บทที่ 261 คำขู่จากเจ้านายอ้วน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อมาทำให้หยางป๋อตาโต เขามีจานวางอยู่ตรงหน้าสองจาน ส่วนอีกสองคนมีคนละหนึ่งจาน
ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะทำอาหารด้วยกัน แต่ต่างคนต่างทำ ไม่ได้ทำให้กันและกัน
เจ้านายอ้วนด่าโจวรุ่ยในใจ "ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่มาที่นี่ ไม่คิดเลยว่าเธอจะหน้าด้านมาอยู่ที่นี่ได้ รู้อย่างนี้น่าจะไม่ตกลงตั้งแต่แรก"
ตอนบ่าย เจ้านายอ้วนกำลังจะทำอาหารโจวรุ่ยก็เอาวัตถุดิบมา เจ้านายอ้วนย่อมไม่พอใจหยางป๋อเป็นคนเก่งขนาดไหน จะยอมให้คนอื่นมายุ่งได้อย่างไร
ส่วนโจวรุ่ยกลับดีใจกับท่าทีเป็นศัตรูของเจ้านายอ้วน เพราะมันยิ่งพิสูจน์ว่าสายตาของเธอไม่ผิดหยางป๋ออาจจะยังมีความลับอยู่
แน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้แสดงออกมา แต่ตอนทำอาหารโจวรุ่ยก็ถามเจ้านายอ้วนเกี่ยวกับเรื่องในอดีตของหยางป๋อเจ้านายอ้วนย่อมไม่ตอบ
โจวรุ่ย เป็นประธานของสมาคมนักล่าเงินรางวัลอยู่แล้ว เธอไม่พอใจกับท่าทีของเจ้านายอ้วน ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงไม่พอใจ และนี่ก็เป็นผลลัพธ์ที่ได้
"ผมว่าพวกคุณควรลองชิมอาหารของกันและกันดู ว่าเป็นยังไงบ้าง"หยางป๋อหยิบจานมาใบหนึ่ง ตักอาหารจากจานตรงหน้ามาครึ่งหนึ่งใส่จานของตัวเอง แล้วเอาที่เหลือแบ่งให้อีกสองคน
"ผมไปกินที่สวนนะ"หยางป๋อพูดจบก็รีบหิ้วจานเดินออกไป
เจ้านายอ้วนเห็นหยางป๋อเดินออกไปก็ดีใจ ขอแค่ไม่ให้ผู้หญิงคนนั้นมีโอกาสพบเจอก็พอ
"มาลองชิมฝีมือของใครบางคนหน่อย พูดถึงสมัยนี้ผู้หญิงที่ทำอาหารเป็นจะหายากแล้วใช่ไหม" เจ้านายอ้วนพูดไปพลางเตรียมจะหยิบจานขึ้นชิม
"ผู้ชายตัวใหญ่ๆ ยังทำอาหารอีก ไม่ใช่เพราะตอนฝึกในตระกูล วิชาทำอาหารถึงจะสอบได้คะแนนดีที่สุดหรอกนะ"โจวรุ่ยก็ยิ้มแป้นพูด แม้น้ำเสียงจะเหมือนประชด แต่เธอก็ลุกขึ้นเก็บจานอาหารที่เธอทำตรงหน้าเจ้านายอ้วนกลับคืนมา
เจ้านายอ้วนได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเบาๆ "ฉันก็ไปกินที่สวนเหมือนกัน"
หลังจากนั้นเจ้านายอ้วนก็เก็บจานอาหารที่เขาทำซึ่งวางอยู่ตรงหน้าโจวรุ่ยกลับมา ตักใส่จานตัวเองรวมกันหมดแล้วก็หิ้วจานเดินไป
พูดตามตรงตอนนี้ในสวนไม่มีอะไรให้ดูเท่าไหร่ เพราะพายุทำให้มีน้ำทะเลถูกพัดเข้ามาในพื้นดินเป็นจำนวนมาก ทำให้พืชพรรณในสวนตายหมด ตอนนี้ในสวนเหมือนชายหาด
หยางป๋อนั่งกินอาหารอยู่บนเก้าอี้ในสวน เจ้านายอ้วนเดินออกมา ยังมานั่งข้างๆ เขาอีกต่างหาก
"เจ้านาย ผมบอกว่าอย่ามาอยู่ทางนี้ คุณยังชวนมาอีก ตอนนี้สมใจแล้วใช่ไหม!"หยางป๋อไม่ลืมจิกใจเจ้านาย
"คนนั้นก็ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ผู้หญิงมาอยู่บ้านเดียวกับผู้ชายสองคน" เจ้านายอ้วนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเพราะคำพูดของหยางป๋อ
ที่บ้านข้างๆ สวนของหยางป๋อมีหน้าต่างชั้นสองของบ้านอีกหลัง กัปตันหญิงเห็นหยางป๋อเดินออกมาจากบ้านตรงข้ามอย่างกะทันหันรู้สึกแปลกใจนิดหนึ่ง ไอ้หมอนี่มาโผล่ที่นี่ได้ยังไง
ตามมาด้วยเจ้านายอ้วนที่เดินออกมา เห็นทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกันเหมือนสนิทสนมกันมากกัปตันหญิงยิ่งครุ่นคิด "ไอ้พวกที่มาจากตระกูล เมื่อไหร่กันที่สุภาพอ่อนน้อมแบบนี้ พวกที่ออกมาจากตระกูลเหล่านี้ล้วนแต่ถือเอาผลประโยชน์เป็นอันดับแรกทั้งนั้น ดูท่าทางหยางป๋อคนนี้จะแสดงความสามารถออกไปบ้าง"
กัปตันหญิงรู้ดีว่าลูกศิษย์ที่ฝึกมาจากตระกูลใหญ่ในสังคมเป็นยังไง พวกเขาถูกปลูกฝังแนวคิดว่าผลประโยชน์สำคัญที่สุดมาตั้งแต่เด็ก เป็นไปไม่ได้ที่จะสนิทสนมกับคนอย่างคุณ ซึ่งเป็นแค่ประชาชนทั่วไป โดยไม่มีสาเหตุ นอกเสียจากว่าในตัวคุณมีบางอย่างที่พวกเขาอยากได้
"น่าสนใจมาก อย่างน้อย 15 ปีแล้วที่ฉันไม่เจออะไรน่าสนใจแบบนี้ ฉันอยากรู้นักว่าเจ้าหยางป๋อนี่จะซ่อนไว้ได้อีกนานแค่ไหน รอให้ฉันค่อยๆ เปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของนายทีละน้อย"
"แต่มองจากประวัติแล้ว ไอ้หมอนี่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้เลยแฮะ"
"หรือว่าจะมีพลังพิเศษที่ผิดปกติมากๆ กันนะ" กัปตันหญิงกำลังคิดอะไรอยู่มากมาย แต่สีหน้ากลับนิ่งเฉย
"หรือจะเป็นผลจากยาที่ใช้ในการทดลองพันธุกรรมของบริษัทซื่อไห่กันนะ"
"น่าเสียดายที่ตอนบริษัทซื่อไห่ล่มสลาย ขาใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังทำลายข้อมูลส่วนใหญ่ของบริษัทไปหมด"
"ไม่อย่างนั้นน่าจะตรวจสอบได้ว่าไอ้หมอนี่ใช้ยาพันธุกรรมอะไรไป" กัปตันหญิงแน่นอนว่ารู้ว่าหยางป๋อเคยถูกใช้ทดลองยาโดยบริษัทพันธุกรรม
เห็นหยางป๋อกับเจ้านายอ้วนนั่งกินข้าวคุยกันอยู่บนม้านั่งตัวเดียวกัน กัปตันหญิงก็กำลังครุ่นคิดว่าจะลงมือยังไงดี
"ความสามารถไอ้หมอนี่ผิดปกติชะมัด พันธุกรรมคงจะดีมากเลยสินะ!" กัปตันหญิงมองดูหยางป๋อในสภาพปัจจุบัน เพราะไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าหยางป๋อคือคนที่เธอคาดเดาไว้ จึงต้องหาวิธีหาหลักฐานเอง
"พอดีมาพักผ่อนที่นี่ครึ่งปี แต่จะติดต่อเขายังไงดีล่ะ" แต่กัปตันหญิงก็รู้สึกลำบากใจอยู่นิด ก็สองคนไม่มีโอกาสได้เจอกันเลย
อีกทั้งตอนนี้ตำแหน่งและสถานะของเธอก็ค่อนข้างอ่อนไหว พอไปติดต่อกับใคร ก็จะมีหลายคนจับตามองเอาทันที
ตอนนี้เองกัปตันหญิงก็เห็นผู้หญิงอีกคนเดินออกมาจากในบ้าน
โจวรุ่ยก็หอบจานเดินออกมาจากห้อง ในฐานะประธานสาขาของสมาคมนักล่าเงินรางวัล เธอมีวิธีจัดการเรื่องต่างๆ ได้เก่งมาก
"หยางป๋ออาหารที่ฉันทำเป็นยังไงบ้าง"โจวรุ่ยถือจานเดินออกมาแล้วถามขึ้นตรงหยางป๋อ
"อร่อยมากเลย อาหารที่เจ้านายทำก็อร่อยมาก"หยางป๋อได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ กลิ่นฟุ้งค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นยี่ห้ออะไร กำลังกินไปก็ตอบไป
เจ้านายอ้วนที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้ฟังแล้วก็หัวเราะเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร
"หยางป๋อเดี๋ยวฉันจะเอาอุปกรณ์ให้นายสักอัน จะได้เข้าไปดูเว็บไซต์ทางการของสมาคมนักล่าเงินรางวัลของพวกเราได้ นายลองศึกษาดูก่อนนะ"โจวรุ่ยได้ยินแล้วไม่รู้สึกแปลกใจ และยังพูดต่อ
"ขอบคุณครับ!"
"ปกตินายมีงานอดิเรกอะไรบ้าง"
"ผมชอบเล่นเกม สมัยก่อนตอนอยู่ห้องสวัสดิการ เวลาว่างก็เล่นเกม ฟังเพลง ดูคอนเสิร์ตบ้าง อะไรประมาณนั้น"
"อ๋อ งั้นเหรอ!"โจวรุ่ยไม่รู้จะตอบยังไงดี เพราะจริงๆ แล้วเธอไม่ได้สนใจทำอะไรพวกนี้เลย พอมีเวลาว่างก็ซ้อม ปรับปรุงร่างกายตัวเอง
เจ้านายอ้วนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรเลยหยางป๋อรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆ รีบกินให้หมดแล้วเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับหิ้วจาน "ผมกินเสร็จแล้ว จานผมจะล้างเอง ขอบคุณมาก อาหารอร่อยมากเลย"
พอหยางป๋อเดินเข้าไปแล้วเจ้านายอ้วนก็พูดอย่างเชื่องช้า "คุณโจวหยางป๋อเป็นคนของบริษัทพวกเรานะ ผมคิดว่าคุณไม่ควรทำเกินไปนะ"
"หยางป๋อมีพรสวรรค์ซ่อนเร้นอยู่ใช่ไหม ตามที่ฉันเข้าใจลูกหลานรุ่นสองของตระกูล คนอย่างคุณไม่มีทางทำดีกับคนอย่างหยางป๋อมากขนาดนี้โดยไม่มีอะไรเป็นเหตุผลหรอก"โจวรุ่ยกลับนั่งลง พูดเบาๆ
เจ้านายอ้วนกำมือเเน่น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่จัดการอะไรหยางป๋ออาจจะถูกอีกฝ่ายดึงไปได้เลย
อย่างไรก็ตามพรสวรรค์ที่หยางป๋อแสดงออกมาก็มากพอแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่มีทางนิ่งเฉยได้อยู่แล้ว แต่ถ้าแสดงออกมามากเกินไป อีกฝ่ายก็จะสงสัยเช่นกัน
เรื่องนี้ไม่มีทางแก้ได้เลย เจ้านายอ้วนตอนนี้เสียใจที่ไปรับภารกิจที่ดาวแร่
"คุณเดาถูกแล้ว เรื่องนี้ผมก็ปิดไม่ได้หรอก แต่ผมหวังว่าเราสองคนจะรู้จักรักษาระยะห่าง" เจ้านายอ้วนถึงกับยอมรับตรงๆ ไปเลย เพราะอีกฝ่ายมองออกแล้ว แอบซ่อนต่อไปก็ไม่มีประโยชน์
เจ้านายอ้วนยังไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือประธานสาขาของสมาคมนักล่าเงินรางวัล ไม่เช่นนั้นเขาคงจะเถียงกลับไปแล้ว ในฐานะประธานสาขาสมาคมนักล่าเงินรางวัล เป็นไปไม่ได้เลยที่ชาวบ้านธรรมดาจะนั่งตำแหน่งนี้ได้
สหภาพพัฒนามาถึงทุกวันนี้ ก็โดนกลุ่มอิทธิพลใหญ่ๆ ควบคุมไว้ในทุกๆ ด้าน ตระกูลเหล่านี้ใส่คนรุ่นถัดไปเข้าไปในกลุ่มอิทธิพลของตัวเอง ถ่ายทอดต่อกันรุ่นแล้วรุ่นเล่า
ไม่ว่าจะพูดถึงเรื่องพลังพิเศษ ความมั่งคั่ง การศึกษา ความรู้ วัฒนธรรมที่ได้รับ ประชาชนธรรมดาไม่มีทางเทียบกับชนชั้นชนชั้นสูงเหล่านี้ได้เลย
แน่นอนว่าบางครั้งจะมีอัจฉริยะสักคน สวนกระแสฟ้าดินจนกลายเป็นตำนาน สุดท้ายก็ต้องเลือกระหว่างเข้าร่วมกับตระกูลใหญ่ กับหายตัวไปหรือประสบอุบัติเหตุ
ตระกูลและกลุ่มอิทธิพลใหญ่ๆ เหล่านี้มีความเข้าใจร่วมกันอย่างนึง นั่นก็คือไม่ยอมให้ใครมาทำลายสถานการณ์การปกครองของชนชั้นสูงแบบนี้
"ขอโทษนะ ฉันกำลังทำภารกิจอยู่ ฉันว่าคุณน่าจะบอกข้อมูลโดยละเอียดของหยางป๋อให้ฉันนะ แล้วเรามาช่วยกันฝึกฝนเขา"โจวรุ่ยส่ายหัว
เจ้านายอ้วนได้ฟังก็หัวเราะ "คุณฝันไปเถอะ ถ้าคุณบีบผมมากไป ผมจะเปิดเผยเรื่องที่หยางป๋อมีพรสวรรค์ในการปลดล็อค"
"ไม่เป็นไร ถ้าคุณพูดออกไป คุณก็แค่ไปทำให้สำนักโจรกรรมเซียนไม่พอใจ บางทีอาจมีคนในตระกูลของคุณคาดหวังให้คุณทำพลาดในจุดนี้ก็ได้นะ ความน่ากลัวและโหดร้ายของการแก่งแย่งกันภายในตระกูลของคุณ โดยเฉพาะในพวกคุณที่อยู่ในโซนเทาๆ ดำๆ"
"การต่อสู้ของคนทุกรุ่นล้วนเต็มไปด้วยเลือด ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่มาทำธุรกิจที่ที่ห่างไกลแบบนี้คนเดียวหรอก"โจวรุ่ยยิ้มมองอีกฝ่าย
เจ้านายอ้วนได้ยินแล้วก็หัวเราะ ยืนขึ้นพูดว่า "งั้นผมจะเปิดเผยพรสวรรค์อื่นๆของหยางป๋อด้วย คงจะมีหลายคนสนใจ ถ้าผมไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าคนอื่นจะได้"
แล้วเจ้านายอ้วนก็เดินเข้าไปในห้องพร้อมหิ้วจาน โจวรุ่ยมองหลังเจ้านายอ้วนที่เดินจากไป ยิ้มกว้างยิ่งขึ้น เพราะความตึงเครียดและคำขู่ของเจ้านายอ้วน ยิ่งบ่งชี้ว่าหยางป๋อยังมีพรสวรรค์อื่นๆ อีก
ในโลกนี้ มีแต่อัจฉริยะเท่านั้นที่จะได้รับความโปรดปราน ตราบใดที่คุณมีพรสวรรค์มากพอ จะมีคนมากมายที่ยินดีจะช่วยเหลือคุณ หนุนหลังคุณ และพยายามจะดึงตัวคุณไป
ส่วนคนที่ไม่มีพรสวรรค์ สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว ก็เป็นแค่ขยะที่แย่กว่าหุ่นยนต์เสียอีก
"ฉันรอคอยจริงๆ ว่าหยางป๋อจะมีพรสวรรค์อะไรอีก"โจวรุ่ยก็หิ้วจานเดินเข้าไปในห้องเช่นกัน
หยางป๋อล้างจานเสร็จแล้วก็กลับไปที่ห้องตัวเอง
"ไม่ต้องพูดถึงก็รู้ ฝีมือทำอาหารของทั้งคู่ใช้ได้ ต่อไปนี้ฉันจะได้ลิ้มรสอาหารดีๆ ล่ะ"หยางป๋อเข้าใจความคิดของทั้งคู่ดี แต่แล้วยังไงล่ะ ตั้งแต่ต้นก็เป็นแค่ความสัมพันธ์แบบร่วมงานกัน ร่วมหากินไปด้วยกัน
หยางป๋อไม่หวังให้ใครจริงใจต่อตัวเองหรอก ถึงแม้ว่าเจ้านายอ้วนจะทำตัวดีกับเขามากแค่ไหนก็ตาม
อย่าลืมว่าหลายครั้งที่ผ่านมา พอเกิดเรื่องเจ้านายอ้วนก็ทิ้งเขาหนีไปคนเดียว มีแค่ครั้งนี้ เพราะอยู่ในหอพัก เจ้านายอ้วนถึงไม่ทิ้งเขาไป
แต่หยางป๋อคิดว่าที่เจ้านายอ้วนไม่หนีครั้งนั้น ก็เพราะข้างนอกมีโดรนตำรวจมากมายต่อเนื่องไม่หยุด
ถ้าเปลี่ยนที่อื่น คงรีบหนีไปนานแล้ว คนประเภทนี้เห็นผลประโยชน์สำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น
หยางป๋อไม่รู้สึกอึดอัดอะไรหรอก ในชีวิตที่แล้วเขาก็ใช้ชีวิตในสังคมที่เห็นแก่ผลประโยชน์มาแล้ว
อีกอย่างหยางป๋อก็ไม่ได้หวังให้ใครมาช่วยชีวิตเขาอย่างชีวิตหรอก นั่นมันเป็นไปไม่ได้
ทุกอย่างยังต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี
หยางป๋อเข้าไปในเกมอีกครั้ง หลังจากปรากฏตัวที่จุดเกิดใหม่ ก็พบว่ามีผู้เล่นจำนวนมากกำลังทะเลาะกันอยู่
นี่คือสองกลุ่มคนที่ผ่านมา ต่างฝ่ายต่างวางแผนกันในเมือง สุดท้ายเพราะการต่อสู้ระหว่างกัน ทำให้ซอมบี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สองกลุ่มนี้รวมกันมีคนมากกว่า 40 คน มี 90% ที่ถูกซอมบี้กำจัดไป
ครั้งนี้สูญเสียมากเกินไปแล้ว สองกลุ่มก็เลยมาด่ากันที่จุดเกิดใหม่ แต่เพราะเกมไม่อนุญาตให้ด่ากัน พอด่าออกไปแล้ว คำหยาบคายบางคำก็ถูกบล็อค ไม่มีเสียงอะไรเลย ดังนั้นคำพูดของคนเหล่านี้เวลาด่ากัน ฟังดูแปลกๆ
ควบคุมมนุษย์เทียมออกจากจุดเกิดใหม่ แล้วก็สำรวจเส้นทางต่อ
จุดเกิดใหม่ของหยางป๋ออยู่ด้านข้างของเมือง เมืองถูกกั้นไว้ระหว่างภูเขาที่จุดเกิดใหม่กับแม่น้ำสายหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป
ดูเหมือนอีกฝั่งของแม่น้ำก็จะมีย่านที่อยู่อาศัยเหมือนกัน แต่พื้นที่ไม่ใหญ่มาก ที่ไกลออกไปอีกในหุบเขาดูเหมือนจะมีอาคารด้วย
ทั้งเมืองมองเห็นได้เพียงคร่าวๆ เพราะส่วนใหญ่อยู่ในสภาพย่ำแย่และปกคลุมไปด้วยวัชพืชและเถาวัลย์ต่างๆ
ที่นี่ยังมองเห็นสัตว์ป่าได้บ้างหยางป๋อเห็นหนูตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากพงหญ้ายาวและยังหันมามองเขาด้วย
สภาพแวดล้อมที่แย่แบบนี้ ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเมื่อไหร่จะมีซอมบี้โผล่ออกมาจากตรงไหน
"ในบ้านหลังนี้มีซอมบี้ห้าตัว"
"ในนี้มีหนึ่งตัว"หยางป๋อเดินลงจากภูเขา เดินไปตามถนนที่ผุพังอย่างระมัดระวัง ขณะเดียวกันก็สังเกตรอบๆ อย่างใส่ใจ
เนื่องจากข้อจำกัดของตัวมนุษย์เทียมจึงมีอุปกรณ์ที่พกพาได้จำกัด ประสิทธิภาพของอุปกรณ์เองก็จำกัดเช่นกันเพราะระบบพลังงาน
เรดาร์ของมนุษย์เทียมสามารถตรวจจับได้ในรัศมีประมาณ 300 เมตร แต่เรดาร์นี้ชัดเจนว่าใช้งานไม่ดีเท่าเรดาร์บนหุ่นยนต์
"อัตราการตรวจจับของเรดาร์นี้ไม่ค่อยดี ความลึกในการตรวจสอบพื้นดินก็ไม่ดี พลังทะลุทะลวงก็ไม่ดี" เมื่อเปรียบเทียบกับเรดาร์ของหุ่นยนต์แล้ว เรดาร์บนมนุษย์เทียมนี่ก็แค่ของแถมเปล่าๆ เรดาร์ของมนุษย์เทียมจะแสดงผลเป็นแผนที่เล็กๆ
หนูตัวหนึ่งวิ่งผ่านไป หนูชนิดนี้มีเงินรางวัล 200 เครดิต แต่หยางป๋อไม่คิดจะจับมันเลย
ในป่าหญ้ายาวเถาวัลย์พุ่มไม้เหล่านี้ การไล่ตามหนูตัวหนึ่งเป็นเรื่องยาก แถมหนู 200 เครดิตเนี่ย ตอนนี้หยางป๋อก็มองไม่เห็นความสำคัญแล้ว
บวกกับตัวละครมีน้ำหนักบรรทุก ถ้าหิ้วของมากเกินไปจะกินพลังงานมากขึ้น
"ขึ้นไปดูหน่อยดีกว่า"หยางป๋อมาถึงตึกหลังหนึ่งจึงตั้งใจจะสร้างเขตปลอดภัยชั่วคราวที่นี่ นั่นก็คือกำจัดมอนสเตอร์ข้างในให้หมด ถ้าข้างหน้าเจอซอมบี้จำนวนมาก จะได้มีที่หลบชั่วคราว
(จบบท)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved