บทที่ 167 แผนการ
หลังจากทานมื้อใหญ่ในร้านอาหารหรูเสร็จสิ้น หยางป๋อก็กลับบ้านเพื่อฝึกซ้อมการควบคุมหุ่นยนต์ สานสัมพันธ์กับหนูล่องหน และให้อาหารปลาไหลกลายพันธุ์
เจ้านายอ้วนกลับไปยังที่พักของตนเองหลังแยกทางกับหยางป๋อ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังสนามซ้อมใต้ดิน
ถอดเสื้อผ้าออกแล้วเปลี่ยนใส่กางเกงขาสั้นแบบพิเศษ แล้วพลังงานในร่างก็ระเบิดออกมารอบด้าน ผิวทั้งตัวกลายเป็นสีบรอนซ์อ่อนๆ
เจ้านายอ้วนมองตัวเองในกระจกเหมือนก้อนเนื้อทรงกลม ก่อนจะกำหมัดแน่น และซัดใส่หุ่นฝึกหัดตรงหน้าอย่างแรง
จากนั้นตัวเขาก็ลอยเหินราวกับลูกบอลเนื้อที่พุ่งไปอย่างรวดเร็ว มีเสียงระเบิดดังก้องและเสียงหุ่นฝึกซ้อมโดนโจมตีตามมา
ห้านาทีต่อมา เจ้านายอ้วนที่เต็มไปด้วยเหงื่อมองตัวเองในกระจก "ฮ่าๆ ไม่คิดเลยนะว่าตัวฉันเอง หลิวจื้อเจี๋ย จะเจริญเติบโตได้ถึงขนาดนี้"
คิดแล้วก็ยิ่งหัวเราะเสียงดังลั่น ดีที่ห้องซ้อมมีฉนวนกันเสียงเยี่ยมยอดขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นเสียงหัวเราะแบบนี้คงได้ยินไปทั่วทั้งเมืองแน่ๆ
"คิดไม่ถึงเลยว่าตัวฉันจะมีวันนี้ได้ พวกเลวๆในตระกูล พวกแกรอดูเถอะ" หลังจากระบายอารมณ์ออกไปอย่างบ้าคลั่ง เจ้านายอ้วนก็กลับไปยังห้องของตน แช่ตัวในอ่างน้ำพลางจ้องมองตัวเองในกระจกเล็กๆ
"เหมือนกำลังฝันไปเลย!" เขาวางกระจกลง หลับตาลง
แล้วก็รีบลุกขึ้นมาหยิบยาเสริมพันธุกรรมทั้งสี่ขวดขึ้นมาลูบคลำอย่างระมัดระวัง แม้ว่าจะเป็นแค่ยาระดับต่ำสุด แต่ว่าสามดาวหนึ่งขวด สี่ดาวสามขวด นี่ก็บ่งชี้ถึงอะไรบางอย่างแล้ว
"ต้องฝึกฝนให้ดีแล้วก็ซ่อนตัวให้มิดชิด ถ้าคนในตระกูลรู้ล่ะก็ ต้องหาทางยึดตัวไปแน่ๆ"
"ถึงจะแย่งชิงตัวไม่ได้ พวกนั้นก็จะเอาข่าวไปบอกคนอื่นแทน ทำให้คนมาทำลายอัจฉริยะในมือฉัน" เจ้านายอ้วนผ่านเรื่องชั่วร้ายมากมายมาตลอดหลายปีที่ออกมาผจญโลก และการแข่งขันที่ชิงไหวชิงพริบในตระกูลแบบนั้นก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน เลยออกมาสร้างเนื้อสร้างตัวข้างนอก
"คนนอกคงคิดไม่ถึงหรอกว่าตระกูลใหญ่ที่มีหน้ามีตาเหล่านี้มีภายในที่สกปรกขนาดไหน มันถึงขั้นที่คำว่าความเป็นมนุษย์นั้นยังไม่เพียงพอจะบรรยายตระกูลเหล่านี้ได้แล้ว"
"พวกคนในตระกูลเหล่านี้กับพวกขุนนางในจักรวรรดิสุ่ยหลานไม่ได้แตกต่างอะไรกันเลย" หลังความดีใจในตอนแรก เจ้านายอ้วนก็เริ่มตั้งท่าระวังตัว บางครั้งคนนอกก็ไม่น่ากลัวเท่าคนที่เรียกว่าเป็นพี่น้องเดียวกันหรอก
ส่วนเจ้านายอ้วนไม่ได้สงสัยในตัวหยางป๋อเลยสักนิด เพราะประวัติของหยางป๋อนั้นสะอาดมาก ถ้าเป็นคนที่มีประวัติที่ซับซ้อนกว่านี้ล่ะก็ เจ้านายอ้วนอาจจะต้องรายงานให้ตระกูลมาช่วยแบ่งเบาความเสี่ยงแล้ว
ที่ฝั่งหยางป๋อหลังจากเก็บกวาดเสร็จก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เหมือนกัน
"มีเจ้านายอ้วนช่วยบังหน้าให้หลบซ่อนตัวได้ดียิ่งขึ้น แต่ว่าทำไมคนที่ตามตัวเรามาถึงตอนนี้ยังไม่ออกมาหาเรื่องกับฉันซะทีล่ะ?"
"ทำภารกิจอีกสองสามครั้ง แล้วก็หยุดพักเดือนนี้ ไปดูที่ดินแดนตอนในของแผ่นดินว่ามีสัตว์แปลกประหลาดที่จะให้พลังอะไรบ้างไหม พร้อมๆกันก็จับหนูกลับมาสองสามตัวเผื่อไว้" หยางป๋อไม่กลัวหรอกถ้ามีคนมาหาเรื่อง
ตามประสบการณ์ที่ผ่านมา พวกที่มาหาเรื่องเนี่ยล้วนแต่ให้สกิลมาไม่น้อยเลย
"กลับมาจากดินแดนตอนในพอดีเวลาที่เกมหุ่นยนต์อัปเดตด้วย"
"ทำไมไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับหงเป่ยจวี่อีกเลย พวกนั้นจะประสบความสำเร็จในการแยกตัวเป็นอิสระจริงๆหรือเนี่ย?" ตอนนี้บนอินเทอร์เน็ตไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับหงเป่ยจวี่แล้ว ฝ่ายสภาแค่บอกว่าถ้ามีข่าวจะรีบประกาศแจ้งให้ทราบ
ข่าวลือเล็กๆน้อยๆก็แพร่สะพัดไปทั่ว บ้างก็ว่าฝ่ายหงเป่ยจวี่ตัดขาดการติดต่อกับโลกภายนอกแล้ว บ้างก็ว่าหงเป่ยจวี่ปิดกั้นช่องทางกระโดดข้ามอวกาศ กองเรือสภาจะไปถึงที่นั่นอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสามปีกว่า
"ดูท่าทาง คราวนี้หงเป่ยจวี่คงเจอเรื่องซวยอะไรอีกแล้วล่ะมั้ง" แต่หยางป๋อไม่คิดแบบนั้น กลับรู้สึกว่าสภาได้จับจุดและควบคุมสถานการณ์ได้แล้วต่างหาก
ทำไมถึงพูดแบบนั้นน่ะเหรอ? ก็เพราะถ้าดาวพาโดจะแยกตัวเป็นอิสระจริงๆ ก็ต้องมีเสียงจากสาธารณชนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หรือไม่อีกสองชาติก็ต้องเข้ามาแทรกแซง แต่ตอนนี้ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย แล้วอีกสองชาติจะกล้าโผล่หน้าเข้ามาก้าวก่ายได้ยังไง?
ไม่มีข่าว? พวกไม่มีสมองในพันธมิตรนี่ก็อยากจะสนับสนุน แต่ก็หาทางสนับสนุนไม่ได้
อย่ามองว่าพันธมิตรนี่ตอนนี้คนมีไบโอชิปกันหลายคน ตามหลักแล้วความรู้ความสามารถต่างๆก็น่าจะสูงมากแล้ว แต่ถ้อยคำของพวกเขาทำให้หยางป๋อนึกถึงบางเรื่องที่เจอมาในชาติก่อน
"ความรู้ทางวัฒนธรรมไม่ได้แปลว่าจะเป็นตัวแทนของระดับการรับรู้ของบุคคลหรอกนะ!"
"ความเจริญของสังคมก็ไม่ได้แปลว่าขีดจำกัดทางศีลธรรมจะสูงหรือต่ำ" ตอนนี้หยางป๋อเริ่มเข้าใจสองประโยคนี้อย่างลึกซึ้งแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงอะไรมาก แค่ดูพวกหน้าโง่ที่อ้างตัวว่าเป็นกลุ่มผู้พิทักษ์ความยุติธรรมในเกมหุ่นยนต์ก็พอ ทั้งที่มีหุ่นยนต์ระดับสูงกันตั้งเยอะ เป็นนักขับหุ่นยนต์ระดับสูงด้วย แต่กลับมาพูดจาและทำเรื่องแบบนั้นได้
แต่หยางป๋อก็ข้ามมาเร็วไปหน่อย ไม่อย่างนั้นก็คงตายด้วยความหิวไปแล้ว...เอ่อ
ในขณะที่หยางป๋อคิดถึงคนที่ตามตัวเขามา คนที่ตามหยางป๋ออยู่ก็ทนไม่ไหวแล้ว เพราะหยางป๋อแทบไม่ออกไปสังสรรค์อะไรเลย แค่ตอนเช้าไปทำงาน เย็นกลับบ้าน บางครั้งก็ไปกินข้าวกับเจ้านายบริษัท
"ใช้ชีวิตเหมือนหมูเลย ไม่รู้หรือไงว่ามีวิธีสนุกๆอีกตั้งเยอะแยะ?" ชายวัยกลางคนไม่รู้จะลงมือยังไง เพราะหยางป๋อไปได้ไกลสุดก็แค่ซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วก็ไปทำงานทำภารกิจ ไม่มีโอกาสให้จับจุดอ่อนเลย แม้แต่อยากจะตามไปซัดให้สลบในห้องน้ำ ก็ต้องรอให้เขาเข้าห้องน้ำก่อนสิ
"ดูเหมือนจะต้องส่งภารกิจเองแล้ว ยังไงก็มียาอยู่ แค่ฉีดให้เด็กนี่สักเข็ม ซักไซ้จนได้ความแล้วเด็กคนนี้ก็จำอะไรไม่ได้หรอก" ชายวัยกลางคนก็รีบร้อนมากเหมือนกัน ฝั่งสำนักงานใหญ่นั้นเสียหายหนักเลย
ชายวัยกลางคนก็เริ่มเตรียมการ ออกภารกิจหนึ่งให้บริษัทอันจื๋อเจี๋ย แต่ถ้าครั้งแรกไม่ใช่คนที่ต้องการ งั้นก็ต้องมีครั้งที่สองแหละ
ฝั่งทหารของสหภาพเองก็กัดฟันกรอด ทุบโต๊ะป้าบ "หงเป่ยจวี่บ้านี่! ต้องจับให้หมดซ่อง"
"ใช่ เอายานไร้คนขับไปจัดการทั้งหมดเลย ใครขัดขืนก็ยิงทิ้งเลย"
"พวกเลวนี่น่ะ"
ครั้งนี้กองทัพถูกตบหน้าเข้าให้แล้ว องค์กรสุดโต่งแทรกซึมเข้ามาในกองทัพ กองเรือหลักหลายกองเรือมีเรือรบถึง 60% ที่เกิดเหตุวุ่นวาย ยิ่งไปกว่านั้นยังเกิดกบฏ นี่มันทำลายผลประโยชน์ของกองทัพชัดๆ
ฝั่งสภาก็ปวดหัวไม่แพ้กัน ประธานสภากล่าวว่า "ตอนนี้สมาชิกขององค์กรสุดโต่งบนดาวพาโดจับพลเมืองจำนวนมากเป็นตัวประกัน แล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ล่ะ?"
"แล้วข้อมูลของฉันคือ พอสั่งคำสั่งนี้ลงไป บนเรือรบจะมีทหารกี่คนที่ปฏิเสธคำสั่ง อาจจะลุกขึ้นต่อต้านเลยก็ได้ แล้วจะไปจัดการทหารพวกนี้ด้วยหรือไง?"
ทุกคนเงียบกริบ หลายปีมานี้เพราะต้องต่อต้านสหพันธ์เฟยหงและจักรวรรดิสุ่ยหลาน พันธมิตรจึงป่าวประกาศเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิอะไรสารพัด มองดูจักรวรรดิสุ่ยหลานแตกแยกอยากเป็นอิสระและปกครองตัวเอง แล้วก็ยืนดูอยู่ข้างๆ
สำเร็จในการหลอกล่อผู้คนในประเทศอื่นมาได้กลุ่มหนึ่ง แต่กลับมีคนในประเทศตัวเองเชื่อเรื่องพวกนี้เหมือนกัน แถมส่วนใหญ่ยังเป็นชนชั้นผู้นำอีกต่างหาก
ข่าวที่ดาวพาโดจะแยกตัวเป็นอิสระนั้น ตอนนี้มีกลุ่มชนชั้นนำบางส่วนแสดงตัวสนับสนุนแล้ว ประธานสภาอยากจะผ่าหัวคนพวกนี้ออกมาดูเลยว่าสมองกลายพันธุ์ไปรึเปล่า หงเป่ยจวี่น่ะคือองค์กรสุดโต่งชัดๆ
แน่นอนอยู่แล้วล่ะ ต่อให้ไม่ใช่องค์กรสุดโต่ง คิดจะแยกเป็นอิสระเหรอ? พันธมิตรของเรามีเรือรบไม่มีพลังงานแล้วหรือไง?
"ทางฝั่งชิปก็ทำอะไรไม่ได้ คนของหงเป่ยจวี่ส่วนใหญ่ไม่มีชิป แย่จริงๆ" เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงคนหนึ่งพูด
"งั้นเราเปิดเกมกันไหม? แบบนี้จะได้ปกป้องพลเมืองได้มากที่สุด แล้วสุดท้ายก็ให้หงเป่ยจวี่รับผิดชอบไปเลยว่าพวกมันแฮ็กระบบเรือรบของเรา"
"อย่าไปหวังเลยว่านักขับหุ่นยนต์บนเรือจะปฏิบัติตามคำสั่งโจมตีนะ เรือรบเพิ่งทำลายระบบเตือนภัยดาวเคราะห์ของดาวพาโด พอดีฝ่ายกองทัพก็ได้รับอีเมลร้องเรียนกัปตันเรือรบเข้ามาเยอะเลย คิดว่าเศษซากระบบเตือนภัยตกใส่ดาวเคราะห์จะทำลายสิ่งแวดล้อม...พอฉันเห็นอีเมลฟ้องร้องภายในพวกนี้เข้ามา ก็อยากฆ่าไอ้พวกโง่พวกนี้ให้ตายเหมือนกัน"
"แต่ถ้าแบบนี้กัปตันก็ต้องเจอกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์สาธารณะหน่อยมั้ง?"
"เรื่องนี้ก็คุยกับตระกูลของกัปตันดู ให้เขาจัดการให้เร็วที่สุด ทั้งจักรวรรดิสุ่ยหลานและสหพันธ์เฟยหงกำลังหาทางติดต่อคนบนดาวพาโดทุกทางเลย"
(จบบทนี้)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved