ตอนที่ 153

บทที่ 153 แผนสร้างบ้าน

สิ่งที่หยางป๋อไม่รู้ก็คือ พวกหงเป่ยจวี่ที่ดาวพาโดกำลังตกใจกลัวจะตาย เพราะเรือรบที่ส่งไปปิดกั้นช่องทางกระโดดอวกาศโดนทำลายไป รู้แค่ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นกองเรือหลัก อย่างน้อยก็มียานรบหลักชั้นคิงคองหนึ่งลำ

นอกนั้นก็ไม่รู้อะไรอีก พวกหงเป่ยจวี่ที่ดาวพาโดพยายามติดต่อสภาอย่างบ้าคลั่ง ขู่ว่าถ้าไม่ได้คุยจะฆ่าตัวประกัน แต่สภาก็ยืนกรานแข็งขืนว่าเป็นไปไม่ได้

ตอนนี้พวกหงเป่ยจวี่เสียใจจะตาย แผนการหลายร้อยปีดันมีเหตุไม่คาดฝัน แม้แต่คนให้ข่าวฝั่งกองทัพก็หายไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าต้องมีเรื่องแน่ๆ

คนพวกนี้คิดไม่ออกเลยว่ากองเรือหลักที่โผล่มากะทันหันนี้มาจากไหนกัน

ช่องทางกระโดดอวกาศ เป็นของเฉพาะอาณาจักรดาว ที่นี่ว่ากันว่าเป็นรูหนอนอวกาศอะไรทำนองนั้น แค่ปล่อยระเบิดร้ายแรงรอบๆ รูหนอน ปล่อยพลังงานกระแทกรูหนอน ทำให้รูหนอนไม่เสถียร ยานก็จะผ่านไปไม่ได้

ถ้าไม่ใช้ช่องทางกระโดดอวกาศ ก็ต้องอ้อมไปอีกหลายปี หรืออาจะสิบกว่าปี

ทั้งสองฝั่งของช่องทางกระโดดอวกาศมีระบบเฝ้าระวังอัตโนมัติ ตรวจจับข้อมูลพลังงานของช่องทางกระโดด และดูว่ามีอุกกาบาตหรืออะไรอื่นๆ หรือเปล่า จริงๆ แล้วรอบๆ เส้นทางเดินเรือมักจะมีพวกนี้ เพื่อให้ข้อมูลกับยานที่สัญจรไปมา และยังตรวจพบโจรสลัดหรือสิ่งผิดปกติอื่นๆ ได้ด้วย

เดิมทีกองเรือดาวปีศาจเขียวตั้งใจจะกลับไปพักฟื้นที่สหภาพ ซ่อมแซมยานรบหลัก แล้วจัดสรรเรือรบอื่นๆ ให้เพียงพอ แต่ดันได้รับสัญญาณเตือนจากสถานีเฝ้าระวังอีกฟากของช่องทางกระโดดใกล้ๆ ว่ามีกองเรือเข้าโจมตีสถานีเฝ้าระวัง

กองเรือคิดว่าเป็นโจรสลัด ผู้บัญชาการยานรบหลักจึงกัดฟันกรอด แล้วนำทัพบุกไปก่อน

ส่วนกองเรือดาวพาโดที่กำลังจัดวางระเบิดอยู่อีกฟากของช่องทางกระโดด พอเจอยานรบหลักโผล่มากะทันหัน ก็อึ้งไปเลย

ยานรบหลักที่กระโดดมาเองก็งงๆ อยู่ แต่จังหวะนั้นเอง มีคนในกองเรือกบฏร้องขอความช่วยเหลือ บอกว่าดาวพาโดถูกหงเป่ยจวี่ยึดแล้ว แม้แต่ระดับสูงของกองเรือเองก็ก่อกบฏด้วย

จากนั้นก็ยิงใส่กันไปมา ยานรบหลักมีระบบป้องกันพลังงานเหนือกว่าอย่างชัดเจน เรือรบฝ่ายตรงข้ามถูกระเบิดทำลาย ยานรบหลักไม่หยุด สั่งให้เรือรบสองลำที่ตามมาเก็บกวาดสนามรบ ปิดล้อมช่องทางกระโดด ส่วนตัวเองพุ่งตรงไปยังดาวพาโด

ฝ่ายสภาสหภาพเพิ่งทราบเรื่องกบฏที่ดาวพาโด หลังจากได้รับรายงานจากยานรบหลักชุดเดิมของดาวปีศาจเขียว ก็ทั้งโล่งอกทั้งด่าพวกข้าราชการดาวพาโดยับเยิน

จึงอนุมัติลับๆ ให้ยานรบหลัก ต่อให้ต้องยิงดาวพาโดเป็นผึยผงก็ยอม ขอแค่หยุดไม่ให้เหตุการณ์ดาวพาโดลุกลามบานปลาย สหภาพตัดการสื่อสารของดาวพาโดไปพร้อมกัน แต่สายไปแล้ว เพราะฝ่ายดาวพาโดทันส่งข้อมูลเปิดเผยออกไป เรียกร้องเอกราช...

หยางป๋อไม่มีใจจะฝึกการต่อสู้อะไรแล้ว เขานั่งดูข่าวหลายชั่วโมง บ้างก็ว่าหงเป่ยจวี่จะฟื้นฟูระบบทาส บ้างก็ว่าพวกหงเป่ยจวี่เริ่มสังหารข้าราชการระดับสูง กลายเป็นแวมไพร์อะไรทำนองนั้น

มีบางคนไม่รู้เลยว่าก็เพราะตัวเขาผู้มีสันดานดวงซวย หงเป่ยจวี่ถึงต้องเตรียมการมาหลายร้อยปี แต่กลับต้องเผชิญชะตากรรมเหมือนดอกไม้ไฟ แถมครั้งนี้ดาวพาโดรวมพลคนระดับสูงทั้งหมดของหงเป่ยจวี่ จะว่าไปใครจะไม่มาล่ะ ในเมื่อจะได้ครอบครองดาวทั้งดวง

ตกดึก หยางป๋อมองผักในตู้เย็น ผักพวกนี้ดูแปลกๆ ใบเป็นทรงแท่งหมด พอเขาค้นดูดีๆ ก็พบว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเมืองออร์ม่ามีหน้าลมแรงนานถึงครึ่งปี พืชส่วนใหญ่ที่นี่จึงมีใบแบบนี้ เพราะใบใหญ่ๆ จะเสียหายจากพายุ

"ที่แบบนี้นี่นา..." ในที่สุดหยางป๋อก็เข้าใจแล้วว่าทำไมผืนดินของเขาถึงราคาถูก แถมไม่ค่อยมีต้นไม้ ก็เพราะลมแรงไงล่ะ

"ช่างเถอะ ยังไงฉันก็ไม่กลัวอยู่ดี" หยางป๋อส่ายหน้า ที่นั่นถูก ชิดมุมสูง แถมยังห่างไกล เหมาะกับการทำอะไรบางอย่างพอดี มีทะเลด้านหนึ่ง มีแม่น้ำอีกด้าน เผื่อมีเรื่องจะได้หนีทางไหนก็ได้

วันรุ่งขึ้น เจ้านายอ้วนติดต่อพบคนของบริษัทก่อสร้างได้หนึ่งราย

"หม่าหลิน นี่คือหยางป๋อ"

"หยางป๋อ นี่คือหม่าหลินนักออกแบบของบริษัทก่อสร้าง"

"สวัสดีครับ" ทั้งสองจับมือกัน แล้วหม่าหลินก็พร้อมจะรับฟังความต้องการของหยางป๋อแล้ว

"ป้อมปราการวันสิ้นโลก ต้องปิดกั้นการตรวจจับทุกอย่าง พื้นที่ใต้ดินต้องใหญ่พอ สูงพอ ให้ผมเก็บของไว้ใช้ได้มากมาย แล้วก็ต้องมีแหล่งพลังงานพอใช้สัก 10-20 ปี รวมทั้งระบบหมุนเวียนอิสระทั้งหมดด้วย" หยางป๋อบอกเงื่อนไขของตัวเอง

ฟังจบ อีกฝ่ายก็เปิดอุปกรณ์เสมือนจริง จอก็แสดงที่ดินของหยางป๋อขึ้นมา

"ที่ดินของคุณหยาง โครงสร้างทางธรณีวิทยาเหมาะกับการสร้างป้อมปราการตามที่คุณต้องการมากเลยครับ"

"เรามีประสบการณ์การก่อสร้างมากมาย การออกแบบของเราลงลึกไปใต้ดิน 300 เมตร ตัวป้อมมี 5 ชั้น ชั้นแรกสูง 5 เมตร สามชั้นสูง 20 เมตร ชั้นล่างสุดเป็นชั้นอุปกรณ์แยกเฉพาะ ผนังสามชั้นหุ้มด้วยเกราะนอกเรือรบ"

"ใช้ระบบพลังงานรุ่นใหม่ เดินเครื่องได้ครั้งละ 50 ปี จริงๆ แล้วตอนแรกใช้กับเรือรบรุ่นเก่า" หม่าหลินพูดต่อ

"ราคาเท่าไหร่ครับ ชุดหนึ่ง?" หยางป๋อรู้สึกอยากได้ สิ่งนี้เอาไปทำเรือบินของตัวเองต่อได้

"2 ล้าน รวมระบบหมุนเวียนนิเวศสมบูรณ์แล้ว"

"งั้นเอาอีกชุดไว้สำรองด้วย" หยางป๋อตบปากรับปั๊บ

"คุณหยางชอบโครงสร้างภายในแบบไหนครับ ทางนี้มีแบบสำเร็จรูป แต่แน่นอนว่าออกแบบเองก็ได้นะ" อีกฝ่ายแสดงภาพจำลองสามมิติเตรียมไว้เพียบ

หยางป๋อเลือกแบบวงกลม หลังจากพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว

"ได้ครับ แล้วขนาดเท่าไหร่ดีครับ?" อีกฝ่ายถามต่อ

"ผมมีงบแค่ร้อยกว่าล้าน..."

"อย่างนี้นี่เอง คุณหยางได้เงินอุดหนุน 30% จากดาวซันเหยว่ นอกจากนี้บริษัทเรายังบริการผู้พักอาศัยด้วยการลดภาษีไป 9% คุณหยางก็ได้ส่วนลดนี้ด้วย นั่นคือคุณหยางจ่ายแค่ 61% ของราคารวม งั้นต้นทุนก่อสร้างจะอยู่ที่ประมาณ 165 ล้าน ก็น่าจะทำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 800 เมตรได้นะครับ"

"ทำได้ใหญ่ขนาดนี้เชียวเหรอ?" หยางป๋อตกใจไม่น้อย

"เกราะเรือรบของเราล้วนเป็นเศษชิ้นส่วนจากการต่อเรือรบทั้งนั้น รับรองว่าไม่มีตำหนิหรือรังสีใดๆ"

"และการสร้างสิ่งนี้ง่ายกว่าสร้างยานบินมาก เพียงแค่ขุดใต้ดิน เชื่อมเกราะเรือรบ แล้วก็หล่อวัสดุกันรังสีชั้นหนึ่ง จากนั้นก็เกราะชั้นสอง วัสดุกันรังสีชั้นสอง แล้วก็เกราะชั้นสุดท้าย...ตลอดกระบวนการล้วนใช้หุ่นยนต์ทำงาน เป็นการทำงานแบบโมดูลาร์ทั้งหมด" อีกฝ่ายอธิบาย

หยางป๋อพยักหน้า อีกฝ่ายเอ่ยต่อ "เนื่องจากขนาดของที่ดินคุณหยาง เราจึงจำเป็นต้องใช้พื้นที่ทางด้านทะเลไปบ้าง คุณว่าไหม?"

"แบบนี้ต้องเสียค่าธรรมเนียมไหม?"

"ไม่ต้องครับ จริงๆ แล้วที่ดินติดทะเลทุกแปลงมีสิทธิ์ใช้พื้นที่ทะเล 5 ไมล์ทะเลอยู่แล้ว ไม่งั้นเศรษฐีซื้อที่ดินริมทะเล แต่พื้นที่ทะเลไม่ใช่ของตัวเองก็แปลกสิครับ" หม่าหลินอธิบาย

"อืมๆ"

"ส่วนสิ่งปลูกสร้างบนพื้นดินล่ะครับ ไม่ทราบว่าคุณหยางมีความต้องการอะไรเป็นพิเศษไหม?"

"ไม่ต้องมีอุปกรณ์อัจฉริยะใดๆ บนพื้นดิน แต่ก็ต้องมีการป้องกันที่ดี นอกจากนี้รอบๆ บ้านผม ด้านหลัง ทั้งสองด้าน..." หยางป๋อนึกถึงพวกปลิงดูดเลือดที่ตัวเองจับได้จากดาวปีศาจเขียว เอาไปปล่อยเป็นเครื่องป้องกันดีไหมนะ ส่วนจะทำให้เกิดการรุกรานของสายพันธุ์ต่างถิ่นไหม อันนี้ไม่แน่ใจ ตัวเขาเองจะพยายามไม่ให้ปลิงหนีไปแน่ๆ

"เรื่องนั้นเราเชี่ยวชาญครับ ห้องที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะใช้วัสดุพิเศษ และการป้องกันเสียง การป้องกันรังสีของห้องจะเป็นระดับสูงสุด ผนังด้านนอกฝังเกราะป้องกันยานลำเลียงหนึ่งชั้น กระจกก็ใช้ของที่แข็งแรงที่สุด..."

หยางป๋อพอใจกับการออกแบบของอีกฝ่ายมาก การออกแบบคือสองชั้น โครงสร้างหลักครอบคลุมสองตารางเมตรเศษ

"คุณหยางครับ ตรงนี้ต้องปรับเปลี่ยนอะไรไหม? เรามีหลายวิธีนะ" หม่าหลินชี้ไปที่บริเวณหญ้าและพงไม้

"มีสัตว์อะไรกินหญ้าได้บ้างไหมครับ?" หยางป๋อถามประโยคหนึ่งที่ทำให้สองคนที่เหลืออึ้งไปเลย

(จบบท)