรายงานต่ออ้วนเสี้ยวอยู่ดี
เตียนห้องเองก็ทราบว่าตำแหน่งในกิจิ๋วของตนนั้นอยู่ในสภาพที่ง่อนแง่นเพียงใด อ้วนเสี้ยวไม่ใช่นายที่มีคุณธรรมหรือว่าทรงปัญญาดั่งที่ผู้คนภายนอกเข้าใจ หลังจากผ่านมานาน เตียนห้องก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง ว่าอ้วนเสี้ยวเปลือกนอกนั้นเป็นคนใจกว้าง หากแต่ภายในเป็นคนขี้ระแวง เขามักมีความระแวงต่อผู้ใต้บัญชาอยู่เสมอ อีกทั้งเขายังเป็นคนโลเล และหากว่าผู้ใต้บัญชาของเขามีความเห็นตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาต้องการ เขาก็จะเกิดความลังเลอยู่นาน ลักษณะนิสัยเช่นนี้ ตอนนี้อาจดูเหมือนไม่เป็นอะไร แต่เมื่อถึงเวลาต้องตัดสินชะตากรรมของกิจิ่วแล้ว นิสัยเช่นนี้จะเป็นตัวตัดสินของสงครามได้เลย
อย่างไรเสียตระกูลอ้วนก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้เมื่อชื่อเสียงของอ้วนเสี้ยวแพร่กระจายออกไป บัณฑิตขุนนางจำนวนมากจึงเดินทางมาเข้าร่วมกับกิจิ๋วเป็นจำนวนมาก นี่เองก็เป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากที่อ้วนเสี้ยวยึดครองกิจิ๋วแล้วถึงสามารถปกครองอย่างมั่นคงได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็เพราะว่าเดิมนั้นฮันฮกเป็นผู้ใต้บัญชาของเขาครึ่งหนึ่ง
"นายท่าน เตียนห้องจะไม่เข้าร่วมกับปิ้งโจวอย่างแน่นอน" กุยแกกล่าวอย่างมั่นใจ
"เฟิ่งเซี่ยว เจ้าต้องมองเรื่องราวต่างๆในแง่ดีเอาไว้ จากการพูดคุยในวันนี้ ข้าเองก็ทราบว่าเตียนห้องคงไม่เข้าร่วมกับปิ้งโจว กระนั้นข้าก็ยังคงพยายามจะดึงตัวเขามา นี่ก็เพื่อให้ในใจของเขามีปิ้งโจวอยู่บ้าง จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเขารู้สึกสิ้นหวังต่ออ้วนเสี้ยวโดยสมบูรณ์ บางทีเขาอาจจะมาเข้าร่วมกับปิ้งโจวเพราะเหตุนี้ก็ได้" ลิโป้กล่าว
"นายท่านปราดเปรื่องยิ่งนัก" กุยแกกุมมือกล่าว
"เฟิ่งเซี่ยวเองก็ทราบดี ปิ้งโจวเราขาดแคลนผู้มีความรู้ความสามารถในด้านกิจการภายใน เตียนห้องนับเป็นผู้มีพรสวรรค์ในด้านนี้อย่างแท้จริง หากสามารถดึงตัวมาที่ปิ้งโจวได้ นั่นก็จะมีส่วนช่วยต่อปิ้งโจวอย่างมาก ในอดีต ปฐมฮ่องเต้หลิวปังเองก็สามารถรวมแผ่นดินเพราะมีเซียวเหอคอยจัดการเรื่องราวต่างๆให้อยู่เบื้องหลัง" ลิโป้กล่าว
กุยแกตกตะลึง จากการอุปมาอุปไมยของลิโป้ เขาก็สัมผัสได้ถึงความหมายพิเศษที่แฝงอยู่ภายในนั้น เขากล่าวถึงปฐมฮ่เง้ตหลิวปังและเซียวเหอ ใช่มีความหมายแฝงใดหรือไม่? "นายท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้วขอรับ"
ลิโป้ย่อมไม่ทราบว่าเพียงเพราะการอุปมาอุปไมยถึงหลิวปังเพียงครั้งเดียวจะทำให้กุยแกเข้าใจความหมายของเขาผิดไปและเชื่อว่าลิโป้มีความทะเยอที่สูงล้ำยิ่ง
หลังจากส่งทูตจากกิจิ๋วจากไปแล้ว ลิโป้ก็ต้องการจะสะสางเรื่องหยิ่นสงให้เสร็จโดยเร็ว ตันเทียนเจ้าเมืองไต้จิ๋วเองก็ส่งจดหมายมาแล้วเช่นกัน เพียงแต่เจตนาของเขาไม่ค่อยชัดเจนนัก กุยแกวิเคราะห์เอาไว้ว่าตันเทียนผู้นี้คงจะเลือกวางตัวเป็นการเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน หากว่าทัพปิ้งโจวสามารถจัดการหยิ่นสงได้อย่างรวบรัดหมดจด ตันเทียนก็จะเข้ามาสวามิภักดิ์ต่อปิ้งโจวอย่างแน่นอน
ก่อนที่เซียนเป่ยจะรุกรานชายแดน ลิโป้เคยมีการติดต่อกับตันเทียนเจ้าเมืองไต้จิ๋วอยู่บ้าง และความประทับใจที่มีต่อตันเทียนเองก็ค่อนข้างดี
หลังข่าวเรื่องสารท้ารบระหว่างสองทัพแพร่กระจายออกไป บรรดาแม่ทัพนายกองของทัพปิ้งโจวต่างก็ถูไม้ถูมือ ไม่ว่าใครก็หวังจะสร้างความดีความชอบในศึกนี้ แม้แต่พวกทหารใหม่ก็พลอยติดความฮึกเหิมจากพวกทหารรุ่นพี่มาด้วย
เป้าหมายของการเข้าร่วมกองทัพคืออะไร? ก็เพื่อผลงานทางทหาร มีเพียงการสร้างผลงานอย่างเพียงพอเท่านั้นจึงจะสามารถเลื่อนขั้นได้ ดูอย่างหลี่เยี่ยนเป็นตัวอย่าง เดิมทีเขาเป็นทหารที่อยู่ใต้บัญชาของเตียวเลี้ยว แต่ด้วยความสามารถอันโดดเด่นของเขา เขาจึงได้กลายเป็นรองแม่ทัพของทัพม้าเฟยฉี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเขาที่คอยควบคุมดูแลทัพเฟยฉี เพราะถึงอย่่างไรลิโป้ก็เป็นเจ้าเมือง ย่อมไม่มีเวลามาดูแลกองทัพมากนัก
หลี่เยี่ยนเคยเป็นเพียงพลทหารธรรมดา ผลงานการไต่เต้าตำแหน่งของหลี่เยี่ยนได้กลายมาเป็นแรงบันดาลแก่พวกทหารจำนวนมาก มีผู้ใดไม่เคยฝันอยากจะเป็นแม่ทัพบ้าง? มีผู้ใดที่ต้องการแต่จะก้มหัวให้กับผู้อื่นตลอดเวลากัน? ภายใต้การกระตุ้นของระบบสะสมผลงานของทัพปิ้งโจว พลังต่อสู้ของกองทัพปิ้งโจวจึงสูงเกินกว่าที่ผู้ใดจะจินตนาการ
กองทัพโดยทั่วไปนั้น หากได้รับความเสียหายเกินสามส่วน พวกทหารก็จะเริ่มหนีทัพ และหากว่ามีความเสียหายเกินกว่าห้าส่วน ก็เป็นไปได้มากว่าพวกทหารจะเสียขวัญจนหมดกำลังจะที่จะต่อสู้ และสำหรับทัพใดที่แม้จะเกิดความสูญเสียกว่าเจ็ดส่วนแล้วยังคงสู้ต่อ นั่นก็นับได้ว่าเป็นทัพชั้นยอดแล้ว
หยิ่นสงรวบรวมไพร่พล โดยทิ้งทหารจำนวนสามพันเอาไว้เฝ้าเมือง จากนั้นจึงนำทหารจำนวนหนึ่งหมื่นสองพันคนมุ่งหน้าไปทำศึกกับลิโป้ หากว่าเขาสามารถเอาชนะลิโป้ได้ ชื่อเสียงของเขาจะต้องเป็นที่เลื่องลือไปทั่วแผ่นดินแน่นอน เพราะถึงอย่างไรชื่อเสียงของลิโป้นั้นก็เห็นกันอยู่
แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจกองทัพปิ้งโจวมากนัก กระนั้นหยิ่นสงก็ยังให้ความสำคัญต่อศึกครั้งนี้ยิ่ง โดยเฉพาะความปลอดภัยของเมืองซ่างกู่ เขาไม่ต้องการถูกทัพปิ้งโจวตลบหลังตอนที่กำลังต่อสู้อยู่กับลิโป้ ในสงครามนั้น ไม่ว่าเรื่องใดก็สามารถเกิดขึ้นได้ เป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ชัยชนะ โดยระหว่างขั้นตอนนั้นจะเรียกว่ากลยุทธ์ หากมีกลยุทธ์ที่ดีก็จะได้รับชัย หากว่าล้มเหลวก็จะเป็นประสบการณ์
ทหารม้าใต้บัญชาจำนวนสองพันทำให้หยิ่นสงมีความมั่นใจอย่างมาก ทหารเหล่านี้เคยต่อสู้กับพวกเซียนเป่ยมาก่อน แม้ว่าทหารม้าเฟยฉีของลิโป้จะเคยล่วงลึกเข้าไปในทุ่งหญ้า แต่ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม้ว่าจะหาคนมาเติมแล้ว แต่ในระยะเวลาอันสั้น ประสิทธิภาพในการสู้รบย่อมเทียบกับในอดีตไม่ได้ และในบรรดาทหารของลิโป้แล้ว นอกจากทัพม้าเฟยฉี ทหารกว่าครึ่งก็เป็นทหารที่รับสมัครเข้ามาใหม่ นี่ยิ่งทำให้หยิ่นสงมั่นใจว่าจะคว้าชัยมาได้
ขอเพียงทหารม้าสองพันของเขาพัวพันทหารม้าเฟยฉีเอาไว้ได้ ทหารม้าที่เหลืออีกหนึ่งหมื่นคนก็มีโอกาสสูงมากที่จะเอาชนะทหารที่เหลืออีกแปดพันของปิ้งโจว ทหารทั้งหมื่นคนนี้ก้คือทหารที่เก่งกาจที่สุดของเมืองซ่างกู่
หยิ่นสงเองก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้แล้ว หากว่าเขาเกิดพ่ายแพ้ขึ้นมา เขาก็จะหนีไปพึ่งพิงอ้วนเสี้ยว เป็นที่ทราบทั่วกันว่าปิ้งโจวนั้นไม่ลงรอยกับกิจิ๋ว เมื่อไปสวามิภักดิ์ต่ออ้วนเสี้ยว ด้วยฐานะของเขาแล้ว ชีวิตของเขาก็คงจะไม่เลวร้ายนัก
ในสนามรบที่มีทหารอยู่นับหมื่น ในสนามรบเช่นนี้จะเป็นบททดสอบในการคุมทัพของแม่ทัพ แม่ทัพใหญ่เพียงถ่ายทอดคำสั่ง ผู้ที่รับคำสั่งไปปฏิบัติจึงจะเป็นเหล่าแม่ทัพ
หากว่าแม่ทัพทัพนายกองที่เบื้องล่างสามารถปฏิบัติตามคำสั่งได้เป็นอย่างดี ประสิทธิภาพในการสู้รบก็จะเหนือกว่ากองทัพทั่วไปอย่างแน่นอน
สิ่งที่กองทัพปิ้งโจวเน้นย้ำอยู่เสมอก็คือแม่ทัพแต่คนจะต้องทราบสถานการณ์ของทหารใต้บัญชา โดยพวกทหารก็จะฟังคำสั่งลดหลั่นลงไปเป็นขั้นๆ หากว่านายกองและผู้บัญชาการสามารถปฏิบัติตามคำสั่งจากเบื้องบนได้ดี เช่นนั้นการศึกก็จะยิ่งเรียบง่าย
ธงรูปเหยี่ยวบินนั้นโดเด่นเป็นสง่ายิ่งกว่าธงรบใดในกองทัพ ทหารม้าจำนวนสามพันเรียงรายกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ ทั้งหมดต่างกระเหี้ยนกระหือรือที่จะออกรบเต็มแก่
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved