ตอนที่ 136

บทที่ 136 พลังที่น่าหวาดกลัว

"ท่านราชา?" ลูกน้องของหวงเหลาซานมองไปที่ยานอวกาศด้านนอก ต่างพากันมองหัวหน้าของตนอย่างสงสัย นี่หัวหน้าของพวกเขาคิดอะไรอยู่กันแน่?

ตอนนี้ผู้นำมนุษย์กลายพันธุ์อีกสิบกว่าคนเดินมา หลิวขาพิการถึงกับสูดหายใจเฮือกใหญ่ "หวงเหลาซาน นายนี่มันเจ๋งจริงๆ"

"เฮ่อๆ โชคดีหน่อย"

"หวงเหลาซาน ต่อไปพวกเราต้องระวังตัวหน่อยแล้ว สหภาพก็ไม่ใช่พวกดีเหมือนกัน"

"แน่นอน ต่อไปพวกเราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน" หวงเหลาซานย่อมไม่เชื่อใจสหภาพอยู่แล้ว การสร้างเมืองบนพื้นดินก็ไม่เป็นไร แต่ตัวเองยังต้องอยู่ใต้ดิน ไม่อย่างนั้นถ้าออกไปเดินเตร่บนนั้น ก็จะกลายเป็นเป้าให้เขายิงเอาสิ

พอดีตอนนั้นเอง ทันใดนั้นก็มีคลื่นกระแทกอันทรงพลังพัดเข้ามาในโลกใต้พิภพ มนุษย์กลายพันธุ์จำนวนไม่น้อยถูกเป่ากระเด็นออกไป

"กองเรือของสหภาพลงมือแล้ว" หวงเหลาซานมองแสงอาทิตย์จ้าที่ส่องลงมาในหลุมยุบ รู้สึกหนักอกหนักใจ

เครื่องบินไร้คนขับลำหนึ่งบินผ่านจากเหนือหลุมยุบพร้อมกับทิ้งระเบิดคลื่นกระแทกลงมาสองลูก หมอกควันในหลุมยุบถูกไล่ให้กระจายไป

ที่ระดับความสูงหลายหมื่นกิโลเมตร ยานรบหลักชั้นคิงคองซึ่งขาดชิ้นส่วนไปบางส่วนยังคงเป็นผู้ทรงอำนาจในพื้นที่บริเวณนั้น

ยานรบนั้นมิใช่ดูที่ขนาด แต่ต้องดูที่ระบบพลังงาน ระบบป้องกัน กำลังยิงของปืนเลเซอร์บนยาน ความสามารถของกัปตัน รวมถึงจำนวนยานรบและหุ่นยนต์ที่มีอยู่

เมื่อยานภายใต้หลุมยุบยิงปืนเลเซอร์ออกมาพร้อมกัน ระบบตรวจจับของยานรบใหญ่ก็จับได้ในทันที กัปตันสั่งการทันที ให้เครื่องบินไร้คนขับที่อยู่ใกล้ที่สุดบินไปทิ้งระเบิดเพื่อไล่หมอกควัน ดูว่าข้างล่างนั้นมีอะไรกันแน่

ระบบเตือนภัยของดาวเคราะห์ได้รับการซ่อมแซมไปได้บางส่วน ส่งภาพที่ชัดเจนขึ้นไปบนยานใหญ่

แม้ระบบเตือนภัยจะเสียหายไปบ้าง แต่ยานรบใหญ่มีหุ่นยนต์สำหรับซ่อมบำรุงที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เก็บเศษชิ้นส่วนของยานมาซ่อมไปพร้อมกัน หากมีวัสดุเพียงพอ ส่วนที่ขาดไปของยานรบชั้นคิงคองก็สามารถซ่อมได้

กัปตันหญิงมองยานในหลุมยุบด้วยสีหน้าขยะแขยงเล็กน้อย ก่อนจะสั่งคำสั่งหนึ่งออกมา

เครื่องบินไร้คนขับบินวนอยู่หนึ่งรอบก่อนจะจากไป ไม่ว่าประเทศที่ทรงอำนาจแค่ไหน เบื้องหลังที่ดูดีก็ย่อมมีที่ไม่น่าดูอยู่บ้าง อย่างเช่นดาวปีศาจเขียวนี้ แม้จะอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพ แต่ก็ยังมียานบางส่วนที่ได้รับสิทธิพิเศษในการเดินทาง ซึ่งยานนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะมีรหัสผ่าน

กัปตันมองเห็นคนแห่กันไปขึ้นยานที่ยาว 300 เมตร กว้าง 100 เมตร และเห็นลำแสงเลเซอร์เป็นสายๆด้วย

"ไอพวกเน่าเสีย" กัปตันหญิงส่ายหน้ามองยานลำนั้น ขยะแบบนี้ส่งเครื่องบินไร้คนขับไปชุดเดียวก็จบแล้ว

แต่สำหรับหุ่นยนต์และมนุษย์กลายพันธุ์แล้ว นี่ถือเป็นของที่วัดค่ามิได้

ทันใดนั้นกัปตันหญิงก็ตาโต เมื่อเห็นมนุษย์กลายพันธุ์คนหนึ่งโผล่มาที่ปากหลุมยุบอย่างกะทันหัน แถมยังถือค้อนใหญ่เบ้อเริ่มอีกต่างหาก

"มนุษย์กลายพันธุ์คนนี้มีปัญหาทางสมองหรือไง?"

"ใช่แล้ว ข้างล่างน่ะเป็นยาน"

"จะบ้าเหรอ?"

ในห้องควบคุมของยานชั้นคิงคอง ทุกคนที่เห็นภาพนี้ต่างก็ตกตะลึง

คนผู้นี้คือหยางป๋อ แต่เดิมเขาอยู่ในฐานขององค์กรฮุยจิ่น คิดจะดูว่าทางหนีไฟขององค์กรนั้นอยู่ที่ใด ไม่คิดว่าจะอยู่ในหมอกหลุมยุบจริงๆ

หยางป๋อรีบล่องหนออกมา ตอนนั้นยังมีหมอกควันอยู่บนหลุมยุบ ยานใหญ่มาก ใต้ยานมีปืนเลเซอร์ของยานรบสามกระบอก

หยางป๋อมีโอกาสล่องหนเข้าไปในยานรบได้ แต่ต่อจากนั้นก็อาจจะมีปัญหา เพราะยากจะอธิบายว่ามนุษย์กลายพันธุ์อย่างเขาเข้าไปในยานได้อย่างไร พลังพิเศษอะไรกัน?

แน่นอนว่าหากฆ่าคนทั้งหมดก็คงไม่มีอะไร

อีกอย่างคือ มนุษย์กลายพันธุ์ในโลกใต้ดินรอบๆก็คงสงสัยว่าเขาเข้าไปได้อย่างไร

หยางป๋อจึงรีบล่องหน เร่งความเร็วไปที่ปากหลุมยุบทันทีเพื่อจะโจมตีจากเหนือหมอกควัน

แต่มาถึงดันพบว่าเป็นเรื่องแย่ หมอกควันในหลุมยุบหายไปไหนหมด? เมื่อกี้ตัวเองได้ยินเสียงอะไรนะ?

แล้วก็มีข่าวดีอีกอย่าง ที่ด้านหลังของยานนั้นไม่มีปืนเลเซอร์...

หยางป๋อจึงรีบกลับไปที่จุดเริ่มต้น กลายร่างเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ในชุดเกราะ ถือค้อนกระดูกยาวหลายเมตร แล้วกระโดดลงไป

หลุมยุบมีความสูงราวๆ 1,500 เมตร ยานที่โดนดัดแปลงลอยอยู่ที่ความสูงราว 30 เมตร มันสามารถระบุตัวตนของผู้ที่จะเข้ายานได้โดยอัตโนมัติ ระบบโจมตีและป้องกันทั้งหมดทำงานอัตโนมัติ

ภายในยาน หัวหน้าองค์กรฮุยจิ่นกำลังดูข้อมูลต่างๆอย่างใจเย็น ทั้งข้อมูลของผู้ที่เข้ามา สภาพแวดล้อมรอบข้าง ส่วนระเบิดที่ยานรบทิ้งลงมาเมื่อครู่ เขาไม่ค่อยใส่ใจนัก

"อีกสามนาทีเท่านั้น" หัวหน้ามองเวลาที่เหลืออีกไม่เกินสามนาทีก่อนจะเคลื่อนย้าย

ทั้งนี้คนที่มาลี้ภัยเหล่านี้ พอขึ้นยานสิ่งแรกที่ต้องทำคือใส่ปลอกคอล็อคพลัง เพื่อควบคุมพลังของมนุษย์พิเศษ

หัวหน้าองค์กรฮุยจิ่นไม่ทราบว่าในฐานเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น จึงต้องมีมาตรการป้องกัน ใครไม่ยอมใส่ก็ขึ้นยานไม่ได้

แต่แล้วจู่ๆยานก็มีเสียงเตือนภัยดังขึ้น หัวหน้าองค์กรฮุยจิ่นเห็นเพียงมนุษย์กลายพันธุ์คนหนึ่งวิ่งฝ่าแสงเลเซอร์มาถึงยาน

หัวหน้ารีบสั่งการทันควัน แต่ในใจก็ตกใจไม่น้อย ก็เพราะว่ามีระบบเตือนภัยติดตั้งอยู่ด้านบนหลุมยุบด้วย ไอ้หมอนี่โผล่มาได้ยังไง?

ปืนเลเซอร์กระบอกหนึ่งผุดขึ้นมาจากยานทันที แต่ก็ยังช้าไป กว่าปืนจะโผล่ขึ้นมาต้องใช้เวลาครึ่งวินาที แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หยางป๋อมาถึงแล้ว

ผิวของหยางป๋อกลายเป็นโลหะ บวกกับชุดเกราะภายนอก ทำให้ร่างกายทนทานได้มาก ในชั่วพริบตาที่กระโดดออกจากหลุมยุบ เขาใช้พลังต้านแรงโน้มถ่วงกับตัวเอง ด้านหน้าเป็นแรงดึงดูด ด้านหลังเป็นแรงผลัก

หยางป๋อเหมือนกระสุนปืนแม่เหล็กไฟฟ้าที่พุ่งเข้าหายานในเวลาไม่ถึง 0.5 วินาที ค้อนกระดูกในมือฟาดใส่ปืนเลเซอร์ที่โผล่ขึ้นมาอย่างจัง

ปืนเลเซอร์ที่โดนฟาดร่วงลงไปเป็นท่อนๆ จนเห็นได้ด้วยตาเปล่า

"ว้าว!" ในห้องควบคุมของยานรบคิงคอง ใครๆต่างอ้าปากค้าง หนึ่งในนั้นถึงกับสำลักน้ำลายออกมา

นั่นมันปืนเลเซอร์นะ ข้างใต้มันทำด้วยอะไร? เต้าหู้เหรอ?

พอเท้าของหยางป๋อสัมผัสกับตัวยาน เขาก็ใช้ความสามารถของผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกลที่มีเพื่อรับข้อมูลของยานทั้งลำ

เสียงเตือนภัยดังขึ้นภายในยาน หัวหน้าองค์กรฮุยจิ่นมองจอภาพเสมือนจริง พบว่าปืนเลเซอร์เสียหายแล้ว

ตอนนี้หยางป๋ออาจไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ์ควบคุมยานได้ แต่เขาก็ใช้พลังของตัวเองมองหาจุดอ่อนของยานแทน

เมื่อครู่เพิ่งฟาดค้อนลงไปหนึ่งครั้ง ตอนนี้หมุนตัวฟาดปืนเลเซอร์ที่ยื่นออกมาอีกครั้ง ในมุมด้านข้างอย่างจัง ปืนเลเซอร์ถูกฟาดหลุดกระเด็น ไปชนผนังหินจนฝังลึกเข้าไปข้างใน

ทุกคนในห้องบัญชาการของยานรบคิงคองต่างตะลึงงัน

"ระดับ A เหรอ?"

"ผมว่าน่าจะ A+ นะ"

แล้ววินาทีต่อมา ภาพที่น่าขนพองสยองเกล้ายิ่งกว่าก็ปรากฏขึ้น มนุษย์กลายพันธุ์คนนั้นฟาดค้อนลงไปอีกครั้งอย่างทรงพลัง ยานถึงกับเป็นรูโบ๋ แล้วเขาก็กระโดดเข้าไปในรูนั้น

พวกเขาคิดว่าถ้ามีมนุษย์กลายพันธุ์ที่น่ากลัวขนาดนี้บุกเข้ามาในยาน ต่างพากันขนลุก!

"นั่นเป็นช่องซ่อมบำรุง" มีคนเอ่ยขึ้นมา

"แค่ช่องซ่อมบำรุงก็ทะลวงเข้าไปได้ง่ายๆเลยเหรอ?" อีกคนถามอย่างไม่เชื่อ

(จบบท)