"ชีจิ๋วมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ทั่วแผ่นดินต่างก็ทราบในเรื่องนี้ หากว่านายท่านสามารถเกลี้ยกล่อมให้โจโฉถอยทัพได้ นายท่านก็ได้รับความเคารพยกย่องจากไพร่พลและราษฏรชาวชีจิ๋ว" หลังจากกาเซี่ยงกล่าวจบ เขาก็หันไปรอฟังคำตอบของกุยแก สำหรับชายหนุ่มผู้นี้แล้ว กาเซี่ยงมีความรู้สึกว่าไม่อาจคาดเดาความคิดได้เลย
กุยแกกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม "ท่านที่ปรึกษากาวิเคราะห์ได้อย่างเฉียบคมแม่นยำ สร้างความเลื่อมใสให้กับข้ายิ่งนัก"
"เพียงแต่ข้าน้อยคิดว่าการประณามกุยกีและพรรคพวกนั้นควรจะกระทำผ่านหนังสือพิมพ์ต้าฮั่น หนังสือพิมพ์ต้าฮั่นฉบับก่อนหน้านี้ได้เคยประณามพฤติการณ์ของลิฉุยและคนอื่นๆเอาไว้แล้ว หากแต่บรรดาเจ้าเมืองทั้งหลายก็ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใด เห็นได้ชัดว่าต่างคนต่างก็มีความคิดอ่านอยู่ในใจ ผู้คนในแผ่นดินทราบว่านายท่านรักใคร่หวงใยปวงประชา ดังนั้นนายท่านจึงควรจะแสดงความใส่ใจต่อราษฏรชาวชีจิ๋วเป็นอันดับแรก หรือเช่นนั้นก็ส่งกองทัพไปเพื่อแสดงท่าที" เพราะเคยเห็นสภาพอันน่าเศร้าสลดของชาวบ้านที่ถูกชาวเซียนเป่ยปล้นฆ่ามาก่อน กุยแกจึงไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อเจ้าเมืองที่ปล่อยให้ทหารเข่นฆ่าประชาชน ขณะเดียวกันก็ยังอดทอดถอนใจให้กับสหายเก่าของเขาไม่ได้
ลิโป้ผงกศีรษะ เวลานี้ปิ้งโจวค่อนข้างจะมั่นคงแล้ว แม้ว่าจะมีกำลังทหารที่สามารถเคลื่อนกำลังเพียงสามหมื่นนาย แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นกองทัพของปิ้งโจวแล้วก็ย่อมไม่มีผู้ใดกล้าสบประมาท
"มีพวกท่านอยู่ในปิ้งโจว ข้าก็รู้สึกวางใจยิ่ง เช่นนั้นข้าจะไปยังชีจิ๋วสักเที่ยวก็แล้วกัน" ลิโป้เกิดความคิดอยากจะเดินทางไปยังชีจิ๋ว เขาเองก็อยากจะเห็นเช่นกันว่าบรรดาเจ้าเมืองในภาคกลาง โดยเฉพาะโจโฉผู้มีชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขานในชนรุ่นหลังนั้นจะมีกองทัพเกรียงไกรปานใด
""นายท่าน ไม่ได้"" ทั้งกาเซี่ยงและกุยแกต่างเอ่ยค้านอย่างพร้อมเพรียง
"ร่างกายของนายท่านมีค่ายิ่งกว่าพันตำลึงทอง จะไปเสี่ยงอันตรายด้วยตนเองได้อย่างไรกัน? ตอนบุกโจมตีชนเผ่าเซียนเป่ยก็ทีนึงแล้ว หากว่านายท่านเกิดล้มป่วยขึ้นมา ปิ้งโจวจะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นเป็นแน่" กาเซี่ยงกล่าวด้วยสีหน้ากังวล
"พวกท่านทั้งสองคิดมากไปแล้ว ที่ข้าจะเดินทางไปยังชีจิ๋วก็เพื่อที่จะหยุดสงคราม ไม่ใช่ไปทำสงครามเสียหน่อย จะนิ่งเฉยดูดายอยู่เช่นนี้ได้อย่างไร ต่อให้โจเมิ่งเต๋อไม่ฟังคำเกลี้ยกล่อมของข้า แต่ถึงอย่างไรครั้งหนึ่งข้าก็เคยช่วยชีวิตเขาไว้จากเงื้อมมือของตั๋งโต๊ะ ดังนั้นเขาต้องย่อมไว้หน้าข้าอยู่บ้าง" มุมมองของลิโป้นั้นผ่านการพิจารณาสถานการณ์มาดีแล้ว อ้วนเสี้ยวยามนี้ยังรบติดพันอยู่ในกิจิ๋ว ไม่อาจเคลื่อนกำลังไปไหน หากไม่ใช่เพราะเตรียมสะสมกำลังไว้รับศึกใหญ่ ลิโป้คงจะสั่งเคลื่อนกำลังเข้าโจมตีกิจิ๋วไปแล้ว
กาเซี่ยงและกุยแกทั้งกังวลและสับสน หากพิจาณาเรื่องนี้ดูให้ดี พวกเขาจะรู้สึกกังวลก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร
"ข้าน้อยยินดีติดตามนายท่านไปยังชีจิ๋ว" กุยแกกล่าวอาสา
"มีเฟิ่งเซี่ยวร่วมทาง การเดินทางครานี้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้ว" ลิโป้ยิ้มกล่าว
มุมปากกาเซี่ยงกระตุกขึ้นเบาๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กล่าวเกลี้ยมกล่อมอะไร เขามีภาระหน้าที่ที่ต้องจัดการสะสางในปิ้งโจวมากมาย แม้เขาจะอยากติดตามลิโป้ไปชีจิ๋ว แต่เขาก็ไม่อาจปลีกตัวไปได้
"กองทัพปิ้งโจวยังคงมีขนาดเล็กเกินไป เหวินเหอ แจ้งไปยังสำนักงานเมือง บอกให้เกณฑ์ไพร่พลเพิ่มอีกสามหมื่นนาย เงื่อนไขยังคงเดิม ให้จัดลำดับแบ่งกำลังให้แต่ละหน่วย หน่วยใดที่เสียหายก็ให้รับสมัครคนไปเติม ส่วนทางด่านเยี่ยนเหมินให้พวกเขาทำการรับสมัครด้วยตนเองได้เลย" หลังจากผ่านศึกใหญ่มา ปิ้งโจวเองก็สูญเสียกำลังพลไปไม่น้อย ดังนั้นจึงต้องคัดทหารเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทน
"ขอรับ" กาเซี่ยงกุมมือรับคำ แม้ว่ากองทัพปิ้งโจวจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบจำนวนไพร่พลกับเจ้าเมืองในภาคกลางแล้วก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่มาก
วันรุ่งขึ้น เมื่อบิต๊กได้ทราบข่าวว่าลิโป้ตั้งใจจะส่งกองทัพไปยังชีจิ๋ว เขาก็ตื่นเต้นยินดียิ่ง ดวงตาของเขาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแห่งความปิติ พลังรบของกองทัพปิ้งโจวนั้นมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน เมื่อลิโป้มีความคิดจะช่วยเหลือชีจิ๋ว แม้แต่โจโฉก็ยังต้องใคร่ครวญให้ดี
"จื่อจ้ง ปิ้งโจวจำเป็นต้องพักฟื้นหลังจากทำสงคราม การไปเยือนชีจิ๋วครานี้ ข้าเพียงคิดจะนำทหารม้าเฟยฉีร่วทางไปด้วยเพียงหนึ่งพันเท่านั้น" ลิโป้กล่าว
"ใต้เท้าช่างเปี่ยมด้วยคุณธรรมยิ่งนัก บิต๊กขอเป็นตัวแทนชาวชีจิ๋วกล่าวขอบคุณต่อใต้เท้า" บิต๊กกล่าวพลางค้อมคำนับด้วยความจริงใจ แม้ทหารม้าจำนวนหนึ่งพันนี้ดูเหมือนว่าจะน้อยไปบ้าง แต่เขาเองก็ทราบดีว่าปิ้งโจวคงไม่อาจส่งทัพใหญ่ไปยังชีจิ๋ว เพราะถึงอย่างไรอ้วนเสี้ยวก็ยังคงจับตาดูปิ้งโจวอยู่
"จื่อจ้ง เวลานี้ยังไม่สาย ท่านมาเยือนที่ปิ้งโจวทั้งที จะกลับไปมือเปล่าได้อย่างไร? จื่อจ้งคงจะเคยได้ยินถึงสุราจิ้นมาบ้าง อีกทั้งหลังจากผ่านศึกน้อยใหญ่แล้ว ชีจิ๋วคงต้องการอาวุธและยุทธภัณฑ์มิใช่น้อย"
บิต๊กกล่าวว่า "ขอบคุณใต้เท้า" ในใจของเขายิ่งไม่อาจคาดเดาความคิดของลิโป้ ต้องเป็นคนแบบใดจึงจะคิดหาผลกำไรในเวลาเช่นนี้ได้? เมื่อเทียบกับลิโป้แล้ว เขาที่เป็นพ่อค้าตัวจริงก็กลับกลายเป็นดูไม่เหมือนพ่อค้าไปเสียอย่างนั้น อย่างไรก็ดี ชีจิ๋วกำลังต้องการอาวุธ ชุดเกราะและอุปกรณ์อื่นๆอยู่จริงๆ เขารู้ว่าสิ่งของที่ปิ้งโจวจะขายให้ชีจิ๋วนั้นก็คงเป็นของที่ถูกคัดออกจากกองทัพปิ้งโจว ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบว่าควรจะรู้สึกเช่นไรดี
หากแต่ในเวลาเช่นนี้ ลิโป้กลับกล้าที่จะเดินทางไปยังชีจิ๋ว ด้วยน้ำใจใหญ่หลวงเพียงนี้ บิต๊กก็มีแต่ต้องยิ้มรับไว้ เขาอยู่ที่ชีจิ๋วมานาน ย่อมมีรากฐานที่ลึกล้ำ ตระกูลบิเองก็มีอิทธิพลอยู่ในชีจิ๋วไม่ใช่น้อย เดิมทีแล้วเขาก็ไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์อะไรที่เต๊งไก๋และเล่าปี่นำกำลังมาช่วยเหลือ แต่เมื่อโตเกี๋ยมคิดจะส่งมอบชีจิ๋วออกไป เขาก็รู้สึกยอมรับไม่ได้อยู่บ้าง ยิ่งกว่านั้นตระกูลตันยังแสดงท่าทีจะสนับสนุนเล่าปี่ หากว่าตระกูลบิไม่ทำอะไรบ้าง ชีจิ๋วก็คงจะไม่มีตระกูลบิอีกต่อไป
ข่าวที่ลิโป้จะไปยังชีจิ๋วนั้นไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใด ลิโป้เลือกจะเดินทางไปยังชีจิ๋วอย่างสง่าผ่าเผย ทหารม้าเฟยฉีทั้งหนึ่งพันนายล้วนเปลี่ยนมาใช้ดาบรูปแบบใหม่ที่ผลิตขึ้นโดยโรงงานช่างฝีมือ อาวุธแต่ละเล่มนั้นต้องใช้เหล็กกล้าถึงร้อยแท่งเพื่อหลอมตีขึ้นมา และนั่นก็สร้างแรงกดดันให้กับปิ้งโจวอย่างมาก
แม้ว่าจะถูกเปลี่ยนอาวุธใหม่ แต่ทหารม้าเฟยฉีที่ได้รับอาวุธต่างก็ต้องประหลาดใจอย่างมาก ดาบนี้มีน้ำหนักเบากว่าอาวุธทั่วไป แม้ว่าจะไม่ยาวเท่า แต่นั่นก็ถูกทดแทนด้วยความคล่องตัวซึ่งทำให้เหล่าทหารต่างหลงรักมันมาก ในสนามรบนั้น ยิ่งออกอาวุธได้เร็วเท่าใดก็ยิ่งได้เปรียบเท่านั้น โดยเฉพาะทหารม้า ข้อดีของดาบที่มีความคล่องตัวจะส่งผลต่อการต่อสู้ในระยะยาว อีกทั้งดาบพวกนี้ยังถูกตีขึ้นจากเหล็กกล้า แม้แต่แม่ทัพทั่วไปในกองทัพก็ยังไม่มีอาวุธที่เป็นเหล็กกล้าเช่นนี้ แล้วจะไม่ให้พวกทหารรู้สึกตื่นเต้นได้อย่างไร?
หนังสือพิมพ์ต้าฮั่นเองก็เขียนยกย่องชื่นชมพฤติการณ์ของลิโป้เป็นอันมาก ซัวหยง ผู้เป็นปราชญ์ชั้นสูงในแผ่นดินได้เขียนบทความนี้ขึ้นด้วยตนเอง ดังนั้นจึงทำให้สภาวะของลิโป้พุ่งขึ้นไปอยู่ในแถวหน้าอีกครั้ง นี่คือความสำเร็จของการช่วยเหลือผู้คน ไม่ว่าสุดท้ายแล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่ มันก็จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน ไม่มีผู้ใดรู้สึกอิจฉากับความสำเร็จเช่นนี้ แต่สิ่งที่ประชาชนทั่วแผ่นดินจะได้เห็นก็คือ เจ้าเมืองแห่งปิ้งโจวนั้นรักและห่วงใยปวงประชา
แม้ซัวหยงจะไม่เชื่อว่าโจโฉจะกล้าฆ่าล้างชาวชีจิ๋วจริงๆ แต่ภายใต้การยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวต่างๆ เขาก็อดจะเขียนประณามโจโฉอย่างเสียมิได้ จากข่าวสารที่อยู่ในหนังสือพิมพ์ต้าฮั่นแล้ว แม้ว่าโจโฉจะมีชื่อเสียงก้องโลก แต่เขาก็จะถูกผู้คนมากมายละทิ้งในที่สุด
แม้ว่าบรรรดาขุนนางของปิ้งโจวจะกังวลถึงความปลอดภัยของลิโป้ แต่เมื่อเห็นว่าที่ปรึกษาใหญ่ทั้งสองล้วนไม่คัดค้าน คนที่เหลือก็ไม่อาจทำอย่างไรได้ ด้วยความจริงที่ว่าลิโป้เคยนำทัพม้าเฟยฉีเอาชนะชาวเซียนเป่ยด้วยตนเองมาก่อน ดังนั้นเรื่องนี้จึงดูเหมือนจะไม่อันตรายสักเท่าใด กอปรกับมีซัวหยงคอยช่วยส่งเสริมสภาวะ ผู้คนก็ตะโกนโห่ร้อง ปิ้งโจวจึงกลายเป็นดินแดนที่มีคุณธรรมสูงส่งในพริบตา ในเวลานี้นั้น หากมีผู้ใดกล้าโจมตีให้ร้ายปิ้งโจว ผู้นั้นก็จะดึงดูดคำตำหนิติเตียนจากผู้คนทั่วทั้งแผ่นดิน
ในระหว่างที่เดินทาง เมื่อมีตรงที่ใดที่ลิโป้ไม่เข้าใจ เขาก็จะเอ่ยปากขอคำปรึกษาจากกุยแก กุยแกเองก็อธิบายอย่างไม่มีปิดบัง ความเคารพต่อลิโป้ของกุยแกเองก็เพิ่มขึ้นมาก สำหรับผู้ที่จะเป็นเจ้าคนนายคนนั้น พวกเขาไม่จำเป็นว่าจะต้องมีพรสวรรค์สูงส่ง แต่พวกเขาควรจะมีจิตใจที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้าง กล้าที่จะขอคำปรึกษาจากผู้ใต้บังคับบัญชา
ซึ่งเหล่านี้ล้วนพบทั้งสองจุดนี้ในตัวลิโป้ แม้ว่ากุยแกจะยังเป็นคนหนุ่มอายุน้อย แต่เขาก็เป็นคนที่มีความคิดละเอียดลึกซึ้ง ย่อมสามารถมองสิ่งเหล่านี้ออก
ตอนที่ฮ่องเต้ฮั่นเกาจู่ปราบพิชิตแผ่นดินนั้น เขายังเทียบกับหานซิ่นไม่ได้ในแง่การบัญชาการและฝีมือส่วนตัว ส่วนในแง่ของสติปัญญา เขาก็ยังด้อยกว่าจางเหลียง ส่วนในแง่ของการบริหารราชการ เขาก็ยังสู้เซียวเหอไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เขาสามารถเอาชนะเจ้าผู้ครองดินแดนต่างๆ และวางรากฐานให้ราชวงศ์ฮั่นคงอยู่มาได้ถึงสี่ร้อยกว่าปี ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นเพราะว่าหลิวปังรู้จักใช้คน
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved