บทที่ 170 การบุกรุก
หยางป๋อผู้ล่อนจ้อนว่ายน้ำอยู่ใต้ทะเล พร้อมกับปล่อยให้พลังไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ในร่างกาย เพื่อบรรเทาแรงกดดันจากน้ำที่มากระทำต่อร่างกาย
เขารับรู้ถึงการหมุนเวียนของพลังไฟฟ้าในร่างกายได้ รับรู้ได้ว่ามันค่อยๆกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกายทีละน้อย
ความรู้สึกนี้ช่างมหัศจรรย์ เป็นความรู้สึกลึกลับที่ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ แต่กลับชัดเจนยิ่งนัก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หยางป๋อรู้สึกปรับตัวเข้ากับแรงกดดันของน้ำที่ระดับ 700 เมตรได้แล้ว จึงค่อยๆเคลื่อนที่ลงไปในที่ลึกยิ่งขึ้น
"ดูเหมือนใต้ทะเลจะมีการรบกวนพลังงานเล็กน้อยด้วยนะ?" หยางป๋อพบว่าใต้ทะเลมีการสั่นสะเทือนของพลังงานเล็กๆ อยู่ค่อนข้างกระจัดกระจาย ไม่เป็นระเบียบสักเท่าไหร่ คล้ายๆกับการรบกวนพลังงานในโลกใต้พิภพของดาวปีศาจเขียว แต่ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น
แต่หยางป๋อก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เพราะในอวกาศนี้มีบางดาวเคราะห์ที่มีรังสีซึ่งมนุษย์ไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย
แม้แต่ซากอุกกาบาตบางก้อนในอวกาศยังปล่อยรังสีรุนแรง มีบางครั้งที่ยานอวกาศบินผ่านในอวกาศแล้วตอนกลับมาถึงก็ต้องทิ้งยานทั้งลำไปเลย เพราะมันจะมีรังสีสะสมมากเกินไป
สามชั่วโมงต่อมา หยางป๋อเตรียมจะกลับแล้ว เพราะการไหลเวียนพลังไฟฟ้าในร่างกายทำให้เขาเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย ประหนึ่งเหมือนความรู้สึกเมื่อออกกำลังกายหนักเกินไป
ขณะที่ยังอยู่ในสภาวะล่องหนและกำลังจะกลับไปยังท่าเรือ หยางป๋อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ มีคนคนหนึ่งกำลังว่ายน้ำอยู่ติดพื้นทะเลเข้ามาหาเขา สวมหมวกกันน็อคแปลกๆ บนหัว และใส่ชุดแปลกๆที่มีสีกลืนไปกับพื้นทะเลจนแทบมองไม่เห็น
"นี่เป็นใครกัน? ทำท่าทางน่าสงสัยชะมัด ดูยังไงก็ไม่ใช่คนดีแน่ๆ" หยางป๋อดูอุปกรณ์ที่ชายคนนั้นสวมใส่ก็พอจะรู้ว่าไม่ธรรมดา
เพราะถ้าเขาไม่มองเห็นชายคนนี้ เขาก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนอยู่ตรงนั้น นั่นก็แปลว่าตอนนี้ถึงแม้พลังการรับรู้ของเขาจะสูงมากแล้วในขณะที่อยู่ใต้น้ำ แต่กลับยังไม่สามารถรับรู้ถึงชายคนนี้ได้เลย
"ของพวกนี้ใช้ได้ดีเหมือนกันนะในน้ำลึกแบบนี้ ว่าแต่ไอ้หมอนี่มาจากไหนกันนะ?" หยางป๋อมองอีกฝ่ายว่ายผ่านท่าเรือบ้านตัวเองไป แล้วก็ว่ายออกไปไกล
รีบตามไปเร็วเข้า! ชุดแบบนี้ราคาต้องไม่ถูกแน่ๆ ของไฮเทคแบบนี้จะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง?
หยางป๋อไล่ตามชายคนนั้นไปตลอด แต่อีกฝ่ายก็ว่ายน้ำได้ไม่เร็วมากนัก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีข้อจำกัดอะไรหรือเปล่า
ด้านหลังของบ้านหยางป๋อเป็นเนินเขา มีลำธารเล็กๆไหลผ่านในเนินเขา โดยน้ำจากลำธารจะไหลตกลงมาตามหน้าผาลงสู่ท้องทะเลโดยตรง
ส่วนตอนนี้ไอ้หมอนั่นที่มีอุปกรณ์ไฮเทคเต็มตัว กำลังปีนขึ้นเนินเขาของเขาตามลำธาร น้ำในลำธารไม่ได้เชี่ยวมากหรือตื้นเกินไป กลายเป็นน้ำตกเล็กๆเรียงรายกันไป แต่ชายคนนั้นกลับปีนป่ายขึ้นไปได้อย่างไม่หยุดพักราวกับจิ้งจก
"นี่มันตั้งใจมาหาเราเป็นการเฉพาะงั้นเหรอ?" ตอนนี้หยางป๋อเพิ่งจะนึกได้ ว่าไอ้หมอนี่กำลังเล่นงานเขาอยู่
หยางป๋อรีบกลับไปที่ท่าเรือของตัวเองทันที จากนั้นก็สวมชุดเกราะแล้วล่องหนกลับไปที่ด้านหลังของบ้านพักตากอากาศของเขาอีกครั้ง
เขามองเห็นชายคนที่ลงมาจากเนินเขาด้านหลังบ้าน มีหมวกกันน็อคสวมอยู่ที่หัว เสื้อผ้าที่สวมใส่แทบจะกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง ถ้าหากเขาไม่มีสายตาแบบไดนามิกคงจะถูกไอ้หมอนี่หลอกได้สบายๆ
ชายคนนั้นมาถึงทะเลสาบด้านหลังบ้านของหยางป๋อ แล้วก็ค่อยๆลงน้ำอย่างนุ่มนวล แทบไม่มีเสียงใดๆเลย ก่อนจะดำดิ่งลงไปใต้น้ำ
จากนั้นหยางป๋อก็ได้แต่มองอีกฝ่ายโผล่ขึ้นมาที่ด้านหลังบ้านของตน แล้วปีนป่ายขึ้นไปบนหลังคาราวกับจิ้งจก
หยางป๋องงไปชั่วขณะ ไอ้หมอนี่ ไม่กลัวระบบเตือนภัยบนฟ้าบ้างหรือไง?
"น่าจะเป็นเพราะอุปกรณ์ที่มันสวมอยู่มั้ง" หยางป๋อพึมพำในใจไปพลาง รีบวิ่งกลับเข้าบ้านไปพลาง
ชายที่ขึ้นไปบนหลังคาบ้านของหยางป๋อค่อยๆสำรวจสภาพแวดล้อมรอบด้าน แล้วก็เห็นประตูบานหนึ่ง เขาเดินไปที่หน้าประตูแล้วก็งงไปเล็กน้อย
"นี่มันประตูอะไรของมันวะ?" ประตูนี้ทำมาจากเกราะของยานรบ แถมยังไม่มีกลอนหรือที่จับประตูอีกต่างหาก
ชายคนนั้นลองดันประตูเบาๆก็ไม่ขยับเขยื้อนสักนิด เขาอยากจะใช้พลังพิเศษเตะประตูนี่ให้พังเหลือเกิน แต่ก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี
ค่อยๆสำรวจดูรอบๆ ก็ไม่เห็นมีทางเข้าไปด้านในจากบนหลังคาแม้สักทาง
"เฮ้ย ไอ้ผู้พักอาศัยนี่สมองมีปัญหาหรือไง ใช้เกราะของยานรบมาทำประตูเนี่ยนะ ไม่เอายานรบทั้งลำมาจอดเลยจะดีกว่ามั้ย?" ชายในชุดไฮเทคเต็มยศบ่นพึมพำอยู่ในใจ ก่อนจะค่อยๆไต่ลงตามกำแพงมาอีกด้าน
ประตูด้านหน้าดูจะปกติดี แต่เขาก็แอบสำรวจรอบๆอีกรอบ แล้วพบว่าผนังด้านนอกก็ฝังเกราะของยานรบเอาไว้ด้วย แถมกระจกก็เป็นแบบผลิตพิเศษอีกต่างหาก
พอดีกับตอนนั้นเอง ชายคนนั้นได้ยินเสียงประตูดังขึ้น เขารีบหลบไปอีกด้านของกำแพงทันที แล้วก็หมอบราบไปกับพื้นดิน หลังจากนั้นร่างกายก็เหมือนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นดินไปเลย
หยางป๋อเพิ่งจะรีบวิ่งกลับมาแล้วก็เข้าทางประตูด้านหน้า เขาคาดเดาว่าอีกฝ่ายคงเข้ามาจากด้านหลังคาไม่ได้ เพราะเขามีพลังโลหะ ดังนั้นประตูหลายบานจึงไม่มีกลอนหรือที่ล็อคอะไรทั้งนั้น
เขาเปิดประตูแล้วก้าวออกมา มือข้างหนึ่งยังถือน้ำกระป๋องเอาไว้ จิบน้ำไปเรื่อยเปื่อยพลางเดินเล่นออกไปด้านนอก เสียงรองเท้าแตะบนพื้นยังดังชัดท่ามกลางสายลมจากทะเล
"โชคดีที่ใช้การตรวจจับคลื่นเสียงหาตำแหน่งของอีกฝ่ายได้" หยางป๋อใช้เสียงฝีเท้าของตัวเองในการตรวจจับว่าอีกฝ่ายซ่อนตัวอยู่ตรงไหน ไม่นานเขาก็พบว่าอีกฝ่ายแอบซ่อนอยู่ที่มุมกำแพงด้านขวามือ
อย่างไรก็ตาม หยางป๋อไม่ได้ให้โอกาสแก่อีกฝ่าย เขาเดินไปสองสามก้าวแล้วก็ทำเป็นนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ จากนั้นก็หันหลังกลับเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตู
จริงๆแล้วตอนนี้หยางป๋อได้ล่องหนออกไปนอกประตูแล้ว เขาอยากจะดูว่าอีกฝ่ายเป็นใคร และอยากรู้ว่ารังของอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน แล้วก็จะรอให้อีกฝ่ายมาอีกรอบ จากนั้นก็จะให้อีกฝ่ายเข้ามาข้างในแล้วจัดการเอาตอนนั้น เพราะถ้าปล่อยให้เข้ามาตอนนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้อะไรจากมันบ้าง
สิบนาทีต่อมา ชายที่ซ่อนตัวอยู่เมื่อครู่ก็ค่อยๆย่องเข้ามาที่หน้าประตู เห็นประตูที่ทำจากเกราะเรือรบแล้วก็ได้แต่ขบฟันกรอด
จากนั้นก็แอบเดินสำรวจรอบๆอีกครั้ง ก่อนที่จะค่อยๆเดินจากไปช้าๆ
"ทำไมไอ้หมอนี่ถึงได้ทำอะไรช้าชะมัด หรือว่าเป็นเพราะอุปกรณ์ไฮเทคพวกนี้กันนะ? ตัวมันกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบเลย ถ้าฉันไม่มีสายตาไดนามิกก็คงจะไม่เห็นมันแน่ๆ" หยางป๋อตามไปห่างๆ พลางสังเกตเห็นอีกฝ่ายมาถึงเนินเขาด้านหลัง แล้วก็ปีนกลับลงไปในทะเลตามลำธารเหมือนจิ้งจกอีกครั้ง
หยางป๋อก็รีบกลับมาที่ท่าเรืออีกครั้ง รอสักพักก็เห็นอีกฝ่ายแนบชิดกับพื้นทะเล ชุดพรางตัวของมันแทบจะกลมกลืนไปกับสีของพื้นทะเลเลย และเนื่องจากมันว่ายน้ำด้วยความเร็วที่ไม่สูงมากนัก ก็เลยไม่ค่อยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำสักเท่าไหร่
หยางป๋อไล่ตามอีกฝ่ายอย่างใกล้ชิด แล้วก็คาดเดาไว้ในใจคร่าวๆแล้ว "น่าจะเป็นคนขององค์กรฮุยจิ่นนี่แหละ"
เดิมทีหยางป๋อคิดว่าอีกฝ่ายจะกลับบ้านตรงๆเลย แต่กลับไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะขึ้นไปบนเรือยอชต์ลำหนึ่ง
หยางป๋อแอบปีนขึ้นไปบนเรือแล้วมองเห็นอีกฝ่ายถอดหมวกกันน็อคออก เผยให้เห็นใบหน้าของชายวัยกลางคน
"ก็ไอ้หมอที่แอบตามเราที่ซูเปอร์มาร์เก็ตนั่นไง?" หยางป๋อจ้องมองชายคนนั้น เห็นมือของอีกฝ่ายกำลังถือเครื่องตรวจจับพลังงานขนาดเล็กอยู่ พลางเดินตรวจวัดอะไรบางอย่างบนเรือ
(จบบทนี้)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved