บทที่ 107 ตามล่าดาวหายนะ
หยางป๋อเห็นยานรบบินจากไปแล้ว ก็รีบเลี้ยวหาทางเข้าไปใต้ดินทันที
"โชคดีที่ไปทัน" หยางป๋อเข้าไปในทางเข้าโลกใต้พิภพ แล้วควบคุมหุ่นยนต์วิ่งฝ่าไปอย่างบ้าคลั่ง ต้องทำลายหุ่นยนต์นี่ซะ ห้ามให้ใครตามหาเจอเด็ดขาด
"ท่านนายพล หุ่นยนต์นั่นมุดลงใต้ดินไปแล้ว" นายพลดาบดำผู้ซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าได้ยินลูกน้องรายงาน ก็ตะลึงงันไปเลย
"หรือว่าเป็นคนจากเผ่าอื่น" นายพลดาบดำพลันนึกถึงประเด็นหนึ่ง คนผู้นี้เป็นคนของสหภาพก็จริง แต่พวกตัวเองในสหภาพก็มีไม่น้อยเหมือนกัน
"ไล่ตาม!" นายพลดาบดำตระหนักว่าหยางป๋ออาจจะมีข่าวสำคัญ จึงออกคำสั่งโดยทันที
"ท่านนายพล หุ่นยนต์ไปชั้นสองแล้ว กำลังมุ่งหน้าไปชั้นสามครับ"
"ต้องมีข่าวสำคัญแน่ๆ ตามเขาให้ได้เลย" นายพลดาบดำราวกับได้กินยาบำรุงกำลัง เขายิ่งเชื่อมั่นในการคาดเดาของตัวเอง
---
ขณะที่หยางป๋อกำลังบึ่งไปในโลกใต้พิภพ ยานรบก็พาผู้บังคับบัญชาหญิงทะยานขึ้นสู่อวกาศแล้ว
อวกาศเต็มไปด้วยซากเรือรบมากมายทั้งใหญ่และเล็ก บางส่วนถูกแรงดึงดูดของดาวเคราะห์ดึงลงไป เข้าสู่ชั้นบรรยากาศแล้วระเบิดเป็นแสงสว่างสดใส บางก้อนใหญ่ก็กระแทกลงไปบนดาว
ในอวกาศมีเรือรบขนาดเล็กกว่าจอดนิ่งอยู่ลำหนึ่ง รอบๆ ยังมีเรือรบขนาดต่างๆ กันอีกเจ็ดแปดลำ ยานรบลงจอดบนเรือรบลำหนึ่งในนั้น
ผู้บังคับบัญชาหญิงเห็นเรือรบลำเล็กแล้วก็รู้ว่าครั้งนี้เสียหายไปมากกว่าครึ่ง หลังจากปล่อยส่วนประกอบเรือให้แยกตัว แล้วไปชนเรือโจรสลัดสองลำ มีส่วนประกอบที่ยังสมบูรณ์เหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง ก่อนจะมาประกอบรวมกันเป็นเรือลำใหม่
นี่เป็นบทเรียนที่มนุษย์สรุปออกมาได้หลังจากสำรวจอวกาศมาหลายปี ถ้าเรือรบเป็นโครงสร้างเดียวทั้งหมด จะมีข้อเสียมากมาย ข้อหนึ่งก็คือถ้าโดนวัตถุนิรนามในอวกาศชนเข้า สมัยก่อนยานอวกาศก็เชื่อมต่อกันทีละห้องเหมือนกัน แต่พอเจอเหตุฉุกเฉินบางอย่าง บางส่วนถ้าถูกทำลายไป ห้องที่เหลือก็จะขาดการติดต่อ ดังนั้นภายหลังจึงเปลี่ยนมาใช้ระบบส่วนประกอบที่สามารถประกอบเข้าด้วยกันได้อย่างอิสระ แบบนี้เวลาเจอเหตุฉุกเฉินหรือสงคราม ความเสียหายก็จะเกิดกับส่วนประกอบแต่ละส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือยังคงใช้การต่อสู้ได้
ผู้บังคับบัญชาหญิงขึ้นบนเรือรบ แล้วรีบตรวจสอบข้อมูล เธอถอนใจอย่างโล่งอก พบว่าลูกเรือที่ยิงออกไปก่อนหน้านี้พบเจอแล้ว 90% นั่นก็เพราะกองเรือที่มาช่วยปล่อยยานรบไร้คนขับออกมา ซึ่งยานเหล่านี้จะโจมตีแคปซูลอพยพของโจรสลัดไปด้วย ขณะเดียวกันก็จะนำแคปซูลอพยพของกองเรือตัวเองกลับมา
"กัปตันหวัง ดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้ง พวกเราได้เป้าหมายภารกิจครั้งนี้แล้ว เราจะเดินทางกลับทันที ผมได้แจ้งทางสหภาพไปแล้ว จะส่งเรือรบมาช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด ขอให้ดูแลตัวเองด้วย!" กัปตันหลิวจากเรือลำตรงข้ามติดต่อผ่านจอภาพ เมื่อเห็นผู้บังคับบัญชาหญิงก็คลายความกังวลลง แล้วเอ่ยขึ้น
"กัปตันหลิว ขอบคุณที่เป็นห่วง ต้องขอโทษด้วยที่วุ่นวายครั้งนี้" กัปตันหวังผงกศีรษะ ขอบคุณอีกฝ่าย
"เรือรบของพวกเราก็เจอปัญหาด้วยเหมือนกัน พวกหงเป่ยจวี่ดันแฝงตัวขึ้นมาบนเรือรบ ทางนี้มีลูกเรือหายไปกว่า 150 คน ในนั้น 23 คนเป็นทหารบนเรือ ส่วนอีก 120 กว่าคนเป็นพลเมืองดาวซันเหยว่ที่เราช่วยมาจากการปล้นของโจรสลัดระหว่างทาง รบกวนท่านกัปตันช่วยค้นหาด้วยนะ"
"ผมจะฝากยานรบไร้คนขับไว้ให้ 2 หมื่นลำ ขอให้รับไว้" กัปตันหลิวส่งลิงก์ข้อมูลมาอีกชุด
"ขอบคุณมาก เดินทางปลอดภัย" กัปตันหวังผงกศีรษะ
หลังจากนั้นกัปตันหวังก็เห็นยานรบฝูงหนึ่งบินออกมาจากเรือของอีกฝ่าย แสดงว่าได้โอนสิทธิ์การควบคุมมาทางนี้แล้ว ขอเพียงยานไร้คนขับเหล่านี้ลงจอดเติมพลังบนเรือของเธอ ต่อไปก็จะใช้งานเองได้ แต่ตอนนี้คงไม่มีโจรสลัดกล้ามาหาเรื่องแล้ว
"ขอบคุณ เจอกันใหม่ปลายปีนะ" กัปตันหลิวรู้ดีว่าเมื่อเกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ขึ้น เขาต้องไปรับการสอบสวนจากสภาแน่ๆ ตอนนั้นเธอเองก็ต้องไปด้วยเช่นกัน
กัปตันหวังมองกองเรือของอีกฝ่ายจากไป ดูเหมือนเรือของพวกเขาจะไม่เป็นอะไรมาก มีแค่ไม่กี่ที่ที่ขาดหายไป นั่นคือส่วนประกอบที่โดนทิ้งไปเพราะเสียหายจนใช้การไม่ได้แล้ว
กัปตันหวังเปิดรายชื่อลูกเรือที่อีกฝ่ายส่งมาให้ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะไม่มีหมายเลขประจำตัวของหยางป๋ออยู่ในนั้น
"แปลกจัง?" กัปตันหวังรู้สึกประหลาดใจมากขึ้น เพราะหยางป๋อใช้ชุดเกราะพลังงานของทหารปล่อยลำแสงออกมาได้ ทั้งๆ ที่ชุดเกราะพลังงานจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีแหล่งกำเนิดเดียวกัน หรือมีโอกาสสูงที่จะเหมือนกันเท่านั้น แม้แต่ทหารก็เป็นแบบนี้
"ที่ปรึกษาหยาง ช่างซ่อมหุ่นยนต์สามารถได้รับสิทธิ์เข้าถึงหุ่นยนต์ได้หรือ?" กัปตันหวังถามไปลอยๆ
"ท่านผู้บังคับบัญชา เป็นไปไม่ได้ครับ หุ่นยนต์ทุกตัวมีกุญแจเข้ารหัสเฉพาะของตัวเอง ระบบประสาทคลื่นแสงของหุ่นยนต์ ถ้าไม่มีกุญแจก็เข้าถึงสิทธิ์ไม่ได้เลย แถมกุญแจนี้ของแต่ละตัวก็ไม่ซ้ำกันอีกต่างหาก!"
"นอกจากนี้ทุกบริษัทผลิตหุ่นยนต์ยังกำหนดพิกัดควอนตัมลงไปด้วย ป้องกันไม่ให้คู่แข่งซื้อไปแงะดู แต่หุ่นยนต์รุ่นก่อนเจนเนอเรชั่นที่ 8 ดูเหมือนจะยังไม่มีการกำหนดพิกัดควอนตัม" ที่ปรึกษาหยางซึ่งเป็นสตรีอีกคนได้ยินแล้วก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมา
กัปตันหวังพยักหน้า ระบบประสาทคลื่นแสงก็คือใช้การสื่อสารด้วยสัญญาณแสง แต่สัญญาณแสงนั้นมีความถี่มากมาย
ส่วนกุญแจเข้ารหัสก็คือหนังสือรหัส เมื่อสัญญาณแสงถูกปล่อยออกไป จะมีหลายร้อยหลายพันความถี่ มากกว่า 99% เป็นสัญญาณแสงที่ไร้ประโยชน์ มีเพียง 1% เท่านั้นที่เป็นสัญญาณที่มีประโยชน์ ถ้าไม่มีกุญแจ ก็จะไม่รู้เลยว่า 1% ที่มีประโยชน์นั้นคืออะไร
บางทีอาจจะเป็นสัญญาณความถี่หนึ่ง หรือไม่ก็สัญญาณที่กรองมาจากหลายสิบความถี่ก็ได้ เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างระบบประสาทคลื่นแสง ไม่มีใครแฮ็กได้หรอก
แต่ก็มีอยู่ นั่นก็คือคนที่มีพลังพิเศษด้านใดด้านหนึ่ง พวกเขาสามารถเข้าถึงสิทธิ์ระบบประสาทคลื่นแสงได้โดยตรงโดยไม่ต้องใช้กุญแจ
กัปตันหวังเคยได้ยินเรื่องคนพวกนี้มาบ้าง ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่สถาบันวิจัยชั้นสูงสุดของสหภาพ โดยเป็นได้ทั้งนักวิจัยและผู้ถูกวิจัยในเวลาเดียวกัน อย่าหวังเลยว่าพวกเขาจะได้ออกมาอีก
ไม่ว่าคุณจะมีพลังพิเศษแบบไหน แต่ก่อนอื่นคุณก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ตราบใดที่คุณเป็นมนุษย์ ก็จะต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้เสมอ สหภาพจะตามหาคุณเจอ มันเป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น
กัปตันหวังดูข้อมูลของคนอื่นๆ อีกรอบ ก่อนจะส่งไปเก็บในฐานข้อมูลของเรือรบ สั่งให้ยานรบที่กำลังค้นหาพยายามตามหาคนเหล่านี้
แต่สำหรับพลเมืองมากกว่า 100 คน กัปตันหวังมองโลกในแง่ร้าย ต่อให้พลเมืองเหล่านี้จะมีพลังพิเศษบ้าง แต่พอเจอมนุษย์กลายพันธุ์ ก็แทบจะไม่มีโอกาสรอด แม้แต่ทหารบนเรือรบ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมนุษย์กลายพันธุ์ก็ยังเป็นรอง พวกมนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้มักจะทำสงครามกับสัตว์กลายพันธุ์หรือต่อสู้กับเผ่าอื่นๆ อยู่เป็นประจำ พลังการต่อสู้ของพวกมันแข็งแกร่งยิ่งนัก
"แล้วคนคนนั้นจะเป็นใครกันนะ?" ความคิดนี้แว่บผ่านในใจของกัปตันหวัง แต่หลังจากนั้นเธอก็ต้องไปยุ่งกับการเก็บกวาดสนามรบแล้ว
ทักษะการตีเหล็ก +2!
ทักษะการตีเหล็ก +2!
...
"การตีเหล็กเนี่ยนะ มันคืออะไรวะ?" หยางป๋อมาถึงโลกใต้พิภพแล้ว เพิ่งจะออกมาจากอุโมงค์ ก็เจอกับมนุษย์กลายพันธุ์กลุ่มหนึ่ง มีอยู่เจ็ดแปดคน ปืนเลเซอร์เปิดใส่ทันที อีกฝ่ายถูกจู่โจมจนหมดท่าโต้ตอบเลย
แต่ทักษะที่ได้รับครั้งนี้ ทำให้หยางป๋อยิ่งงงไปกันใหญ่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?
(จบตอน)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved