บทที่ 58 ประกาศกฎอัยการศึก
หยางป๋อนอนแช่อ่างอย่างสบายใจ ความโกรธก็หายไปแล้ว ทำไมน่ะหรือ?
ก็เพราะเมื่อกี้เกมให้ผลประโยชน์กับเขามากมายพอตัวเลย การสังหารหัวหน้ามนุษย์กลายพันธุ์ระดับบ B และส่งมอบศพ ได้รับรางวัล 5 ล้านเงินในเกม บอกว่าเป็นมนุษย์กลายพันธุ์หายาก ส่วนตัวที่ถูกจับมาได้มีรางวัล 8 ล้านเงินในเกม ฝ่ายบริการลูกค้ายังบอกอีกว่า หัวหน้าระดับ B ที่จับมาได้เป็นนั้น ตามผลการประเมินมูลค่าน่าจะอยู่ที่ราว 30 ล้านเงินในเกม
เอาเปรียบอะไร? ไม่มีหรอก นั่น เป็นเกมที่ช่วยให้เขาลดความเสียหายที่ได้รับต่างหาก
ตอนนี้หยางป๋อเริ่มปวดหัวแล้ว เพราะมีพลังมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมคลื่นเสียง การล่องหนก็พอจะรู้ว่าได้ผลยังไง การควบคุมพลังงานไฟฟ้าใช้ไปสองครั้งแล้ว ส่วนการควบคุมพลังงานแสงก็ยังไม่รู้จะทำอะไรได้บ้าง
หยางป๋อทำการทดลองหลายอย่างในช่วงแรกๆ เช่นใช้พลังงานแสงทำน้ำร้อน ใช้พลังงานไฟฟ้าจัดการกับรูปภาพที่วาดด้วยสีที่ทำลายไม่ได้ด้วยไฟฟ้า แต่ก็แค่นั้นแหละ
ทำไมน่ะหรือ?
ก็เพราะในโลกนี้ การอวดพลังพิเศษของตัวเองอย่างง่ายดายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ไม่อย่างนั้นทำไมถึงไม่เห็นมนุษย์กลายพันธุ์บินไปบินมาบนดาวดวงนี้ล่ะ ก็เพราะไม่กล้าไง การแสดงพลังพิเศษของตัวเองบนดาวเคราะห์ผิดกฎหมาย มีบทลงโทษรุนแรงมากทีเดียว
หยางป๋อเพิ่งย้ายมาอยู่ในชุมชนนี้ ก็ถูกหลิวจื่อเจี๋ยบอกว่าปลอดภัยมาก เพราะชุมชนนี้มีระบบเตือนภัยป้องกันคนนอกเข้ามา ระบบเตือนภัยนี้ก็คือปืนเลเซอร์นั่นแหละ เป็นส่วนหนึ่งของระบบเตือนภัยประจำดาวเคราะห์ ใครอยากจะบินไปบินมาเล่นๆล่ะก็ มีโอกาสสูงมากที่จะโดนปืนเลเซอร์ยิง
ถ้าหยางป๋อทำเสียงดังเอง ตำรวจหุ่นยนต์ก็จะมาทันที ปืนวงโคจรรัศมีหลายพันกิโลเมตรก็จะล็อคเป้าเขาทันที
ปืนวงโคจรประกอบด้วยชปืนใหญ่เลเซอร์หลายกระบอกล้อมรอบทั้งดาวเคราะห์ สิ่งนี้ยิงออกไปครั้งหนึ่ง แม้แต่หุ่นยนต์ระดับสูงสุดก็ทนไม่ไหว นับประสาอะไรกับตัวคน
ไม่ใช่ว่าไม่มีมนุษย์กลายพันธุ์คิดว่าตัวเองเก่งแล้วโดนกระแทกไปหรอกนะ ในชุมชนนี้มีป้อมปืนเลเซอร์ตั้งกี่ป้อมไม่มีใครรู้ รอให้คุณได้รู้ คุณอาจพบว่ามีอย่างน้อย 3-5 ป้อม 7-8 ป้อม หรืออาจมากกว่านั้น
"มนุษย์ต้องมีศัตรูที่แข็งแกร่งอะไรสักอย่างแน่ๆ" หยางป๋อรู้สึกว่ามนุษย์จัดการกับตัวเองขนาดนี้ ไม่จำเป็นต้องทำระบบป้องกันที่แข็งแกร่งขนาดนี้หรอก
ช่วงก่อนหน้านี้หยางป๋อมีความคิดอยากซื้อบ้าน ก็แค่อยากซื้อคฤหาสน์เดี่ยวๆสักหลัง แล้วก็ติดตั้งอุปกรณ์กั้นพลังงานที่ห้องใต้ดิน เพื่อฝึกฝนพลังของตัวเอง
พลังล่องหนนี่ ถ้าจะว่าแกร่งก็แกร่งมาก แต่ถ้าจะว่าอ่อนแอก็อ่อนแอ เพราะเวลาล่องหนสามารถใช้แค่พละกำลังของร่างกายเท่านั้น พอใช้พลังอื่น เช่น ไฟฟ้า ก็จะหมดฤทธิ์ไป
แต่แน่นอนว่ามันก็ยังใช้ได้ดีในการหนีไป หรือแอบทำอะไรบางอย่าง
แน่นอนว่าหยางป๋อก็ไม่ได้ร้อนรนอะไร พลังควบคุมไฟฟ้า พลังควบคุมแสง พลังทรงพลังแบบนี้ ถ้าใช้บนดาวแบบนี้ก็เท่ากับหาเรื่องใส่ตัว หยางป๋อไม่อยากเปิดเผยตัวเองหรอก สังคมนี้มีความมืดมนชัดเจน ลองดูบริษัทยาพันธุกรรมที่ต้องการตัวอย่างชีวภาพของเขา ก็เพื่อเอาไปทดลองยา แล้วเรื่องแบบนี้จะมีแค่บริษัทยาพันธุกรรมเดียวทำเหรอ?
ล้อเล่นหรือไง ทุกคนก็ทำกันทั้งนั้นแหละ...
"พลังสนับสนุนนี่แหละสำคัญที่สุด" หยางป๋อตระหนักดีตั้งแต่ต้นแล้วว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน นั่นก็คือต้องเป็นเต่าใต้กระดอง พยายามไม่เปิดเผยตัวเอง
หน่วยความปลอดภัยของบริษัทยาพันธุกรรมเก่งจริงเหรอ? ก็ยังโดนเขาจัดการจนตายไปแล้วไม่ใช่หรือไง ถ้าต้องเผชิญหน้าโดยตรง หยางป๋อคาดว่าตัวเองมีโอกาสชนะน้อยมาก สุดท้ายพวกนั้นเป็นมืออาชีพนี่นา
การทำให้คนอื่นคิดว่าคุณเป็นแค่ก้อนแป้งที่หยิบจับได้ง่ายๆ พอมาจับดูจริงๆ ถึงรู้ว่าเป็นลูกปืนเหล็ก ช่องว่างของข้อมูลแบบนี้ทำให้หยางป๋อรอดตายจากอันตรายมาได้หลายครั้ง
ถ้ามีคนรู้ถึงพลังที่แท้จริงของเขาในตอนนี้ เขาคงโดนแจ้งจับไปตัวตรวจสอบได้ง่ายๆ
"การควบคุมโลหะ" หลังอาบน้ำเสร็จ หยางป๋อสวมชุดนอนมายืนข้างหน้าต่าง หน้าต่างแบบนี้มองจากด้านในออกไปได้ แต่มองจากด้านนอกเข้ามาไม่เห็น
จังหวะนั้นเอง นาฬิกาข้อมือก็ดังขึ้น หยางป๋อมานั่งบนโซฟา หยิบนาฬิกาขึ้นมาดู ก็พบว่ามีอีเมลส่งมา
เป็นประกาศจากรัฐบาล ผู้ว่าการดาวจะประกาศรายงานการสอบสวนเหตุการณ์ของหงเป่ยจวี่ในอีก 10 นาที และจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายบางอย่าง ขอให้ประชาชนทุกท่านติดตาม
หยางป๋อเปิดหน้าจอเสมือนขึ้น เพื่อดูว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ในขณะเดียวกันก็คิดถึงการควบคุมโลหะ จนนึกไอเดียบ้าๆขึ้นมาได้แล้วในหัว
"ท่านพลเมืองทุกท่าน ผมคือเรย์ เบิร์ด ผู้ว่าการดาวพาโด ณ ที่นี้ เราขอไว้อาลัยแด่ 17,850 ชีวิตที่จากไป" ชายผิวขาวร่างสูงเกือบสองเมตร ผมสีดำ ตาสีฟ้า มีลักษณะเป็นชายวัยกลางคนปรากฏขึ้นในภาพเสมือน
ห้านาทีต่อมา เรย์ เบิร์ด กล่าวต่อ "หน่วยความมั่นคงและตำรวจได้ตรวจสอบแล้วว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการก่อการร้ายโดยกลุ่มหัวรุนแรงหงเป่ยจวี่ การโจมตีในครั้งนี้เป็นการต่อต้านมนุษยชาติ สังคม และอารยธรรม"
"ในเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 14,020 คน ที่เหลือสูญหาย เนื่องจากอาวุธเลเซอร์ทำให้เนื้อเยื่อของร่างกายกลายเป็นถ่าน จึงไม่สามารถระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตได้อย่างชัดเจน ณ ที่นี้ เรารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง"
"สำหรับการเสียชีวิต การสูญหาย และพลเมืองอื่นๆที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้ รัฐบาลได้จ่ายค่าชดเชยบางส่วนแล้ว"
หยางป๋อไม่คิดว่าครั้งนี้จะมีคนตายมากขนาดนี้ แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขา อาจไม่ถึงกับตายทั้งหมด แต่ก็คงตายไม่น้อยเลย
"บัดนี้ ขอประกาศกฎหมายใหม่ของดาวพาโด สภาพันธมิตรมีมติให้อัปเกรดระบบป้องกันดาวของทุกดาวในเขตปกครองให้เป็นระดับทางทหารอย่างเป็นทางการ"
"และยกระดับการเตือนภัยของดาวขึ้นเป็นสีแดง เพิ่มสิทธิอำนาจในการตัดสินใจของระบบอัจฉริยะขึ้น 20% สำหรับบุคคลหรือองค์กรที่ฝ่าฝืนข้อห้าม ระบบเตือนภัยจะเลือกวิธีจัดการโดยอัตโนมัติ"
"ห้ามมิให้พลเมืองใดใช้พลังพิเศษในเขตที่ไม่ได้รับอนุญาตโดยเด็ดขาด"
"ห้ามใช้พลังพิเศษในพื้นที่สาธารณะใดๆอย่างเคร่งครัด..."
หยางป๋อฟังจนงงไปหมด ระบบเตือนภัยทางทหารคืออะไรกัน?
เขารีบค้นหาบนอินเทอร์เน็ตทันที แล้วก็เข้าใจความหมาย ระบบเตือนภัยพลเรือนให้ความสำคัญกับคนมากกว่าตัวเหตุการณ์ นั่นคือถ้าคุณไม่ได้สร้างผลกระทบรุนแรง ระบบเตือนภัยจะไม่สังหารคุณง่ายๆ เหมือนตำรวจนั่นแหละ
ส่วนระบบเตือนภัยทางทหาร จะให้ความสำคัญกับเหตุการณ์เป็นอันดับแรก ตราบใดที่คุณทำในสิ่งที่ต้องห้าม ก็จะถูกยิงทิ้งทันที!
คำสั่งของระบบเตือนภัยแบ่งออกเป็นสองส่วน คือคำสั่งจากคนกับปัญญาประดิษฐ์ ระบบเตือนภัยพลเรือน เมื่อคำสั่งจากคนกับปัญญาประดิษฐ์ขัดแย้งกัน ระดับคำสั่งของคนจะมาก่อน
คราวนี้เพิ่มสิทธิอำนาจของปัญญาประดิษฐ์ นั่นหมายความว่าเมื่อคำสั่งจากคนกับปัญญาประดิษฐ์ขัดแย้งกัน ก็มีโอกาสสูงมากที่ปัญญาประดิษฐ์จะมีลำดับความสำคัญสูงกว่า ส่วนการจัดสรรระดับสิทธิอำนาจที่แน่นอนนั้นถือเป็นความลับ
หมายความว่าแต่ก่อน ถ้าคุณเป็นมนุษย์พลังพิเศษแล้วบินนิดหน่อย ก็อาจแค่โดนปรับหรือติดคุก แต่ตอนนี้ถ้าคุณบินขึ้นมา แล้วระบบเตือนภัยอัจฉริยะตัดสินว่าคุณฝ่าฝืนข้อห้าม ปืนเลเซอร์รอบๆจะยิงทันที โดยไม่ให้โอกาสให้คุณกลับตัวกลับใจ
ก่อนหน้านี้หยางป๋อไม่ได้ศึกษากฎหมายพวกนี้มาก่อน แน่นอนว่าจำไม่ได้ด้วย เขาแค่รู้ว่ารัฐบาลไม่อนุญาตให้มนุษย์กลายพันธุ์แสดงพลังพิเศษต่อหน้าชาวบ้าน
หยางป๋อดูต่อไปอีก ที่แก้แบบนี้เพราะหงเป่ยจวี่ฆ่าบุคคลสำคัญและนักการเมืองเป็นจำนวนมากที่สุด แถมประธานพันธมิตรเองก็เกือบตาย ยิ่งถูกอีกสองชาติใหญ่เยาะเย้ย นอกจากนี้หงเป่ยจวี่ยังประกาศว่าจะแก้แค้นดาวพาโด ทำให้พันธมิตรต้องประกาศคำสั่งคล้ายๆประกาศกฎอัยการศึก
(จบบท)
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved